เมื่อได้ยินที่ซางจิ่วตี้พูด เจียงเทียนชิงก็ชะงักไปครู่หนึ่ง หัวใจของเขาเต้นรัว เมื่อนึกว่ามันก็จริงที่ป่ายหวีเนอไม่ปรากฏตัวเลยมานานแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขามัวแต่ยุ่งกับการก่อสร้างของค่าย ทำให้ลืมนึกถึงป่ายหวีเนอที่หายไปเลย
ป่ายหวีเนอเป็นคนที่มั่นคงและรวดเร็วอยู่เสมอ เธอไม่สนเรื่องชื่อเสียงหรือตำแหน่ง ปกติแล้วทุกครั้งที่เธอไปจากค่าย เธอจะได้ยกระดับอันดับใหม่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ป่ายหวีเนอกับซางจิ่วตี้เข้าใจกันเองโดยไม่ต้องพูด ในการจะแย่งความเป็นเจ้าของต่อชูฮัน แต่ด้วยเพราะศักดิ์ศรีของป่ายหวีเนอ ทำให้เธอไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ มันชัดเจนว่าซางจิ่วตี้เป็นคนของชูฮัน เป็นคนดูแลค่ายเขี้ยวหมาป่าให้ชูฮัน และจะต้องคอยติดต่อเพื่อรายงานส่วนทำจำเป็น
ชูฮันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องจัดการกับภายนอก ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขาระหว่างป่ายหวีเนอและซางจิ่วตี้นั้นได้ตั้งข้อตกลงไว้แล้ว ข้อพิพาททางอารมณ์ของผู้หญิงสองคนก็เป็นเรื่องของผู้หญิงสองคน พวกเธอไม่สามารถเอาเรื่องนี้ไปก่อกวนชูฮันได้
ทว่า ตอนนี้ป่ายหวีเนอหายตัวไปได้หลายเดือนแล้ว…
ซางจิ่วตี้คาดว่าชูฮันน่าจะรู้อะไรบางอย่าง แต่เธอไม่กล้าจะถามเขา การที่ชูฮันไม่พูดนั้นแสดงว่าชูฮันก็มีเหตุผลของเขา แต่ที่ซางจิ่วตี้กลัวก็คือประวัติเบื้องหลังของป่ายหวีเนอต่างหาก
การหายตัวไปของป่ายหวีเนอนั้นเป็นเพราะตระกูลป่ายหรือเปล่า?
โดยไม่คำนึงถึงความอบอุ่นที่ชูฮันและป่ายหวีเนอมีต่อกัน ตระกูลป่ายเป็นสิ่งกีดขวางที่ไม่สามารถผ่านไปได้!
ขณะที่เจียงเทียนชิงและซางจิ่วตี้ต่างตกอยู่ในความกังวลทั้งคู่ จู่ๆประตูเปิดถูกเคาะขึ้นอีกครั้ง—–
ก๊อก! ก๊อก!
คนข้างนอกดูเหมือนจะกำลังกังวลและเร่งรีบพอควร เสียงเคาะที่ดูรีบร้อนและเปิดเข้ามาก่อนโดยไม่รอให้คนในห้องได้ตอบรับด้วยซ้ำ
“ซูชิง?” หลังจากได้สติกลับมา ซางจิ่วตี้ก็มองไปที่ซูชิง ที่เหงื่อท่วม ท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก “เกิดอะไรขึ้น?”
“นี่มันสุดยอด!” ซูชิงที่ไม่สนใจเนื้อตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อในตอนนี้เลยสักนิด จู่ๆเขาก็ยื่นแบบร่างในมือให้ซางจิ่วตี้ทันที “รีบเซ็นอนุมัติเร็วครับ! หลังจากอนุมัติแล้วเราจะเริ่มทำการก่อสร้างทันที แค่สามวันเท่านั้นแต่หวังชื่อชรงสามารถทำการสำรวจด้านภูมิศาตร์ได้สมบูรณ์หมดแล้ว ประสิทธิภาพในการทำงานนี้มันสุดยอดมาก!”
“นั่งลงพักดื่มน้ำก่อน ของแบบนี้เราไม่สามารถทำแบบผ่านๆได้ ฉันจำเป็นต้องดูรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน” ซางจิ่วตี้ยิ้มบางๆ เธอคิดว่าซูชิงตกอยู่ในปัญหาซะอีก กลายเป็นผู้ชายคนนี้แค่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้เฉยๆ
“อ่อ ก็ได้ถ้างั้น” ซูชิงรู้ว่าซางจิ่วตี้เป็นคนรอบคอบและเป็นคนที่มีความรู้ระดับมืออาชีพ เพราะงั้นเขาจึงไม่คัดค้าน เขารับแก้วน้ำมาดื่ม หลังจากดื่มจนพอใจ เขาก็ถึงได้เห็นว่ามีเจียงเทียนชิงอยู่ในห้องนี้ด้วย “น้องเจียง นายอยู่ในนี้ด้วยเหรอ?”
เจียงเทียนชิงที่เกิดมาพูดน้อยอยู่แล้ว เพียงแค่พยักหน้า
“เฮ้ นายยุ่งอยู่รึเปล่า? อยากจะมาช่วยฉันมั้ย?” ซูชิงที่กำลังต้องการความช่วยเพิ่มเติม พยายามชวนเจียงเทียนชิง
“ซูชิง อยู่เฉยๆเถอะ เจียงเทียนก็มีอย่างอื่นที่ต้องทำ” ซางจิ่วตี้ทั้งโกรธและตลกในเวลาเดียวกัน เธอพยายามกดพฤติกรรมขี้สงสัยของซูชิงเอาไว้ จากนั้นก็ชี้ไปที่จุดแปลกๆที่เธอเห็นในแบบร่างและเอ่ยถาม “ทำไมจุดของการก่อสร้างอันดับแรกถึงมาอยู่ตรงนี้?”
ซูชิงเพ่งดู “เป็นคำสั่งของหัวหน้าชูฮัน”
“แต่นี้มันคือจุดของเสาหิน! ระยะห่างจากค่ายเขี้ยวหมาป่าของเราก็ไม่ใช่น้อยๆ เขาต้องการทำอะไรตรงนี้?” ซางจิ่วตี้เต็มไปด้วยคำถาม “แล้วสร้างกำแพงรอบเสาหิน? แล้วอะไรคือการสร้างบ้านต่างๆรอบๆ?”
“อ่อ ดูเหมือนจะเป็นไแเดียของการขยายค่ายเขี้ยวหมาป่า กำแพงสองกำแพงจะถูกสร้างล้อมเสาหิน สิ่งอำนวยความสะดวกของเมืองชั้นในจะได้รับการป้องกันระดับสอง คุณจะเห็นว่ามันสถานที่มากมายในตรงจุดนี้ หัวหน้าชูฮันต้องการให้มันเป็นสถานที่สำหรับการพัฒนาอาวุธเทคโนโลยีขั้นสูงตรงนี้” ซูชิงเองก็ไม่เข้าใจเจตนาของชูฮันเหมือนกัน เขาแค่อธิบายสิ่งที่เขารู้ให้ซางจิ่วตี้ “ส่วนชั้นนอกจะเป็นการป้องกันระดับสาม ซึ่งต่ำกว่าเมืองชั้นใน และสำหรับสถาปัตยกรรมรอบๆบริเวณ หัวหน้าชูฮันบอกว่ามันควรมีจุเดียวที่รวบรวมความบันเทิงทุกอย่างเอาไว้”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ซางจิ่วตี้ก็ตะลึงนิ่งค้างไปเลย วงรอบนอกเสาหิน เมืองเล็กๆที่สร้างขึ้นเพื่อส่วนร่วมในความบันเทิง
นี้มันอะไรกัน?!
ไม่เพียงแค่ซางติ่วตี้ที่ช็อค แต่เจียงเทียนชิงเองก็ไม่ต่าง เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกมาต่อ “ทำไม ที่นี้คือจุดก่อสร้างจุดแรก แม้แต่อาคารของค่ายเขี้ยวหมาป่าที่สำคัญก็ยังตามมาทีหลัง?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน!” ซูชิงตอบด้วยใบหน้าขมขื่น “แต่หัวหน้าชูฮันบอกว่าอาคารนี้ควรเปิดใช้งานทันทีหลังจากก่อสร้างเสร็จ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ควรประจำจุดทันที และเมืองย่อยสำหรับความบันเทิงก็ควรทำเปิดทำธุรกิจทันที”
ซางจิ่วตี้ตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าการที่ชูฮันวางจุดนี้ไว้ให้ดำเนินการจุดแรกมันจะต้องมีจุดประสงค์พิเศษแน่ๆ และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทั้งโลภและบ้าตัณหาไปพร้อมๆกัน ถ้าชูฮันมีความคิดแบบนั้น มันคงอยู่ได้ไม่นาน
แต่ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอก ซางจิ่วตี้ก็ยังถาม ชูฮันคงยังไม่คิดชื่อของเมืองบันเทิงนี้ใช่มั้ย?”
“ที่จริงแล้ว คิดครับ” ซูชิงตอบอย่างอายๆ “ชื่อว่า เมืองโรแมนติก”
“แค่ก! แค่ก!” เจียงเทียนชิงอดไม่ได้ที่จะสำลัก ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้จักกับชูฮันมาตั้งแต่เด็ก เขาคงคิดว่าชูฮันเป็นคนโลภและบ้าตัณหา
ชื่อมันน้ำเน่ามาก!
“มันน่าเพื่อเป็นการหาเงินด้วยเฉพาะ เพราะถึงอย่างไรตอนนี้ทรัพยากรของค่ายเขี้ยวหมาป่าก็กำลังขาดแคลน” ซางจิ่วตี้รียหยุดความคิดของทุกคนเอาไว้ แม้ว่าในใจของเธอนั้นกำลังคลั่งอยู่ ปากกาในมือถูกบดขยี้จนไม่เหลือสภาพ
หนึ่งคืน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ค่ายตวนได้สั่งทีมก่อสร้าง 200 คนมาในเช้าวัดถัดมา สำหรับหวังช่ือชรงและคนอื่นๆ ซูชิงเริ่มทำการสำรวจประเด็นสำคัญในือก่อน ส่วนทีมก่อสร้างนั้นจะทำการทดสอบเสาหินก่อน คน 200 คนที่ยืมตัวมานี้ไม่สามารถปล่อยได้ง่ายๆ พวกเขาต้องคอยเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง!
อย่างไรก็ตาม ซูชิงที่เป็นคนระมัดระวังอย่างมาก อาจไม่รู้ว่าทีมก่อสร้าง 200 คนที่ชูฮันยืมจากตวนเจียงเหว่ยจะไม่ได้กลับไปที่ค่ายตวนแล้ว…
ชูฮันเองก็พาทั้งสามทีมไปทำการฝึกรอบที่สามต่อในเช้าวันถัดมา ระหว่างทางทุกคนสามารถมองเห็นเสาหินที่อยู่ไกลออกไป ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งเห็นเสาหินใหญ่ขึ้นๆ จนจะสูงเฉียดฟ้า
ทั้งสามทีมที่กำลังเดินอยู่ พวกเขาเริ่มมองเห็นเสาหินประเมิณชัดขึ้น หากยังไม่สามารถมองเห็นรายชื่อยนเสาหินได้ มีเพียงแค่วิวัฒนาการระยะสูงอย่างซูเฟิงและหลี่บี๋เฟิงเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่เป็นเพราะความชัดเจนนี้ทั้งสองคนจึงหยุดชะงักทันที พวกเขาจ้องไปที่เสาหินที่อยู่ไกลออกไปอย่างตะลึงงัน
“โอ๊ะ?” หลูปิงเซ่อสงสัยอย่างมาก
“ท่านหัวหน้าครับ พบเจอบางสิ่งผิดปกติ!” ซูเฟิงไม่ได้หันไปคุยกับหลูปิงเซ่อแต่รีบไปหาชูฮันทันทีด้วยความสงสัย “การประเมิณของเสาหินเปลี่ยนไปแล้วครับ!”