Ark The Legend – ตอนที่ 412 : ผู้มาเยือนไม่คาดฝัน

ตอนที่ 412 : ผู้มาเยือนไม่คาดฝัน

 

“พวกนายนะ! เลิกพูดจาไร้มารยาทได้แล้ว! ปาร์คนิมไม่ใช่คนมีดีเอ็นเอสัตว์ประหลาดเหมือนพวกนายนะ พูดอะไรเล่นเป็นเด็กไปได้”

 

“เชอะ ไม่เห็นต้องพูดว่าพวกเราเลยนี? ก็แค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง”

 

“ดีเอ็นเอ? ทําไมลูกพี่อยู่ดี ๆ ก็พูดถึงดีเอ็นเอกันล่ะ?”

 

“พวกเราอดทนมาจนถึงตอนนี้ แต่ว่านะลูกพี่นะ ไม่ต่างอะไรกับหมาปาน้ำลายไหลย้อยใส่นูนิมในเรื่องหนูน้อยหมวกแดงเลย”

 

“ถูกต้องแล้วครับนูนิม นี่ยังไม่สายเกินไป ชายคนนี้ไม่ต่างอะไรกับหมาป่าที่กินคุณยายลงท้องไปแล้ว ทางที่ดีควรหนีไปก่อนจะโดนจับกินนะครับ พวกเราจะเสี่ยงชีวิตให้นูนิมหนีไปได้เอง!”

 

“พวกนาย…”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ขอบคุณมากจ้ะ แต่นักสืบจีวอนเหมือนหมีมากกว่าหมาปาอีกนะจ๊ะ”

 

แม่ของฮยอนอูส่งเสียงหัวเราะออกมาขณะจ้องมองจีวอนฮวารังและกลุ่มทัณฑ์บนโต้เถียงกันไปมา จีวอนฮวารัง ที่คว้าคอเสื้อจักตูอยู่พลันหัวเราะเก้กังด้วยสีหน้าแดง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ฉันเป็นหมียังไงล่ะ ไม่ใช่หมาป่าเสียหน่อย”

 

“เชอะ ได้ยินว่าเป็นหมีแล้วดีใจเลยนะ ชิชิ ตาลุงนี่ เอ้าหลบไปได้แล้ว!”

 

จักตูและทัสซ่าพลันเตะเข้าใส่จีวอนฮวารังเพื่อผลักให้อีกฝ่ายเข้าจนมุมแล้วค่อยยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่าและก้มหน้าลงแล้วยิ้มใส่

 

“เอ้า เป็นหมาปาอยู่ดี ๆ จะแกล้งทําลืมตัวกลายเป็นหมีไม่ได้นะ จะอะไรก็ดี พวกเราตอนนี้เป็นพี่ชายของฮยอนอูแล้ว เพราะงั้นพวกเราก็เลยเตรียมของขวัญเล็กน้อยเพื่อแสดงความยินดีกับนูนิม”

 

เมื่อกล่าวคําจบ ทั้งช่อดอกไม้และเค้กต่างปรากฏในมือของคนทั้งสอง พร้อมกันนั้น จากนั้น แม่ของฮยอนอูได้ปรับมือให้พร้อมเผยเสียงไม่ต่างเด็กสาวกําลังตื่นเต้นกับการแสดงนี้

 

“ว้าว วิเศษมากเลย พวกเธอสองคนเป็นนักมายากลหรือเปล่า?”

 

“ฮ่า พวกเราไม่ได้อะไรขนาดนั้นหรอกครับ”

 

พวกเขาเป็นอดีตนักโทษและนักพนัน ดังนั้นแล้วเทคนิคการสับเปลี่ยนของนับว่าง่ายดายมาก แต่กับคนที่เพิ่งเคยรับชมก็นับว่าน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

 

“พอได้แล้ว นี่พวกนายมีกันเยอะแยะแต่มีแค่ดอกไม้กับเค้กเนี่ยนะ?”

 

“แน่นอนว่าไม่ เอ้าถึงตาพวกนายแล้ว!”

