ตอนที่ 330 : ปฏิบัติการจู่โจม X (1)
“ดาบแห่งธาตุน้ำแข็ง จรัสแสง!”
แสงสว่างทอวูบขึ้นกวาดต้อนเผ่านาคูจักไป ขณะเดียวกัน ความเย็นก็โหมกระหน่ำทีละน้อยทำให้การเคลื่อนไหวของเผ่านาคูจักลดน้อยอย่างมหาศาล
“ร่ายรำแห่งความมืด!”
อาร์คใช้ท่าเท้าอันซับซ้อนเคลื่อนไหวผ่านช่องว่างที่เผ่านาคูจักเผยออก จากนั้น เขาจึงโจมตีด้วยคมดาบแห่งความมืดที่เป็นทักษะต่อเนื่อง ‘ปะทะความมืด’ มันทั้งรวดเร็วและยังเป็นการโจมตีคริติคอล อาร์คยังเสริมด้วยธาตุที่ทำให้เกิดผลพวงเป็นความเสียหายที่เพิ่มขึ้น จนทำให้เผ่านาคูจักตอนนี้ต่างวิ่งกันอลหม่านด้วยความสับสน
“อั่ก บะ-บ้าอะไรกัน?”
“มันก็แค่คนเดียว! ล้อมมันไว้แล้วผนึกการเคลื่อนไหว!”
“เหอะ คิดเหรอว่าข้าจะปล่อยให้กระทำตามใจชอบ”
ขณะนั้นเอง เดดริคก็บินพุ่งลงจากฟ้าโฉบเข้าใส่เผ่านาคูจักเปรียบดั่งลูกธนูยิงเข้าใส่ พร้อมกันนั้นเดดริคก็ส่งเสียงตะโกนดัง
“เจ้าลูกศิษย์ ตอนนี้แหละ!”
“ได้ค่ะ ข้าขอเรียกร้องต่อดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ อย่าได้ให้ผู้ใดเข้าขัดขวาง เขตแดนพิสุทธิ์!”
หลังบัพให้ฝ่ายตัวเอง ลาริเอ็ตเต้ก็เรียกใช้งานเวทมนตร์พื้นที่ แสงสว่างเริ่มเรืองรองปรากฏครอบคลุมพื้นที่เอาไว้ มันคือเวทมนตร์พื้นที่ของอัศวินพิสุทธิ์ที่จะเพิ่มความเสียหายอย่างต่อเนื่องให้และลดทอนพลังป้องกันของศัตรู ด้วยเหตุนี้ เผ่านาคูจักจึงตกอยู่ภายใต้สภาวะที่ทั้งอาร์ค เดดริค และลาริเอ็ตเต้ผสานงานกันโจมตีใส่
‘หวังว่าราซาคจะยันเอาไว้ได้…’
ก่อนหน้าการบุกโจมตีเผ่านาคูจัก อาร์ควางแผนไว้ก่อนแล้ว เขาจะช่วยเหลือเบซอทิวออกจากหมู่บ้านในหุบเขาอย่างไร? อาร์คประสบปัญหานี้จนกระทั่งนึกถึงเรื่องที่บุคซิลกล่าวเอาไว้ก่อนหน้าได้ บุคซิลนอนน้อยเพราะอาร์คใช้งานหนัก ด้วยความงัวเงียจนเผลอหลับไป บุคซิลถึงกับโพล่งออก ‘อาร์คนิม! ถือว่าขอร้อง แม้จะไม่ฟังก็เถอะ แต่ได้โปรดหยุดสร้างซอมบี้จิ้งจอกได้แล้ว!’ นั่นคือถ้อยคำที่อีกฝ่ายละเมอออกมาตอนหลับ
และคำละเมอนั้นก็เป็นคำใบ้ให้อาร์ค
‘ใช่แล้ว พอมาคิดดู… ทักษะ ‘ดูดเลือด’ ของเดดริคก็ใช้งานกับผู้เล่นได้เหมือนกัน บางทีทักษะของราซาคก็สามารถใช้งานกับผู้เล่นได้ด้วย? หมายความว่าสามารถควบคุมหมอนี่ได้?’
อาร์คมองไปยังร่างของดุ๊คพร้อมความคิดอันปราดเปรื่องที่บรรเจิด เขาปลุกชีพดุ๊คขึ้นมาโดยให้ราซาคใช้ทักษะสมดุลแห่งความตาย จำนวนศัตรูของอาร์คตอนนี้ที่ต้องเผชิญหน้าด้วยคือเผ่านาคูจักทั้งสี่ร้อยชีวิตและคณะของจีเวล แต่สถานการณ์จะเปลี่ยนไปถ้าหากล่อคณะของจีเวลและเผ่านาคูจักบางส่วนออกมาจากหมู่บ้าน แน่นอนว่าการใช้ทักษะ ‘ดูดเลือด’ กับผู้เล่นนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จค่อนข้างต่ำ และ ‘สมดุลแห่งความตาย’ ก็เช่นกัน นอกจากนี้ ดุ๊คยังมีเลเวลที่สูงมาก เขาถึงกับต้องเสียสละกระดูกสามท่อนของราซาคทุกครั้งที่พยายาม นับว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว
“ราซาค ใช้ทักษะสมดุลแห่งความตาย!”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก…
ราซาคคล้ายถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อยขณะสละกระดูกไป ด้วยอาชีพเกินคาดคิดที่วิวัฒนาการมาได้ทำให้ราซาคยิ่งดูหมองหม่นยิ่งขึ้น อย่างไรแล้ว สามครั้ง… ถึงกับต้องใช้กระดูกไปเก้าท่อนก่อนที่ทักษะจะสำเร็จ ถูกต้อง ดุ๊คที่ไปล่อจีเวลออกมานั้นคือร่างซอมบี้
‘ตอนแรกก็คลุมเครือไปบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าจะใช้งานแบบนี้ก็ได้ด้วย?’
อาร์คไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะสามารถสร้างความได้เปรียบโดยใช้ทักษะสมดุลแห่งความตายเช่นนี้ได้ อย่างไรแล้วปฏิบัติการครั้งนี้ของอาร์คก็สำเร็จไปกว่าครึ่ง ยังคงเหลือเผ่านาคูจักอีกหนึ่งร้อยห้าสิบชีวิตในหมู่บ้านหลังจากพวกจีเวลเร่งร้อนออกไป
‘ถ้าค่อยโจมตีเป็นกลุ่มเล็กก็พอรับมือไหว แต่ว่า…’
เขาไม่ทราบว่าจะหลอกพวกจีเวลได้นานเท่าไหร่ อันที่จริงทักษะสมดุลแห่งความตายมีขีดจำกัดอยู่ ระยะห่างของซอมบี้นั้นยิ่งไกลออกไปก็ยิ่งควบคุมได้ยากและขาดซึ่งความแม่นยำ ดังนั้นแล้วราซาคจึงพยายามชี้นำผ่านร่างของดุ๊คให้พวกจีเวลอยู่ในละแวกใกล้เคียงหมู่บ้านเข้าไว้ และตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าพวกจีเวลจะรู้ตัวเมื่อไหร่
‘เราต้องรีบช่วยเหลือพวกชาวบ้านออกมาให้สำเร็จ’
อาร์คยอมรับความเสี่ยงตรงนี้ ระหว่างที่จีเวลละเลยหมู่บ้าน เขาจะลงกำลังทั้งหมดอย่างสุดตัว และสถานที่ซึ่งอาร์คเล็งไว้ก็คือ…
ฮูม!
“ศัตรูบุก ศัตรูบุก!”
เผ่านาคูจักที่ประจำการหอสังเหตุการณ์พลันพบเจอพวกเขาขณะเป่าแตรเขาออกมา ขณะนั้นเอง เผ่านาคูจักนับร้อยก็ถาโถมออกมาดั่งคลื่นม้วนตัวเข้าใส่ ทว่าสายตาของอาร์คเพียงแค่มองเป็นซากศพหาได้สนใจที่เผ่านาคูจักรวมพลกันไม่
“ราดัน เก็บของที่ดร็อปออกมาอย่าให้พลาด”
ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
ราดันเร่งเลื้อยตัวอย่างอุกอาจขุดคุ้ยร่างของศพ รายการสิ่งของทั้งหลายที่ราดันกลืนเข้าไปปรากฏตรงหน้าอาร์คโดยทันที ผ่านไปพักหนึ่ง ท้ายที่สุดอาร์คจึงพบไอเทมที่ตามหาอยู่ภายในรายการ
=====
ราดันได้รับ ‘กุญแจหยาบด้านแห่งนาคูจัก’
=====
“นั่นแหละราดัน ส่งมาเลย!”
ราดันคายกุญแจที่กลืนไปออกมาตามคำสั่งอาร์ค อาร์คเร่งร้อนคว้ากุญแจไว้ขณะเข้าไปไขประตูโลหะ ประตูโลหะเปิดออกพร้อมเด็กในหมู่บ้านที่โถมตัวกันออกมา ถูกต้อง อาร์คโจมตีเข้าใส่สถานที่คุมขังเด็กก่อนเป็นที่แรก เด็กเหล่านี้จะเป็นอาวุธให้อาร์คใช้เตรียมการโค่นล้มเผ่านาคูจัก เด็กเหล่านี้ที่ออกมาแล้วต่างเร่งร้อนวิ่งเข้าหาอาร์คที่เตรียมอาหารรอไว้ อาหารที่เขาทำขึ้นมาเพื่อแฮกยอลซา มันจะช่วยเสริมให้ทักษะข่มขู่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพราะเสียงดัง
“เอ่อ อาร์คนิม พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปหาแล้วครับ!”
“รอเดี๋ยวนะ กินกันครบแล้วใช่ไหม?”
เหล่าเด็กน้อยต่างหิวโหยตั้งแต่โดนคุมขัง ตอนนี้ต่างพยักหน้ารับพร้อมจานอาหารที่ว่างเปล่าแทบจะในทันที อาร์คโบกมือให้สัญญาณดั่งวาทยกร
“ดี จำได้นะว่าต้องพูดอะไร ให้สัญญาณก็เริ่มเลยนะ!”
“ครับ/ค่ะ!”
“ป๊ะป๋า! อาร์คนิมช่วยพวกเราแล้ว!”
“ดี ดีมาก หนึ่ง สอง!”
“เผ่านาคูจักมาแล้ว! ช่วยพวกเราด้วย!”
ทั้งหมู่บ้านถึงกับสั่นสะเทือนเพราะเสียงร้องของเด็กพวกนี้ที่กินอาหารเสริมความดังเข้าไป ผลลัพธ์ที่แสดงออกทันทีถึงกับน่าสะพรึง
“อะไรกัน! เสียงนี้?”
“พวกเด็ก ๆ เสียงของพวกเด็ก ๆ!”
“อาร์ค? ใครคืออาร์ค?”
“เป็นคนต่างถิ่นที่ช่วยโบนาเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ เขากลับมาแล้ว!”
“โอ้ ชายคนนั้นช่วยพวกเด็ก ๆ ออกมาได้แล้ว?”
“แต่ก็ยังอันตราย พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ!”
พวกผู้ใหญ่ที่กำลังก่อสร้างหอคอยรับส่งต่างหยุดมือ เผ่านาคูจักที่ควบคุมงานอยู่พลันวิ่งเข้าหาพร้อมเหวี่ยงแส้เข้าใส่พร้อมสีหน้าเกรี้ยวกราด
“ไอ้พวกข้าทาส ยังไม่ขยับตัวอีก! อยากตายหรือไง!?”
“หุบปาก!”
“อะ-อะไร? บ้ากันไปแล้วหรือไง?”
“แกสิบ้า! จับตัวพวกเด็ก ๆ เอาไว้แถมยังทารุณกรรมพวกเรา! โบลคานาซูโจมตีใส่เลย!”
ฮูม!
โบลคานาซูทำตามคำสั่งของผู้ฝึกสอนอย่างเคร่งครัดและยินดี มันพุ่งเข้าใส่หัวหน้าผู้คุมอย่างรวดเร็ว และไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งตัว ผู้ฝึกสอนคนอื่นต่างสั่งการมอนสเตอร์ของตัวเองเข้าโจมตีเช่นเดียวกัน ชาวบารันต่างหยิบจอบและพลั่วพร้อมฟาดเข้าใส่ เพราะอาร์คช่วยเหลือบุตรหลานของตนกันแล้ว ชาวบารันจึงไม่คิดตกเป็นข้าทาสก่อสร้าง จนตอนนี้เผ่านาคูจักที่คุมงานอยู่ถึงกับแตกตื่นตกตะลึง
‘ให้มันได้แบบนี้สิ!’
อาร์คกำหมัดเอาไว้แน่นเมื่อได้เห็นชาวบ้านที่เริ่มแข็งขืน ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่อาร์คคาดหวังไว้ ชาวบารันต่างบอกว่าตนไม่ใช่นักรบ ทว่าอาร์ครู้สึกได้ว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น ขณะที่พละกำลังและความอดทนของพวกเขาไม่อาจเทียบกับเผ่านาคูจัก แต่พวกเขาก็มีมอนสเตอร์ฝึกสอนเป็นอาวุธ ไม่เท่านั้น พวกเขายังไม่ลืมเลือนที่จะต่อสู้กับความกลัว เมื่ออาร์คเข้าช่วยเหลือห่วงเดียวของพวกเขา พวกเขาจึงทำให้เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น
‘แต่ว่า…’
อาร์คทราบ ครอบครัวย่อมกล้าหาญเมื่อลูกหลานของตนตกอยู่ในอันตราย พ่อของเขาที่จากไปแล้วก็เป็นเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นพ่อมีเรื่องโต้เถียงกับใครมาก่อน แต่อาร์คก็คล้ายทราบดีว่าพ่อของตนพร้อมปกป้องเสมอโดยไม่หวาดกลัวผู้ใด และกับแม่ของเขา แม้จะป่วยแต่แม่ก็ไม่เคยลืมเลือนที่จะยิ้มให้กำลังใจอาร์ค เขาได้เรียนรู้เรื่องนี้กับตัวเอง และเขาก็ทราบดีว่าเอ็นพีซีในนิวเวิลด์มีหัวอกหัวใจไม่ต่างจากมนุษย์ในความเป็นจริง พวกเขาต่างยอมตายเพื่อต่อต้านเผ่านาคูจักได้หากมันจะทำให้ลูกหลานของพวกเขารอด
“ทางนั้น! บุคซิล โบนา พาเด็กพวกนี้ไปที่ปลอดภัยด้วย”
“ได้ครับพี่ชาย เอ้า ตามมาเลย!”
โบนาพยักหน้ารับขณะเร่งร้อนนำพวกเด็ก ๆ ไปยังเส้นทางถอย
“ลาริเอ็ตเต้นิมมากับผม!”
อาร์คพาลาริเอ็ตเต้เข้าปะทะกับเผ่านาคูจักทั้งฝูงในสถานที่ก่อสร้าง การต่อสู้ที่น่าหวาดหวั่นกำลังลั่นออกในพื้นที่แห่งนี้ อย่างไรแล้วจำนวนมอนสเตอร์ที่ชาวบารันสามารถใช้งานรับมือเผ่านาคูจักได้ก็มีจำกัด เมื่อใดที่ชาวบารันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เผ่านาคูจักย่อมต้องเสียเปรียบจนโดนผลักดันกลับ แต่หลังรูปขบวนเข้ารูปเข้ารอยเมื่อใด การต่อสู้ของจริงจะบังเกิด ชาวบารันและมอนสเตอร์ของพวกเขาจะต้องเริ่มล้มลง ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง พลังอำนาจการต่อสู้เกิดขึ้นตอนนี้เพราะลูกหลานของพวกเขา แต่พวกเขาก็หาได้ใช่ยอดมนุษย์ และตอนนี้กองกำลังเผ่านาคูจักทั้งหนึ่งร้อยก็รวมตัวกันได้แล้ว
อีกทางหนึ่ง ชาวบารันมีเจ็ดสิบคนและมอนสเตอร์อีกหนึ่งร้อยยี่สิบตัว ตัดชาวบารันออกเพราะไม่มีพลังอำนาจต่อสู้แต่อย่างใด นับว่าพละกำลังโดยรวมของพวกเขาน้อยกว่ามากนัก อีกทั้ง อาวุธยังมีแค่จอบและพลั่ว อีกทางหนึ่ง เผ่านาคูจักต่างมีอาวุธและชุดเกราะกันครบมือ
“ทุกคนโปรดฟังทางนี้!”
อาร์คตะโกนใส่ชาวบารัน
“ก็เหมือนที่ได้ยินก่อนหน้า เด็กทุกคนปลอดภัยดีครับ ถ้าหากพวกคุณล้มลงตรงนี้ เด็ก ๆ เหล่านั้นก็จะตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง การโค่นล้มเผ่านาคูจักคือสิ่งจำเป็น ตอนนี้มีโอกาสจงลงมือกระทำอย่างสุดความสามารถเคียงข้างผมครับ!”
“ชายคนนั้น?”
“คนที่ข้าบอกไง อาร์ค! คนที่ไปช่วยเหลือพวกเด็ก ๆ ออกมา! ไม่ใช่ข้าเพิ่งบอกไปหรือ? เป็นสหายน้อยที่เคยช่วยงานข้าครั้งหนึ่ง ตอนนั้นข้าก็รู้แล้วว่าหมอนี่ไม่ใช่คนธรรมดา!”