Alchemy Emperor of the Divine Dao – ตอนที่ 1874 การโจมตีที่ทรงพลังที่สุด

ภายใต้อำนาจของออร่าอันเย็นยะเยือก ร่างแยกมากมายของจ้าวชิงเฟิงก็เคลื่อนที่ได้เชื่องช้าลงและถูกจำกัดความเคลื่อนไหว มีเพียงร่างหลักเท่านั้นที่ยังคงพุ่งทะยานโจมตีเข้าใส่หลิงฮัน

หากเหล่าร่างแยกไม่สามารถโจมตีสนับสนุนได้ ทักษะนี้ก็ไม่น่ากลัวเลยสักนิด

‘ปัง’ หลิงฮันกวัดแกว่งดาบตอบโต้ การโจมตีของทั้งสองเข้าปะทะกัน และจ้าวชิงเฟิงเป็นฝ่ายล่าถอยกลับไป

“หากจะวัดกันด้วยร่างแยกก็มา!” หลิงฮันเค้นเสียงพร้อมกับโคจรแก่นกำเนิดพลัง ‘พรึบ’ สัตว์อสูรสงครามทั้งสามปรากฏตัวออกมา จากภายในร่างของเขา

แก่นพลังเปลวเพลิงแปรสภาพกลายเป็นวิหคเพลิง แก่นพลังวารีแปรสภาพกลายเป็นมงกรฟ้า และแก่นพลังอสนีแปรสภาพกลายเป็นอาชาอสนี

เมื่อเทียบกับสัตว์อสูรสงครามอีกสองตัวแล้ว ม้าอสนีมีขนาดตัวที่เล็กกว่ามาก เนื่องจากแก่นกำเนิดพลังอสนีของหลิงฮัน ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับเพลิงเก้าสวรรค์ และวารีพลังหยินเร้นลับได้

ทันทีที่สัตว์อสูรสงครามปรากฏตัว พวกมันก็ส่งเสียงคำราม และปลดปล่อยออร่าอันทรงพลังที่สะท้านไปทั่วสวรรค์ชั้นฟ้า

“พระเจ้า!” ด้านบนแท่นผู้ชม ผู้คนมากมายยกมือกุมหัวตัวเอง โดยที่ร่างของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว “สัตว์อสูรเหล่านั้นเป็นเพียงพลังของทักษะจริงๆรึ? เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่า พวกมันแต่ละตัวมีพลังมากพอที่จะสังหารข้าได้เลย?”

“ข้าก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน” ใครบางคนเอ่ย

เมื่อเห็นสัตว์อสูรสงครามทั้งสาม จอมยุทธระดับโลกียนิพพานอย่างน้อย เก้าในสิบส่วนก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดผวา แม้แต่ราชาแห่งยุคเองก็ยังเผยสีหน้าไม่ยินยอม

พวกเขายังพอทำใจ หากไม่สามารถเอาชนะหลิงฮันหรือจ้าวชิงเฟิง ที่มีพรสวรรค์ราวกับสัตว์ประหลาดได้ แต่การที่กับแค่สัตว์อสูรจากทักษะก็ไม่สามารถเอาชนะได้นั้น พวกเขารู้สึกยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

ในที่สุดจ้าวชิงเฟิงเผยสีหน้าหวาดระแวงออกมาเป็นครั้งแรก เขาเองก็รู้สึกว่าพลังของสัตว์อสูรทั้งสามคนนี้น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน

พวกมันน่าสะพรึงกลัวจนขนาดที่ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองอาจจะถูกสังหารได้

เพียงแต่ความหวาดระแวงนั่น ก็ไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัวแต่อย่างใด ในทางกลับกัน เขารู้สึกตื่นเต้นและอยากสังหารหลิงฮันมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

“ฮ่าๆๆ!” จ้าวชิงเฟิงหัวเราะลั่น ทั่วร่างของเขามีตราประทับแห่งเต๋าหลั่งไหลออกมาทีละน้อย พร้อมกับร่างแยกทั้งเก้าสิบเก้าร่าง ได้แปรสภาพกลับไปเป็นปราณพิฆาต และควบแน่นรวมกับใหม่เป็นมนุษย์ยักษ์

“ตาย!” เขาพุ่งทะยานโจมตีใส่หลิงฮัน ในขณะที่มนุษย์ยักษ์พุ่งจู่โจมสัตว์อสูรสงครามทั้งสาม

ตูม! ตูม! ตูม!

ตอนนี้การต่อสู้ได้แบ่งออกเป็นสองคู่ คู่แรกคือการต่อสู้ระหว่างหลิงฮันกับจ้าวชิงเฟิง ในขณะที่อีกคู่คือ การต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูรสงครามทั้งสามกับมนุษย์ยักษ์

ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ของคู่ไหน ก็ล้วนแต่ดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง

“ข้าพบจุดอ่อนของเจ้าแล้ว!” จ้าวชิงเฟิงแสยะยิ้มและใช้ดาบทิ่มทะลวงเข้าใส่ร่างของหลิงฮันในส่วนที่ไม่มีกระดูก ซึ่งทำให้อวัยวะภายในของหลิงฮันได้รับบาดเจ็บ

หลังจากการปะทะอันยาวนาน เขาก็ตระหนักได้ว่ากระดูกของหลิงฮันนั้น ไม่ใช่สิ่งที่พลังของเขาจะสั่นคลอนได้ เพียงแต่ผิวหนังและกล้ามเนื้อนั้น ไม่ได้แข็งทนทานเหมือนกับกระดูก เพราะงั้นหากโจมตีไปยังส่วนนั้น เขาก็จะสามารถสร้างความบาดเจ็บให้อีกฝ่ายได้

หลิงฮันเค้นเสียงดูถูก หากกายหยาบที่ขัดเกลาด้วยคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะจุดอ่อนแบบนั้น มันจะเรียกว่าเป็นทักษะระดับราชานิรันดร์ได้อย่างไร?

“หลิงฮัน ข้าเบื่อจะเล่นกับเจ้าเต็มทีแล้ว!” จ้าวชิงเฟิงคำรามเสียดัง ก่อนที่ทั่วร่างของเขาจะระเบิดคลื่นแสงสีทองครามออกมา พลังต่อสู้และจิตวิญญาณของเขาถูกรีดเค้นจนถึงขีดสุด

สถานการณ์ในตอนนี้ต่างมีแต่ความไม่แน่นอน เพราะงั้นเขาจึงต้องรีบสังหารหลิงฮันให้จบโดยไว และทำการทะลวงผ่านขีดจำกัดของตนเอง

“เจตจำนงกระบี่สวรรค์!” จ้าวชิงเฟิงคำราม คลื่นแสงสีทองครามควบแน่นร่วมกันกลายเป็นกระบี่ขนาดใหญ่

‘ครืนน’ พริบตานั้นออร่าอันทรงพลังเกินพรรณนาก็พรั่งพรูไปทั่วพื้นที่ หลิงฮันพบว่าร่างกายของเขาไม่สามารถขยับเคลื่อนที่ไปไหนได้ ราวกับแรงกดดันจากทักษะกระบี่ของอีกฝ่าย เป็นคำสั่งอันเด็ดขาดของสวรรค์ที่ไม่อาจขัดขืน

“ตัวข้าคือเจตจำนงสวรรค์!” จ้าวชิงเฟิงกล่าวอย่างอาจหาญ พร้อมกับกระบี่ได้พุ่งทะลวงเข้าใส่หลิงฮัน

นี่คือทักษะที่ทรงพลังที่สุดสองเขา จากการกระตุ้นใช้งานอำนาจของแก่นกำเนิดนิรันดร์

ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งเพียงใด ต่อหน้าเจตจำนงสวรรค์ ชะตากรรมของเจ้าก็มีเพียงความตาย!

เจตจำนงของหลิงฮันเดือดพล่าน พร้อมกับสลายแรงกดดันที่เหนี่ยวรั้งจิตวิญญาณเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นพลังของทักษะกระบี่ที่พุ่งเข้ามาก็ยังถือว่าน่าสะพรึงกลัวอยู่ดี พลังทำลายของมันเรียกได้ว่า อาจจะใกล้เคียงกับระดับแบ่งแยกวิญญาณเป็นอย่างมาก

แต่แล้วมันยังไง?

‘ตูม’ กระบี่ทองคำปะทะเข้ากับร่างของหลิงฮันอย่างไร้ความปรานี คลื่นพลังแห่งเต๋าและอำนาจนิรันดร์ผันผวนไปทั่วลานประลอง

“ไม่ได้การแล้ว!” หลู่เซียนหมิงลุกขึ้นยืนกะทันหัน ถึงแม้จะมีรูปแบบอาคมป้องกันของค่ายกลคอยคุ้มกันลานประลองอยู่ แต่จิตวิญญาณของเขาก็ยังได้รับผลกระทบจากทักษะกระบี่เจตจำนงสวรรค์ เพราะงั้นจนถึงตอนนี้ร่างของเขาก็นั่งแข็งค้าง และเข้าแทรกการประลองไม่ทัน

