Ark The Legend – ตอนที่ 373 : ผลประโยชน์

ตอนที่ 373 : ผลประโยชน์

 

————–

 

ทะเลทางตอนเหนือระหว่างอาณาจักรขอร์เดนเบิร์กและอาณาจักรบริสทาเนีย “โลกที่สาบสูญ ซอแทนดาล” ได้ปรากฏตํานานมากมายของซอแทนดาลกําลังรอท่านอยู่ ขอให้ท่านสนุกสนานกับการผจญภัยครั้งใหม่

 

————–

 

นี่คือข้อความที่ผู้เล่นทุกคนในนิวเวิลด์ได้รับเมื่อไม่กี่วันก่อน แน่นอนว่าผู้เล่นต่างตอบสนองกับข้อความนี้กันอย่างเผ็ดร้อน มอนสเตอร์ใหม่ พื้นที่แห่งใหม่ ดันเจี้ยนแห่งใหม่! การปรากฏขึ้นของซอแทนดาลแทบจุดเปลวเพลิงให้ลุกโชน ผู้เล่นทุกคนมักมีความกระหายต้องการสิ่งใหม่มาเติมเต็ม ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่ผู้เล่นสายนักรบเท่านั้นซึ่งตื่นเต้น ผู้เล่นหลากหลายอาชีพต่างก็ชื่นชอบสิ่งแปลกใหม่ การวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมครั้งใหม่ มันอาจส่งผลต่อภาพรวมของโลก มันคล้ายกับประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งที่ยุโรปได้รู้จักกับใบชา เครื่องเทศ และผ้าไหม ครั้งนั้นพวกมันไม่ต่างอะไรกับขุม ทองคํา พ่อค้าในนิวเวิลด์ต่างชื่นชอบและไม่คิดพลาดโอกาสเช่นนี้ ทุกผู้คนต่างพูดคุยกันถึงเรื่องราวของซอแทนดาล

 

“ไปที่นั่นกัน ดินแดนแห่งโอกาส ซอแทนดาล!”

 

“พวกเราจะช้ากว่ากิลด์อื่นไม่ได้ รีบไปกันเร็วเข้า!”

 

ด้วยเหตุนี้ ผู้โดยสารของเรือข้ามทวีปจึงเริ่มบรรทุกผู้เล่นที่คลาคล่ำออกเดินทาง ผู้ที่ออกเดินทางไปยังซอแทนดาลมากที่สุดคือพ่อค้าและนักรบ อาร์คตอนนี้ก็กลับจากซอแทนดาลมายังกิรันเรียบร้อยแล้ว

 

“เฮ้อ ดีนะที่ทุกคนโดนดึงความสนใจไปกันหมด

 

อาร์คหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตัวเองขณะมองไปรอบเอ็นพีซีและ ผู้เล่นในหมู่บ้านต่างวางงานในมือขณะพูดคุยเรื่องซอแทนดาล หลายผู้เล่นต่างความคิดลอยล่องมุ่งไปยังซอแทนดาล แล้วเช่นกัน กิรันที่ปกติเคยวุ่นวายกลับดูผิดแผก อาร์คตระหนักได้แล้วว่าการที่ทวีปแห่งใหม่ปรากฏขึ้นนั้นส่งผลมหาศาลเช่นไร

 

“ก็ดี ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรถ้าผู้คนจะไปรวมตัวกันที่ซอแทนดาล

 

อาร์คมองอย่างอบอุ่นไปยังพวกผู้เล่นที่มุ่งหน้าไปซอแทนดาล เพราะผู้เล่นกลายเป็นหนาแน่น การจะออกล่าอะไรก็เป็นเรื่องยาก ดังนั้นแล้วอาร์คที่เป็นผู้ยึดครองดันเจี้ยนหนึ่งในซอแทนดาลจึงเกิดความรู้สึกคล้ายผู้ประสบความสําเร็จ

 

