“หลิงฮัน เจ้าทำเกินไปแล้ว!” ราชาเซียนไท่กู่ตะโกน
“เกินไปน้องสาวเจ้าสิ!” เสียงตำหนิดังขึ้นพร้อมกับร่างของสุนัขตัวดำได้ปรากฏตัว มันยืนบิดก้นที่สวมใส่กางเกงในเหล็กสะท้อนแสงอย่างไม่รู้สึกอับอาย
มันก้าวเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะชี้นิ้วใส่ราชาเซียนทุกคน “พวกเจ้าไม่ได้ยินรึไง? น้องชายของนายท่านหมาบอกให้พวกเจ้ามอบของแลกเปลี่ยนมาแล้วจะพาเข้าดินแดนแห่งเซียนไปด้วย!”
เหล่าเซียนเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม ราชาเซียนไท่กู่คือคนที่อารมณ์ร้ายที่สุด เขาผลักฝ่ามือใส่สุนัขตัวดำทันที
“ช่วยข้าด้วย!” สุนัขตัวดำรีบวิ่งไปหลบหลังหลิงฮัน
ผมของราชาเซียนไท่กู่สหายชี้ฟ้าด้วยความโกรธก่อนคว้ามือไปยังสุนัขตัวเขา
ปัง!
หลิงฮันตอบโต้ การโจมตีด้วยฝ่ามือของราชาเซียนไท่กู่ถูกสลายหายไป
“สหายหลิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ราชาเซียนไท่กู่มีสีหน้ามืดมน เขาที่ไม่พอใจกับคำพูดเมื่อครู่ของหลิงฮันแล้วยิ่งเกรี้ยวกราดขึ้นไปอีก
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “สุนัขเฒ่าทั้งสิบหกที่ลอบโจมตีข้า เจ้าคือหนึ่งในนั้น!”
“โฮ่ง อย่ามาดูถูกสุนัข!” สุนัขตัวดำหันหน้าพยายามงับก้นหลิงฮัน
‘ปัง’ จักรพรรดินีผลักฝ่ามือส่งร่างของสุนัขตัวดำรอยกระเด็น
ใบหน้าของราชาเซียนไท่กู่เปลี่ยนสีก่อนจะกล่าว “สหายน้อย เจ้าพูดเรื่องอะไร?”
หลิงฮันชำเลืองมองไปยังราชาเซียนทุกคนและกล่าว “อันที่จริงข้าก็ไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่หากต้องพาพวกเจ้าเข้าดินแดนแห่งเซียนไปด้วย แต่ว่า… เหอๆ มีพวกเจ้าบางคนที่คิดชั่วร้ายหวังช่วงชิงวาสนาไปจากข้า”
“ราชาเซียนคนใดที่ลอบโจมตีข้าจงสารภาพมา ไม่เช่นนั้น… อย่าหาว่าข้าเลือดเย็น ดินแดนต้องห้ามจะต้องละเลงไปด้วยโลหิต!”
นี่คือคำขู่แบบโจ่งแจ้ง!
เหล่าราชาเซียนมองหน้ากัน บางคนเข้าใจทันทีว่าทำไมหลิงฮันถึงไม่ปรากฏตัวเลยในไม่กี่ปีมานี้ ในขณะที่บางคนใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ การที่พวกเขาไม่สามารถสังหารหลิงฮันในหนึ่งกระบวนท่า ได้นำภัยพิบัติกลับมาหาตนเองแล้ว
เพียงแต่ว่าไม่มีใครสารภาพออกมาทั้งนั้น ในตอนที่พวกเขาลอบโจมตีพวกเขาได้ทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์เตรียมไว้แล้วเพราะงั้นหลิงฮันไม่มีทางจดจำพวกเขาได้แน่นอน
ราชาเซียนไท่กู่แสยะยิ้ม “รุ่นเยาว์ เจ้าไม่เหลือไพ่ลับที่จะใช้สังหารราชาเซียนแล้ว คิดดีแล้วรึที่กล้าทำตัวโอหังเช่นนั้น?” เขาไม่ปกปิดอีกต่อไป เขาย่อมรู้ว่าหลิงฮันจดจำกลิ่นอายของเขาได้
“ฮันน้อย สังหารมันเลยอย่าได้ไว้หน้า!” สุนัขตัวดำกระโดดกลับมา
“สุนัขชั้นต่ำ วันนี้ข้าจะสังหารเจ้า!” ราชาเซียนไท่กู่มองไปยังสุนัขตัวดำด้วยจิตสังหารรุนแรง
“ข้าจะสังหารสุนัขชั้นต่ำนั่นก่อน แล้วจะรีดเค้นความลับของเจ้าออกมาทีหลัง!”
“ช้าก่อน!” ราชาเซียนชิงอวี่ยื่นมือเข้ามาแทรก “เป็นความจริงที่หลิงฮันไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมารับผิดชอบพาพวกเราเข้าดินแดนแห่งเซียนไปด้วย การไปที่นั่นเปรียบเสมือนการได้รับชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ไม่ว่าเขาเรียกร้องอะไรก็คุ้มค่าที่จะยอมจ่าย”
“พี่ชายหลิงฮัน ท่านจะโกรธไปทำไม? จริงสิ พวกเราไม่ได้สู้กันนานแล้วนะ ทำไมไม่ลองมาประลองกันหน่อยล่ะ?” ราชาเซียนอีกคนก้าวเดินเข้ามาเพื่อหยุดรั้งชิงอวี่ไม่ให้ยื่นมือเข้าไปแทรกแซง
‘พรึบ’ วิถีวงโคจรดาราของราชาเซียนไท่กู่ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อเตรียมพร้อมปะทะด้วยพลังทั้งหมด คลื่นแสงแห่งเต๋าโอบล้อมไปทั่วร่างของเขาราวกับเป็นจุดศูนย์การแห่งสวรรค์และปฐพี
เขาปลดปล่อยฝ่ามือออกไปโดยมีเป้าหมายคือทั้งหลิงฮันและสุนัขตัวดำ
แม้ว่าเขาจะพูดเหมือนต้องการโจมตีสุนัขตัวดำก่อน แต่ความจริงแล้วต่อให้หลิงฮันจะตายเขาก็ไม่สนใจ แม้หลิงฮันจะตายไปแล้วเขาก็ยังสามารถคนความทรงจำจากดวงวิญญาณได้อยู่ดี
ร่างของหลิงฮันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยแสงอัสนี ร่างของเขาปรากฏที่ด้านหน้าราชาเซียนไท่กู่ในพริบตาและปล่อยหมัดที่ปกคลุมไว้ด้วยเพลิงเก้าสวรรค์ออกไป
ตูม!
พลังป้องกันของราชาเซียนไท่กู่กลายเป็นไร้ประโยชน์ หมัดของหลิงฮันไม่เพียงปะทะใส่หน้าเขาอย่างเต็มแรง แต่อำนาจของเพลิงนิรันดร์ยังเผาผลาญดวงวิญญาณของเขาสลายไปในพริบตา
ราชาเซียนที่ไม่รู้ว่าอุตส่าห์บ่มเพาะพลังมากี่ร้อยล้านปีสิ้นชีพลงอย่างน่าอนาถด้วยหมัดเดียว
หลิงฮันดึงหมัดกลับ ภายใต้อำนาจการเผาผลาญของเพลิงนิรันดร์ทำให้หมัดของเขาไม่โลหิตติดอยู่แม้แต่หยดเดียว
อะไรกัน!
ราชาเซียนถูกสังหารด้วยหมัดเดียวโดยไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย!
ราชาเซียนทุกคนตกตะลึงอย่างมาก ความรู้สึกเย็นยะเยือกผุดขึ้นในร่างกายของพวกเขา พลังและออร่าของหลิงฮันนั้นสงบนิ่งเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ใช้ทักทั้งหมดออกไปแต่เหตุใดถึงสามารถสังหารราชาเซียนได้ในหมัดเดียวกัน?
“สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคือความเร็วที่เหนือยิ่งกว่าราชาเซียนนั่น! ความเร็วที่ราบกับสายฟ้าสวรรค์เช่นนั้น ไท่กู่จึงไม่มีโอกาสได้ป้องกันตัวและถูกสังหารในหนึ่งหมัด”
“ทั้งความเร็วและพลังทำลายของเพลิงนั่น ต่อให้ระดับพลังสูงกว่าแล้วจะอย่างไร? ใครจะสามารถป้องกันได้กัน?”
“การจะต่อกรกับเขาพวกเราต้องป้องกันตัวเอาไว้ตลอดเวลาห้ามเผลอแม้แต่วินาทีเดียว”
ราชาเซียนกระซิบคุยกัน นอกจากราชาเซียนสูงสุดที่มีอยู่เล็กน้อยแล้ว ราชาเซียนคนอื่นๆหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ตราบใดที่ประมาทพวกเขาจะถูกสังหารในพริบตา ราชาเซียนไท่กู่เป็นตัวอย่างให้พวกเขาเห็นแล้ว ยังไม่ทันที่เขาจะได้ปลดปล่อยพลังออกมาก็ถูกหลิงฮันสังหารเสียก่อน
หลิงฮันเก็บอุปกรณ์มิติและอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ของราชาเซียนไท่กู่ เนื่องจากอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถนำเข้าหอคอยทมิได้เขาจึงเก็บมันเอาไว้ในกระเป๋าของตัวเอง
เขามองไปยังราชาเซียนคนอื่นๆและกล่าว “นี่คือโอกาสสุดท้าย ใครที่เคยลอบโจมตีข้าจงไสหัวออกมา ไม่เช่นนั้นหลังจากที่สังหารพวกเจ้าแล้วข้าจะตามไปทำลายดินแดนต้องห้ามของพวกเจ้าด้วย”
“ช่างอวดดีนัก!” ราชาเซียนจำนวนหนึ่งก้าวเดินออกมา แม้ความเร็วของหลิงฮันจะน่าอัศจรรย์และจะมีเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงกลัว แต่ไม่ว่าอย่างไรหลิงฮันก็เป็นเพียงเซียนระดับต้นเท่านั้น เดี๋ยวก่อน… เซียนระดับกลาง!
พวกเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหลิงฮันบรรลุเป็นเซียนระดับกลางแล้ว!
เหลือเชื่อนัก เมื่อสิบปีก่อนเขาเพิ่งจะทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับต้นแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเซียนระดับกลางได้แล้ว ความเร็วในการบ่มเพาะพลังขนาดนี้น่าสะพรึงกลัวจนไม่อาจยอมรับได้
ต่อให้กินสมุนไพรนิรันดร์เข้าไปก็ไม่น่าจะเร็วเช่นนี้
“ว่าอย่างไร?” หลิงฮันกล่าวเสียงเบา “จากสิบคนตายไปหนึ่ง ก็เหลือสุนัขไร้ยางอายอีกสิบห้า”
“โฮ่ง!” สุนัขตัวดำเห่าใส่หลิงฮันอย่างไม่สบอารมณ์ก
เมื่อสิ้นเสียงของหลิงฮัน ราชาเซียนสิบกว่าคนก็ก้าวเดินออกมา เมื่อรวมกับราชาเซียนที่ก้าวออกมาก่อนหน้านี้ก็เป็นสิบห้าคนพอดี
**ผมตรวจต้นฉบับอีกครั้งแล้ว ตอนก่อนที่เขียนว่ามีราชาเซียน18คนลอบโจมตี ต้นฉบับน่าจะเขียนผิดครับ**