เล่ม 8 ตอนที่ 9 : ประตูสู่อีกโลก (3)
อาร์คอยากขยับขยายธุรกิจออกไปให้กว้างไกลกว่านี้ แต่การดำเนินธุรกิจจำเป็นต้องใช้เวลาร่วมด้วยจึงค่อยได้รับผลกำไรตอบแทน เพราะงั้นแล้วตอนนี้คือเวลาที่เขาจะได้ไปสะสางภารกิจที่คั่งค้าง
‘เหลือเรื่องให้ทำสองอย่างสินะ…’
อาร์คตัดสินอยู่โยงที่หอคอยแห่งซาลรินต่ออีกสักพัก ภารกิจตอนนี้ที่เหลืออยู่ มันเป็นอะไรที่มีจุดหมายปลายทางไม่เด่นชัดนัก เพราะงั้นแล้วเขาจึงไม่ได้ออกเดินทางในทันที
‘เรื่องที่ยังค้างอยู่… อืม ยังมีอีกอย่างนี่นะ’
อาร์คตระหนักได้ว่าตนลืมเลือนไอเทมสำคัญที่ได้รับมาพักหนึ่งแล้ว เป็นเขาบังเอิญพบเห็นสิ่งนี้อีกครั้งตอนจัดเรียงกระเป๋านั่นเอง
=====
ตราสัญลักษณ์ของลอร์ดแห่งความมืด วาลเดอลาส
ไอเทมภารกิจเลเวล 150
=====
มันเป็นไอเทมที่เขาได้รับมาจากวาลเดอลาสที่เป็นบอสของภารกิจอีเวนท์ครั้งแจ๊คสัน ซึ่งมันต้องการเลเวล 150 และภูมิความรู้โบราณวัตถุ 100 หน่วย! ตอนนั้นอาร์คที่คุณสมบัติไม่เพียงพอจึงเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าจนกระทั่งลืมเลือน นอกจากภูมิความรู้โบราณวัตถุแล้ว เลเวลของเขาก็น้อยนิดเกินกว่าจะเริ่มได้ แต่ตอนนี้เลเวลของเขาแตะระดับ 180 เรียบร้อยแล้ว ทางด้านภูมิความรู้โบราณวัตถุก็มีถึง 138 หน่วย! อาร์คจึงเริ่มทำการตรวจสอบตราสัญลักษณ์อีกครั้งพร้อมหน้าต่างภารกิจที่ปรากฏขึ้น
=====
บ้านเกิดแห่งดราโกเนี่ยนอัคคี
สถานที่ที่ร้อนแรงที่สุดในทวีปแห่งนี้ได้ซุกซ่อนอยู่ทางตอนเหนืออันหนาวเหน็บ
นานมาแล้วมีการเล่าขานว่า ดราโกเนี่ยนอัคคีได้ปิดซ่อนบ้านเกิดแท้จริงที่อยู่ภายในทวีป หลังความมืดมาเยือนและวาลเดอลาสที่เป็นผู้ปกครองแจ๊คสันหายตัวไป พื้นที่แห่งนั้นก็ถูกลืมเลือนไปจนสิ้น
ทว่าเมื่อจิตวิญญาณแห่งวาลเดอลาสฟื้นคืน ความทรงจำนี้จึงถูกส่งถ่ายมาในห้วงเวลาสุดท้าย เป็นเพราะเขามีความคิดนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน นี่ความปรารถนาสุดท้ายที่คั่งค้าง ออร่าแห่งความโศกได้ปกคลุมตราสัญลักษณ์นี้ราวกับมันต้องการหวนคืนสู่ที่มา เพื่อปลอบโยนจิตวิญญาณที่เศร้าโศกของวาลเดอลาส ท่านต้องค้นหาสถานที่ที่ดราโกเนี่ยนอัคคีซุกซ่อนและหลับใหลอยู่ให้พบ
=====
แผนที่สีแดงโปร่งแสงได้ทับซ้อนลงบนแผนที่ของเขาเพื่อบ่งบอกตำแหน่งภารกิจ
‘ภูเขาทางตอนเหนือ บริสทาเนีย อาณาจักรแห่งเวทมนตร์!’
เขาไม่อาจคาดคิดได้เลยว่ากว่าจะไปถึงพื้นที่แห่งนั้นต้องใช้เวลามากมายเพียงใด ระดับความยาก C ไม่ใช่ปัญหา แต่ในเมื่อเขามีธุระที่นี่ อาร์คจึงไม่คิดออกเดินทางไกลตั้งแต่ตอนนี้
‘ใช่ เรายังมีภารกิจอื่นต้องสะสางก่อนหน้า’
อาร์คตัดสินใจเก็บตราสัญลักษณ์นี้เอาไว้ก่อนขณะเริ่มคิดถึงเรื่องห้องทดลอง
‘อย่างแรกเลยต้องไปเอาไอเทมคืนจากซิดก่อน’
ทว่าอาร์คก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องไปเอามันด้วยตัวเอง เขาเพียงแค่เขียนจดหมายแจ้งจุดหมายปลายทางก็เพียงพอแล้ว เพราะสัญญาทาสเงิน 3,000 เหรียญทอง ซิดจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามหากอาร์คสั่ง
‘หึหึหึ มีสัญญาทาสนี่ดีจริง ๆ ต้องใช้ประโยชน์ให้คุ้ม!’
“เอาล่ะ ได้เวลาไปเปลี่ยนอารมณ์กันบ้างแล้ว เดดริค ดีมอส ตามมา!”
“ขอรับ!”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
อาร์คออกจากหอคอยแห่งซาลรินพร้อมอารมณ์ที่ปลอดโปร่ง เช่นเคย เขากำลังมองหาการผจญภัยครั้งใหม่ให้กับทั้งตัวเองและสมุนปีศาจ มอนสเตอร์และเหตุการณ์อะไรที่กำลังรอคอยเขาอยู่? หัวใจของเขาถึงกับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้น อาร์คในตอนนี้นับว่ามีจิตวิญญาณแห่งนักผจญภัยอยู่เต็มเปี่ยมแล้ว
* * *
‘เฮ้อ…’
ลาริเอ็ตเต้ถอนหายใจเสียงลากยาว เธอออกจากกิลด์ดาบแห่งอรุณรุ่งทันทีที่การบุกโจมตีจบลงตามที่สัญญาไว้ ทว่ากิลด์ดาบแห่งอรุณรุ่งก็สลายตัวโดยทันทีเช่นเดียวกัน… หลังจากนั้นเธอจึงคิดออกเดินทางทั่วนิวเวิลด์เพียงลำพัง เธออยากเจออาร์คอีกครั้ง แต่มันไม่ง่ายดังที่คิดเอาไว้ ตำแหน่งที่อยู่ของอาร์คค่อนข้างไม่เป็นที่เป็นทางตั้งแต่ออกจากซิลวาน่า เมื่อไม่รู้จะหาตัวเขาได้ที่ไหน เธอจึงตระเวนไปทั่วและออกล่าเพียงลำพังเรื่อยมา กระนั้นแล้วมันก็ค่อนข้างเหงาเหลือเกิน ตามปกติแล้วเธอมักจะออกล่าเก็บเลเวลกับเพื่อนร่วมกิลด์ เมื่อออกล่าคนเดียวเธอจึงทราบว่าเรื่องราวไม่ง่าย กระทั่งว่าเลเวล 150 แล้ว เพียงแค่ออร์คก็ออกจะยากเกินไปหากต้องล่าเพียงคนเดียว
‘เราโดนปกป้องเรื่อยมาจนเฉื่อยชาไม่ทันเกมแล้ว’
แต่จะโทษใครได้?
‘สงสัยจริงว่าอาร์คนิมไปอยู่ที่ไหนกัน?’
ลาริเอ็ตเต้มองออกไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ที่จริงก็มีวิธีติดต่ออาร์คอยู่ หากเธอไปยังแผนกวางแผนของโกลบอลเอ็กซอร์ทก็เป็นไปได้ว่าจะได้หมายเลขโทรศัพท์ของเขามา ไม่สิ กระทั่งว่าไม่ใช้วิธีนั้นก็ยังมีการส่งจดหมายภายในเกม แต่พอเธอยืนนิ่งอยู่หน้ากล่องจดหมายครึ่งค่อนวันก็ไม่ได้ส่งอะไรออกไป เธอไม่คิดเลยว่าการพบเจอระหว่างเขากับเธอจะกลายเป็นเรื่องน่ากลัวหากต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้ง และเธอก็ไม่อยากใช้วิธีพวกนั้นเพื่อพบเขา อีกทั้ง… ความรู้สึกภายในใจของเธอตอนนี้ค่อนข้างสับสน
‘อะไรกัน? แค่คนรู้จักเอง ทำไมเราถึงไม่กล้าติดต่อไปกันล่ะ?’
เธอไม่อาจเข้าใจได้ว่าเพราะอะไรจึงลังเล
‘ทำไมกันนะ แต่ว่า…’
เธอหยุดเดินอีกครั้งขณะถอนหายใจ ฉับพลันชายชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้าทางเข้าหมู่บ้านพลันเข้ามาใกล้เธอ
“เจ้า… เป็นนักเวทหรือ?”
“ค่ะ เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“อยากจะขอยืมแรงช่วยเหลือหน่อยได้หรือไม่?”
“ช่วยเหลือ?”
ลาริเอ็ตเต้มองไปยังหมู่บ้านอย่างประหลาดใจ การร้องขอจากเอ็นพีซีส่วนใหญ่แล้วก็ต้องเป็นภารกิจ ทว่า นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ นับว่าเป็นเรื่องหายากที่จะได้รับภารกิจโดยไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดกับประชากรในหมู่บ้าน บางทีอาจเป็นภารกิจที่ไม่ยากนัก ลาริเอ็ตเต้จึงพยักหน้ารับ
“ถ้าฉันทำได้นะคะ…”
“อา โชคดียิ่งนัก นักเวททุกคนล้วนปฏิเสธที่จะหยุดพักเท้าที่หมู่บ้านแห่งนี้เพราะรู้สึกกังวล ที่จริง ช่วงหลายคืนมานี้มีผีปรากฏขึ้นในหมู่บ้าน”
“ผีเหรอคะ?”
“ใช่ มันไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรให้กับหมู่บ้านก็จริง แต่คนในหมู่บ้านก็มักจะบ่นให้ฟังว่ามีผีไปปรากฏตัวที่เนินทางตะวันออกทุกคืน โอ้ ข้าไม่ได้หมายถึงให้ไปต่อสู้นะ แต่พวกเราก็ไม่มีใครพูดคุยกับผีได้ เพราะงั้นแล้วจึงอยากขอความช่วยเหลือนักเวทสักคน ได้โปรดช่วยพูดคุยและเกลี้ยกล่อมเขาหน่อย”
‘ดูแล้วก็ไม่น่าจะใช่ภารกิจที่ยากอะไร’
ถ้าหากลาริเอ็ตเต้เจรจาเกลี้ยกล่อมผีนั่นได้ เรื่องราวก็คงไม่มีอะไรมากนัก
“ฉันจะลองดูค่ะ”
“ทว่า… ดังที่เจ้าเห็น หมู่บ้านแห่งนี้หาได้ร่ำรวยอะไรนัก ข้าละอายยิ่งนักแต่พวกเราทำได้เพียงแค่มอบอาหารและที่หลับนอนให้ได้เท่านั้น”
ชายชรากล่าวขณะพิจารณาสีหน้าของลาริเอ็ตเต้ นี่คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักเวทส่วนใหญ่ไม่ยอมรับภารกิจนี้ ชายชราเองก็คิดว่าพวกนักเวทส่วนใหญ่ปฏิเสธเพราะเผยสีหน้าเป็นกังวลออกมากัน ทว่า ลาริเอ็ตเต้เพียงหัวเราะขณะรับคำ
“เท่านั้นก็พอแล้วค่ะ”
“ขอบใจเจ้ามาก”
ไม่ช้า หน้าต่างภารกิจก็ปรากฏขึ้น
=====
ผีที่รบกวนหมู่บ้านจอร์โน่
ไม่กี่วันก่อน มีข่าวลือว่ามีผีปรากฏขึ้นรบกวนหมู่บ้านจอร์โน่
ผีตนนี้มักจะเล่าเรื่องราวออกมา จึงเป็นผลให้เหล่าประชากรในหมู่บ้านต่างหวาดกลัวทุกค่ำคืน ถ้าหากท่านเกลี้ยกล่อมผีตนนี้ให้จากไปได้ หรือขับไล่ไป ประชากรในหมู่บ้านจะเป็นมิตรกับท่านอย่างอบอุ่น
=====
‘เริ่มภารกิจแบบนี้ก็ได้ด้วย!’
หลังจากได้เห็นข้อมูลภารกิจ ลาริเอ็ตเต้จึงเข้าใจเรื่องราว เป็นเพราะเธอมีค่าแนวโน้มความดีมาก ระหว่างที่เธออยู่ร่วมกับกิลด์ดาบแห่งอรุณรุ่ง อลันและพวกคนจากกิลด์อื่นมักไปทำภารกิจให้สำเร็จขณะที่เธอรับหน้าที่คอยดูแลประชากรของหมู่บ้าน เพราะเหตุนั้นเธอจึงได้รับฉายาและค่าแนวโน้มความดีมามาก กิลด์อาจมองว่าเธอไม่เหมาะสม แต่เธอคิดว่าการได้ช่วยเอ็นพีซีเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งกว่า เพราะพวกเอ็นพีซี ความรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยวของเธอจึงฟื้นคืนดีขึ้น
ลาริเอ็ตเต้รอจนกระทั่งเย็นก่อนมุ่งหน้าไปยังเนินดังกล่าวที่มีผีปรากฏตัว ทว่าคืนนั้นผีกลับไม่ปรากฏตัว ลาริเอ็ตเต้จึงรอคอยอีกคืน เธอตัดสินใจรออยู่หนึ่งชั่วโมงก่อนจะตัดสินใจไปซ่อนตัว จากนั้น ที่เนินแห่งนั้นจึงปรากฏร่างเลือนราง ผีที่เป็นต้นเหตุให้ประชากรในหมู่บ้านหวาดกลัวเป็นเพียงเด็กชาย เด็กชายถอนหายใจลึกขณะปาดเช็ดน้ำตา
‘เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ พอเห็นตัวเด็กคนนี้แล้วหมายความว่าเราเข้าไปคุยได้สินะ’
ลาริเอ็ตเต้พูดคุยกับเด็กชายผ่านทางเวทมนตร์ ‘วิญญาณอ่อนไหว’
“สวัสดีจ้ะ เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงร้องไห้กัน?”
[หือ?]
เด็กชายในร่างโปร่งแสงมองลาริเอ็ตเต้ด้วยสีหน้าสงสัย
[พูดคุยกับผมได้ยังไง?]
“ฉันเป็นนักเวทจ้ะ”
[นักเวท…]
“ใช่แล้ว ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่วันก่อน ผู้เฒ่าของหมู่บ้านบอกเล่าเรื่องของเธอให้ฟัง พวกคนในหมู่บ้านต่างก็กลัวผีที่ปรากฏตัวอยู่หลายวันแล้ว ฉันไม่คิดว่าเธอพยายามทำให้คนในหมู่บ้านกลัวหรอกนะ… ไหนลองบอกพี่สาวคนนี้หน่อยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากช่วยนะ”
ลาริเอ็ตเต้เกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม เด็กชายลังเลไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก
[เป็นเพราะปีศาจร้ายที่เรียกว่าอลันครับ]
“ว่าอะไรนะ?”
ดวงตาของลาริเอ็ตเต้เบิกกว้าง เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ยินชื่อของอลันจากผีที่บังเอิญพบเจอ ลาริเอ็ตเต้พยายามสงบใจลงและถามอีกครั้ง
“หนูพูดถึงอลันเหรอจ้ะ?”
[ใช่ครับ รู้จักเขาไหม? อัศวินศักดิ์สิทธิ์อลัน]
“อะ-อืม เคยได้ยินมาบ้าง ว่าแต่ทำไมเธอถึงร้องให้เพราะอลันล่ะ?”
[ที่จริง เมื่อหลายร้อยปีก่อน ผมคือผู้รับใช้อัศวินศักดิ์สิทธิ์ครับ]
เด็กชายเผยสถานะครั้งยังมีชีวิตด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย จากนั้น เด็กชายเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่พบเจออลัน น่าประหลาดใจนัก อลันรับภารกิจจากเอ็นพีซีจนได้กลายเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์กลับเป็นเพราะเด็กชายที่เป็นผีคนนี้
[ก่อนนายท่านจากไป เขาขอให้ผมหาอัศวินศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ แต่บุคคลคนนั้นกลับไม่ปรากฏตัวตลอดช่วงหลายร้อยปี จากนั้นผมจึงค่อยมีโอกาสได้พบเจอคนต่างถิ่นอย่างอลัน เขาเป็นคนที่เหมาะสมครับ ไม่สิ ตอนนั้นเขาดูเหมือนจะใช่ ผมเลยบอกวิธีการเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ให้กับเขา]
เด็กชายอธิบายเรื่องราวจนถึงตอนนี้ก่อนจะเริ่มกัดฟันแน่น
[แต่นั่นเป็นความผิดพลาด อลันหักหลังเจตจำนงของนายท่าน โดยการทำเรื่องชั่วช้าที่ลือลั่นไปทั่วทั้งทวีป มันทำให้ชื่อเสียงของนายท่านต้องมัวหมอง!]
“แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเธอนี่นา”
ลาริเอ็ตเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย เธอในตอนนี้ไม่คิดเพียงแค่เรื่องจัดการเด็กชายให้เสร็จสิ้นภารกิจเท่านั้นอีกต่อไป อีกฝ่ายไม่ใช่เพียงคนเดียวที่เชื่อใจอลันจนต้องพบพานความผิดหวัง ไม่ใช่ว่าเธอก็ด้วยหรอกหรือที่ผิดหวังในตัวอลันจนต้องถอยออกมา? เด็กชายส่ายศีรษะรับคำ
[ไม่ครับ มันเป็นความผิดพลาดของผมเอง]
“…นั่นเลยเป็นเหตุให้เธอร้องไห้เหรอ?”
[ไม่ครับ ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะเรื่องนั้น]
ใบหน้าของเด็กชายบิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง
[ไม่กี่คืนก่อน หลุมฝังศพของนายท่านถูกย้อมจนกลายเป็นสีดำ]
“ถูกย้อมเป็นสีดำ?”
[มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น อลันยอมรับความชั่วร้าย และละทิ้งวิถีแห่งอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่ออัศวินศักดิ์สิทธิ์ผูกพันโชคชะตาไว้กับอลัน นายท่านจึงหมองหม่นเพราะเขา เป็นเพราะเขา ดวงวิญญาณของนายท่านตอนนี้จึงต้องร่อนเร่ทั่วโลกใต้พิภพเป็นผีหลงทาง นายท่านเจ็บปวดเพราะเป็นผมตัดสินใจผิดพลาดเลือกคนผิด แต่ผมก็ไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้…]