เฮือก!
กลุ่มคนแทบจะล้มทั้งยืน ป้าอ้าค้างแทบจะถึงพื้น ตอนนี้ทหารที่ถูกส่งไปไล่เก็บคริสตัลจากสนามรบอีกสนามที่เต็มไปด้วยซากศพซอมบี้ได้กลับมาแล้ว แต่ละคนถือถุงขนาดใหญ่ในมือ และมีสองคนที่ลากถุงขนาดใหญ่ไถมากับพื้นด้วย ซึ่งมันมีคริสตัลสีดำอัดแน่นจนขึ้นมาถึงปากถุงแทบจะล้นทะลักออกมา
มีคริสตัลของซอมบี้จำนวนมาก! นี่มันมากกว่า 9,000 ชิ้นแน่ๆ!
สมาชิกของค่ายเจียนอี๋ตกใจจนพูดไม่ออกและยิ่งช็อคเมื่อได้เห็นภาพคริสตัลจำนวนมากขนาดนี้
หลูอี๋รู้สึกเหมือนกับหัวเขากำลังจะระเบิด และอย่างที่เขาคิด ชูฮันทำได้จริงๆ? กองทัพที่มีทหารแค่ 300 คนสามารถจัดการฝูงซอมบี้ 20,000 ตัวได้? หลี่บี๋เฟิงไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด
ไม่!
ก่อนหน้านี้พวกเขาทุกคนไม่เต็มใจที่จะต้องมาเสี่ยงอันตราย ก่อนหน้าที่พวกเขาจะกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ พวกเขามองว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่าไม่มีค่าอะไรที่พวกเขาจะต้องเสี่ยงชีวิตมาช่วย แล้วไหนจะชูฮันที่ทำตัวหยาบคายอีก พวกเขาคิดภาพเอาไว้ว่าพอพวกเขาเข้ามาช่วยชูฮันและทหารของมันจะต้องรู้สึกซาบซึ้งและเทิดทูนพวกเขา
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ?
เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาถูกบอกว่าสงครามได้จบลงแล้ว!
แม้ว่าพวกเขาจะคิดไว้แล้วว่ายังไงก็ตามกองทัพเขี้ยวหมาป่าคงจะต้องรับมืออย่างหนัก ประสบกับจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างรุนแรงและเจอกับการต่อสู้อันดุเดือด แต่เมื่อพวกเขามาถึง ปัญหาทุกอย่างไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ฝูงซอมบี้ 20,000 ตัว กองทัพเขี้ยวหมาป่าจัดการได้สิ้นซากโดยไม่มีผู้เสียชีวิตเลยสักคน!
ใครจะสามารถทำสถิติขนาดนี้ได้? ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังทหารหลายพันคนเลย แม้พวกเขาจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองเท่าก็ยังไม่อาจสามารถทำสถิติเช่นนี้ได้ แล้วไหนจะเห็นได้ชัดว่ากองทัพของชูฮันทำการอย่างฉุกเฉิน ไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้าใดๆรวมถึงอุปกรณ์หรืออาวุธในการทุ่นแรงอีก รวมถึงไม่มีชุดเกราะป้องกันสั่งทำพิเศษแบบพวกเขาอีก
แต่กองคริสตัลมหาศาลตรงหน้าก็มากพอที่จะพิสูจน์ทุกอย่าง!
นอกเหนือจากนั้น ซากศพเหล่าลูกผสมที่กองอยู่ตรงหน้า ถ้าเป้าหมายของพวกมันคือค่ายเจียนอี๋ของพวกมัน พวกเขาคงได้แต่รอความตายเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถรรับมือพวกมันได้อย่างแน่นอน
หากกองทัพเขี้ยวหมาป่าสามารถเอาชนะกลุ่มลูกผสมได้ด้วยการสูญเสียกำลังพลไปแค่ 70 คนเท่านั้น!
พวกเขาทำได้อย่างไร? พวกเขาทำอย่างไรถึงเอาชนะสงครามครั้งนี้ได้? กลยุทธ์อะไรที่พวกเขาใช้? พวกเขาทำได้อย่างไรในเวลารวดเร็วขนาดนี้?
เมื่อตอนที่ผู้คนที่ค่ายเจียนอี๋ได้รับข่าว พวกเขาก็รีบมุ่งหน้าเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่กองทัพของชูฮันกลับจัดการทุกอย่างได้หมดแล้วเรียบร้อย
ข้อมูลขนาดหนักที่นำเสนอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ดีกว่าพวกเขา สงครามกลางภูเขานั่นยิ่งน่าตกใจซะยิ่งกว่าสงครามเมืองแห่งความตายที่ผ่านมานานแล้วซะอีก!
เมื่อมองไปที่เหล่าสมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บกันเกือบหมด หากไม่มีใครสักคนที่ร้องไห้โฮออกมาให้เห็น สีหน้าของทุกคนดูย่ำแย่หากกลับเงียบนิ่งและเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง
ศพตรงหน้าของเหล่านักรบทั้งหมด นักรบที่ถือกำเนิดจากสงคราม ไม่มีคำใดสามารถใช้อธิบายสำหรับพวกเขาได้
นี่คือกลุ่มของนักรบที่แท้จริง แม้แต่หลายคนก็มีความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว นี่จะเป็นกลุ่มคนที่ทำให้ทุกค่ายผู้รอดชีวิตตะลึงค้างกันหมด!
ในฐานะผู้นำค่าย หลูอี๋ยิ่งรู้สึกมากกว่าใคร ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา สำหรับสงครามครั้งนี้ที่มีชูฮันเป็นผู้นำสูงสุด ถ้าไม่มีชูฮัน กองทัพเขี้ยวหมาป่าก็เป็นแค่กองทัพทหารธรรมดา แต่เป็นเพราะชูฮันกลุ่มคนพวกนี้ถึงได้กลายเป็นคนเก่งกาจอย่างไม่น่าเชื่อ
หลูอี๋อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น สีหน้าจริงอย่างยอมรับว่าชูฮันเป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆ!
หลิวยู่ติงมองไปที่ภาพความเฉื่อยชาของทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่า จากนั้นก็ถามเสียงดังฟังชัด “ระดับของคริสตัล?”
“ขอโทษครับท่านพลตรี” สมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวมคริสตัลหลุบตา เค้นเสียงตอบออกมาอย่างเหนื่อยล้า “ผมยังไม่มีเวลานับครับ”
หลิวยู่ติงพยักหน้ารับ ไม่ถามอะไรอีก จากนั้นก็หันกลับไปมองหลูอี๋ “ผทพูดไปแล้วพลโท จ้องเราแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
“จำนวนล่ะ?” หลูอี๋ที่ได้สติกลับมาจากอาการตกใจก็สะดุ้ง แต่แล้วเขาก็สังเกตถึงบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง หลิวยู่ติงซึ่งเป็นพลตรีถอนหายใจใส่เขาและใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเขาเนี่ยนะ?
ขณะรอให้หลูอี๋ได้สติกลับมา หลิวยู่ติงก็เดินไปอยู่ต่อหน้านายทหารวิวัฒนาการระยะ 4 ที่ตะโกนคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ ออกมาก่อนหน้านี้ หลิวยู่ติงแสยะยิ้มและพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย “เป็นไปไม่ได้? พวกคุณทำไม่ได้ไม่ได้หมายความเราพวกเราจะทำไม่ได้ ความดีงามของท่านพลเอกชูอันของเราไม่สามารถถูกพวกคุณยั่วยุได้ กองทัพเขี้ยวหมาป่าไร้เทียมทานและไม่เป็นที่กังขา”
ทหารคนนั้นตกใจอย่างมาก สมองของเขาว่างเปล่าไปชั่วขณะ ถอยหลังหนีโดยไม่รู้ตัว หากหลิวยู่ติงก็ก้าวเท้าตามเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มประหลาดๆ เหลือบตาลงมองตราตรงหน้าอกของนายทหารตรงหน้า
“พันตรี?”
ตอนนี้หลิวยู่ติงกำลังใช้น้ำเสียงที่เหล่าทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าคุ้นชินกันดี เมื่อใดก็ตามที่ใครฝ่าฝืนกฏระเบียบทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่า หลิวยู่จิงจะมีท่าทางแบบนี้ปรากฏออกมา เมื่อไหร่ที่หลิวยู่ติงมองใครแบบนี้ จะรู้ได้เลยว่าคนคนนั้นกำลังจะถึงคราวซวย!
อีกด้าน กูเหลียงเฉินก็กำลังยิ้มมุมปากเล็กน้อยโดยที่ไม่มีใครเห็น
หลูอี๋ตะลึงและมองไปที่หลิวยู่ติงอย่างประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้?
พันตรีที่ถูกหลิวยู่ติงจ้องเขม็งนั้นพูดอะไรไม่ออก ตัวเขายังไม่ได้สติคืนกลับมาจากอาการช็อคเดิมเลย สมองของนายทหารหยุดทำงาน
“พันตรี ตำแหน่งของนายไม่ต่ำไปหน่อยเหรอ?” น้ำเสียงของหลิวยู่ติงค่อนข้างหยอกเย้าหลังจากเหลือบตามองพันตรีตรงหน้า หลิวยู่ติงก็พูดขึ้นอย่างยั่วยุ “ตำแหน่งแค่พันตรี กล้ากังขาท่านพลเอกชูฮัน ไม่เพียงแค่ไม่ให้ความเคารพแต่ยังดูถูกกองทัพของท่านพลเอก ถือเป็นความผิดขนาดเล็ก!”
พันตรีของค่ายเจียนอี๋ช็อคค้างและมองหลิวยู่ติงที่พูดประโยคเมื่อครู่ออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ
หลิวยู่ติงไม่ปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตอบสนอง เขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นต่อทันที “พลโท แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในทหารระดับสูงของค่ายคุณ แต่ไม่ว่าจะเป็นทหารของค่ายไหนแต่มันจำเป็นที่จะต้องคงตามระเบียบทหาร การกังขาผู้บัญชาการที่ตำแหน่งสูงกว่าโดยตรงถือเป็นความผิด!”