“ทุกสิ่งอย่างในซอแทนดาลเราไม่อาจครอบครองได้หมด สถานการณ์ของที่นั่นตอนนี้แทบพลิกกลับด้านหากเทียบกับเมื่อหลายเดือนก่อน ผู้เล่นหลายคนต่างรวมตัวกันออกเดินทาง การวิวัฒนาการหลายด้านก็จะเร็วมากขึ้น ถึงตอนนั้น หลายดันเจียนก็คงถูกพวกผู้เล่นเข้าไปครองกันแล้ว”

 

อาร์คนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซอแทนดาลเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า

 

“ผลงานออกมาดีกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก”

 

แม้ว่าการที่ซอแทนดาลปรากฏในโลกกลางจะเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่แล้ว แต่สิ่งที่เผ่าบารันต้องเผชิญนั้นใหญ่หลวงยิ่งกว่านั้น โลกที่พวกเขารู้จักมาหลายร้อยปี ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้ว ผู้นําเผ่าบารันอย่างเหล่าผู้อาวุโสต่างเปี่ยมล้นไปด้วยความหวาดกลัวและสับสนกับสิ่งที่ยังไม่อาจทราบ ท่าทีตอบสนองของพวกเขานับว่าปกติ ยกตัวอย่างทวีปเอเชียครั้งหนึ่งก็เคยเป็นทวีปใหม่ของชาวยุโรปใน ช่วงของยุคแห่งการบุกเบิกดินแดนใหม่ ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงรู้สึกหวาดกลัวผู้ล่าจากอารยธรรมที่สูงกว่า กระทั่งว่าอาร์คแทบจะตกวิชาประวัติศาสตร์เขาก็ยังทราบถึงปัญหานี้ เพราะแบบนั้นเขาจึงเร่งร้อนเรียกรวมผู้อาวุโสเผ่าทันที เมื่อซอแทนดาลปรากฏในโลกกลาง

 

“ตอนนี้ซอแทนดาลปรากฏตัวสู่สายตาโลกแล้ว ทวีปอื่น นั้นพวกท่านไม่อาจเข้าตอแย”

 

“ทวีปแห่งนั้นเป็นที่แบบไหนกัน?”

 

“มันเป็นสถานที่ซึ่งใหญ่กว่าซอแทนดาลหลายเท่านัก มีอาณาจักรถึงสาม ทั้งบริสทาเนียซินิอัส และชอร์เดนเบิร์ก แต่ละอาณาจักรต่างก็มีประชากรและทหารนับล้านชีวิต นอกจากนี้ กําลังทหารและอุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขาล้วนยอดเยี่ยมจนพวกท่านไม่อาจเทียบได้

 

“ละ-แล้วถ้าพวกเราโดนรุกรานจะทํายังไง?”

 

“พวกเราเพียงแค่ป้องกันภัยคุกคามจากเผ่านาคูจักก็แย่แล้ว”

 

เหล่าผู้อาวุโสต่างพึมพําด้วยสีหน้าไม่ใคร่สบายใจนัก อาร์คเผยสีหน้าจริงจังก่อนจะเอ่ยปากอีกครั้งหนึ่ง

 

“ผมไม่อาจรับประกันได้ว่ามันไม่มีความเสี่ยง”

 

“นี่ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงหรือไร?”

 

“แต่ว่านะครับ เผ่าบารันไม่ได้อ่อนแอดังเช่นกาลก่อนแล้ว พวกท่านไม่ใช่หรือที่ป้องกันตัวเองจากเผ่านาคูจักได้? ผมขอสัญญา หากทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นราชาผู้เกรียงไกรของทวีปแห่งอื่นก็ไม่กล้าเข้ารุกราน”

 

“อืม…”

 

พวกผู้อาวุโสยังคงเผยความกังวล

 

“ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้ากล่าว แต่พวกเราไม่ทราบเรื่องราวใดของอีกฝ่ายเลย พวกเราไม่ทราบว่าจะติดต่อสื่อสารอย่างไรจึงจะเกิดความสัมพันธ์อันดีขึ้น”

 

“เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงไปครับ ถ้าไม่เข้าใจ แบบนั้นแล้วก็แค่แต่งตั้งคนที่ไว้ใจได้ขึ้นมาแทน”

 

อาร์คเผยรอยยิ้มกับคําตอบนี้ อันที่จริงสามอาณาจักรไม่มีกําลังมากพอจะรุกรานซอแทนดาล มั่นใจได้เต็มที่เลยว่าสิทธิ์ทางการทูตจะถูกยกอ้างและเข้าหาทวีปแห่งใหม่ฉันมิตร แต่เหตุผลที่เขาสร้างความตึงเครียดขึ้นก็เพราะต้องการนําให้พวกเขาเห็นประโยชน์ของสมาคมแห่งความมืด เพื่อช่วยอิสซาเบล เพื่อได้เป็นตัวแทนทางการทูตแห่งซอแทนดาล

 

“โอ้ จริงด้วย ยังคงมีวิธีนี้”

 

“ถูกต้องครับ พวกเราสามารถฝากฝังเรื่องนี้ไว้กับสมาคมแห่งความมืดได้”

 

พวกผู้อาวุโสที่ก่อนหน้าเป็นกังวลต่างเผยอาการผ่อนคลายลงขณะรับทราบถึงการเป็นตัวแทนของอิสซาเบล ไม่นาน หลังจากนั้น อิสซาเบลได้นําทั้งสมาคมแห่งความมืดมาปักหลักที่ซอแทนดาล พวกเขาตั้งถิ่นฐานกันที่ป้อมปราการฮามานซึ่งถูกเรียกขานใหม่เป็น “แคว้นตะวันออก” อิสซาเบลและสมาคมแห่งความมืดในที่สุดก็สามารถทําลายความยากลําบากในอดีต ประสบความสําเร็จและได้รับบ้าน แห่งใหม่อย่างที่พวกเขาปรารถนา

 

“สัญญาที่ให้ไว้กับอิสซาเบลก็เรียบร้อยแล้ว”

 

แน่นอนว่าอาร์คไม่ได้ทําเพื่ออิสซาเบลอย่างหมดใจ อิสซาเบลได้สัญญากับอาร์คว่าจะมอบรางวัลให้สองสิ่งเมื่อเรื่องราวดําเนินไปได้ด้วยดี ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้รับรางวัลเพราะอิสซาเบลได้เป็นตัวแทนของซอแทนดาล ระหว่างที่อิสซาเบลเข้าจัดการเรื่องราวในป้อมปราการฮามาน คณะผู้แทนทวีปก็มาเยือนซอแทนดาล แม้ว่าออกจะรวบรัดไปบ้าง แต่ก็มีเหตุผลที่คณะผู้แทนทวีปมาเยือนเผ่าบารันแทนที่จะเป็นเผ่านาคูจัก

 

อย่างแรกนั้นคืออีกฝ่ายเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีแนวโน้มการเป็นฆาตกร และเหตุผลที่สองคือเผ่านาคูจักเป็นพวกหัวรุนแรงคิดยึดครองทวีป อีกฝ่ายครั้งหนึ่งเคยปรากฏตัวเข้าโจมตี เมืองหลวงของชอร์เดนเบิร์กด้วยซ้ำ ถูกต้อง มันเป็นเรื่องราวตอนที่อาร์คส่งเผ่านาคูจักห้าสิบคนจากหมู่บ้านในหุบเขาไปเซเลบริด ดังนั้นแล้วสภาทวีปจึงเห็นพ้องกันว่านาคูจักถือเป็นภัยคุกคามไม่ต่างกับมอนสเตอร์ คณะผู้แทนจึงคิดเจรจาด้วยเพียงแค่เผ่าบารัน แม้อิสซาเบลจะเป็นฆาตกรเช่นนาคูจัก แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามนับว่าสร้างความประทับใจให้คณะผู้แทนได้ไม่น้อย