จบสิ้นแล้ว… หลิงฮันต้องตายอย่างแน่นอน

ซุนตงตื่นเต้นและโห่ร้องออกมา ในที่สุดเขาก็กำจัดมารรูทหารของเขาทิ้งได้เสียที

เฉิงเฟิงหยุนเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน เขาวิเคราะห์การประลองมาหลายต่อหลายวัน ในที่สุดวันที่เขาวิเคราะห์ถูกก็มาถึง เขารู้สึกดีใจจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา

ธิดาโร๋วและสตรีนกอมตะเผยสีหน้าหวาดผวา และสติหลุดลอยออกจากร่าง ขนาดเสียงโห่ร้องดังสนั่นราวกับฟ้าผ่าในบริเวณแท่นผู้ชม พวกนางก็ยังไม่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย

สตรีนกอมตะไม่ได้มั่นใจในพลังของหลิงฮันอย่างหนักแน่นเหมือนกับจักพรรดินี เพราะหากเป็นจักรพรรดินีล่ะก็ นางคงไม่แสดงความกังวลออกมาแม้แต่นิดเดียว

เมื่อคลื่นผันผวนของอำนาจนิรันดร์และอำนาจแห่งเต๋าสลายไป สิ่งที่ทุกคนมองเห็นก็คือ ภาพของกระบี่ที่ยังคงคาอยู่ชิดลำคอของหลิงฮัน โดยที่ไม่สามารถเฉือนผ่านเนื้อหนังเข้าได้

คราวนี้แม้แต่จ้างชิงเฟิงก็ยังเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้เหนือกว่าความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง

การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดด้วยแก่นกำเนิดนิรันดร์นั้น มีอำนาจแห่งกฎเกณฑ์บางส่วนของราชานิรันดร์ผสานเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีที่ว่าก็ไม่อาจทะลวงผ่านคอของหลิงฮันได้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกตกตะลึงมากขนาดนี้

เสียงโห่ร้องดั่งลั่นจู่ๆก็กลายเป็นเงียบเฉียบดั่งป่าช้า

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดหลิงฮันถึงยังไม่ตายกัน? ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ตายเท่านั้น แต่ทำไมแม้แต่โลหิตสักหยดก็ไม่มีให้เห็น?

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “นี่น่ะรึการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเจ้า? ก็แค่งั้นๆ!”

ในชั่วพริบตาเมื่อครู่นี้ เขาได้ทำการโคจรอำนาจของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ด้วยพลังป้องกันอันไร้เทียมทานชั่วคราว อย่าว่าแต่จ้าวชิงเฟิงเลย ต่อให้เอี๋ยนเซียนลู่ที่แม้จะเป็นนิรันดร์ห้านิพพาน ก็ไม่สามารถสังหารหลิงฮันได้

“งั้นก็รับการโจมตีของข้าไปด้วย!” หลิงฮันกล่าวพร้อมกับโคจรแก่นกำเนิดนิรันดร์เปลวเพลิง คลื่นเพลิงร้อนระอุปะทุออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด และทำการระเบิดทั่วทั้งลานประลอง จนผู้ชมไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านในได้

เมื่อคลื่นเปลวเพลิงสลายไป สิ่งที่ปรากฏอยู่ในลานประลองก็คือ ร่างของชายชราสูงโปร่งที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน ในมือของเขากำลังถือร่างของใครบางคนอยู่

ร่างที่ว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจ้าวชิงเฟิงที่หมดสติ แขนและขาของเขาห้อยชี้ลงพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง สภาพของเขาในตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายกันแน่

Alchemy Emperor of the Divine Dao

Alchemy Emperor of the Divine Dao

อ่านนิยายจีนAlchemy Emperor of the Divine Dao เรื่องย่อ หลิงฮันสุดยอดจอมยุทธ์และจักรพรรดิปรุงยาเพียงหนึ่งเดียว เสียชีวิตลงในการบรรลุสู่การเป็นเทพเจ้า ในหนึ่งหมื่นปีต่อมาด้วยคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เขาได้เกิดใหม่ในร่างของเด็กหนุ่มที่ชื่อเหมือนกัน จากนั้นทั้งสายลมและเมฆจะต้องแหวกออกเมื่อเขาได้ต่อกรกับเหล่าอัจฉริยะในยุคใหม่นับไม่ถ้วน เส้นทางในการเป็นตำนานของเขาได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ในทุกยุคสมัย ภายใต้สวรรค์ ข้าแกร่งที่สุด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset