Ark The Legend – ตอนที่ 437 : ผมรับผิดชอบเอง

Ark ตอนที่ 437 : ผมรับผิดชอบเอง

 

ดวงตาของอาร์คแทบถลนออกมาเมื่อได้เห็นหน้าต่างข้อมูล การแสวงหาความจริงเป็นของแถมที่ได้มาตอนได้รับฉายา “ผู้กล้าแห่งซอแทนดาล” เมื่อครั้งพูดคุยกับอิสซาเบลสักพักหนึ่งไม่นานมานี้ เขาแทบลืมเลือนไปหลังได้รับฉายามา แต่ตอนนี้เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับสิ่งเกินคาดจากมันในตอนนี้เข้า

 

[เดิมที่ราชวงศ์แห่งโอเบเรียมสามารถสร้างพันธสัญญาในการอัญเชิญได้ นั่นจึงเป็นเหตุว่าทําไมดาร์คลอร์ดจึงเกรงกลัวพวกเรา ทว่า พวกเราตอนนี้ล้วนกลายเป็นวิญญาณ พันธสัญญาดังกล่าวไม่อาจส่งผลระหว่างชีวิตและความตาย ตอนนี้พวกเราเป็นวิญญาณ พวกเราจึงช่วยเจ้าได้แต่วิธีนี้ แน่นอนว่าเจ้าอาจต้องเสียชื่อเสียงไปบ้างเพื่อสร้างพันธสัญญากับวิญญาณของพวกเรา แต่ได้โปรดรับไว้ นี่คือการแสดงความจริงใจของพวกเรา]

 

หากเขาเรียนทักษะนี้ก็จะมีปัญหาเรื่องค่าชื่อเสียง หรือก็คือจําเป็นต้องจ่ายค่าชื่อเสียงเพื่อเรียนรู้ทักษะ

 

“แต่กับทักษะที่ต้องการชื่อเสียงถึง 6,000 หน่วย…”

 

ตอนนี้อาร์คมีชื่อเสียง 11,825 หน่วย กว่าครึ่งของชื่อเสียงต้องหายไป เขาอดไม่ได้ที่จะลังเล แต่โอกาสแบบนี้จะวนกลับมาอีกครั้งหรือ? นอกจากนี้ ค่าชื่อเสียงยังไม่ได้มีผลอะไรเป็นพิเศษกับอาร์ค ถ้าหากมันจะทําให้เรียนทักษะใหม่ได้ ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธ

 

“เพียงแค่ที่ราชาแห่งโอเบเรียมพูดยังไม่เข้าใจความสามารถของทักษะ แต่ค่าชื่อเสียง 6,000 ไม่ใช่อะไรง่ายได้รับมา มันต้องเป็นทักษะที่ไม่ธรรมดาแน่”

 

“กับโลกใบนี้ผมหาได้สนใจไม่ว่าจะคิดเห็นอะไรกับเรา ด้วยเหตุนี้ผมขอรับเกียรตินี้เอาไว้ ท่านกล่าวว่าในอดีตไม่ อาจได้รับเกียรติยศมานั้นไม่ใช่ความจริง เพราะความเสียสละของเหล่านักรบผู้ทรงเกียรติแห่งโอเบเรียม ทุกชีวิตถึงสามารถอยู่กันได้อย่างสงบสุข ไม่ว่าโลกจะคิดเห็นยังไง ผมก็จะมองพวกท่านเป็นผู้กล้าที่แท้จริง เพราะแบบนั้นแล้วผมจะปฏิเสธความหวังดีครั้งนี้ได้ยังไงกัน?”

 

เป็นวาทศิลป์ อาร์คแสดงความจริงใจส่วนหนึ่งยกยอส่วนหนึ่งเพื่อพิชิตใจบรรดาวิญญาณเหล่านี้

 

[ขอบคุณ พวกเราจะได้มีชีวิตใหม่]

 

[พวกเราขอฝากชีวิตไว้กับอาร์คนิม!]

 

ฝูงชนประชากรชาววิญญาณต่างคุกเข่าลงร้องตะโกน เมื่อราชาแห่งโอเบเรียมปล่อยมือเขา ที่มือของอาร์คตอนนี้ก็ปรากฏผนึกที่ส่องประกาย มันเป็นรูปโล่ที่มีดาบไขว้กันไว้เป็นรูปตัว X และยังมีตราสัญลักษณ์เหมือนอย่างที่สลักไว้บนหน้าอก ชุดเกราะของเหล่าทหารวิญญาณ ตราสัญลักษณ์นี้ส่อง ประกายเพียงชั่วครู่ก่อนจะหายไปพร้อมหน้าต่างข้อมูลที่ปรากฏ

 

ท่านได้เรียนรู้ทักษะระดับตํานาน

 

ศาสตร์ลับ กองทัพอัศวินวิญญาณ (พิเศษ, ขั้นต้น, เรียกใช้งาน) : ด้วยพันธสัญญากับคนตายภายในโอเบเรียมที่พร้อมถูกอัญเชิญ อัศวินวิญญาณทั้งสามสิบสามารถถูกอัญเชิญออกมาได้ กองกําลังวิญญาณนี้จะเข้าโจมตีศัตรูอย่างสุ่ม เป็นระยะเวลา 5 วินาทีก่อนจะหายไป อัศวินวิญญาณเหล่านี้สร้างความเสียหายทางกายภาพ และหากตายไปก็สามารถฟื้นคืนชีพ เมื่อศักยภาพของทักษะเพิ่มขึ้น พลังอํานาจ การโจมตีของอัศวินวิญญาณจะเพิ่มมากขึ้น ทว่าการอัญเชิญอัศวินวิญญาณจําเป็นต้องใช้พลังจิตวิญญาณ

 

อัญเชิญอัศวินวิญญาณ! มันเป็นทักษะไว้ใช้เรียกอัศวินวิญญาณออกมาเพื่อโจมตีศัตรูเป็นระยะเวลาห้าวินาที! มันคือทักษะอัญเชิญแบบเป็นวงกว้าง!

 

“อัญเชิญอัศวินต้องจ่ายพลังจิตวิญญาณ 300 หน่วย เรื่องสมุนอัญเชิญของเราก็ไม่ต้องใช้พลังจิตวิญญาณเพื่อเรียกตัวอีกต่อไปแล้ว ถือว่าประจวบเหมาะพอดี แล้วมันก็ดีมากเลยด้วยที่ใช้พลังจิตวิญญาณแทนพลังมานา”

 

นอกจากนี้การโจมตีด้วยทักษะดังกล่าวยังแตกต่างจากทักษะโจมตีพื้นที่แบบอื่น ยกตัวอย่าง จรัสแสงเป็นทักษะส่งผลเป็นพื้นที่โดยจะสร้างความเสียหาย 100 หน่วยกับศัตรู แต่หากใช้ทักษะพลาดไปความเสียหาย 100 หน่วยนี้ก็ไม่นับว่าเคยเกิดขึ้น ท้ายที่สุด การใช้คมดาบวายุถือว่าดีกว่าในการจัดการศัตรู ส่วนทางด้าน “กองทัพอัศวินวิญ ญาณ” เป็นทักษะที่ใช้อัญเชิญวิญญาณของอัศวินออกมา กองกําลังทั้งสินสามสิบชีวิตจะเข้าโจมตีหนึ่งเป้าหมายอย่างไม่เสียดายชีวิต หรือก็คือ มันจะแตกต่างจากทักษะอื่นเพราะเป็นการใช้แบบการปะทะหนึ่งต่อหนึ่งก็ได้หรือหนึ่งปะทะมากก็ได้… ไม่สิ หากเป็นหนึ่งปะทะหนึ่งมันจะยิ่งทรงพลังอํานาจยิ่งขึ้นไปอีก

 

“ขอบคุณครับ!”

 

อาร์คที่ยินดีจึงเข้าไปคว้ามือของราชาแห่งโอเบเรียมไว้ เขาไม่ได้รับสิ่งตอบแทนเป็นรูปธรรมก็จริง แต่ความรู้สึกไม่ สบายใจก่อนหน้านี้หายหมดสิ้นแล้ว ไม่สิ ทักษะนี้เป็นรางวัลที่เกินกว่าอะไรที่เขาคาดหวังไว้ทั้งหมดด้วยซ้ํา

 

[พวกเรายินดีและเป็นเกียรติที่จะได้ช่วยเหลือ] ราชาแห่งโอเบเรียมพยักหน้ารับด้วยความอบอุ่นใจ

 

ด้วยเหตุนี้อาร์คจึงสามารถจบเรื่องราวกับราชาแห่งโอเบเรียมด้วยความประทับใจทั้งสองฝ่ายได้ เมื่ออาร์คคิดกล่าวอําลา วิญญาณหลายดวงก็เข้ามาใกล้พร้อมเผยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

 

[องค์ราชา มีปัญหาไม่คาดคิดเกิดขึ้น]

 

เกิดอะไรขึ้นกัน?]

 

[ความจริงแล้ว…]

 

ทหารหลายนายตอนนี้ไปรวมตัวกันอยู่ที่หนึ่ง มันคือตําแหน่งที่พ่อค้าคนตายเคยอยู่ ทว่า พวกเขาทั้งหมดที่รวมตัวกันอยู่กําลังเผยความหวาดกลัวในดวงตา พวกเขารวมตัวกันแล้วไปเรียกทั้งอาร์คและราชาแห่งโอเบเรียมให้มาตรวจสอบ

 

[องค์ราชา ไอเทมเหล่านั้น…]

 

[ไอเทม?]

 

[ครั้งพวกเราถูกสาป ไอเทมเหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับขยะ แต่หลังจากอาร์คนิมต่อสู้กับคาร์ม่าและผนึกเวทมนตร์ของมันเอาไว้ในวัตถุเหล่านั้น พวกมันก็เริ่มส่องแสงและแผ่ออร่าน่าขนลุกจนไม่อาจเข้าใกล้ขอรับ]

 

พ่อค้าที่ลอยอยู่ตรงหน้าอาร์คตอนนี้ก็เผยสีหน้าไม่สู้ดี หลังทําการผนึกปีศาจเอาไว้ในสิ่งของเขาก็ลืมเลือนไปสนิท มันเป็นเพราะวิญญาณสามารถรู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่า พวกเขาจึงเกิดอาการหวาดกลัวต่อพวกมัน

 

“อย่าบอกนะว่าเราต้องจ่ายค่าของพวกนี้?”

 

เป็นอาร์คเผยสีหน้ากังวล ราชาถึงกับโกรธเกรี้ยวเมื่อสรุปเรื่องราวได้

[ว่าอะไร? คิดอยากให้เขารับผิดชอบอย่างนั้นรึ?]

 

พ่อค้าถึงกับสะดุ้งเร่งร้อนโบกมือ

 

(ไม่ใช่ พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นขอรับ]

 

[แต่ไอเทมพวกนี้น่าสะพรึงเกินไป และยังมีอยู่ทุกที พวกเรากลัวแม้เฉียดเข้าไปใกล้ๆ

 

(ได้โปรดนําสิ่งของน่ากลัวเหล่านี้ไปให้พ้นด้วย)

 

เอ็ม ดูเหมือนไอเทมที่ใช้ผนึกจะเป็นอันตรายต่อพวกเขาที่เป็นวิญญาณ และมันยังไม่สามารถทําลายได้เพราะจะเป็นการปลดปล่อยเวทมนตร์ออกมา… ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นอีก เวทมนตร์คําสาปนั้นจะฟื้นคืนกลับมา แต่พวกเราที่เป็นดวงวิญญาณก็ถูกผูกมัดเอาไว้กับโอเบเรียม.

 

ราชาแห่งโอเบเรียมพอได้ยินเรื่องราวก็เริ่มครุ่นคิดแล้วพึมพํากับตัวเอง แต่แล้วก็เป็นอาร์คที่เอ่ยขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกาย

 

“ผมรับผิดชอบเองครับ”

 

[เจ้าหรือ?]

 

“ครับ เป็นผมเองที่ผนึกเวทมนตร์เอาไว้ในของพวกนี้ ถ้าหากมอบไอเทมพวกนี้ให้ผมผมจะนํามันไปยังสถานที่ปลอด ภัยให้ครับ”

 

[โอ้ ใช่แล้ว เจ้าคือผู้ผนึกเวทมนตร์ลงไอเทมเหล่านี้ เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา พวกเจ้าล่ะว่ายังไง?]

 

ได้โปรด ถือว่าขอร้อง เอาของพวกนี้ไปให้พ้นที]

 

“หึหึหึ ได้ของมาเพิ่มอีกแล้ว”

 

อาร์คแอบหัวเราะภายในกับคําตอบที่พ่อค้าคนตายมอบให้ ไอเทมที่ใช้ผนึกจะก่อผลเสียร้ายแรงต่อวิญญาณ แต่สําหรับอาร์ค… ไม่สิ กับเอ็นพีซีทั่วไปหรือผู้เล่นมันไม่อันตรายใดทั้งสิ้น แน่นอนว่ามันดูดซับพลังเวทปีศาจเข้าไป แต่ใครจะรู้กันว่ามันเปลี่ยนไปยังไง? อย่างน้อยเอาไปขายเป็นเศษเหล็กที่ไหนสักแห่งก็ยังได้ แถมถ้าร้านค้าไม่รับซื้อเขาก็โยนมันทิ้งในภายหลังก็เท่านั้นเอง

 

“อะไรก็ดี เราได้เรียนทักษะกองทัพอัศวินวิญญาณมาได้ ก็เพราะมีค่าความสัมพันธ์กับพวกเขาสูง

 

อาร์ครับสิ่งของอย่างยินดีพร้อมทั้งสีหน้ายังดีขึ้นไม่น้อย ทว่า ปากของเขากลับต้องอ้าออกกว้างเมื่อหยิบไอเทมขึ้นมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าขยะที่กองตรงหน้าจะกลายเป็นสมบัติเสียอย่างนั้น

 

ดาบเก่าต้องสาป

 

ประเภท : ดาบมือเดียว

 

พลังโจมตี : 7-10 (+50)

 

ความทนทาน : 8

 

น้ําหนัก : 45

 

ข้อจํากัดการใช้งาน : เลเวล 250 ขึ้นไป

 

ดาบที่ถูกใช้งานโดยนักรบโบราณแห่งโอเบเรียม ทว่าดาบนี้กลับดูดซับพลังเวทปีศาจเข้าไปจนเกิดความเปลี่ยนแปลง ด้วยเวทมนตร์อันทรงพลังมันจึงเสริมให้ดาบนี้สามารถสะบั้นศัตรูได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความทนทานที่น้อยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ผู้เล่นยังจะได้รับคําสาปเป็นค่าตอบแทนการใช้พลังโจมตีที่มากขึ้นจนกว่าคําสาปจะถูกปลดออก

 

*ไม่สามารถซ่อมแซมหรือเสริมศักยภาพได้

 

*ด้วยผลของคําสาป ผู้เล่นจะได้รับความเสียหาย 50 หน่วยทุกระยะเวลา 10 วินาที

 

โล่เก่าต้องสาป (วิเศษ)

 

ประเภท : โล่เหล็กกล้า

 

พลังป้องกัน : 30 (+250)

 

ความทนทาน : 7

 

น้ําหนัก : 30

 

ข้อจํากัดการใช้งาน : นักรบเลเวล 150 ขึ้นไป

 

โล่เก่าที่ยากจะบอกได้ว่าสร้างขึ้นจากอะไร ทว่าโลนี้ได้ดูดซับพลังเวทปีศาจเอาไว้จนเกิดความเปลี่ยนแปลง เมื่อโล่ถูกโจมตี เวทมนตร์จะถูกปลดปล่อยทําให้ผู้โจมตีได้รับความเสียหาย พร้อมกันนั้น ความทนทานของโล่จะลดน้อยลง นอกจากนี้ผู้เล่นยังจะได้รับผลจากคําสาปโดยการต้องรับความเสียหายจนกว่าโล่จะพังทลาย

 

*ไม่สามารถซ่อมแซมหรือเสริมศักยภาพ และไม่สามารถถอดได้จนกว่าจะพัง

 

*ด้วยผลของคําสาป ผู้เล่นจะได้รับความเสียหาย 50 หน่วยทุกระยะเวลา 10 วินาที

 

“เอาจริงเหรอเนี่ย พลังโจมตี +50 เลย? เท่ากับว่าดาบนี่ พลังโจมตี 57-60?”

 

ดวงตาของอาร์คแทบถลนได้จนเหมือนกับบุคซิลอาร์คตอนนี้ใช้งานดาบหายากสองมืออยู่ ดาบแห่งกิลซาล มีพลังโจมตีก็แค่ 40-50 เท่านั้น แต่แล้วพลังโจมตีของดาบมือเดียวตรงหน้านี้กลับเหนือล้ำยิ่งกว่า แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดีทั้งหมด มันมีคําสาปติดอยู่และความทนทานก็มีเพียงแค่ 8 นอกจากนี้ยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ ทั้งโล่นั่นยังมีเงื่อนไขไม่สามารถถอดได้และผู้เล่นจะได้รับความเสียหาย 50 หน่วยทุกสิบวินาที หรือเท่ากับความเสียหาย 300 หน่วยภายในหนึ่งนาที ภายในสิบนาทีก็เท่ากับ 3,000 หน่วย! หากผู้เล่นมีพลังชีวิตน้อยนิด เพียงแค่สิบนาที่พวกเขาก็ลาโลกแล้ว สมชื่ออุปกรณ์ต้องสาป!

 

“แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาไปใช้ยังไง”

 

ด้วยความทนทานที่มีเพียงแค่ 8 หน่วย ใช้งานไม่กี่ครั้งก็คงพังแล้ว หรือก็คือ มันจะพังก่อนพลังชีวิตเขาหมดเสียอีก แน่นอนว่าความเสียหายที่ได้รับในระหว่างนั้นก็ไม่ใช่น้อย แต่อย่างน้อยมันก็สามารถสร้างความเสียหายจํานวนมากให้ศัตรูได้ และระหว่างการต่อสู้เขายังสามารถเปลี่ยนดาบได้อย่างอิสระ หากต่อสู้กับศัตรูจํานวนมากใช้งานดาบนี้จนพัง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

 

“ไม่สิ มันไม่จําเป็นต้องทําอะไรให้ยุ่งยากขนาดนั้นนี่นา”

 

อาร์คสามารถใช้งานคมดาบวายุ ยิ่งดาบที่นํา มาใช้ทรงพลังอํานาจเพียงใด ความเสียหายของคมดาบวายุก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ก่อนนั้นดาบที่มีพลังโจมตีสูง อมต้องเป็นของมีราคา เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่เคยใช้ในรูปแบบดังกล่าวมาก่อน นอกจากนี้พลังโจมตีของดาบพวกนี้ยังเทียบเท่ากับดาบหายากได้เลยด้วยซ้ํา และดาบต้องสาปก็ยอมต้องมีคุณลักษณะของปีศาจอยู่ด้วย หากเขาใช้งานดาบนี้จนเกิดเป็นพายุดาบ ความเสียหายที่ทําได้ย่อมเกินคาดคิด ดาบต้องสาปเล่มเดียวก็แทบจะเทียบเท่ากับดาบสามสิบเล่ม! มันคล้ายกับอาร์คถือขีปนาวุธไว้ในมือถึงสามสิบพร้อมกันเลยทีเดียว!

 

“เป็นไอเทมที่ดีไม่เลวเลยนะเนี่ย”

 

ตอนแรกเขาก็คิดว่าอย่างน้อยเอาไปขายในร้านก็คงได้ แต่ไอเทมพวกนี้มันไม่สามารถซ่อมแซมและยังสร้างความเสียหายให้กับผู้ใช้งานเมื่อสวมใส่ ผู้เล่นปกติคงไม่มีทางซื้อแน่ แต่ตอนนี้พวกมันจากที่เคยมีค่าไม่กี่เหรียญเงินกลับกลายเป็นสิ่งของมากประโยชน์สําหรับเขาแทนเสียอย่างนั้น

 

“ถูกหวยชัด ๆ!”

 

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset