ในที่สุดชูฮันก็ได้สมาคมนักล่ามาไว้ในมือ หลังจากคุยกับฟานเจี้ยนตลอดทั้งวันทั้งคืน ชูฮันก็กลับมาถึงจุดนัดพบที่เขานัดทั้งสามทีมเอาไว้
ในเวลานั้นทั้งสามทีมได้ทำการฝึกครั้งที่สองของการแกะรอยสำเร็จเรียบร้อยแล้วและมารวมกันอยู่ที่จุดนัดพบ สามารถดูออกได้เลยว่าทุกคนกำลังอารมณ์ดี และไม่มีอะไรจะทำนอกจากกำลังจัดงานฉลองกันอยู่ หลี่บี๋เฟิงกำลังแสดงอยู่ตรงกลางวงล้อมพร้อมกับวิวัฒนาการระยะ 4 คนหนึ่ง มันคือการประลองงัดข้อ โดยมีทุกคนล้อมวงส่งเสียงเชียร์และปรบมือดังสนั่น
ซูเฟิงเป็นคนแรกที่ค้นพบการมาถึงของชูฮัน หลังจากขมวดคิ้วครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้น “ทำไมท่านถึงตัวเปื้อนไปหมดแบบนี้?”
ชูฮันปัดเศษสกปรกบนเนื้อตัวออกและยิ้มออกมา “ฉันเจอกับฝูงสัตว์ป่า เลยกลิ้งหนีมันมา”
ซูเฟิงเงียบปากทันที ชูฮันเนี่ยนะกลิ้งหนีสัตว์ป่า? ใครจะไปเชื่อเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงกัน!
“ท่านหัวหน้าชูฮันอยู่นั่น!” ไม่นานคนที่เหลือก็ค้นพบชูฮัน อีกครั้งที่บรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ชูฮันที่เหนื่อยล้ามานาน แต่ยังต้องรับมือกับกลุ่มกระต่ายตื่นตูม เขาโบกมือให้ทุกคนสงบอารมณ์ลง “รายงานผลการฝึก”
ฝูงชนเงียบสนิทลงทันที กัปตันของทั้งสามทีมเดินนำหน้าเรียงออกมาตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในระเบียบเรียบร้อยดี
“ทีมนักฆ่าขนนกขออนุญาตรายงานครับท่าน” ซูเฟิงเป็นคนเริ่มก่อน เขายืนตัวตรง อย่างไม่แสดงความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีต่อชูฮัน เขาทำตามระเบียบอย่างเป็นทางการของผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างชัดเจน และในฐานะกัปตันของทีมนักฆ่าขนนก ซูเฟิงรายงานด้วยน้ำเสียงจริงจัง “การฝึกการแกะรอยของทีมนักฆ่าขนนก กุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้า ผลการฝึกคือทีมนักฆ่าขนนกชนะครับ”
สมาชิกของทีมนักฆ่าขนนกทั้ง 20 ยืนนิ่งอย่างขึงขัง สีหน้าจริงจัง ถ้ามันไม่ใช่เพราะเป็นมันการรายงานต่อท่านพลเอกละก็ พวกเขาอยากจะตะโกนร้องด้วยความดีใจออกมาด้วยซ้ำ
ทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้าทำตัวเงียบๆ พวกเขาแพ้ พวกเขาไม่ใช่แค่เสียหน้าเท่านั้นแต่ยังต้องรับโทษอีก สำหรับบทลงโทษของการฝึกในครั้งนี้แม้ชูฮันจะยังไม่ได้บอก แต่ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะต้องหนักกว่าครั้งที่แล้วแน่ๆ
“แพ้เหรอ?” ชูฮันมองไปที่ทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้า “เรามาพูดคุยเรื่องเส้นทางการเดินตลอดทั้งสามวัน วิธีการซ่อนตัว เรามาค่อยๆวิเคราะห์และหาวิธีเพื่อปรับปรุงไวๆกันเถอะ!”
เนื่องจากหายตัวไปสามวัน ชูฮันจึงไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้งสามทีม แต่ไม่ว่าการฝึกใดๆก็ตามที่สำคัญกว่าผลลัพธ์ก็คือเนื้อหาที่เจาะจง ซึ่งชูฮันจะสามารถมอบเป้าหมายหลังการฝึกให้พวกเขาได้
หลูปิงเซ่อพูดเปิดขึ้นก่อน ไม่สนใจเสี่ยวเคินที่อยู่ข้างๆที่กำลังจ้องมา “พวกเราทั้งสองทีมใช้กลอุบายโดยให้สองคนที่เร็วที่สุดวิ่งไปอีกทางและทิ้งร่องรอยเพื่อลวงให้อีกฝ่ายสับสน แต่ละคนไปคนละเส้นทาง แล้วพวกเรากลุ่มใหญ่ก็มุ่งหน้าไปของเราขณะคอยกำจัดร่องรอยไปด้วย ที่จริงพวกเราทำทุกอย่างได้ดี แต่ผมไม่รู้ว่าทีมนักฆ่าขนนกรู้กลยุทธ์ของเราได้ยังไง”
ชูฮันหันไปเหลือบมองที่ทีมนักฆ่าขนนก และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะจนตัวสั่น เพราะทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้าไม่ได้เข้าร่วมกับสงครามกลางภูเขา พวกเขาจึงไม่รู้ว่าชูฮันเคยสอนทุกคนใช้กลยุทธ์นี้แล้ว โดยเฉพาะทีมนักฆ่าขนนก
และเป็นเพราะทีมนักฆ่าขนนกคุ้นเคยกับกลยุทธ์นี้ดี ทำให้พวกเขารู้ถึงกลอุบายของอีกฝ่ายตั้งแต่แรก
หลังจากได้ยินคำอธบิายของหลูปิงเซ่อ ซูเฟิงก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ที่จริง ฉันดูเจตนาของแกออกตั้งแต่แรก มันง่ายมาก เพราะพวกเราคุ้นเคยกับกลยุทธ์นี้ดี ทำให้พวกเราค้นพบออกตั้งแต่ต้น”
ทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้าชำเลืองมาหน้ากันไปมา พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจที่ซูเฟิงพูด
“ขอบคุณสำหรับรายละเอียด” เสี่ยวเคินรับหน้าที่ ถ้ามันยังมีเวลาเขาอยากจะเปิดใจและขอคำแนะนำ ทุกรู้ดีว่ามันไม่จำเป็นต้องมารักษาหน้าตากัน
“ความจริงแล้ว ความสามารถในการสรุปใจความของฉันนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ทันใดนั้นซูเฟิงก็หน้าร้อนด้วยความอายและหันไปมองชูฮันด้วยท่าทางอึกอัด “ท่านพูดดีกว่าครับ ผมพูดไม่เก่งเท่าไหร่”
เมื่อเห็นท่าทางประหลาดๆของซูเฟิง เหล่าสมาชิกส่วนใหญ่ของทีมนักฆ่าขนนกแทบจะกลั้นอารมณ์ไม่อยู่และเกือบหลุดหัวเราะออกมา ชูฮันส่ายหัวอย่างหมดหนทางช่วยซูเฟิง ชูฮันจึงมองไปรอบๆและพูดขึ้น “ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวฉันจะสรุปรายงานการฝึกครั้งนี้ให้ฟังเอง”
“เฮ! เย้!” เสียงตื่นเต้นและดีใจดังไปทั่ว
สมาชิกทั้งสามทีมต่างจับจ้องมาที่ชูฮันกันหมดโดยไม่กระพริบตา ที่จริงแต่ละการสรุปหลังการต่อสู้ทุกครั้ง พวกเขาชอบที่จะได้ฟังการวิเคราะห์ของชูฮัน เกือบทุกครั้งหลังจากได้ฟังการสรุปของชูฮันที่เต็มไปด้วยตรรกะ พวกเขาจะเข้าใจอย่างชัดเจนและเกิดความคิดที่แตกแขนงมากมายในหัว ไม่เพียงแต่พวกเขาจะหาข้อบกพร่องของตัวเองเจอ แต่ยังได้เรียนรู้จากชูฮันด้วย
ความคิดที่สมเหตุสมผลและระเอียดของชูฮันนั้นเป็นสิ่งที่หาค่ามิได้ ทุกคนรู้ดีว่าชูฮันยุ่งมากแค่ไหน เขายุ่งจนแทบจะไม่ได้หยุดพักเลยด้วยซ้ำ และเพียงแค่มองเห็นนัยน์ตาที่แดงก่ำของชูฮันทุกคนก็รู้เลยว่าท่านหัวหน้าของพวกเขาพึ่งจะวิ่งมาหลังจากเสร็จอีกธุระหนึ่งแน่ๆ
มันไม่มีโอกาสมากนักที่จะได้การสอนทันทีในสถานการณ์ มันนับครั้งได้เลย มันจะมีแค่ในช่วงแรกๆของการฝึกกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ชูฮันจะลงมาสอนพวกเขาด้วยตัวเองกับมือ และเกือบทุกคนในทั้งสามทีมตอนนี้ไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ว่าถ้าชูฮันไม่พอใจ หลังจากการฝึกจบลงพวกเขาอาจจะถูกไล่ออกไปได้
เมื่อได้เห็นทุกคนเงียบสงบและรอคอยให้ตัวเองพูด ชูฮันจึงไม่คิดเสียเวลา เขาพูดขึ้นทันที “ฉันจะสรุปก่อนว่าทำไมทีมกุ้งเสือดำและทีมความลับของพระเจ้าถึงล้มเหลว ที่จริงที่ซูเฟิงพูดมาก่อนหน้านี้มันก็ถูกแล้ว”
“พวกคุณคุ้นเคยกันมากไป” ชูฮันอธิบาย “มันไม่ใช่เพราะพวกคุณคุ้นเคยกับพฤติกรรมของพวกคุณทั้งสองทีม ดังนั้นพวกคุณรู้ว่านอกเหนือจากวิธีการทำงานของทีมกุ้งเสือดำ ทีมความลับของพระเจ้าได้เปลี่ยนไปมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้”
“ดังนั้นความคุ้นเคยของซูเฟิงก็คือการไม่คุ้นเคยกับพวกคุณทั้งสองทีม แต่มันหมายถึงความสามารถในการเรียนรู้จากพวกคุณทั้งสองทีม” สิ่งที่ชูฮันพูดเกือบทุกคนยกเว้นแค่ซูเฟิงต่างไม่เข้าใจเลยสักนิด
เมื่อมองไปรอบๆและเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและสับสนของทุกคน ชูฮันก็พูดต่อ “พวกคุณคิดดู ก่อนที่ฉันจะไป ทีมกุ้งเสือดำและทีมความลับของพระเจ้าพึ่งมีประสบการณ์การฝึกแค่ครั้งเดียว ถูกมั้ย? แล้วผลการฝึกคืออะไร? พวกคุณจัดการทีมนักฆ่าขนนกจนน็อคอย่างเหนือความคาดหมาย!”
“แม้ว่าฉันจะเป็นคนนำ แต่พวกคุณสามารถแยกแยะความรู้ของการลาดตระเวณได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาแค่สามวัน ซึ่งการเรียนรู้และความสามารถในการแยกแยะแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมาก”
ณ จุดนี้ หลายคนไม่เข้าใจสิ่งที่ชูฮันต้องการจะสื่อ แต่พวกเขาก็ไม่ขัดเพราะรู้ดีว่าที่ชูฮันพูดนั้นจะต้องเป็นสาเหตุของสถานการณ์นี้ ซึ่งมันอาจจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็ได้