 

“พวกเราต้องการเป็นมิตรสหายกับทั้งสามอาณาจักรโลกใต้พิภพไม่ได้มีอารยธรรมที่วิวัฒนาการมากนัก แต่หากเป็นเรื่องทรัพยากรนับว่ามีมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบในทวีปแห่งนี้ อาจกล่าวได้ว่าหากทุกคนมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พวกเรา ยอมจะได้พัฒนาไปด้วยกันในแนวทางที่ดี หากพวกท่านเห็นพ้องต้องกัน เช่นนั้นโปรดอนุญาตให้พวกเราส่งคนจํานวนหนึ่งไปยังแต่ละอาณาจักร การเจรจาต่อรองในอนาคตนับจากนี้สามารถพูดคุยกับเอกอัครราชทูตของทางเราได้”

 

“เห็นควรด้วย…”

 

ด้วยเหตุนี้แคว้นตะวันออกจึงได้รับการจัดตั้งสาขาสถานทูตในแต่ละอาณาจักร อิสซาเบลยังได้ยื่นเงื่อนไขกับอาณาจักรชอร์เดนเบิร์กด้วย

 

“ทางเราต้องการให้สร้างสถานทูตในอาณาจักรขอร์เดนเบิร์กที่หมู่บ้านแลนเซล”

 

ตัวแทนจากอาณาจักรขอร์เดนเบิร์กแสดงท่าที่ไม่เห็นด้วยอย่างออกหน้า

 

“ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ แลนแซลเป็นหมู่บ้านในภูเขาที่ไม่มีประชากรอะไรมากมายนัก อีกทั้งยังไม่ใกล้กับเส้นทางหลวง เหตุใดพวกท่านจึงต้องการให้จัดตั้งสถานทูตในสถานที่เช่นนั้น?”

 

“ทางเราเข้าใจในเรื่องนั้น แต่ได้โปรดอภัย หมู่บ้านแลนเซลเป็นพันธมิตรของซอแทนดาลแต่แรกแล้ว”

 

“ว่าอะไร? เรื่องนี้เป็นไปได้ยังไง?”

 

“รายละเอียดทางเราไม่อาจพูดกล่าว อย่างไรแล้วพวกเรามีเส้นทางเชื่อมโยงกับหมู่บ้านแลนเซล เพราะเรื่องนี้ความสัมพันธ์ของทางเรากับอาณาจักรขอร์เดนเบิร์กจะยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น ด้วยไมตรีที่มีให้นี้ พวกเราสัญญาว่าจะทําการแลกเปลี่ยนซื้อขายผ่านหมู่บ้านแลนแซลและจะส่งมอบผลประโยชน์ต่ออาณาจักรขอร์เดนเบิร์กยิ่งกว่าอาณาจักรแห่งอื่น”

 

“หากเป็นแบบนั้น ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ…”

 

คณะผู้แทนอาณาจักรยังคงไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร แต่เพราะผลประโยชน์จึงทําให้ยอมรับเงื่อนไขนี้ เพราะผลประโยชน์ที่มากขึ้น ผู้ใดกันจะโง่เขล าถกเถียงด้วย?

 

“หึหึหึ ต้องให้มันได้แบบนั้น!”

 

นี่ก็เป็นหนึ่งในรางวัลที่อิสซาเบลสัญญาไว้กับอาร์ค เรื่องนี้ไม่จําเป็นต้องอธิบายอีก ศูนย์กลางทางการทูตและการเมือง ย่อมหมายถึงการพาณิชย์ที่จะก้าวหน้ามากขึ้น หากหมู่บ้านแลนเซลได้กลายเป็นสถานที่ตั้งของสถานทูตระหว่างอาณาจักรชอร์เดนเบิร์กและซอแทนดาล แบบนั้นแล้วจํานวนของผู้เล่นและเอ็นพีซีจะไหลมาเทมา หมู่บ้านแลนเซลที่เคยเป็นแค่หมู่บ้านในภูเขาจะกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าแห่งใหม่ แน่นอนว่ามูลค่าทางอสังหาริมทรัพย์ย่อมต้องเพิ่มขึ้น และร้านค้าครบวงจรอาร์คก็จะได้รับผลพวงกําไรมากขึ้นเช่นกัน

 

“ตอนนี้ไอเทมจากซอแทนดาลที่จะส่งไปยังอาณาจักรบอร์เดนเบิร์กต้องผ่านร้านค้าครบวงจรอาร์คก่อนเป็นที่แรก!”

 

แน่นอนว่าซอแทนดาลมีวิวัฒนาการด้านวัฒนธรรมค่อนข้างน้อย เพราะแบบนั้นผลิตภัณฑ์จึงมีไม่มากสักเท่าไหร่ ทว่าแคว้นตะวันออกก็ได้ตัดสินใจจัดตั้งเมืองหลวงแล้ว อิสซาเบลก็ใช้เงินทุนไปไม่น้อยเพื่อก่อสร้างโรงงานหลายแห่งรอบป้อมปราการฮามาน เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ พัฒนาการของซอแทนดาลจะยิ่งมายิ่งเพิ่มขึ้น การค้าจะยี่งมายิ่งใหญ่ขึ้น หากร้านค้าครบวงจรอาร์คสามารถผูกขาดการค้าในอาณาจักรขอร์เดนเบิร์ก นั่นก็ชัดเจนพอแล้วว่าจะสร้างผลกําไรอันมหาศาลให้กับเขา

 

“นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น”

 

อาร์คเปิดสัญญาร่วมกับอิสซาเบล

 

ผู้นําของสมาคมแห่งความมืด หรือก็คืออิสซาเบลได้เจรจาให้ใช้ร้านค้าครบวงจรอาร์คในหมู่บ้านแลนเซลเป็นสํานักงานการค้าระหว่างซอแทนดาลและอาณาจักรขอร์เดนเบิร์ก นอกจากนี้ อาร์คยังได้รับสิทธิ์ในการจัดตั้งสํานักงานการค้าในซอแทนดาลด้วย

 

สิทธิ์เพื่อจัดตั้งสํานักงานการค้าในแคว้นตะวันออก! นี่นับเป็นรางวัลชิ้นที่สองตามที่อิสซาเบลสัญญาเอาไว้ เพราะมีสํานักงานการค้าในซอแทนดาล ไม่ใช่เพียงแค่เขาจะได้รับการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับอาณาจักรขอร์เดนเบิร์ก แต่ยังรวมถึงบริสทาเนียและซินิอัสเช่นเดียวกันซอแทนดาลตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาจึงต้องการสํานักงานการค้า หากภายหน้าเขาตัดสินใจคิดเป็นอื่น ด้วยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่นับวันมีแต่จะเพิ่มแล้วล่ะก็

 

ความเป็นจริงการหยั่งรากลึกในสํานักงานการค้าไป ตลอดกาลไม่อาจเป็นไปได้ แต่ระหว่างที่เขาถือครองมันไว้มันก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ราวสรวงสวรรค์กับขุ มนรก หากเขาเป็นพ่อค้าธรรมดาคนหนึ่ง นี่นับเป็นโอกาสครั้งใหญ่โตหากได้รับสิทธิ์

“เป็นผู้ถือสิทธิ์ของสํานักงานการค้า ก็เหมือนกับถือไข่ทองคําเอาไว้ในมือ ไว้ภายหน้าเราได้รับซิลวาน่ากลับคืน ถึงตอนนั้นเราก็จะได้หุ้นส่วนของหอการค้าแห่งทวีป”

ซิลวาน่าหมู่บ้านแลนเซล และซอแทนดาล ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นเชื่อมโยงหากันอย่างแน่นแฟ้น อาร์คที่คาดหวังเข้าควบคุมตลาดของทั้งสอร์เดนเบิร์กและนาการัน อาจไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป

 

“ถ้ายังอยู่ในซอแทนดาลต่อก็น่าจะพอหลบสายตา พวกกิลด์เฮอร์มีสไปได้ไว้ถึงเวลาสบโอกาสค่อยหาทางทวงคืนซิลวาน่า”

 

เมื่อชิ้นส่วนหนึ่งเข้าที่เข้าทาง ชิ้นส่วนอื่นก็จะเริ่มสามารถต่อให้สมบูรณ์ได้ง่ายขึ้น อันที่จริงจนกระทั่งถึงไม่นานมานี้ เขาถึงกับล้มเลิกแผนการทวงคืนซิลวาน่าแล้วด้วยซ้ำ เป็นเพราะพันธมิตรเฮอร์มีสแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก แต่แล้วเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกลับสร้างความเสียหายให้กิลด์เฮอร์มีสไปไม่น้อย

 

“ซิดแจ้งมาว่าพวกนั้นใช้จ่ายไปกว่า 3,000 เหรียญทองเพื่อส่งกองกําลังทหารรับจ้างมา ตอนนี้คงถังแตกกันแล้วสินะ หึหึหึ ไรเด็นเสียเงินสูญเปล่าไปกับตรงนี้ แถมเผ่าบารัน ยังไม่คิดเป็นมิตรกับกิลด์เฮอร์มีสอีกเพราะงั้นอีกฝ่ายจะไม่มีสิทธิ์ได้เหยียบย่างเข้าสู่ซอแทนดาล”

 

เขากระทั่งคิดว่าไรเด็นตอนนี้คงลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นเลยทีเดียว อาร์คยังไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ว่าได้รับอุปกรณ์สวมใส่ของพวกจีเวลมาไม่น้อย ดังนั้นแล้วความเสียหายของพันธมิตรเฮอร์มีสจึงใหญ่หลวง อีกทั้งซิดยังเริ่มเห็นแววขัดแย้ง ภายในพันธมิตรกันแล้วด้วย

 

“ผลกระทบเท่านี้คงไม่ส่งผลกับพละกําลังของพวกนั้นโดยรวม แต่ถ้ามีปัญหาภายในเข้าไปด้วยแล้วล่ะก็ เราคงไม่ต้องเป็นห่วงไปอีกพักหนึ่งเลยทีเดียว

 

อย่างไรแล้ว อาร์คพอพิจารณาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมดก็พบว่ามันคลี่คลายชั่วคราว ระหว่างที่ทุกสิ่งเป็นไปตามลําดับขั้นตอน ผู้คนรอบตัวอาร์คก็ยิ่งมุ่งมั่นกันมากขึ้น

 

“เผ่านาคูจักตอนนี้ยังคงใช้หมู่บ้านในหุบเขาเป็นฐานทัพ เพื่อรุกรานเผ่าบารัน พวกเราจะยังคงอยู่ที่ป้อมปราการฮามานจนกว่าโลกใต้พิภพจะกลับมาสงบ”

 

จัสติสแมนและกลุ่มทัณฑ์บนต่างกล่าวเช่นเดียวกันนี้ออกมาว่าต้องการอยู่โยงที่ป้อมปราการฮามาน

 

“พวกเราทําการฝึกฝนให้กับเผ่าบารัน ระหว่างนั้นก็จะหาทางเพิ่มเลเวลไปด้วย”

 

“ผู้ชายสีแดงคนนั้นพูดว่าอะไรนะ? ใช่จะไม่ปล่อยเราแน่ หากพบเจอกันอีกครั้งหรือเปล่า?”

 

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset