วันที่เจ็ดที่ชูฮันอยู่ในโคม่าซึ่งเป็นวันเดียวที่ในที่สุดเหล่าตัวแทนจากค่ายต่างๆก็สังเกตถึงความผิดปกติในเมืองโรแมนติก ทว่าก็ไม่ใช่ทุกคนที่ได้สติกลับมาเต็มร้อยดี
ท่ามกลางกลุ่มตัวแทนมีเพียงแค่มู๋หรงยู๋เฉิงที่ได้สติกลับมาเต็มร้อย และขณะนี้เขาก็กำลังนั่งอยู่ตรงชั้นแรกของร้านหลินหยูพร้อมกับถ้วยน้ำชาในมือ
เราต้องออกไปจากที่นี้! มู๋หรงยู่เฉิงพูดขณะกวาดสายตาเคร่งเครียดใส่ทุกคน
เอ่อใช่ ทุกคนพยักหน้า
หลายคนเริ่มหันซ้ายหันขวาและสังเกตได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
เฉินยุนโหลวล่ะ? มีคนหนึ่งถามขึ้นมา ฉันไม่…นี้มันสะเพร่าชะมัด!
เขาจากไปตั้งแต่วันแรก มู๋หรงยู๋เฉิงเป็นคนตอบ ทุกคนตะลึงและอดไม่ได้ที่จะมองไปยังสาวงามสองคนที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าบางคนยังทำใจเชื่อไม่ลงว่าเฉินยุนโหลวจะกล้าจากไปสวรรค์บนดินเช่นนี้ตั้งแต่วันแรก?
เฉินยุนโหลวคงเห็นว่าชูฮันไม่ได้อยู่ที่นี้ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาอยู่ที่นี้ เฉินยุนโหลวเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นคนแน่วแน่และมุ่งมั่น แต่ค่ายเขี้ยวหมาป่าไม่เหมือนกับค่ายซือฉวน อยู่ที่นี้เฉินยุนโหลวไม่สามารถทำอะไรได้มาก
อีกอย่างตัวแทนหญิงเพียงคนเดียวอย่างหลูชูซเวเองก็ไม่ได้อยู่ที่นี้เหมือนกันตอนที่เธอเป็นลมไปในแรกที่มาถึงและหลังจากเธอได้สติฟื้นขึ้นมา เธอก็รีบไปจากที่นี้ทันทีโดยไม่มีใครรู้…
มู๋หรงยู่เฉิงเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกมอมเมาจงหลงอยู่ในเมืองนี้ตั้งหลายวันแน่นอนว่าหญิงสาวจากเมืองโรแมนติกแตกต่างจากค่ายอื่นๆ แต่ในฐานะผู้ช่วยคนสนิทของพลเอกฉางกวนหลง มู๋หรงยู่เฉิงมีความแน่วแน่และมุ่งมั่นกว่าใครอื่น
เขารู้ว่าการที่กลุ่มตัวแทนถูกล่อลวงเช่นนี้…มันจะต้องมีเหตุผลไม่ธรรมดาชักใยเบื้องหลัง
ดังนั้นมู๋หรงยู่เฉิงจึงรออยู่ที่นี้เป็นเวลาสามวันอาศัยตลอดเวลาทั้งสามวันคอยมองสังเกตการณ์ทุกอย่างภายในเมืองจนถี่ถ้วน ก่อนที่มู๋หรงยู่เฉิงจะได้ข้อสรุปกับตัวเองที่ทำให้ใครก็ตามที่ได้ยินต้องหวาดกลัว
เพราะเขาพบว่าตั้งแต่ที่สงครามจบลงชูฮันยังไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็นเลยสักครั้ง!
นี้ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้มาจากคนในหรืออะไรทั้งนั้นแต่เป็นสิ่งที่มู๋หรงยู่เฉิงวิเคราะห์ด้วยตัวเองจากบทสนทนาที่เขาไล่สังเกต และยิ่งในกรณีที่ทั้งเฉินยุนโหลวและหลูชูซเวไม่อยู่ที่นี้ แสดงว่าทั้งสองคนน่าจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติเหมือนกับเขา
ชูฮันกำลังหลบหน้าทุกคนอยู่มันมีอะไรเกิดขึ้นกันแน่? มู๋หรงยู่เฉิงไม่กล้าคิดไปไกลและตอนนี้เขาก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปค่ายหนานตู้ง่ายๆดังนั้นเขาจึงรอให้ทุกอย่างสงบลงอยู่ที่นี้ ในความคิดของเขานั้นตัวแทนทุกคนน่าจะกลับไปยังค่ายตัวเองในอีกไม่ช้าก็เร็วเพราะค่ายเขี้ยวหมาป่าคงไม่สามารถถ่วงเวลาทุกคนไปได้ตลอด
สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือการยอมรับและอยู่อย่างนิ่งๆไว้ก่อน
นี่พวกเราถูกปั่นหัวเหรอ? ในที่สุดบางคนก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ฉันไม่เห็นพลเอกชูฮันอยู่ที่นี้เลย แม้แต่ผู้ดูแลค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ไม่โผล่มาหาเราด้วยซ้ำ ไม่มีการจัดอาหารเลี้ยง ไม่มีเครื่องดื่ม ไม่มีความบันเทิงอะไรให้เราเลย!
ทุกคนเองก็เริ่มสังเกตบทสนทนาแปลกๆและเริ่มพูดคุยกัน
มีเพียงแต่มู๋หรงยู่เฉิงที่ไม่ร่วงวงด้วยตอนนี้ไม่ว่าตัวเขาจะตัดสินใจแบบไหนมันก็เป็นไปได้หมดว่าเขาอาจจะทำลายแผนการของค่ายเขี้ยวหมาป่า ก่อนหน้าที่เขาจะมาที่นี้เขาได้ไปเจอกับฉางกวนยวีซินมาก่อนและเขาก็ได้ไตร่ตรองทำความเข้าใจทุกอย่างเรียบร้อยว่าทุกๆอย่างเกิดขึ้นนั้นจะอิงกับผลประโยชน์ของค่ายเขี้ยวหมาป่าก่อนเสมอ…
หลังจากนั้นไม่นั้นทุกคนก็ตัดสินใจออกไปจากเมืองโรแมนติกเพื่อไปตามหาชูฮันที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า
แต่ทันทีที่พวกเขาเตรียมตัวจะจากไปนั้นหลินหยูที่เป็นผู้จัดการซ่องก็ปรากฏตัวขึ้น เธอส่งยิ้มให้กับทุกคนและพูด พวกท่านต้องการจะไปแล้ว? ถ้าเช่นนั้นกรุณาชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนด้วยค่ะ?
อะไรนะ?
ชำระเงิน?
นี้ไม่ใช่การต้อนรับจากพลเอกชูฮันหรือไง?
ไม่ใช่ว่ามันคือการดูแลจากค่ายเขี้ยวหมาป่ารึไงทำไมพวกเราต้องจ่ายเงินตัวเอง? ทุกคนต่างตะลึงงันและยิ่งเมื่อได้รับใบเสร็จค่าใช้ค่าบริเวณที่สูงลิบลิ่วพวกเขาก็ยิ่งอารมณ์เดือดพล่านกันเข้าไปใหญ่ ความโกรธพุ่งทะลักและระเบิดใส่หลินหยูกันไม่ยั้ง
นี้มันปล้นกันชัดๆ!
มันแพงมากเกินไป!
แน่นอนว่าเมืองโรแมนติกมีส่วนเกี่ยวข้องกับค่ายเขี้ยวหมาป่าแต่นั่นมันก็แค่ในเชิงเขตอำนาจของการปกครองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจของพวกเรา หลินหยูพูดพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ต่างอะไรกับมีดคมๆ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ที่พวกท่านกิน ดื่ม เคล้านารี ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่มีคำว่าฟรี แม้แต่กัปตันของกองทัพเขี้ยวหมาป่ามาที่นี้ก็ต้องจ่ายเงินเหมือนกัน พวกเราไม่ได้บริการใครฟรีๆ เราเองก็ต้องหาเงินใช้เหมือนกัน พวกท่านจะมาเสวยสุขฟรีๆได้ยังไง!
ขณะพูดหลินหยูก็คอยชำเลืองมองมู๋หรงยู่เฉิงไปด้วย และอย่างที่ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลายกิน ดื่ม นอนหลับอยู่ที่นี้ตลอดสามวันใครๆก็ล้วนเห็นกันทั้งนั้น พวกท่านล้วนเป็นตัวแทนจากค่ายใหญ่โตกันทั้งนั้น คิดจะโกงพวกเราที่ทำงานกันรึยังไงคะ?
มู๋หรงยู่เฉิงไม่คิดสักนิดว่าตอนท้ายเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้เขาได้แต่ชำเลืองมองใบเสร็จของตัวแทนคนอื่นข้างๆอย่างเงียบๆ จำนวนค่าใช้จ่ายที่ยาวเป็นหางว่าวทำให้เขาขนลุกขึ้นมาทันที อดไม่ได้ที่จะแอบดีใจที่ตลอดสามวันที่ผ่านมาเขาดื่มแต่น้ำชาเท่านั้น
ทว่าคนอื่นต่างตื่นตระหนกกันหมดเมื่อลองคิดย้อนกลับดูแล้วมันก็จริงทุกอย่างเพราะตั้งแต่ที่พวกเขาก้าวเข้ามาในเมืองอันลู พวกเขาก็ไม่เจอกับเจ้าหน้าที่ทางการของค่ายเขี้ยวหมาป่าคนไหนเลย ไม่มีใครมาต้อนรับดูแล ทุกอย่างดำเนินไปตามความพึงพอใจของพวกเขาเอง
ที่แท้พวกเขาก็ถูกล่อให้มาที่นี้เพื่อมาติดกับสาวงาม!
จบสิ้น! ทุกคนพลันหน้าซีดเผือดตัวแทนจากค่ายขนาดเล็กหลายคนยิ่งเสียใจกับการกระทำของตัวเอง พวกเขาคิดว่าทุกอย่างฟรีทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกแต่ทุกอย่างที่ดีที่สุด จึงทำให้ราคาที่ต้องชำระจึงสูงลิบไปด้วย!
นี้มัน…
แล้วทีนี้พวกเขาจะทำอย่างไรดี?
พวกเขาจ่ายไม่ไหว!
คุณสามารถช่วยเราหน่อยได้ไหม? ตัวแทนจากค่ายเล็กแห่งหนึ่งเอ่ยขึ้น หน้าดำหน้าแดงด้วยความอับอาย ด้วยตำแหน่งของผม ผมไม่มีทางที่จะจ่ายได้ไหว ผมเพียงแค่มาร่วมสนุกเท่านั้น
หึ! สีหน้าหลินหยูพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ก็พอจะต่อรองได้อยู่!
พอชายผู้นั้นได้ยินสีหน้าก็ดีขึ้นทันที คนอื่นๆเองก็พลอยโล่งใจไปด้วย
และหลินหยูก็พูดประโยคต่อมาที่ทำให้ทุกคนไม่พอใจอีกครั้ง ถ้าพวกท่านไม่จ่าย ชื่อพวกท่านทุกคนจะขึ้นบัญชีดำของที่นี้และห้ามเข้าเมืองโรแมนติกอีกต่อไปในอนาคต!
เธอ! ชายผู้นั้นตกใจ ชักสีหน้าแสดงความไม่พอใจเต็มที่พร้อมกับท่าทางที่เปลี่ยนไป กล้าดียังไง! มีสิทธิอะไรสั่งการแบบนี้ในเมืองโรแมนติก?
น้ำเสียงของหลินหยูเย็นเยือกยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าดิฉันมีสิทธิสั่งการ แต่นี้คือกฏที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่แรกที่เมืองโรแมนติกก่อตั้ง ใครก็ตามที่ไม่มีเงินชำระค่าใช้จ่ายที่ไหนก็ตามที่ไปใช้บริการในเมืองโรแมนติกจะขึ้นบัญชีดำ ไม่ใช่แค่ซ่องของฉันเท่านั้น แต่ทุกร้านทุกธุรกิจของทั้งเมืองก็บังคับใช้กฏเดียวกัน
ทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออกหากหลายคนก็ไม่ได้สนใจ เพราะมันก็แค่ขึ้นบัญชีดำเมืองโรแมนติก ไม่ใช่ขึ้นบัญชีดำค่ายเขี้ยวหมาป่าซะหน่อย…
แน่นอนว่าหลินหยูสามารถเดาความคิดของทุกคนได้เธอยกยิ้มมุมปากและพูดต่อทันที พวกท่านควรจะรู้ไว้ด้วยว่าค่ายเขี้ยวหมาป่าในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นฐานทัพทหาร และเมื่อเวลานั้นมาถึงจะไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ในค่ายแล้ว ไม่มีที่พัก ไม่มีร้านอาหาร แม้แต่ลูกหมาก็ไม่สามารถเข้าไปเดินเล่นได้ และสถานที่สำหรับการบริโภคทุกอย่างที่ใกล้ค่ายเขี้ยวหมาป่าที่สุดก็คือที่เมืองโรแมนติกแห่งนี้ ในอนาคตเวลาที่ท่านพลเอกชูฮันต้องการความบันเทิงให้แขก ต้องการจัดงานเลี้ยง ต้องการอาหารเพื่อต้อนรับ ทุกอย่างจะทำได้จากที่นี้เท่านั้น ดังนั้นถ้าพวกท่านมีชื่ออยู่ในบัญชีดำละก็นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับพวกท่านเท่าไหร่