เล่ม 9 ตอนที่ 8 : อาร์คที่ทิ่มแทงจนตาย (1)
ฝนเริ่มโปรยปรายจากท้องฟ้าอันมืดมิด ร่วมด้วยกับเสียงคำรามที่ดังของฟ้าร้องและสายฟ้าซึ่งวาบผ่านท่ามกลางหมู่เมฆที่มืดมิด ระหว่างนั้นมีเงาร่างหนึ่งได้ตัดผ่านความมืดไปราวสายฟ้าแล่นปราด ร่างเงาทั้งสีดำและขาวต่างโบยบินผ่านท้องฟ้า
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
ปลากระเบนบินได้สี่ตัวกำลังบินลัดฟ้าผ่านฝนที่ตกอย่างหนัก
“สภาพอากาศนี่มันบ้าชัด ๆ กูรัน!”
อาร์คตะโกนขณะคว้าจับแผ่นหลังของปลากระเบนเอาไว้แน่น
“ฝนฟ้าคะนองยิ่งทำให้เรื่องราวลำบากมากขึ้น ลดเพดานบินลงต่ำไปแถวหุบเขาน่าจะดีกว่า”
“เข้าใจแล้ว ไป!”
กูรันสะบัดบังเหียนบังคับให้ปลากระเบนที่กระพือปีกอยู่เปลี่ยนเป็นร่อนลงลดเพดานบิน ปลากระเบนตัวที่เหลือก็ตามติดมาอย่างใกล้ชิดลดต่ำลงสู่หุบเขา อาร์คยังได้ยินเสียงของบุคซิลและแซบจิลกรีดร้องไล่หลังตามมา
“เฮือก ตกแล้ว ตกแล้ว!”
“จับไว้ให้แน่น! ถะ-ถะ-ถ้าพลาดไปพวกเราจบเห่แน่!”
“หึหึหึ ดูหน้าเจ้าพวกนั้นสิ อย่างกับลูกโป่งโดนปล่อยลมเลย”
เดดริคหัวเราะออกมาอย่างอดไว้ไม่อยู่ ใช่แล้ว อาร์คและพรรคพวกตอนนี้กำลังบินลัดผ่านท้องฟ้าโดยปลากระเบนบินได้… ซึ่งคงต้องอธิบายเรื่องราวกันว่าเป็นมายังไง ถ้าหากย้อนกลับไปถึงตอนที่ดราเค็นขโมยกรงขังไป ตอนนั้นอาร์คได้ส่งเดดริคไล่ตามติด แต่ผ่านไปเพียงพักหนึ่ง เดดริคก็กลับมาด้วยสีหน้าอิดโรย
“ไม่ไหวขอรับ ตามไม่ทันเลย”
“เลี้ยงเสียข้าวสุก!”
ขณะที่อาร์คต่อว่าเดดริค กูรันพลันเข้ามาขัดคำขึ้น
“ข้าพอจะรู้นะว่าดราเค็นไปที่ไหน”
“จริงเหรอ?”
“ใช่ ตราของชาวนาคูจักได้สลักเอาไว้ที่คอของดราเค็น ชัดเจนว่าพวกนาคูจักนั่นแหละที่เลี้ยงดราเค็นตัวนั้น มันต้องกลับไปยังหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง ฐานของพวกนาคูจักก็อยู่แถวนั้น”
“พอจะรู้ทิศทางใช่ไหม?”
“แน่นอน”
กูรันพยักหน้ารับพร้อมกล่าวเสริม
“แต่ไม่ว่าเจ้าจะเร็วได้แค่ไหนก็ตาม อย่างน้อยหากใช้พาหนะก็ต้องใช้เวลาถึงสองวันเต็มกว่าจะไปถึงหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง นอกจากนี้ มันยังมีภูเขาที่ขวางเส้นทางเอาไว้ แถมยังเป็นพื้นที่อันตรายอีกด้วย ชาวนาคูจักไม่กลัวการคุกคามก็เพราะภูเขาลูกนั้น”
‘บ้าบอที่สุด…’
“ข้าพอมีทางอยู่ แต่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านก่อน”
ด้วยเหตุนั้น อาร์คจึงกลับหมู่บ้านพร้อมกูรัน เบซอทิวก็ได้รับรู้ว่าหลานของตนโดนชาวนาคูจักจับตัวไป
“อา ข้าคิดแล้วเชียว! ข้ากะแล้วว่าต้องเกิดเรื่อง! ข้าไม่ควรให้เขาไปเลย… จบสิ้นกันแล้ว โบนา!”
เบซอทิวเพิ่มจิกทึ้งผมตัวเองและร่ำไห้ออกมา ทว่ากูรันพลันกล่าวขึ้น
“อาจารย์ใจเย็นก่อน นี่ไม่ใช่เวลามาทำแบบนี้”
“จะให้ข้าสงบใจได้ยังไง? หา? นี่เป็นเพราะเจ้า เจ้าที่ไม่อาจปกป้องโบนาไว้ได้…”
“ข้าขอรับการลงโทษหากอาจารย์ต้องการ แต่ก่อนหน้านั้น ไม่ใช่ว่าต้องหาทางช่วยเหลือโบนานิมออกมาก่อนหรือยังไง?”
“เจ้ามันโง่เง่า! คิดจริงเหรอว่าจะช่วยเหลือโบนาจากเงื้อมมือของพวกนาคูจักได้?”
“แต่กับชายคนนั้นอาจเป็นไปได้”
กูรันหันมองไปทางอาร์คด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น
“ข้าได้เห็นความสามารถของชายคนนี้กับตาตัวเอง ชาวมิวทัลปกติไม่อาจเทียบกับเขาคนนี้ที่มีฝีมือมากล้นได้เลย หากเป็นเขาย่อมต้องสามารถช่วยเหลือโบนานิมจากหุบเหวแห่งความสิ้นหวังได้แน่”
หลังจากกูรันยกยอให้ฟัง เบซอทิวจึงเข้าไปคว้ามือของอาร์คไว้แน่น
“โอ้ จริงด้วย ข้าได้แต่เชื่อใจเจ้าแล้ว ได้โปรดช่วยเหลือหลานของข้าด้วย”
“วางใจได้ครับ ผมต้องช่วยเหลือเขากลับมาให้ได้”
อาร์คพยักหน้ารับขณะหน้าต่างภารกิจปรากฏขึ้น
=====
ภารกิจได้รับการอัพเดท
ความกังวลของเบซอทิว > ช่วยเหลือโบนา!
แม้ท่านจะพบโบนาที่ป่าฮาเกลแล้ว แต่เขากลับโดนลักพาไปโดยดราเค็นจากเผ่านาคูจัก เบซอทิวด้วยความวิตกกังวลต่อสวัสดิภาพของหลานชายโบนา เขาจึงแทบบ้าคลั่ง ถ้าหากท่านต้องการได้รับข้อมูลจากเขา ท่านต้องไล่ตามดราเค็นและช่วยเหลือโบนา ทว่าภารกิจครั้งนี้ไม่ง่ายนัก ในเมื่อหุบเหวแห่งความสิ้นหวังคือฐานของชาวนาคูจัก ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าท่านจะทำสำเร็จหรือรอดชีวิตกลับมาได้
=====
ถึงกับเชื่อมโยงจนมาเป็นภารกิจความยากระดับ B นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาเห็นภารกิจความยากระดับ B ทว่าอาร์คก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องทำให้สำเร็จหากต้องการได้รับรางวัลจากเบซอทิว
‘ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะได้เจอลาริเอ็ตเต้นิมที่นี่’
จิตใจของเขายังคงสับสนอยู่ เธอนับเป็นตัวตนพิเศษสำหรับอาร์ค
รักแรกพบ… หากจะพูดแบบนี้ก็ไม่เกินเลยแม้สักนิด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเจอกัน เขามีความรู้สึกที่ผิดแผกยากจะอธิบายออกเป็นคำพูดต่อเธอ และด้วยสถานการณ์ตอนนั้น เพียงแค่การหยิบยื่นความช่วยเหลือเล็กน้อยของเธอนั้นมีความหมายเป็นอย่างยิ่งสำหรับเขา ทว่าความรู้สึกตอนนั้นของเขาเป็นความนับถือหรือว่าแบบอย่างมากกว่าความรัก และเขายิ่งท้อถอยยิ่งขึ้นยามเห็นเธออยู่กับอลัน คล้ายโชคชะตาช่างสรรสร้างความพลิกผัน หลังเรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้น เขากลับได้พบเธออีกครั้งในสถานที่แห่งนี้
‘ยังไงก็ตาม เราจะแสร้งทำเป็นไม่เจอเธอไม่ได้’
เขาต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จและช่วยเหลือลาริเอ็ตเต้
‘ในเมื่อเป็นงานเดียวกัน เราก็ไม่จำเป็นต้องเลือก แค่ทำให้สำเร็จเท่านั้นเอง’
“ตอนนี้ต้องรีบแล้ว มาทางนี้เลย”
เบซอทิวนำพวกเขาออกมาด้านนอกหมู่บ้านซึ่งอยู่ใกล้กับหุบเขา เขาเริ่มตระหนักได้ว่าพื้นที่ตรงนี้มีชาวมิวทัลซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนอยู่ค่อนข้างมาก งานของพวกเขาคือจับสัตว์ป่าและทำให้พวกมันเชื่อง นั่นจึงเหตุผลว่าทำไมเขาจึงพบเห็นมอนสเตอร์มากมายในหมู่บ้านของเอ็นพีซี มันก็เพื่อใช้งานโดยทำให้มันเชื่องก่อน จากนั้นค่อยนำเป็นปลากระเบนบินบนท้องฟ้า หลายต่อหลายครั้งแล้ว อาร์คมักพบเห็นปลากระเบนที่บินบนฟ้าบินผ่านไปขณะยังอยู่ที่ทุ่งรกร้าง
“เดี๋ยวข้าจะเป็นคนนำทางให้จนถึงหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง”
กูรันกล่าวขณะที่พาหนะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่ช้า คณะของอาร์คก็เริ่มบินลัดผ่านท้องฟ้ามุ่งไปยังเนินเขาซึ่งเป็นเป้าหมาย อย่างรวดเร็ว พวกเขาผ่านทั้งทุ่งรกร้าง ป่าหิน และแม่น้ำแห่งแสง หลังผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมง พายุเริ่มก่อตัวและโหมกระหน่ำ พวกเขาเริ่มพบเจออุปสรรคตั้งแต่เตรียมข้ามผ่านภูเขาเลยทีเดียว
“พอผ่านหุบเขานี้ไปได้ก็จะเจอกับชนเผ่านาคูจัก”
กูรันตะโกนร้องบอกขณะบินลัดฝ่าพายุ ปลากระเบนได้บินลัดผ่านหุบเขาที่ซึ่งมีแต่หินแหลมคมยื่นออกมาจากพื้นดินอย่างรวดเร็ว เมื่อออกมาพ้นหุบเขาแล้ว เสียงดังสนั่นพลันได้ยินจากเหนือศีรษะ
ควี๊ก!
กูรันเมื่อเงยหน้าขึ้นมองถึงกับซีดเผือด
“ดะ-ดราเค็น!”
“มันกำลังจะโจมตีแล้ว หลบเร็ว!”
ดราเค็นสองตัวพุ่งเข้าใส่คณะของพวกเขาโดยทันที อย่างรวดเร็ว อาร์คเริ่มดึงบังเหียนขณะพยายามให้ปลากระเบนชะลอความเร็ว ขณะนั้นเอง คมเขี้ยวของดราเค็นพลันพุ่งผ่านเขาไป กูรันเองก็โดนเช่นเดียวกันแต่ก็สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีมาได้
“บัดซบ ไม่เคยนึกเลยว่าจะโดนโจมตีในสถานการณ์แบบนี้ได้”
อาร์คเริ่มมองรอบตัว เพื่อหลบเลี่ยงฟ้าผ่า เขาจำเป็นต้องเคลื่อนตัวลงต่ำมาแนวหุบเขาที่มีหินแหลมคม ตอนนี้ไม่มีพื้นที่ให้ร่อนลงพื้นได้แล้ว หรือก็คือ เขาจำเป็นต้องสู้กับดราเค็นทั้งที่อยู่กลางอากาศ! ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบังคับพาหนะไปพร้อมกับเหวี่ยงดาบได้
“ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลองแล้ว เดดริค ระหว่างที่ฉันรับมือไอ้เจ้าพวกนี้ แกคอยดึงดูดความสนใจอีกตัวไว้อย่าให้มันโจมตีกูรันหรือว่าพวกหมูน้อยนั่นได้!”
“ขะ-ข้า?”
“ไม่ชัดพอหรือไง? ถ่วงเวลาไว้จนกว่าจะเรียบร้อยแล้วกัน!”
อาร์คตะโกนใส่ขณะบังคับปลากระเบนให้บินเข้าหาดราเค็น
“คมดาบแห่งความมืด!”
อาร์คพลันห่อหุ้มตัวเองด้วยสายบังเหียนเข้ากับร่างขณะเริ่มกวัดแกว่งดาบแห่งกิลซาล ทว่าบนท้องฟ้านี้ ดราเค็นสามารถหลบหลีกได้โดยง่ายเป็นอย่างมาก การต่อสู้กลางหาวเช่นนี้กลับยากเย็นกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้เยอะ ไม่เหมือนกับพื้นดิน การจะย่นระยะห่างระหว่างกันด้วยความเร็วสูงนั้นยากกระทำเพราะอีกฝ่ายสามารถเพิ่มระยะห่างได้ด้วยความเร็วสูงทัดเทียมกัน การโจมตีที่ระยะห่างกันเพียงหนึ่งเมตรกลับยากเกินคาดคิด และตั้งแต่ที่เขาขี่ราดันได้ ทักษะขับขี่ของเขาก็เป็นเพียงแค่ขั้นต้น มันเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมพาหนะกลางอากาศเช่นนี้และมองหาจังหวะเพื่อโจมตี อีกทางหนึ่ง ดราเค็นคือผู้เชี่ยวชาญแท้จริง สามารถรุกและถอยเข้าโจมตีอาร์คระหว่างที่บินอยู่ได้อย่างอิสระ
ฟึบ!
กรงเล็บของดราเค็นถากไหล่ของเขาไปขณะเสียพลังชีวิตโดยทันที ทว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่พลังชีวิต ดราเค็นตอนนี้รู้แล้วถึงจุดอ่อนของอาร์ค นั่นคือศึกกลางหาว! ดราเค็นพลันหันอย่างรวดเร็วขณะโจมตีเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง ผ่านไปหลายนาที ปีกของปลากระเบนก็เริ่มรุ่งริ่งและขาดวิ่น
‘เฮือก… แบบนี้ไม่รอดแน่!’
ปลากระเบนที่บาดเจ็บเริ่มร่างสั่นขณะอยู่กลางอากาศ หนึ่งในปีกตอนนี้แทบไม่หลงเหลืออะไรจนเพดานบินเริ่มลดต่ำลง ผ่านการโจมตีอีกเพียงแค่สองครั้ง ปลากระเบนก็เริ่มกรีดร้องออกมาขณะร่วงหล่น อาร์คถึงกับสูญเสียการควบคุมโดยทันที อีกทั้งดราเค็นยังคิดพุ่งเข้าโจมตีอาร์ค
ควี๊ก!
‘บ้าบอที่สุด!’
อาร์คเริ่มวิงเวียนเพราะเขี้ยวกำลังพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว ถ้าหากเขาร่วงหล่นลงในหุบเขาที่มีแต่หินแหลมคมปรากฏมากมายเช่นนี้ นั่นก็หมายถึงจุดจบแล้ว ขณะนั้นเอง สัญชาตญาณของอาร์คสั่งการให้นำเอาซอว์เบลดออกมา จากนั้นเขาจึงเหวี่ยงแส้ออกไปใส่ดราเค็น แส้ได้รัดพันรอบเขี้ยวของดราเค็นเอาไว้ ขณะนั้นเองอาร์คพลันเตะเข้าใส่หัวของปลากระเบนขณะบังคับให้มันลอยตามขึ้นไป
ควี๊ก!
ปลากระเบนปะทะเข้ากับปากของดราเค็น ขณะนั้น อาร์คจึงใช้โซ่ต่างเชือกพยายามปีนขึ้นไปที่หลังของดราเค็น
‘ไอ้ตัวบัดซบ คิดเหรอว่าจะบินได้แล้วอยากจะทำอะไรก็ทำ?’
อาร์คเริ่มโหมการโจมตีเข้าใส่ลำคอของดราเค็นด้วยลูกเตะพร้อมทั้งเปลี่ยนอาวุธเป็นดาบแห่งกิลซาล
“รับไป เรียกปีศาจ คมดาบแห่งความมืด!”
ควี๊ก!
หลังอาร์คใช้คมดาบแห่งความมืดเข้าใส่ ดาบแห่งกิลซาลได้ปักเข้าทะลุจนถึงอีกฝั่งร่างของมัน! ดราเค็นอีกร้องออกขณะบินมั่วไปมาราวบ้าคลั่ง มันพยายามที่จะโยนตัวเขาออก หลังผ่านไปหลายวินาที เพราะการบินฉวัดเฉวียนและแรงดึงดูดจึงทำให้เขาเริ่มลื่นไถล ทว่าอาร์คก็บ้ามากพอ เขาเอี้ยวคอหันกลับขณะคิดพยายามแทงดาบเข้าใส่หัวของดราเค็นเพื่อปักหลัก การจ้วงแทงยังคงดำเนินต่อไปขณะพลังชีวิตของดราเค็นแห้งเหือด พอตกเข้าสู่สภาวะวิกฤตแล้ว… เขาจึงใช้ดาบแห่งกิลซาลผ่าลำคอของมันทิ้ง โลหิตมหาศาลจึงหลั่งออกราวน้ำหลาก ดราเค็นที่กระพือปีกอยู่กลับร่างสั่นกลางอากาศคล้ายไก่ที่โดนตัดหัวทั้งเป็น
=====
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
=====
ท่ามกลางเหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นได้
“ว๊าก เจ้านายขอรับ! ข้าจะตายแล้ว!”
อีกทางหนึ่ง เดดริคที่พยายามล่อดราเค็นตัวที่เหลือเอาไว้ก็ใกล้จะตายจริง แม้กูรันจะพยายามบังคับพาหนะเอาไว้และช่วยสนับสนุน ทว่าสถานการณ์ก็ยังคงไม่สู้ดี เดดริคตกอยู่ในสภาวะวิกฤตแล้ว ขณะเดียวกัน ปีกของปลากระเบนซึ่งกูรันและหมูน้อยทั้งสองขี่อยู่ต่างก็แทบไม่เหลือปีกจนไม่อาจรั้งกายไว้บนอากาศได้
“เหวอ ช่วยด้วย!”
กระทั่งในสถานการณ์เช่นนี้ บุคซิลยังคงมีความมืออาชีพหันกล้องอัดเข้าใส่ ทว่า… อาร์คก็ร่วงหล่นลงไปพร้อมกับดราเค็นเช่นกัน นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำอะไรแบบนั้น!
“ราดัน ไปเอาไอเทมของดราเค็นมา!”
ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ อาร์คยังไม่ลืมเรื่องไอเทม ราดันเริ่มแลบลิ้นออกขณะเข้าไปรวบรวมไอเทมจากร่างของดราเค็น
“เดดริค บินมาทางนี้!”
“ขะ-ขอรับ! กำลังไป!”
เดดริคเข้าไปใกล้อาร์คขณะมีดราเค็นไล่หลังตามมาด้วย ขณะนั้นเอง อาร์คพลันบินเข้าหาเดดริคและเข้าไปใกล้ตัวดราเค็น
“เอ่อ? จะ-เจ้านาย… เหยียบหลังข้า… นั่นไม่… แอ่ก!”
อาร์คเหยียบหัวเดดริคซ้ำอีกครั้งต่างหินพักเท้าขณะพุ่งเข้าใส่ดราเค็นที่ไล่หลังตามมา สถานการณ์วนกลับไปคล้ายคลึงก่อนหน้านี้อีกครั้งหนึ่ง เขาคว้าเข้าที่คอของดราเค็นพร้อมใช้คมดาบแห่งความมืดเข้าใส่! พลังชีวิตของดราเค็นลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทว่าเจ้าตัวนี้กลับหาญกล้ายิ่งกว่าดราเค็นตัวก่อนหน้า เมื่อตกสู่สภาวะวิกฤต มันเริ่มบินพุ่งเข้าใส่หุบเขาที่มีแต่หนามหินแหลมคมโดยทันที แทนที่จะโดนอาร์คผ่ากลางลำคอ มันเลือกที่จะโหม่งหินแหลมคมเหล่านั้นให้เขาตายตกตามไปด้วย