 

บัลคุนและกลุ่มทัณฑ์บนคนอื่นต่างเรียงแถวหน้ากระดานตรงหน้าแม่ของฮยอนอู จากนั้น “เกมแห่งรักของกลุ่มทัณฑ์บน” ก็เริ่มต้น

 

“พวกเราเตรียมของขวัญอื่นมาให้นูนิมด้วยนะ”

 

“เอ้า สนใจทางนี้กันหน่อย ผ้าม่านหน้าต่างห้องนั่งเล่นนี้ได้ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม เป็นเพราะฉันรู้จักพ่อค้าที่เชี่ยวชาญสิ่งของด้านนี้ วัสดุของผ้าม่านจึงนุ่มเนียนไม่ต่างอะไรกับผ้าไหมยามสัมผัส! แถมยังมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและเชื้อรา นับว่าดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยมาก”

 

แยปแซบอธิบายด้วยสีหน้าภาคภูมิ แต่แล้วปูตงซานกลับเดาะลิ้นออกมาและกล่าวขัดคํา

 

“เหอะ นายมันโง่เง่า! ตรงไหนกันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ? นายยังไม่เข้าใจเรื่องบ้านดีพอ นูนิมโปรดก้มลงมองสักนิดที่พื้น เห็นพื้นนั่นไหมครับ? ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว มันคือพื้นหินอ่อน ใช่ไหมล่ะครับ มันเป็นวัสดุดีเยี่ยมที่สุดสําหรับการจัดทําพื้นเลยนะ”

 

แต่แล้วแฮกยอลซาก็เอ่ยขัด

 

“ตื้นเขิน ตื้นเขินกันเกินไปแล้ว พวกนายก็คิดได้แต่อะไรแบบนี้ มองกันแต่ด้านล่างหรือยังไง? ใครกันจะสนว่าพื้นเป็นยังไง? มองขึ้นไปด้านบนดูสิ สิ่งสําคัญคือแสงไฟ แล้วเห็นโทรทัศน์นั่นไหม? การมีแสงไฟที่เหมาะสมนั้นสําคัญกับการรับชมโทรทัศน์เพื่อไม่ให้สายตาเสีย นูนิม ผมได้เตรียมระบบแสงไฟเอาไว้ถึงสามสีเพื่อให้เหมาะสมกับวอลเปเปอร์เลยนะ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกนายมันก็ได้แค่นี้!”

 

ถึงคราวนี้ เสียงหัวเราะพลันดังขึ้นจนทั้งห้องต้องหันมอง เมื่อมองตามเสียงไปจึงพบว่าเป็นบัลคุนและตอกแดที่กําลังหัวเราะอยู่

 

“ผ้าม่าน? พื้น? แสงไฟ? วอลเปเปอร์? พวกนายมันพวกฉาบฉวยชัด ๆ ไม่ใช่ว่าสุขภาพคือสิ่งสําคัญที่สุดหรือยังไง? ถ้าอยากสุขภาพดีก็ต้องได้กินของดี ๆ เพราะแบบนั้นฉันก็เลยเตรียมนี่มา! ชุดเครื่องครัวพร้อมตู้เย็น!”

 

“ฉันก็เตรียมเซ็ตออกกําลังกายมืออาชีพเพื่อการทํากายภาพมาด้วย!”

 

“เอ้า จงชื่นชมพวกเราเสียสิ พวกเราน่ะตาถึงกว่าพวกนายเยอะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

บัลคุนและตอกแดเอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิขณะนําเสนอชุดเครื่องครัวใหม่เอี่ยมพร้อมอุปกรณ์ออกกําลังกาย นั่นทําให้สมาชิกกลุ่มทัณฑ์บนที่เหลือต่างเผยสีหน้าคล้ายคนจมน้ำขณะพึมพำด้วยสีหน้าโศกเศร้า

 

“ลืมคิดไปเลย…”

 

“สิ่งสําคัญย่อมต้องเป็นอาหารและการออกกําลังกายอยู่แล้ว”

 

“ถ้าเราซื้อภาชนะเครื่องครัวมาล่ะก็…”

 

ในที่สุดจีวอนฮวารังก็ตระหนักได้ว่าบรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไปจึงเอ่ยขัดคําขึ้น

 

“ปาร์คนิมครับ ผมได้เตรียมสิ่งของมาเช่นกัน เป็นเตียงระดับชั้นแนวหน้า! ด้วยสปริงสามชั้นในโครงสร้างแบบอิสระ มันจะช่วยให้ไม่ปวดหลังเวลานอน นอกจากนี้ยังรับประกันสิบปีด้วยนะครับ”

 

ทว่า สิ่งที่เขาได้รับกลับนั้นเป็นคําหยอกล้อของกลุ่มทัณฑ์บนทุกคน

 

“บอกแล้ว ตาแก่นี่เป็นตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ วางแผนเอาไว้…”

 

“แล้วอะไรนะ สิบปี? นี่เตรียมไว้สําหรับแต่งงานในอนาคตด้วยเลยสินะ? โจ่งแจ้งเกินไปแล้ว ”

 

“หางโผล่แล้วนะลูกพี่!”

 

“ พะ-พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน? ฉันก็แค่…”

 

จีวอนฮวารังตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำ ฮยอนอูที่รับชมบ้านอยู่ถึงกับเผยดวงตาเบิกออกกว้างและเอ่ยถามจีวอนฮวารังร่วมกับกลุ่มทัณฑ์บน

 

“คุณลุง พวกพี่ชาย นี่คือเหตุผลที่ขอกุญแจผมไปเหรอครับ?”

 

“ใช่ ก็เหมือนที่พวกเราบอก พวกเราอยากเตรียมการเอาไว้ก่อน…”

 

“นายคิดว่าอยู่ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อนหรือยังไง?”

 

จีวอนฮวารังและกลุ่มทัณฑ์บนต่างสังเกตสีหน้าของฮยอนอูก่อนจะเอ่ยคําพูดกล่าว ฮยอนอูเป็นคนที่ไม่ชอบรับแต่ฝ่ายเดียว ดังนั้นแล้วจีวอนฮวารังและกลุ่มทัณฑ์บนจึงเตรียมของขวัญให้ฮยอนอูเป็นการลับ อันที่จริงฮยอนอูก็พอทราบแต่แรกแล้วว่าต้องมีอะไร พอพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันดี เขาคิดว่าอย่างมากก็คงได้รับของขวัญรวมกันสักสองชิ้นก็เท่านั้น ที่ฮยอนอูคิดอย่างมากก็แค่กระทะหรือว่าหม้ออะไรพวกนี้ เขาไม่เคยจินตนาการถึงเลยว่าจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้

 

แต่แล้ว ครั้งนี้ท่าที่ตอบสนองของฮยอนอูกลับแตกต่างออกไปจากที่กลุ่มทัณฑ์บนคิดเอาไว้ อีกฝ่ายคล้ายกําลังสูดลมหายใจเข้าลึก ฮยอนอูไม่ได้หนักใจกับสิ่งของมูลค่าสูงเหล่านี้ มันเป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงความห่วงหาในของขวัญแต่ละอย่าง ทั้งหมดก็เพื่อแม่ของเขา

 

ถูกต้องแล้ว ฮยอนอูเป็นคนไม่ชอบรับอะไรอยู่เพียงฝ่ายเดียว แต่หากเพื่อแม่ของเขาแล้วล่ะก็

 

“ขอบคุณครับ คุณลุง พวกพี่ชาย ขอบคุณมากเลยครับ”

 

ฮยอนอูพยายามโค้งตัวครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งน้ำตา ครั้งสุดท้ายมันเมื่อไหร่กัน? เมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกตื้นตันขนาดนี้ต่อใครสักคน? และล่าสุดที่เขารู้สึกอยากขอบคุณจากใจจริงต่อใครสักคนมันนานแค่ไหนกันแล้ว?

 

“หือ? อะไรกัน? ไม่เอาน่า”

 

“คือ.. ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นนี่นา?”

 

ทั้งกลุ่มทัณฑ์บนต่างหน้าแดงเขินอายต่อการขอบคุณตรงหน้าในครั้งนี้ก่อนจะเกาหัวเป็นท่าที่ตอบสนองจีวอนฮวารังและกลุ่มทัณฑ์บนต่างมองไปยังฮยอนอูอย่างเก้กังสักพักก่อนแม่ของฮยอนอูจะสวมรอยยิ้มเปิดเผยให้ทุกคนกําลังเงียบ แต่แล้วขณะนั้นเอง ประตูหน้าพลันเปิดขึ้นอย่างดังก่อนที่ฮเยซอนจะพุ่งเข้ามา

 

“แฮ่ก แฮ่ก มาแล้วค่ะ เอ? เกิดอะไรขึ้นกันหรือเปล่าคะ?”

 

ฮเยซอนเอ่ยถามขณะพบว่าบรรยากาศค่อนข้างอึดอัดประหลาด ฮยอนอูเงยหน้าขึ้นมาแล้ว

 

“หือ? ฮเยซอนเหรอ? วันนี้ไม่ทํางานหรือไง?”

 

“พี่ชายพูดอะไรกันคะ? วันนี้แม่ของพี่ชายออกจากโรงพยาบาลนะคะ นี่มันวันหยุดประจําชาติเลยต่างหาก”

 

“วันหยุดประจําชาติ? วันนี้วันหยุดเหรอ? ไม่ใช่วันธรรมดาหรือยังไง?”

 

ฮยอนอูเผยสีหน้ามึนงงเอ่ยถามขณะฮเยซอนเมินเฉยแล้วเข้าหาแม่ของฮยอนอู

 

“คุณแม่คะ หนูมาแล้วค่ะ”

 

“ขอบใจที่มานะจ๊ะ”

 

“พูดอะไรแบบนั้นกันคะ? หนูก็ต้องมาอยู่แล้วสิ วันนี้วันเฉลิมฉลองไม่ต่างอะไรกับวันชาติอเมริกาเลยนะคะเนี่ย นอกจากนี้ จะปล่อยให้คุณแม่อยู่กับพวกพี่ชายตัวยักษ์พวกนี้คนเดียวได้ยังไงกัน”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ยังสดใสเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างจ๊ะ?”

 

ฮเยซอนแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนที่โรงพยาบาลหลายครั้ง ดังนั้นจึงค่อนข้างสนิทสนมกับแม่ของฮยอนอู อันที่จริงเดิมที่มันเป็นแผนของฮเยซอนที่จะเอาชนะใจแม่ยาย แต่แล้วกลยุทธ์นั้นกลับเป็นหมันนานแล้ว ฮยอนอูก็มองมาด้วยความสับสนก่อนจะเอ่ยถาม

 

“ว่าแต่ กระเป๋าสะพายใบใหญ่นั่นอะไรกัน? หรือจะไปธุระที่ไหนต่อ?”

 

“นี่เหรอคะ? ฉันไม่ปล่อยให้วันนี้ผ่านไปโดยไม่ฉลองแน่นอน เพราะงั้นก็เลยเตรียมของมาด้วยนิดหน่อย”

 

“เยอะขนาดนั้นใครจะกินหมดกัน?”

 

“พี่ชายยังไม่รู้ว่าพวกพี่ชายร่างยักษ์นี้กินจุกันขนาดไหน เท่านี้ไม่น่าจะพอด้วยซ้ำ”

 

ฮเยซอนหัวเราะคิกคัก พวกกลุ่มทัณฑ์บนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ที่ที่หี น้องน้อยของพวกเราไม่ทําให้ผิดหวังเลย รู้จักพวกเราดีมาก”

 

“เอ้า มาฉลองกันเถอะ”

 

“เอ้า คุณเจ้าของบ้าน! มัวแต่มองอะไรอยู่กัน? ได้เวลาปาร์ตี้แล้ว!”

 

แต่แล้วฮเยซอนที่กําลังนําอาหารออกมาก็พลันต้องเลิกคิ้วขึ้น

 

“เดี๋ยวนะคะ งานนี้ห้ามดื่มนะคะ”

 

“หือ? วะ-ว่าอะไรนะ?”

 

“จะให้พวกเรากินของทั้งหมดนี้โดยไม่มีเครื่องดื่มมึนเมาเลย?”

 

“ใช่แล้ว เครื่องดื่มมึนเมาคือชีวิตของพวกเราเลยนะ!”

 

“เผด็จการ!”

 

ทั้งกลุ่มต่างส่งเสียงประท้วงกันออกมา หากมีอาวุธในมือคงยกขึ้นยกลงแสดงอาการยกใหญ่กันไปแล้ว

 

“สํารวมด้วยค่ะ!”

 

แต่แล้ว พวกเขากลับต้องเงียบกันทันทีและคล้ายกับหางต้องลู่ลงไม่ต่างกับสุนัขโดนเจ้าของดุ ประสบการณ์นับปีร่วมกับฮเยซอนทําให้พวกเขาทราบว่าไม่ควรโต้เถียงด้วย ที่ผ่านมาพวกเขาต่างมีประสบการณ์ใช้ชีวิตยากลําบากมีเพียงแค่มีดให้เอาตัวรอดในหุบเขามาแล้วก็ไม่ปาน อันที่จริงพวกเขาไม่เคยเสียความกล้าอะไรไปแต่อย่างใด แต่พวกเขาก็ต้องเม้มปากเอาไว้ไม่ต่างกับเด็กกําลังอัดอั้น

 

“แต่พวกเรากินอาหารพวกนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีเหล้าสักนิดนึง”

 

นี่พวกเขาเป็นชาวอันธพาลเก่ากันจริงหรือเปล่าเนี่ย? อย่างไรแล้ว การประท้วงของพวกเขาก็คล้ายได้ผลอยู่บ้าง แม่ของฮยอนอูมองไปทางฮเยซอนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

 

“นิดหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นไรนี่จ๊ะ?”

 

“แต่ว่าคุณแม่คะ พวกพี่ชายพวกนี้ถ้าเมาแล้วไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่าเลยนะคะ”

 

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พวกผู้ชายถ้าเมาก็เสียงดังอยู่แล้วที่ผู้หญิงอย่างเราต้องกังวลคือตอนที่พวกผู้ชายเงียบเกินไปต่างหาก ฮยอนอู  ปซื้อมาให้พวกพี่ชายเขาหน่อยแล้วกันนะ”

 

“โอ้ นูนิ่มใจดีที่สุด!”

 

“ขอสาบานจงรักภักดีเลยครับ!”

 

ทั้งกลุ่มทัณฑ์บนต่างโห่ร้องสาบานให้การสนับสนุนการตัดสินใจนี้กันอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ ภายในบ้านหลังใหม่เพียงแค่พริบตาเดียวก็เต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม ตอนนี้พร้อมสําหรับการปาร์ตี้แล้ว พวกกลุ่มทัณฑ์บนก็ไม่รอช้า พวกเขาเริ่มดื่มกินกันอย่างเต็มที่พร้อมกับเอ่ยหยอกล้อจีวอนฮวารังกับแม่ของฮยอนอู ทั้งยังบังคับให้ฮยอนอูดีมร่วมด้วยอีกต่างหาก ทว่าฮยอนอูกลับต้องสับสนกับการกระทําของฮเยซอน

 

“พวกเราเพิ่งย้ายมาอยู่ที่ชั้นล่าง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

 

เมื่ออาหารถูกจัดเตรียมเสร็จ ฮเยซอนจึงไปเยี่ยมเยือนคนที่ชั้นสองและสาม รวมทั้งเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง เมื่อเธอกลับมาก็เลือกที่จะอยู่ข้างกายแม่ของเขาและพูดคุยกันเอง ฮยอนอูไม่เคยมีประสบการณ์ออกเดทหรือว่ารู้เรื่องกลยุทธ์ความรักอะไร ดังนั้นแล้วเขาเลยไม่เข้าใจว่าที่ฮเยซอนกระทําอยู่นั้นคือการพยายามสนิทสนมกับแม่ของเขา แม้จะยากลําบากไปบ้าง แต่กลยุทธ์นี้ส่วนใหญ่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่น้อย

 

“ทําไมเธอถึงได้เป็นมิตรกับคนไปทั่วขนาดนี้กันนะ?”

 

ฮเยซอนค่อนข้างแตกต่างจากฮยอนอูไม่น้อย แต่แล้วขณะนั้นเอง อุปสรรคอันยิ่งใหญ่ของแผนการที่ฮเยซอนวางเอาไว้ก็ปรากฏ

 

ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง 

 

ช่วงที่กําลังเมาเริ่มกริ่มกันอยู่นั้นเอง เสียงออดประตูก็ดังขึ้น

 

“หือ? ใครกัน? ไม่น่าจะมีใครมาเพิ่มแล้วนี่ …หา?”

 

ฮยอนอูเผยปากอ้าออกกว้างอย่างแตกตื่นเมื่อเปิดประตูหน้าบ้านออกไปรับแขก บุคคลที่มาเยือนครั้งนี้เป็นเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมา

 

“สวัสดีค่ะ เอ่อ นี่ก็นานแล้วนะคะที่เจอกันในชีวิตจริงครั้งก่อน?”

 

“คะ-คุณมีซู?”

 

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset