Ark The Legend – ตอนที่ 273

เล่ม 9 ตอนที่ 7 : ล่าคนตาย (1)

 

“อืม… นี่ก็พอใช้ได้อยู่”

ท่ามกลางความมืดมิดภายในป่า หมาป่าตัวหนึ่งกำลังแกว่งไกวหางไปมาขณะรวบรวมผลไม้ หมาป่าตัวนี้มีขนสีดำฟูฟ่อง เป็นอาร์คที่เปลี่ยนร่างเป็นหมาป่านั่นเอง อาร์คมาถึงป่าฮาเกลตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงหลังออกจากหมู่บ้าน ระยะทางโดยใช้ราดันก็ห่างไปเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น ทว่าอาร์คเลือกเดินมาที่นี่ เพราะราดันไม่อาจรองรับบุคซิลและแซบจิลได้

“หึหึหึ ตอนนี้ก็คลายกังวลแล้ว จะเก็บไอเทมเท่าไหร่ก็ได้”

เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์ที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับการที่กระเป๋าเหลือที่เก็บเพียงน้อยนิดจึงไม่อาจหยิบฉวยสิ่งใดมาเพิ่มได้ เพราะเหตุนั้น ความเครียดของเขาจึงเริ่มสุมขึ้นสูง แต่ตอนนี้ความกังวลนั้นหายไปแล้วเพราะมีหมูน้อยสองคนนี้คอยช่วย ไม่สิ เขาต้องรวบรวมไอเทมทั้งหมดให้ได้มากที่สุดแล้วค่อยฆ่าเจ้าพวกนี้ก่อนไปห้องทดลองของมากาโร เพราะงั้นแล้วอาร์คจึงฮัมเพลงไปขณะเก็บเกี่ยวไอเทมไปพลาง เขาพบว่าวัตถุดิบวิเศษหลากหลายชนิดสามารถพบเจอผ่านทาง ‘สัมผัสวิเศษ’ จากในป่าแห่งนี้ เพราะงั้นแล้วเขาจึงคิดอยากรวบรวมไว้ให้ได้มากที่สุด

กรร…!

มอนสเตอร์เริ่มปรากฏขึ้นเมื่อย่างเท้าเข้ามาในป่าที่มืดมิด ทว่า อาร์คเพียงแค่เชือดเฉือนพวกมันไปก่อนที่จะตรวจนับกองไอเทมในกระเป๋า หลังผ่านถ้ำน้ำแข็งและทุ่งรกร้างมาได้ อาร์คก็ได้รับค่าสถานะเพิ่มไปไม่ใช่น้อย แถมในที่นี้ยังมีโบนัสจากธาตุความมืด… มอนสเตอร์ในละแวกนี้ไม่อาจนับเป็นภัยคุกคามต่ออาร์คได้ หากไม่คำนึงถึงเลเวลแล้ว มีคนไม่มากนักที่จะมีค่าสถานะเยอะทัดเทียมอาร์คได้ เพราะงั้นแล้วเขาจึงเดินทอดน่องในป่าแห่งนี้ได้สบายระหว่างการออกล่า ทุกครั้งที่กระเป๋าของอาร์คเริ่มหนัก บุคซิลและแซบจิลจะเป็นฝ่ายเผยสีหน้ามืดมนออกมา เมื่อกระเป๋าของอาร์คเต็ม พวกเขาก็ทราบชะตากรรมเป็นอย่างดีว่าต้องมีใครสักคนในพวกเขาต้องตาย หมูน้อยทั้งสองร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มเพราะแนวคิดที่ว่าพวกตนคล้ายอาหารหมาป่าตรงหน้าก็ไม่ปาน

“ตอนนี้วัตถุดิบส่วนใหญ่ก็รวบรวมมาได้แล้ว ได้เวลาเริ่มภารกิจกันแล้วมั้ง?”

อาร์คยื่นมือที่ขนฟูนุ่มของตนออกไปคล้ายทำท่าจะเริ่มสำรวจ ทว่าป่าแห่งนี้กว้างใหญ่ ไม่ง่ายเลยที่จะได้รับเบาะแส ขณะนั้นเอง ราดันพลันหยุดนิ่งขณะมองไปรอบพร้อมลิ้นที่แลบออกมาและชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง ขณะเดียวกันหน้าต่างข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าอาร์ค

 

=====

ราดันใช้ทักษะ ‘ตามรอย’ ราดันพบรอยเท้าน่าสงสัยที่นำลึกเข้าสู่ป่า

=====

 

เมื่อราดันใช้งานตามรอย เส้นทางก็เริ่มชัดเจนขึ้นมาบ้างแล้ว

‘รอยเท้า? เบซอทิวบอกว่าส่งมาแค่หลานกับผู้ช่วย แต่แล้วกลับมีรอยเท้าของคนถึงยี่สิบคนเลยเนี่ยนะ หรือเราจะเจออะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจ? อืม อยากจะรู้ก็ต้องลองไปดูแหละนะ’

ซื่อ ซื่อ ซื่อ ซื่อ!

ราดันพยักหน้ารับอย่างภูมิอกภูมิใจขณะออกนำหน้าไป รอยเท้าพวกนี้นำไปยังทิศทางเดียวกัน อาร์คติดตามราดันและรอยเท้าที่หลงเหลือไว้ลึกเข้าไปภายในป่า นี่เข้ามาไกลขนาดไหนกันแล้ว? เขายังคงเดินผ่านเส้นทางที่ค่อนข้างกว้างมาเรื่อยจนกระทั่งได้ยินเสียงคร่ำครวญจากเบื้องหน้า เมื่อเข้าไปใกล้ เขาจึงได้เห็นใครบางคนได้รับบาดเจ็บพิงกับต้นไม้อยู่

‘ผิวสีน้ำเงิน… มิวทัล หรือว่า…?’

อาร์คเริ่มเข้ามาใกล้ขณะยักไหล่ให้

“เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“เฮือก… เจ้าคือ?”

“ผมมาที่นี่เพราะเบซอทิวที่อยู่ในหมู่บ้านร้องขอมาน่ะ”

“บะ-เบซอทิว… อาจารย์ส่งเจ้ามา?”

บุคคลตรงหน้าพลันเงยศีรษะด้วยความเจ็บปวดขณะมองอาร์ค

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน? แล้วหลานของเบซอทิวล่ะ?”

‘ให้ตายสิ…’

อาร์คพอจะคาดเดาเรื่องราวได้แล้ว ตามปกติเมื่อเขาพบเจอเอ็นพีซีที่บาดเจ็บระหว่างภารกิจ พลังชีวิตของเอ็นพีซีนั้นไม่ได้มีระบบฟื้นฟูอัตโนมัติ เขาต้องใช้โพชั่นฟื้นฟูหรือว่าเวทมนตร์เพื่อรักษาอีกฝ่าย เอ็นพีซีพวกนี้ย่อมต้องถือครองเบาะแสของภารกิจเอาไว้ เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายตายไม่ได้ อาร์ครู้สึกอยากร่ำไห้ออกมาขณะส่งมอบยางไม้อุมม่าให้อีกฝ่าย หลังฟื้นฟูพละกำลังได้บ้างแล้ว อีกฝ่ายจึงเริ่มอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“ขอบคุณมาก ข้านามว่ากูรัน ทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับอาจารย์เบซอทิว ไม่นานมานี้อาจารย์ขอให้ข้าช่วยสืบค้นป่าแห่งนี้ แต่แล้วข้าบังเอิญพบกับเผ่านาคูจัก…”

“นาคูจัก?”

“พวกเขาเป็นมิวทัลที่กุมอำนาจอยู่พื้นที่ทางเหนือ ไม่เหมือนกับพวกเรา พวกเขาเป็นมิวทัลที่โหดเหี้ยมและไม่ลังเลหากต้องฆ่าคน ข้าไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไม แต่ดูเหมือนพวกเขากำลังทำอะไรบางอย่างกับเรื่องคนตายหายไปที่อาจารย์กำลังสืบค้นอยู่ ข้าเห็นว่าพวกมันนำผู้ตายเหล่านั้นใส่กรงเหล็กลากเทียมเกวียน จากนั้น… ระหว่างที่ข้าคิดหาทางรายงานอาจารย์ ข้าก็บังเอิญโดนพบตัวแล้วโดนทำร้าย”

“แล้วโบนาล่ะ?”

“ข้าไม่แน่ใจ หลังพวกมันทำร้ายข้าก็หมดสติ พวกมันดูเหมือนจะพาเขาไปไหนสักที่ อา ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าพวกนั้นจะทำอะไรกับโบนาบ้าง…”

“งั้นก็ต้องรีบแล้ว ช่วยนำทางไปด้วย”

กูรันถึงกับประหลาดใจต่อคำพูดของอาร์ค

“เจ้าคิดไปช่วย?”

“แล้วผมจะมาที่นี่ทำไมถ้าหากไม่ได้คิดมาช่วยเหลือ?”

“ตะ-แต่พวกนั้นคือนาคูจักเลยนะ แถมยังมีกันกว่ายี่สิบคน กระทั่งว่าข้าเคยผ่านเรื่องราวยากลำบากมากมายมาแล้ว ข้ายังโดนพวกมันจัดการได้ง่ายดาย เจ้ากับพวกข้ายังไม่รู้จักกันดีนัก แต่แล้วกลับคิดช่วยเหลือ?”

“ในเมื่อพวกมันจับผู้คนบริสุทธิ์ไป ผมจะปล่อยพวกมันลอยนวลได้ยังไงกัน?”

กูรันมองอาร์คด้วยสีหน้าโง่งม ดูไปแล้วออกจะปลื้มอยู่ไม่น้อย ที่จริง ตามปกติแล้วคนเราจะประทับใจกันก็ต่อเมื่อปรากฏตัวขึ้นเสนอตัวช่วยเหลือเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนี่แหละนะ ทว่าอาร์คหาได้สนใจชีวิตของโบนาแต่อย่างใด ที่เขายอมเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตก็เพราะภารกิจ และเขายังมีเหตุผลที่ต้องทำเป็นการด่วน…

“โอ้ ช่างเป็นผู้กล้าที่ไม่เกรงกลัวความอยุติธรรมแต่อย่างใด ดีเลย ไปฉากต่อไปได้”

บุคซิลกำลังยืนอยู่ด้านหลังขณะใช้กล้องวิเศษถ่ายตามติด นี่คือวิธีที่อีกฝ่ายใช้ตามติดอาร์ค บุคซิลดูไปแล้วคล้ายสนุกกับการถ่ายทำจริงเสียด้วย ขณะที่อาร์คสังหารมอนสเตอร์ บุคซิลก็จะถ่ายทำไปด้วย ไม่เหมือนกับมืออาชีพที่ต้องคอยตัดต่อและแก้ไข อีกฝ่ายถ่ายแค่ฉากทราบซึ้งจากนั้นจึงค่อยปิดแล้วค่อยเริ่มถ่ายใหม่เมื่อมีอะไรน่าสนใจ

ทีแรกบุคซิลก็ดูน่ารำคาญไปบ้าง อย่างไรแล้วอาร์คกลับมีความคิดว่านี่ก็ดีเหมือนกัน นี่จะเป็นครั้งแรกเลยที่อาร์คได้เห็นภาพการเล่นเกมของตัวเองผ่านจอ เพียงแต่ฉากตรงหน้านี้เป็นหมาป่าสีดำตัวหนึ่งที่กำลังเหวี่ยงดาบไปมาเข้าโรมรันมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าไม้ แค่นึกก็น่าจะสนุกแล้ว

‘ไม่ใช่ว่าเราสามารถนำไปปล่อยให้คนอื่นดูเพื่อหาเงินได้ด้วยหรือ?’

เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา อาร์คจึงเริ่มเกิดความคิดหิวกระหาย ในเมื่อเขาเปลี่ยนร่างเป็นดาร์ควูล์ฟแล้ว ตัวตนของเขาก็ไม่ใช่สาระสำคัญอีก ดังนั้นเขาจึงเริ่มแสดงท่าทีให้สมบทบาท กูรันกูมองบุคซิลขณะหันกลับมาถามด้วยสีหน้างงงวย

“อะไรกันนั่น?”

“อย่าสนใจเลย”

อาร์คเพียงยิ้มและส่ายศีรษะ

* * *

 

“ทางนั้น”

กูรันที่หลับซ่อนในพุ่มไม้ชี้ทิศทางตรงไป หลังร่วมทางมาได้หลายนาที อาร์คก็เริ่มที่จะเห็นวี่แววของพวกนาคูจักแล้ว พวกมันอยู่ลึกเข้าไปภายในป่า เป็นกลุ่มชาวนาคูจักประมาณยี่สิบคนรวมตัวกันอยู่รอบแคมป์ไฟ

‘ไม่ใช่สีน้ำเงินงั้นเหรอ?’

มิวทัลจะมีสีผิวแตกต่างกันไปตามแต่ละเผ่า ซึ่งนาคูจักนั้นเป็นสีแดง และถัดจากนั้นคือกรงที่กูรันกล่าวถึงเอาไว้ ตอนนี้ค่อนข้างมืดก็จริงแต่เขาสามารถมองเห็นพวกผู้ตายได้อย่างชัดเจนว่าติดอยู่ภายในนั้น แน่นอน เขาไม่ได้สนใจคนตายเหล่านั้น ทว่าเขาต้องการช่วยเหลือหลานของเบซอทิวต่างหาก กูรันจ้องมองอาร์คด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ลำพังแค่เจ้าไม่น่าไหว ข้าจะช่วยด้วย”

“ไม่ต้อง ยังรักษาไม่หายดีเลยไม่ใช่หรือไงครับ? ปล่อยให้ผมจัดการเอง”

อาร์คส่ายศีรษะขณะเผยสีหน้ามั่นใจ เลเวลของพวกนาคูจักนั้นอยู่ระหว่าง 290~300 ทางด้านอาร์ค ระหว่างข้ามผ่านทุ่งรกร้างเขาก็เลเวล 238 แล้ว รวมเข้ากับโบนัสธาตุความมืดเลเวลก็จะเท่ากับ 333 ตอนนี้เป็นเวลาที่อาร์คจะได้ทดลองพละกำลังการต่อสู้ของตัวเองอีกครั้งหนึ่งแล้ว ในเมื่อเขาได้รับโบนัสเป็นค่าสถานะมามากมาย ความสามารถของเขาจึงสูงกว่าเลเวลค่อนข้างมาก ร่วมด้วยกับโบนัสธาตุความมืดแล้ว มันไม่ใช่การเพิ่มเลเวลแต่เป็นค่าสถานะต่างหาก และยังเพิ่มมากถึง 40% อีกด้วย นั่นหมายความว่าโบนัสที่เขาได้รับจากเม็ดยา จะถูกเสริมอีกครั้งด้วยโบนัสจากความมืดให้เป็นเท่าทวี เมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว เขาก็อาจจะเหนือกว่าผู้เล่นที่เลเวลรวมโบนัสแล้วกว่า 30~40 ระดับเลยทีเดียว ไม่เกินเลยนักที่จะกล่าวว่าพลังอำนาจการต่อสู้ของเขาตอนนี้มีล้นพ้น

‘แต่เราก็จะบุ่มบ่ามเข้าไปไม่ได้’

“เดดริค ไปล่อพวกมันมาสักห้าหรือหกตัวหน่อยสิ”

“ขอรับเจ้านาย”

เดดริคบินออกไปเข้าหาที่ตั้งแคมป์ของพวกนาคูจัก ตามปกติแล้วการที่มอนสเตอร์จะเข้าใกล้สถานที่ตั้งแคมป์ไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่าเดดริคเป็นข้อยกเว้นสำหรับกรณีนี้ และในเมื่ออีกฝ่ายมักทำหน้าที่ล่อมอนสเตอร์ระหว่างการต่อสู้ นานเข้ามันจึงเกิดขึ้นเป็นทักษะใหม่เพราะความเชี่ยวชาญ

 

=====

สมุนปีศาจเดดริคได้เรียนรู้ทักษะใหม่

ยั่วยุ (ขั้นต้น, เรียกใช้งาน) : เพิ่มความโกรธให้กับคู่ต่อสู้เพื่อดึงดูดความสนใจให้เข้าหาตัวท่าน ความโกรธจะทำให้คู่ต่อสู้ของท่านติดพันเป็นระยะเวลาหนึ่งและมีรัศมีการทำงานที่ค่อนข้างกว้าง

=====

 

นับว่าเป็นทักษะที่เหมาะสมกับเดดริคมาก เดดริครอคอยอย่างอดทนจนกระทั่งศัตรูจำนวนหนึ่งออกไปตรวจตราเวรยาม พอออกจากที่ตั้งแคมป์ไปได้สักเจ็ดคน เดดริคจึงเริ่มโยนหินก้อนเล็กใส่โดยทันที

“หือ?”

ชาวนาคูจักต่างหันกลับมองมาทางเดดริคที่เข้ายั่วยุ พวกมันเริ่มรู้สึกขยะแขยงทันทีที่พบเห็นอีกฝ่าย! นาคูจักที่น่าจะเป็นนักรบพลันชักอาวุธออกขณะพุ่งเข้าใส่โดยทันที เดดริคบินหลบเข้าพุ่มไม้ขณะล่อเข้าไปในป่าโดยมีอาร์คตามติดไป ระหว่างที่พวกมันสนใจแต่ค้างคาวตรงหน้า พวกมันไม่ทันตระหนักว่าอาร์คได้หลบซ่อนตัวตนโดยลอบเร้นและเล็งการโจมตีพวกมันจากทางด้านหลังเอาไว้!

“อั่ก บ้าอะไรวะ?”

หนึ่งในชาวนาคูจักล้มลง การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset