Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1926 สง่างามไร้เทียมทาน

ตอนที่ 1926 สง่างามไร้เทียมทาน
“เคาะกระดิ่งวิญญาณจักรพรรดิเพลิง มีศัตรูภายนอกบุกหรือ”
ทันทีที่เจียงหลิวหั่วและเจียงหลันสุ่ยมาถึง สายตากพลันจับจ้องที่ป๋อหยาจื่อ
เจียงอวี่ถงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทันที
ฟังจบเจียงหลิวหั่วปลดน้ำเต้าเพลิงแดงตรงเอวลง ดื่มเหล้าคำหนึ่ง สีหน้าเย็นชา “สู้สุดชีวิตหรือ เจ้าลองดูได้ว่าจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับตระกูลเจียงของข้าได้หรือไม่”
เจียงหลันสุ่ยที่ผมขาวทั้งหัวราวกับชายชรากลับถอนหายใจยาวคราหนึ่ง เอ่ยพูดว่า “เวรกรรมจริงๆ ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เหตุใดคีรีดวงกมลของพวกเจ้าถึงไม่หยุดซะบ้าง”
ป๋อหยาจื่อแค่นเสียงขึ้นจมูก “เหตุใดข้าจำได้ว่าก่อนศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ ท่าทีที่เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงมีต่อคีรีดวงกมลของข้าไม่ใช่แบบนี้”
เจียงอวี่ถงสีหน้าอึมครึม “แต่คีรีดวงกมลของเจ้าล่มสลายไปแล้ว ตระกูลเจียงของข้าก็เสียหายอย่างหนักเพราะเรื่องนี้ ยังจะให้พวกเราปฏิบัติกับเศษเดนอย่างพวกเจ้าอย่างไร”
“เศษเดนหรือ”
หลินสวินที่ถูกมองข้ามมาโดยตลอด ตอนนี้พลันเอ่ยขึ้น นัยน์ตาดำดุจเหวลึกล้ำหาใดเปรียบ “ข้านับถือพวกเจ้าเป็นผู้อาวุโส จึงทนมาโดยตลอด แต่พวกเจ้า… กำเริบเสิบสานเกินไปหรือไม่”
น้ำเสียงราบเรียบ
บุคคลระดับจักรพรรดิสี่คนอย่างเจียงอวี่ถง เจียงรุ่ย เจียงหลิวหั่วและเจียงหลันสุ่ยอึ้งไปโดยพร้อมเพรียง
เจ้าตัวจ้อยระดับมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งกล้าพูดแบบนี้กับพวกเขาได้อย่างไร
นี่เห็นชัดว่าเหลวไหลมาก
ควรรู้ว่าทอดสายตามองไปทั่วโลกฟ้าดารา ระดับจักรพรรดิก็เหมือนนายเหนือหัวสูงสุด เป็นที่เชิดชูของผู้คนนับไม่ถ้วน
แม้เป็นกึ่งจักรพรรดิ ในสายตาระดับจักรพรรดิที่แท้จริงก็ยังเล็กจ้อยเหมือนมดปลวก!
แต่ตอนนี้มกุฎราชันอริยะคนหนึ่งกลับบอกว่าพวกเขา… กำเริบเสิบสานเกินไป!
“กำเริบเสิบสานหรือ ต่อให้ข้าฆ่าเจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับการบี้มดตัวหนึ่งตาย”
เจียงอวี่ถงน้ำเสียงเหี้ยมโหด อานุภาพน่าสะพรึงไร้ขอบเขตสายหนึ่งแผ่ออกมา ราวกับเจตจำนงฟ้าเบื้องสูงมาเยือน กดข่มหลินสวิน
“คิดเล่นงานอาจารย์อาเล็กของข้า ข้ามศพข้าไปก่อน!”
ป๋อหยาจื่อก้าวออกไปก้าวหนึ่ง เสื้อผ้าพลิ้วไหว ปลดปล่อยกลิ่นอายสายหนึ่งออกมา สลายอานุภาพสายนั้นจนไร้รูป
ท่าทางเขาเด็ดขาดผงาดผยอง
“อาจารย์อาเล็กหรือ”
เจียงหลิวหั่วอดหัวเราะไม่ได้ “ระดับจักรพรรดิเช่นเจ้า กลับเรียกเจ้าตัวจ้อยคนหนึ่งว่าอาจารย์อาเล็ก ช่างขายหน้าระดับจักรพรรดิของพวกนัก”
“ช่างเถอะ จับตัวพวกเขาไว้ก่อน ถามจุดประสงค์แท้จริงที่พวกเขามาที่นี่ให้ชัดแล้วค่อยจัดการพวกขา”
เสียงเจียงหลันสุ่ยแก่ชราแหบพร่า แต่ท่าทีกลับแข็งกร้าวและเผด็จการอย่างที่สุด
ประโยคเดียวดุจคำสั่ง ทำให้พวกเจียงอวี่ถง เจียงรุ่ยและเจียงหลิวหั่วทั้งสามคนล้วนโคจรพลังโดยไม่ได้นัดหมาย
ตูม!
กลิ่นอายระดับจักรพรรดิที่ราวกับมังกรใหญ่มากมายออกจากเหวครอบฟ้าคลุมตะวัน ทำให้ถ้ำสวรรค์แดนมงคลแถบนี้ถูกปิดล้อมทั้งหมด ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
เจียงหลันสุ่ยค้ำไม้เท้าไผ่เขียวเจ็ดฉื่อ เคาะพื้นดินพลางเอ่ย “ที่นี่คือเมืองจักรพรรดิเพลิงของพวกเรา เดี๋ยวตอนลงมือต้องระวังหน่อย อย่าให้เกิดความเสียหายต่อคนในตระกูลเรา”
“นี่ย่อมแน่นอน”
พวกเจียงอวี่ถงล้วนเผยรอยยิ้ม ท่าทางผ่อนคลาย
ระดับจักรพรรดิสี่คน ยังจะจัดการเศษเดนแห่งคีรีดวงกมลคนหนึ่งไม่อยู่เชียวหรือ
บรรยากาศคุกรุ่น
ป๋อหยาจื่อสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เอวพลันยืดตรง ท่าทางเด็ดเดี่ยว สื่อจิตว่า ‘อาจารย์อาเล็ก ในมือข้ายังมีไพ่ตายอยู่บ้าง หากสู้สุดชีวิตน่าจะพอมีหวังส่งท่านออกไปอย่างปลอดภัยได้ ต่อไปหากท่านมีโอกาสได้พบท่านอาจารย์ โปรดบอกท่านอาจารย์ว่าปีนั้นที่ข้าสามารถติดตามท่านฝึกปราณ ชีวิตนี้ชาวประมงน้อยอย่างข้าก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจแล้ว!’
พูดจบเขาก็จะลงมือ แต่ข้างหูกลับมีเสียงสื่อจิตของหลินสวินดังมา ‘หากเจ้านับถือข้าเป็นอาจารย์อาเล็ก เรื่องนี้ก็ให้ข้าเป็นคนจัดการ’
อะไรนะ
ป๋อหยาจื่อนัยน์ตาหดรัด แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง นี่มันเวลาใดแล้ว อาจารย์อาเล็กยังกล้าล้อเล่นแบบนี้
นั่นมันระดับจักรพรรดิสี่คนเชียวนะ!
“ลงมือเถอะ”
เจียงหลันสุ่ยเอ่ยปาก ใบหน้าแก่ชราเต็มไปด้วยความเฉยชา
พวกเจียงอวี่ถงต่างพยักหน้า
ตูม!
บนตัวของพวกเขาสี่คนล้วนมีกฎเกณฑ์ของระดับจักรพรรดิปรากฏ ราวกับโซ่เทพแห่งสวรรค์ที่พร่างพราวเป็นสายๆ ตัดสลับเข้าด้วยกัน สว่างไสวร้อนแรง กลิ่นอายน่ากลัวเยี่ยมยอดพรั่งพรูออกมา
เพียงแค่อานุภาพนั้นก็สามารถถล่มภูผาธาราได้!
“กำราบ!”
พวกเจียงอวี่ถงสี่คนลงมือพร้อมกัน
เจียงอวี่ถงเรียกกระบี่มรรคเล่มหนึ่งออกมา คมกระบี่ดุจสายฟ้า สะดุดตาดั่งตะวัน สะท้อนภาพน่ากลัวที่เพลิงหลอมสวรรค์ สรรพสิ่งล้วนมอดไหม้
กระบี่มรรค ‘วิญญาณผลาญ’!
เจียงรุ่ยสะบัดแขนเสื้อ แส้อ่อนสีทองเส้นหนึ่งทะยานฟ้า เงาแส้เป็นชั้นๆ กลายเป็นทะเลกฎเกณฑ์สีทอง ราวกับแม่น้ำเซียนไหลลงมาจากฟ้า
แส้เทพ ‘นทีทอง’!
วู้ม…
น้ำเต้าเพลิงแดงในมือเจียงหลิวหั่วบินขึ้น ประกายไฟพวยพุ่ง ปากน้ำเต้าพรั่งพรูกะทันหัน ปรากฏสะเก็ดเพลิงหม่นมัว
น้ำเต้าวิญญาณ ‘เพลิงขุ่น’
เจียงหลันสุ่ยชูไม้เท้าไผ่เขียวเจ็ดฉื่อในมือขึ้นมาจรดกลางอากาศ สายฟ้าเขียวมรกตนับไม่ถ้วนรวมตัวกัน กลายเป็นใบไผ่ที่โปร่งแสงเป็นประกาย สว่างไสวกลางอากาศ
สมบัติโบราณ ‘ไม้เท้าไผ่อสนีฟ้า’!
พริบตาเดียวระดับจักรพรรดิทั้งสี่เรียกสมบัติจักรพรรดิออกมาสี่ชิ้น ลงมือพร้อมกันด้วยอานุภาพประดุจอสนีบาตร เห็นชัดว่าต้องการเร่งการต่อสู้ให้จบลงอย่างรวดเร็ว กำราบป๋อหยาจื่อในคราเดียว
เพราะถ้ายื้อเวลานานไป จะต้องส่งผลกระทบต่อเมืองจักรพรรดิเพลิงแน่!
นี่เป็นสิ่งที่พวกเจียงอวี่ถงทนไม่ได้เด็ดขาด
ชั่วพริบตาไอสังหารปกคลุมมา
ป๋อหยาจื่อสีหน้าเปลี่ยนไปทันที กลั้นหายใจ รู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายที่แรงกล้าอย่างที่สุด
เขาไม่อาจสนใจสิ่งอื่น และไม่อาจมัวแต่ซักถามความคิดของหลินสวิน ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้หลินสวินร่วงหล่นที่นี่ได้
ทว่าตอนที่ป๋อหยาจื่อจะลงมือ
เงาร่างสง่างามสายหนึ่งชิงปรากฏตัวก่อนเขากะทันหัน ยกมือกดลงกลางอากาศ
นี่คือหญิงที่ราวกับมายาคนหนึ่ง ร่างกายอาบอยู่กลางประกายหมอกเทพที่ราวกับภาพฝัน เจือกลิ่นอายโดดเด่นศักดิ์สิทธิ์
นางราวกับอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว ท่าทางใจเย็น การกระทำก็ราบเรียบ แต่ตอนที่มือหยกขาวผ่องเรียวยาวของนางกดลงกลางอากาศ
เสียงวู้มหนึ่งดังครวญ กระบี่มรรควิญญาณผลาญราวกับงูที่ถูกแทงจุดสำคัญ พลันสั่นอย่างรุนแรงแล้วทะยานถอยออกไปอย่างโซซัดโซเซ ประกายเพลิงอับแสง
เจียงอวี่ถงใจสะท้าน เลือดลมย้อนกลับ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
จากนั้นเสียงหนักทึบน่ากลัวระลอกหนึ่งก็ดังมา กลิ่นอายมรรคจักรพรรดิระเบิดออกในที่นั้นราวกับภูเขาถล่มสมุทรซัดสาด ละอองแสงกฎเกณฑ์ที่พร่างพราวงดงามโปรยปรายลงมา
ก็เห็น…
แส้เทพนทีทองของเจียงรุ่ยกลับตวัดกลับ ฟาดใส่ร่างเจียงรุ่ยอย่างแรง ฟาดจนไหล่เขาเลือดสาด ส่งเสียงครวญในคอ เงาร่างเซถอยไปหลายก้าว
ก็เห็น…
น้ำเต้าเพลิงแดงของเจียงหลิวหั่วกระแทกลงพื้นดังปัง ส่วนริมฝีปากเขามีเลือดไหลออกมา สีหน้าก็พลอยหวาดหวั่น
ก็เห็น…
เสียงตูมดังขึ้น ใบไม้ที่ควบรวมจากสายฟ้าเขียวมรกตนับไม่ถ้วนพลันระเบิดออก กลายเป็นละอองแสงหลากสี
เจียงหลันสุ่ยลมหายใจสะดุด ไม้เท้าไผ่เจ็ดฉื่อที่ชูขึ้นสั่นไหวรุนแรง
ทุกอย่างพูดเหมือนช้า ความจริงล้วนเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
เร็วเกินไปแล้ว!
เร็วจนหลินสวินยังไม่ทันตอบสนอง การโจมตีจากระดับจักรพรรดิทั้งสี่อย่างพวกเจียงอวี่ถงก็ถูกสลายไปหมดแล้ว
และตั้งแต่ต้นจนจบ เงาร่างสง่างามที่ราวกับมายานั่น เพียงแค่ลงมือกดกลางอากาศครั้งเดียวเท่านั้น!
ป๋อหยาจื่อที่เตรียมเผชิญความตายอยู่แล้วสูดหายใจสะท้านโดยพลัน เขาเป็นถึงสัตว์ประหลาดเฒ่าที่บรรลุจักรพรรดิมานานแล้วคนหนึ่ง ทว่าแม้แต่เขายังถูกภาพอันเหลือเชื่อนี้ทำเอาสะท้านสะเทือน
ยามทุกอย่างสงบลง สีหน้าของพวกเจียงอวี่ถงต่างเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม สายตาล้วนจับจ้องแขกไม่ได้รับเชิญซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
นี่เป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจนคนนหนึ่ง เงาร่างสง่างามสูงโปร่ง มีแสงพิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนฝันดุจมายาไหลหลั่ง
นางยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง เผยความสันโดษและเย็นชา
ทว่ากลิ่นอายบนตัวนางกลับทำให้พวกเจียงอวี่ถงหวั่นหวาด เพราะไม่สามารถมองตื้นลึกหนาบางออกได้เลย!
“ผู้อาวุโส ถูกบีบจนหมดหนทาง จึงทำได้เพียงรบกวนให้ท่านลงมือแล้ว”
และตอนนี้หลินสวินถึงเอ่ยปากอย่างแฝงความจนใจ
หญิงผู้นี้ก็คือ ‘ซี’ ที่อยู่ในห้องโถงมรรคาสวรรค์!
หลายปีมานี้หลินสวินคิดว่าจะไม่ยืมพลังของซีอีกแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็พบว่ายามเผชิญหน้ากับตัวตนระดับจักรพรรดิ เขายังคงเล็กจ้อยเกินไป!
ประโยคเดียวทำให้พวกเจียงอวี่ถงหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เพิ่งจะตระหนักได้ว่าเจ้าตัวจ้อยที่ถูกพวกเขามองว่าไร้ค่าราวมดปลวก ดันเตรียมตัวมาก่อน
ด้านป๋อหยาจื่อยามนี้ถึงค่อยโล่งอก ในใจนอกจากความตะลึงยังอดภาคภูมิใจไม่ได้ นี่เป็นถึงศิษย์น้องเล็กของท่านอาจารย์ จะใช่คนที่ใครก็รังแกได้ง่ายๆ ได้อย่างไร
ความรู้สึกเช่นนี้ของเขา เหมือนตอนเหิงเซียวเห็นหลินสวินชิงอันดับหนึ่งในศึกถกมรรคแคว้นเมฆามาได้ไม่ผิดเพี้ยน
“เรื่องเล็กเรื่องหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึงกับลำบากอะไร ข้าเองก็ไม่ได้ออกมาสูดอากาศนานแล้ว”
เสียงของซีเย็นชาและว่างเปล่า
เรื่องเล็กเรื่องหนึ่ง…
หลินสวินอดอึ้งไปไม่ได้ นี่เป็นถึงศึกระหว่างระดับจักรพรรดิ ทว่าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง เหตุใดมาถึงมือซีกลับกลายเป็นเรื่องเล็กเรื่องหนึ่งไป
“สหายยุทธ์เป็นใคร จะยุ่งเรื่องของตระกูลเจียงด้วยอีกคนหรือ”
เจียงหลันสุ่ยเอ่ยเสียงขรึม ไม่กล้าลงมือโดยพลการ
กลิ่นอายบนตัวของซีคลุมเครือยากคาดเดา ทำให้เขารู้สึกถึงภัยคุกคามยิ่งยวด
พวกเจียงอวี่ถงก็เช่นเดียวกัน การปรากฏตัวของซีกะทันหันมาก แต่เห็นได้ชัดว่านี่เป็นหญิงที่น่ากลัวอย่างที่สุดคนหนึ่ง
เพียงยกมือก็สามารถสลายการโจมตีเต็มกำลังของพวกเขาได้แล้ว นี่จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร
ซีไม่ได้สนใจเจียงหลันสุ่ย เพียงถามหลินสวินเสียงเบาๆ “ดูออกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะรังแกเจ้า เจ้าว่าตอนนี้จะจัดการพวกเขาอย่างไร”
ประโยคเดียวทำเอาเจียงอวี่ถงอดพูดไม่ได้ “สหายยุทธ์ นี่เป็นถึงเมืองจักรพรรดิเพลิง แม้เจ้ามีความสามารถยิ่งใหญ่ ก็…”
พูดยังไม่ทันพบก็เห็นซีดีดนิ้วคราหนึ่ง
ปัง!
ทั้งตัวเจียงอวี่ถงกระเด็นถอยออกไป ริมฝีปากกระอักเลือด สะบักสะบอมอย่างที่สุด
นี่ทำให้พวกเจียงหลันสุ่ยต่างอกสั่นขวัญแขวน
ระดับจักรพรรดิยืนตระหง่านบนยอดฟ้าดารามาเนิ่นนาน ถูกมองว่าเป็นตัวตนระดับนายเหนือหัวสูงสุด ครองอานุภาพปกฟ้าคลุมดิน
ทว่าคนที่อยู่ในระดับจักรพรรดิเท่านั้นที่รู้ว่า ระดับจักรพรรดิเป็นเส้นทางที่คลุมเครือและยาวนานอย่างที่สุดสายหนึ่ง อยู่ในระดับจักรพรรดิเหมือนกัน ช่องว่างระหว่างกันกลับห่างกันมาก
ก็เหมือนดั่งการปีนขึ้นภูเขาใหญ่ลูกเดียวกัน บางคนเพียงยืนอยู่ตรงตีนเขา บางคนปีนถึงกลางเขา และบางคนก็ขึ้นไปถึงยอดเขานานแล้ว!
หญิงที่ดูลึกลับอย่างที่สุดคนนี้ เป็นบุคคลน่ากลัวซึ่งมีพลังเหนือกว่าที่พวกเขาคาดอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ตอนที่ข้าพูด ไม่ชอบให้ใครแทรก”
ซีเอ่ยพูดอย่างเย็นชาในยามนี้
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ได้ยินคำพูดนี้พวกเจียงอวี่ถงจะต้องไม่พอใจแน่ แต่ตอนนี้พวกเขาต่างเงียบกริบ แต่ละคนสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้
พวกเขาตระหนักได้ถึงความรุนแรงของปัญหาแล้ว
ต่อให้ที่นี่คือเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง เป็นอาณาเขตของพวกเขา แต่เผชิญกับหญิงลึกลับคนนั้น กลับไม่มีค่าให้พูดถึงสักนิด!
——
Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset