ตอนที่ 347 : มุ่งหน้าสู่โลกใต้พิภพ! (4)
“ข้าเข้าใจดีถึงความตั้งใจของท่านผู้นำ อย่างไรแล้วท่านไม่ใช่คนเดียวที่คาดหวังถึงสิ่งนี้”
“แต่แรงจูงใจเท่านี้นับว่าพอหรือ?”
“ท่านลืมเลือนหรือไม่ว่าพวกเราโดนบีบบังคับให้ต้องใช้ชีวิตดั่งมือสังหาร?”
“พวกเราล้วนมีต้นกำเนิดเดียวกัน หากพวกเราต้องหิวโหย แบบนั้นอาจจะกลายเป็นการสร้างประวัติศาสตร์อันโชกเลือดขึ้นมาอีกครั้ง”
เหล่าผู้อาวุโสของแต่ละสาขาต่างเผยสีหน้าหนักอึ้งและไม่พอใจนัก ผู้อาวุโสบางคนถึงกับยืนยันที่จะใช้ชีวิตนักฆ่าเช่นเดิมที่มีอิสระภาพมากกว่า ด้วยเหตุนี้ ภารกิจของแชมบาร่าจึงหยุดชะงัก เป็นผลให้เขากลับมาที่นี่ หากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป ก็ไม่มีอะไรที่จะรับประกันได้ว่าผู้คนที่เขารวบรวมมาจะยังคงอยู่ที่นี่ต่อ
และสิ่งที่เขาเป็นห่วงยิ่งกว่าหรือสถานภาพของอิสซาเบล…
‘แต่แล้วพอแชมบาร่ากลับมาก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น?’
วิธีการเล่นเกมของแชมบาร่าค่อนข้างแตกต่างจากอาร์ค อาร์คคือผู้เล่นประเภทที่เลียแข้งเลียขาเอ็นพีซีถ้าหากพวกเขาจะมอบผลประโยชน์ให้ อีกทางหนึ่ง แชมบาร่าเป็นประเภทน้ำนิ่งไหลลึกเพื่อให้ถึงจุดหมาย เพราะตัวตนเช่นนี้ พวกมือสังหารจึงไว้เนื้อเชื่อใจเขา แต่มันก็ไม่พอที่จะแก้ปัญหาอันซับซ้อนตอนนี้ได้
‘ต้องขอโทษทั้งแชมบาร่าและอิสซาเบลจริง ๆ แต่นี่แหละโอกาสของเรา!’
นับว่าโชคดีนักที่เขาพบหมายเลข 206 ตั้งแต่ทางเข้า อาร์คได้ช่วยเหลือหมายเลข 206 เอาไว้ ดังนั้นค่าความสัมพันธ์จึงแทบจะมีสูงที่สุด ถ้าหากเขาไม่ได้พบหมายเลข 206 แบบนั้นเขาคงไม่ได้ยินเรื่องปัญหาภายในเป็นแน่ เพราะเหตุนี้ อาร์คจึงเลือกสร้างสถานการณ์หนักอึ้งก่อนที่จะเริ่มการเจรจา อาร์คลังเลไปครู่ก่อนที่จะเอ่ยคำขึ้น
“ปัญหาของสมาคมแห่งความมืด บางทีฉันน่าจะช่วยได้นะ”
“ว่าอะไรนะ?”
แชมบาร่าเผยท่าทีสงสัยออกมา ทว่าอาร์คเพียงเมินเฉยขณะเริ่มกล่าวต่อ
“ขอสรุปอีกครั้ง ปัญหาตอนนี้ของสมาคมแห่งความมืดคืออะไร?”
“พวกเราไม่มีงานอื่นให้ทำ”
“ถูกต้อง เรื่องนี้แหละ ในเมื่อไม่มีงานให้ทำ ดังนั้นแล้วก็เลยไม่อาจหาเงินได้ นอกจากนี้ความตึงเครียดยิ่งนานยิ่งสะสม นี่คือปัญหาใหญ่ หากมีงานให้ทำก็จะแก้ปัญหานี้ได้ แต่ถ้าหากเริ่มงานมือสังหารอีกครั้ง สมาคมแห่งความมืดก็จะยิ่งห่างไกลจากแสงสว่างยิ่งกว่าเดิม”
“…นายอยากจะพูดอะไรกันแน่?”
ในการสนทนาครั้งนี้ เขาต้องทำให้มั่นใจก่อนว่าผู้ฟังจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว หลังชี้นำสถานการณ์ เขาจะเริ่มขยับเข้าสู่เป้าหมายทีละก้าว… ถ้าหากเขาโพล่งอะไรออกไปตรง ๆ แบบนั้นอีกฝ่ายอาจตัดเยื่อใยได้
“ก็แค่สร้างงานที่เหมาะสมเท่านั้นเอง”
“ว่าอะไรนะ?”
“นี่นายอยากพูดอะไรกันแน่?”
“นายนี่มัน…”
อิสซาเบลขัดคำแชมบาร่าขณะเริ่มขมวดคิ้ว
“รอเดี๋ยว งานที่เหมาะสม? พูดต่อได้เลย”
“บางคนอาจไม่ชอบ… แต่พวกเขาย่อมกระทำหากผู้นำเป็นคนร้องขอ ตอนนี้ขอผมอธิบายอีกครั้ง ผมพบเจอมิติแห่งอื่นระหว่างการเดินทาง ประชากรในมิติแห่งนั้นล้วนประสบปัญหาโดนคุกคามถึงเผ่าพันธุ์ พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ”
“ต้องการให้พวกเราเข้าช่วยเหลือ?”
“เข้าใจได้รวดเร็วมากครับ”
“แล้วมันจะช่วยพวกเราได้ยังไง?”
แชมบาร่าขัดคำอย่างเย็นชา อาร์คเพียงมองอีกฝ่ายอย่างเวทนาก่อนส่ายนิ้วให้
“ชิชิชิ นายเข้าใจช้าชะมัด… นี่นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ต้องให้ฉันอธิบายเพิ่มอีก? มีมิติอยู่อีกแห่ง หรือก็คือ กฎเกณฑ์ของโลกกลางไม่มีผลกับที่นั่น มือสังหารจากสมาคมแห่งความมืดไม่มีปัญหาอะไรหากต้องใช้ชีวิตที่นั่น ไม่สิ ถ้าหากนายช่วยประชากรของมิติดังกล่าวต่อต้านภัยคุกคาม แบบนั้นพวกเขายิ่งยินดีต้อนรับเข้าไปใหญ่ สมาคมแห่งความมืดจะได้มีฐานที่มั่นใหม่ด้วย”
สีหน้าของแชมบาร่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ยังคงหลับตาอยู่คล้ายครุ่นคิดไปพักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจ
“ถ้าหากภัยคุกคามนั้นมันทำให้ประชากรทั้งมิติสั่นสะเทือนได้ พลังอำนาจของมันไม่ใช่มากมายเลยหรือยังไงกัน?”
“แต่ถ้าหากไม่มีภัยคุกคามนี้ พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะต้องการความช่วยเหลือของสมาคมแห่งความมืด”
“แต่ต่อให้มันได้ผล แต่กองกำลังของเราก็ต้องเสียหายไม่น้อย”
“ไม่ใช่ว่าเป้าหมายแต่เดิมของนาย ต่อให้อยู่โลกกลางก็ต้องมีการเสียสละหรือไง?”
“…”
แชมบาร่าเงียบไปอีกครั้ง สักพักจึงค่อยเอ่ยปาก
“ก็ได้ ฉันเข้าใจจุดประสงค์ของนาย แต่ความฝันของพวกเราคือล้างมือกลับคืนสู่โลกที่มีแสงสว่าง การหลบซ่อนอยู่สถานที่ใดซึ่งไม่รู้จักมันจะต่างอะไรกับที่ซ่อนตัวอยู่ตอนนี้”
ดี นับว่าอีกฝ่ายเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น อาร์คหัวเราะขณะพยักหน้าให้
“มันจะเป็นจริงได้ถ้าเป้าหมายของฉันที่นั่นสำเร็จด้วย”
“เป้าหมายอะไร?”
“ถ้าหากนายช่วยยับยั้งการบุกโจมตีของศัตรู ฉันก็จะช่วยทำให้โลกใต้พิภพกลับคืนสู่โลกกลาง ดังนั้นแล้วทวีปแห่งใหม่จะปรากฏขึ้นในนิวเวิลด์ แล้วคิดว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไงต่อ?”
แชมบาร่ายังคงเอียงศีรษะไปมาอย่างสับสน ทำให้อาร์คอดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะให้
“ช้า นายช้ามากเลยนะแชมบาร่า นี่นายยังคาดเดาไม่ได้อีกเหรอว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง?”
อาร์คกล่าวคำต่อ
“เอาเป็นว่าฉันจะบอกให้ก็ได้ ทวีปแห่งใหม่ที่ไม่เคยคงอยู่ในนิวเวิลด์กลับปรากฏขึ้น จากนั้นไม่ใช่ว่าประชากรแต่เดิมของโลกใต้พิภพจะกลายเป็นขุนนางของทวีปหรือยังไง? แล้วคิดสิว่าพวกนายจะได้รับสิ่งใด?”
“นาย… นายอย่าบอกนะว่า?”
“นายเริ่มเข้าใจแล้วสินะ”
อาร์คพยักหน้ารับขณะอิสซาเบลโพล่งออกมา
“เข้าใจแล้ว เข้าใจที่อาร์คนิมต้องการจะสื่อแล้ว! ถ้าหากสถานที่ซึ่งอาร์คนิมเรียกว่าโลกใต้พิภพปรากฏขึ้นในโลกกลาง มันจะกลายเป็นทวีปแห่งใหม่ ถ้าหากทวีปแห่งใหม่ปรากฏขึ้น แบบนั้นก็จะมีผลตอบรับเป็นสอง ไม่ศัตรูก็มิตร”
“พูดต่อได้เลยครับ”
อาร์คพยักหน้ารับให้กับอิสซาเบล ด้วยเหตุนี้อิสซาเบลจึงเริ่มพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยินดี
“แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสามอาณาจักรไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังต่อสู้ในศึกสงครามนาการันอย่างยาวนาน ท้ายที่สุดพวกเขาไม่อาจรองรับภาระได้อีกต่อไป ดังนั้นแล้วท่าทีของพวกเขาจึงเปลี่ยนมาเป็นมิตรกันแทน มันเป็นเรื่องยากจะเชื่อ… แต่หากอาณาจักรแห่งใหม่ปรากฏขึ้น สมดุลแห่งพลังอำนาจของนิวเวิลด์ก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง”
“ถูกต้องครับ และนี่คือโจทย์สุดท้าย จะเกิดอะไรขึ้นหากสมาคมแห่งความมืดจัดการทัพศัตรูและสามารถเป็นพันธมิตรอย่างเหนียวแน่นกับประชากรของโลกใต้พิภพก่อนที่โลกใต้พิภพจะปรากฏขึ้นในโลกกลาง? ผมขอบอกไว้ก่อน สังคมของประชากรในโลกใบนั้นมีวิวัฒนาการค่อนข้างน้อยยิ่งกว่าพวกเรา พวกเขาไม่อาจเข้าใจกฎเกณฑ์และการเมืองสักเท่าไหร่”
“แบบนั้นแล้วสมาคมแห่งความมืดจะสามารถกลายเป็นตัวแทนของโลกใต้พิภพ เพื่อเข้าประชุมหารือกับสามขั้วอำนาจได้อย่างฉันมิตร”
อิสซาเบลยิ้มให้ขณะตอบคำถาม ถูกต้อง นี่คืออาวุธที่อาร์คเตรียมไว้ใช้เพื่อเกลี้ยกล่อม ที่จริงแล้วตอนออกจากหมู่บ้านแลนเซลอาร์คก็คาดคิดแผนการคร่าว ๆ ไว้อยู่บ้าง แต่แล้ววิธีการเกลี้ยกล่อมต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากหมายเลข 206 หากเขาไม่ทราบและมายังสมาคมแห่งความมืด คำร้องขอของเขาจะกลายเป็นการขอร้องอยู่ฝ่ายเดียว แม้ว่าผลลัพธ์จะยังคงเป็นเช่นเดิม แต่สถานะผู้ร้องขอกลับไม่ใช่อีกต่อไป
‘หึหึหึ เราตอนนี้อยู่ในฐานะที่จะเรียกร้องสิ่งอื่นจากสมาคมแห่งความมืดได้’
นานวันเข้าอาร์คยิ่งกลายเป็นคนต่ำช้าคิดหาผลประโยชน์มากขึ้น อย่างไรแล้วแชมบาร่าเพียงเผยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยตามที่คาดเดาเอาไว้
“แต่นี่มันแค่เรื่องเล่าจากปากอาร์คเองนะ”
“แชมบาร่านิมไม่เชื่อใจเพื่อนเหรอคะ?”
“อา ใจฉันมันเจ็บยิ่งนัก”
อาร์คถอนหายใจออกพร้อมเผยสีหน้าน่าเวทนาส่งไปให้อิสซาเบล ด้วยเหตุนี้ แชมบาร่าจึงกลายเป็นตัวร้ายเพียงพูดแค่ประโยคเดียว อีกฝ่ายถึงกับต้องรีบแก้ลำ
“พะ-พวกเราไม่รู้จักสถานที่ซึ่งเรียกว่าโลกใต้พิภพเลยสักนิด แถมพวกเรายังไม่รู้ด้วยว่ากองกำลังของศัตรูเป็นภัยคุกคามกับประชากรในโลกนั้นจริงหรือเปล่า”
“แต่บรรพบุรุษของพวกเราก็เคยมีประสบการเหยียบย่างเข้าสู่ทวีปแห่งใหม่มาก่อนนะคะ”
“ใช่ใช่ ไม่ใช่ว่าสมาคมแห่งความมืดสืบทอดเชื้อสายจากบรรพบุรุษซึ่งหาญกล้าคิดสำรวจบุกเบิกทวีปแห่งใหม่หรือไงกัน?”
“อาร์ค นายนี่มัน!”
แชมบาร่าโพล่งออกมาเสียงดังอย่างโกรธเคือง แต่แล้วเขาก็หันกลับไปพูดคุยกับอิสซาเบลอย่างอ่อนโยน
“แล้วเธอคิดอยากปล่อยหอคอยแห่งซาลรินซึ่งเป็นบ้านเกิดไปอย่างนั้นเหรอ”
“…ถ้าเพื่อความฝันนั้นของสมาคมแห่งความมืดแล้ว ไม่มีปัญหาค่ะ”
“สมาคมแห่งความมืดไม่ใช่สถานที่ แต่มันคือผู้คนไม่ใช่หรือไง?”
“อาร์ค นายเงียบปากไปก่อนเลย!”
แชมบาร่าจ้องมองแทบกินเลือดกินเนื้อใส่อาร์คจนแทบจะเข้าไปลงมือสังหาร ในการต่อสู้คงยากจะบอกถึงผลลัพธ์ แต่เรื่องการประชันฝีปากนับว่าแชมบาร่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาร์คเลยแม้แต่น้อย
=====
ท่านประสบผลสำเร็จเนื่องจากศาสตร์แห่งการสื่อสาร
=====
ศาสตร์แห่งการสื่อสารของเขาเพิ่มขึ้นอีกแล้วเมื่อเกลี้ยกล่อมเอ็นพีซีได้สำเร็จ! เป็นเพราะหน้าต่างข้อมูลปรากฏขึ้น ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าอิสซาเบลเห็นเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจัง
“พวกเราต้องสลัดคราบอันดำมืดทิ้งไปเพื่อถือกำเนิดขึ้นใหม่ นี่คือความปรารถนาอันยาวนานของสมาคมแห่งความมืด พวกเรามีเป้าหมายที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้สำเร็จเพื่อชนรุ่นต่อไป ท่านผู้กอบกู้ ข้าไม่คิดอยากพลาดโอกาสนี้”
เมื่อสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ แชมบาร่าก็ไม่มีทางขัดคำอิสซาเบลได้อีก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอาร์คถึงเพ่งเล็งแต่จะทำให้อิสซาเบลเข้าใจ
‘หึหึหึ แชมบาร่าเอ๋ย นายยังอ่อนหัดอยู่นะ’
อย่างไรแล้ว จุดประสงค์การมาครั้งนี้ของอาร์คก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใดต่อสมาคมแห่งความมืด ไม่สิ มันคือโอกาสดังที่เขากล่าวจริง ๆ หรือก็คือ ทุกส่วนล้วนดีหมด… มันคือการที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับ แชมบาร่าหรี่ตาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าหาอาร์คแล้วโพล่งคำพูดออกมา
“ก็ได้ ครั้งนี้ถือว่านายทำได้ดี บอกมาได้แล้ว นายต้องการอะไร?”
‘นี่แหละคำถามที่รอคอย’
อาร์ครู้ดีว่าคำถามนี้แชมบาร่าต้องเอ่ยปาก ที่จริง ระหว่างทางมาที่นี่อาร์คก็คิดอยู่แล้วว่าการมาขอความช่วยเหลือครั้งนี้อาจจะมีลาภหล่น แต่สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลง ตอนนี้อาร์คไม่เพียงแค่ได้รับความช่วยเหลือ แต่เขายังเปิดโอกาสให้สมาคมแห่งความมืดมีจุดยืน ขณะเดียวกันอาร์คก็จะได้สำเร็จเป้าหมายภารกิจของตนเองไปด้วย
“อา ก็ใช่แหละนะ แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีก็เท่ากับฉันได้รางวัลแล้ว”
อาร์คเผยท่าทีคล้ายไม่สนใจขณะพูดถึงเรื่องสิ่งตอบแทน ตามปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่อาร์คจะเอาตัวเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาโดยไม่หวังผลกำไร เขาต้องมีจุดประสงค์อื่น แชมบาร่าเมื่อได้รับคำตอบจึงคลายความสงสัยไปได้บ้าง
“ตามนั้นแน่นะ?”
“พวกเราควรเชื่อใจกันให้มากกว่านี้นะ คิดเสียว่าเป็นครอบครัวร่วมทุกข์ร่วมสุขกันก็ได้”
อิสซาเบลพยักหน้าตอบรับคำกล่าวของอาร์ค จากนั้นเธอจึงเตรียมการเรียกประชุมเพื่อเดินทางไปยังโลกใต้พิภพ ขณะเดียวกัน อาร์คก็ต้องตรวจสอบเครื่องไม้เครื่องมือ และเร่งรีบกลับสู่โลกใต้พิภพเช่นเดียวกัน
“อัญเชิญสมุนปีศาจ เดดริค ราซาค!”
“อา ให้ตายสิ… วันหยุดอันแสนล้ำค่าของข้า…”
เดดริคบ่นทันทีที่โดนเรียกตัวออกมา อีกฝ่ายไม่ได้เจอหน้าอาร์คมาพักหนึ่งแล้ว เพราะงั้นอาการขาดวินัยจึงกลับมาอีกครั้ง แต่อาร์คเพียงตบศีรษะเดดริคไปทีก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม
“อย่าพูดมากน่า ไว้เสร็จงานนี้เดี๋ยวให้พักจนเต็มอิ่มแน่”
เดดริคแทบกราบค้างขณะจ้องมองด้วยอาการมึนงง
“กะ-เกิดอะไรขึ้น? เจ้านาย กินอะไรผิดสำแดงหรือขอรับ?”
‘ไอ้เจ้านี่…’
อาร์คเริ่มมีอาการโมโหแต่ก็ต้องสะกดข่มเอาไว้ เพราะค่าสถานะเสน่หา อาร์คจึงยอมอดทน ตอนนี้เขาทราบแล้วว่าค่าสถานะเสน่หาสามารถทำอะไรได้บ้าง และมีความสำคัญแค่ไหน เขาต้องยับยั้งการใช้ความรุนแรงเพื่อเพิ่มแต้มพวกนี้ ถ้าหากเพื่อเป้าหมายแล้ว อาร์คยังพอมองการพยศของสมุนปีศาจเป็นเรื่องขำขันได้บ้าง
“มาสร้างวงเวทกันเลยดีกว่า!”
อาร์คสร้างวงเวทขนาดใหญ่ขึ้นที่ส่วนยอดของหอคอยแห่งซาลรินโดยมีสมุนปีศาจช่วยเหลือ ขนาดของมันค่อนข้างกว้างใหญ่เพราะชะตากรรมของสมาคมแห่งความมืดได้ผูกติดกับโลกใต้พิภพเอาไว้แล้ว ชนชั้นหัวกะทิระดับหัวหน้ากว่าสี่ร้อย และมือสังหารอีกแปดร้อยของสมาคม อิสซาเบลต้องการเป็นผู้บัญชาการด้วยตัวเอง แต่เพราะแชมบาร่าเกลี้ยกล่อมจึงต้องยอม เพราะแบบนั้น อิสซาเบลจึงตัดสินใจอยู่โยงที่หอคอยเพื่อเป็นแนวหลังสนับสนุน ขณะที่สมาคมแห่งความมืดที่เหลือล้วนเตรียมยกทัพกันไปที่โลกใต้พิภพ
“นานมาแล้ว บรรพบุรุษของเราได้ย่างก้าวเข้าสู่ทวีปแห่งนี้เพื่อค้นหาความหวังใหม่ และครั้งนี้ก็ถึงคราวพวกเราแล้ว สถานที่ซึ่งพวกเราจะไปหาได้ใช่แดนดินอันสุขสบาย ความเจ็บปวดมากมายและการเสียสละย่อมต้องเกิด แต่พวกเราจะไป เพื่ออนาคตของพวกเรา”
“เพื่อความรุ่งโรจน์ของสมาคมแห่งความมืด!”
อิสซาเบลชี้ดาบขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะที่การเอ่ยทวนถ้อยคำจากผู้คนหลายร้อยดังตอบรับ นับแต่นี้สงครามซึ่งเดิมพันด้วยชะตากรรมของสมาคมแห่งความมืดกำลังจะอุบัติขึ้นที่โลกใต้พิภพ