Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1927 จักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์

ตอนที่ 1927 จักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์
บรรยากาศเงียบสงัด
สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิทั้งสี่อย่างพวกเจียงอวี่ถง อานุภาพถูกซีคนเดียวกลบทั้งหมด ไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ
นี่ยิ่งทำให้ซีดูไม่ธรรมดา
เงาร่างของนางสง่างาม ลวงตาดุจภาพความฝัน แม้แต่ป๋อหยาจื่อยังเกิดความรู้สึกอันแรงกล้าว่าผู้หญิงคนนี้…
น่ากลัวเกินไป!
นี่ทำให้เขานึกถึงท่านอาจารย์หลี่เสวียนเวย
เพียงแต่เขากลับไม่สามารถยืนยันได้ว่า หากหญิงผู้นี้เทียบกับท่านอาจารย์ ใครแข็งแกร่งและใครอ่อนแอกว่ากันแน่
เพราะความสำเร็จบนเส้นทางแห่งระดับจักรพรรดิของทั้งสอง ล้วนถึงขั้นที่ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาและไม่สามารถวัดได้แล้ว!
หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโส ข้ามาเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงครั้งนี้เพียงแค่อยากเจอคนผู้หนึ่ง ไม่ได้อยากให้เกิดความวุ่นวายอะไร”
ประโยคเดียวทำให้สีหน้าของพวกเจียงอวี่ถงต่างซับซ้อนขึ้นมา
ภายใต้สถานการณ์ครองความได้เปรียบเช่นนี้ เจ้าหนุ่มนี่กลับไม่คิดเล็กคิดน้อยกับความบาดหมางก่อนหน้านี้ ไม่ได้ฉวยโอกาสโจมตีพวกเขา นี่ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจมาก
ซีเองก็ประหลาดใจอยู่บ้างเช่นกัน
เพราะเมื่อก่อนหากหลินสวินถูกรังแก จะต้องโต้ตอบอย่างไม่เกรงใจสักนิดอย่างแน่นอน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
“หากเป็นเรื่องของตัวข้าเอง ครั้งนี้ย่อมไม่ถือสาว่าจะก่อเรื่องพลิกฟ้าคว่ำดิน!”
หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่งเอ่ยว่า “แต่ตอนนี้ข้าเพียงไม่อยากให้ศิษย์พี่เสวียนคงผิดหวัง ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่คงไม่อยากเห็นเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่”
เขาไม่สามารถลืมสีหน้าเสียใจและผิดหวัง ยามศิษย์พี่เสวียนคงมอบปิ่นปักผมรูปใบไผ่สีเขียวนั่นให้ตนในปีนั้นที่ ‘เมืองมรณะ’ ได้
เขายิ่งไม่ลืมว่า ศิษย์พี่เสวียนคงเพียงกำชับให้ตนมอบปิ่นปักผมนี้ให้เจียงซิงเชวี่ยเท่านั้น ไม่ได้ให้ตนมาก่อเรื่องที่เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง
เพราะฉะนั้นตอนนี้หลินสวินจึงข่มกลั้นความโกรธในใจตน ถึงได้เลือกอดทนแม้จะถูกสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิสี่คนรังแก!
“ได้”
ซีพยักหน้า สายตามองไปยังพวกเจียงอวี่ถง “พวกเจ้ายินยอมหรือไม่”
คำพูดแผ่วเบาประโยคเดียวทำเอาในใจพวกเจียงอวี่ถงต่างบีบรัด สบตากันไปมา สีหน้าอึมครึมไม่อาจสงบ
ในอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง ให้พวกเขาก้มหัวเช่นนี้ในใจย่อมไม่ยินยอมเป็นธรรมดา!
“สหายยุทธ์ ไม่ใช่ว่าพวกข้าใจดำ แต่เรื่องวันนี้ถ้าถูกเปิดเผยออกไป เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงของข้า… จะต้องประสบเคราะห์ใหญ่อีกแน่”
เจียงหลันสุ่ยเอ่ยปากเสียงขรึม
จู่ๆ ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลก็มาเยือนตระกูลของพวกเขา ทั้งยังได้เจอเจียงซิงเชวี่ย นี่ถ้าบรรดาขุมอำนาจที่มองคีรีดวงกมลเป็นศัตรูรู้เข้าจะคิดอย่างไร
“ไม่เปิดเผยก็พอแล้วไม่ใช่หรือ”
ซีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หรือควรพูดว่าในใจพวกเจ้ายังคงไม่ยินยอม เพียงแค่กำลังหาข้ออ้างอยู่”
เจียงหลันสุ่ยใจสะท้านกล่าวว่า “สหายยุทธ์ พวกเราไม่ค่อยจำยอมจริงๆ”
ซีขานรับว่าอ้อคราหนึ่งก็เอ่ยว่า “ข้าให้โอกาสเจ้าแสดงความไม่ยินยอมได้ แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากหนึ่งครั้ง หากพวกเจ้ายังดื้อดึงข้าไม่ถือว่าจะสังหารสักคนสองคน”
พวกเจียงหลันสุ่ยสบตากัน ต่างพยักหน้า
“ที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญของตระกูลข้า ประทับพลังเจตจำนงเสี้ยวหนึ่งของจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์ บรรพชนต้นตระกูลเรา หากสหายยุทธ์สามารถต้านการเข่นฆ่าของพลังนี้ได้ พวกข้าก็ไม่กล้ามีใจต่อต้านอีก”
เจียงหลันสุ่ยพูด
ป๋อหยาจื่อหรี่ตา ทนไม่ไหวอีกต่อไป กล่าวว่า “ทุกท่าน อาจารย์อาเล็กของข้าและ… สหายยุทธ์ท่านนี้ยอมอ่อนข้อให้มากพอแล้ว พวกเจ้ากลับยังยื่นข้อเสนอเช่นนี้ เกินไปหรือไม่!”
พลังแห่งเจตจำนงของจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์ นั่นจะน่ากลัวขนาดไหน
ทว่าตอนนี้กลับเห็นซีตาเป็นประกาย ถึงขั้นเผยสีหน้าสนใจออกมา กล่าวว่า “ถึงว่า ตอนที่ข้าปรากฏตัวสัมผัสได้ว่าที่นี่ซ่อนพลังผิดปกติไว้ ดูท่าคงจะเป็นพลังเจตจำนงของบรรพชนต้นตระกูลพวกเจ้ากระมัง”
พวกเจียงหลันสุ่ยอดตกตะลึงไม่ได้ หญิงผู้นี้สัมผัสได้ตั้งแต่แรกเลยหรือ
“รีบคลายผนึกพลังนั่น ข้าอยากลองดูสักหน่อย ว่าตอนนั้นคนผู้นี้หยั่งถึงนัยเร้นลับ ‘แปลงบรรพชน’ ในระหว่างเสาะแสวงมรรคจักรพรรดิหรือยัง”
แปลงบรรพชน!
คำที่ลึกลับนี้ ทำเอาในใจเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิอย่างป๋อหยาจื่อและพวกเจียงอวี่ถงต่างหวาดกลัว
มรรคจักรพรรดิเก้าชั้นฟ้า ระดับขั้นแปลงบรรพชน นั่นเป็นระดับขั้นชั้นยอดที่พวกเขาไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ!
ชั่วขณะนั้นพวกเจียงหลันสุ่ยต่างลังเลเล็กน้อย ยิ่งรู้สึกถึงความลึกลับไม่อาจคาดเดาของซี
“เป็นอะไรไป”
ซีเหลือบมองพวกเขาคราหนึ่ง
เจียงหลันสุ่ยพลันกัดฟันกล่าวว่า “ลงมือเถอะ”
ทันใดนั้นเขากับเจียงหลิวหั่ว เจียงอวี่ถง และเจียงรุ่ยสี่คน ต่างคนต่างเรียกแผนภาพลายมรรคเปลวเพลิงที่แปลกประหลาดภาพหนึ่งออกมา พุ่งทะยานขึ้นไป
ตอนที่แผนภาพลายมรรคทั้งสี่ภาพรวมตัวกัน ในห้วงอากาศส่องแสงสว่างไสว ปรากฏแสงเพลิงบาดตาไร้ขอบเขต
กลิ่นอายสูงส่งที่เก่าแก่น่ากลัวก็แผ่ออกมา
ป๋อหยาจื่อสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พลันโคจรพลังปกป้องหลินสวิน
ซีเสื้อผ้าโบกสะบัด เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองตรงไปที่แสงเพลิงบาดตานั่น ละอองแสงศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามราวกับภาพความฝันไหลเวียนทั่วตัว
นางเหมือนดูอะไรออก เอ่ยพึมพำว่า “ไม่ผิด กลิ่นอายเช่นนี้แหละ…”
ตูม!
ในแสงเพลิงที่รุนแรงน่าตกตะลึง เงาร่างกำยำอาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งปรากฏตัว หลังศีรษะสะท้อนลักษณ์แห่งธารดาราจักรวาลที่มอดไหม้ ราวกับนายเหนือหัวผู้ควบคุมเพลิงเทพ ครอบครองจักรวาล!
กลิ่นอายชั้นนั้นน่ากลัวจนสามารถทำให้ฟ้าดาราสั่นสะเทือน หมื่นโลกก้มกราบ!
ด้วยพลังสายตาและจิตใจของหลินสวิน มองเงาร่างนี้ไม่เห็นด้วยซ้ำ เพราะสูงส่งและสว่างไสวเกินไป
ต่อให้มีป๋อหยาจื่อปกป้อง แต่ยังคงทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว รู้สึกกดดันปานจะหายใจไม่ออก
‘พลังของจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์เชียวนะ…’
ในใจป๋อหยาจื่อก็สะท้านสะเทือนเช่นกัน นี่เป็นถึงบุคคลสูงส่งในตำนาน เคยเปล่งประกายสะเทือนหมื่นกาล ทั่วหล้าล้วนตะลึง!
ตอนนี้พวกเจียงหลันสุ่ยเองก็สีหน้าตื่นเต้น เผยความคลั่งไคล้เลื่อมใส
นี่คือกลิ่นอายของบรรพชนต้นตระกูลของพวกเขา!
จักรพรรดิเพลิง สมัยดึกดำบรรพ์ต่อสู้ทั่วหล้า กวาดล้างเหล่าศัตรู พร่างพราวเจิดจรัส เป็นที่เคารพเลื่อมใสของทุกคน
ตอนนี้พลังของเขาปรากฏสู่โลกอีกครั้ง!
“ลูกหลานอกตัญญู คารวะท่านบรรพชน”
พวกเจียงหลันสุ่ยต่างโค้งคารวะโดยพร้อมเพรียง
“เกิดเรื่องใดขึ้น”
เงาร่างสูงใหญ่นั่นเอ่ยปาก เสียงทรงพลังราวกับเสียงมรรค สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่ากฎเกณฑ์เปลวเพลิงซัดโหมหลั่งไหลลงมาจากร่างของเขา วิวัฒน์เป็นลักษณ์อัศจรรย์ไร้สิ้นสุด
“ข้าอยากสู้กับเจ้าสักหน่อย”
ซีพูดขึ้น เงาร่างสง่างามก้าวไปเบื้องหน้า รอบตัวปรากฏแสงอันแวววาว
ตอนที่พูด นางกดนิ้วหนึ่งลงโดยพลัน
เพียงการกระทำง่ายๆ แต่ทุกคนต่างดวงาเจ็บปวด จิตวิญญาณสั่นไหว มองไม่เห็นภาพใดๆ อีก ในครรลองสายตา ในจิตรับรู้ ล้วนขาวโพลนทั้งหมด
นี่ทำให้พวกเขาต่างหวาดกลัว
นี่เป็นพลังปราณที่น่ากลัวเพียงใด ถึงทำให้ระดับจักรพรรดิอย่างพวกเขายังไม่มีคุณสมบัติมองดูการต่อสู้นี้
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงเย็นชาของซีดังขึ้น “ที่แท้ตอนนั้นเจ้าก็ไม่เคยย่างออกไปจากก้าวนั้น”
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ถึงเพิ่งเห็ฯในยามนี้ว่าซียืนอยู่เพียงลำพัง เสื้อผ้าพลิ้วไหวสาดประกายแวววาว
และห่างออกไป พลังเจตจำนงของจักรพรรดิเพลิงมีเพลิงศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่ง อานุภาพยังคงเดิม
“คำพูดนี้ของสหายยุทธ์เหลวไหลนัก พลังเจตจำนงนี้ข้าทิ้งไว้ตอนจากไป และที่ข้าจากไป เดิมก็เพื่อก้าวออกจากก้าวนั้น”
เสียงของจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์ทรงพลัง แฝงความเย่อหยิ่งเป็นเอกลักษณ์
“เช่นนั้นหรือ แต่กาลเวลาไร้สิ้นสุดผ่านไ เหมือนว่าร่างต้นของเจ้าก็ยังไม่กลับมา”
ซีพูดเรียบๆ
พวกเจียงอวี่ถงต่างประหลาดใจ
“จะต้องกลับมา”
จักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์น้ำเสียงต่ำลึก ทว่ากลับแฝงความหนักแน่น “ย่างก้าวนี้ ไม่มีทางหยุดเพียงเท่านี้”
ตอนที่สิ้นเสียง เงาร่างของเขาพลันกลายเป็นฝนเพลิงเต็มฟ้าก่อนจะสลายหายไป
ป๋อหยาจื่อถอนหายใจยาว
หลินสวินกลับอึ้งงัน ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์หรือซี ดูเหมือนว่าล้วนกำลังแสวงหาเส้นทางแห่งมรรคที่ต้องการจะทะลวง
เพียงแต่เส้นทางนี้คืออะไรกันแน่
เหตุใดด้วยพลังของจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์ ด้วยความแข็งแกร่งของซี จนถึงตอนนี้ยังหาไม่เจอ
พวกเจียงอวี่ถงกลับรู้สึกถึงความผิดหวังและหนักอึ้ง
การลงมือของพลังเจตจำนงของบรรพชนต้นตระกูล ล้วนถูกหญิงลึกลับคนนี้สกัดไว้ได้ นี่ก็หมายความว่า ขอเพียงแค่นางต้องการ ในตระกูลเจียงจะไม่มีใครสามารถขวางนางได้ไม่ใช่หรือ
“พวกเจ้ายังไม่ยินยอมอีกหรือ”
แววตาซีมองไปยังพวกเจียงอวี่ถง
เจียงหลันสุ่ยเอ่ยเสียงขมขื่น “สหายยุทธ์มีวามสามารถมหัศจรรย์ พวกข้าชื่นชมถึงที่สุด เลื่อมใสอย่างสุดใจ”
ซีเหมือนทำเรื่องเล็กตามใจอย่างไม่ใส่ใจ พยักหน้าให้หลินสวิน จากนั้นเงาร่างพลันกลายเป็นละอองแสงที่ราวกับหมอกเพลิงมัวหม่น ก่อนจะสลายหายไป
ตอนที่นางจากไป ไม่ว่าจะเป็นพวกเจียงหลันสุ่ยหรือป๋อหยาจื่อต่างผ่อนลมหายใจ ราวกับยกภูเขาเทพที่ทับตัวพวกเขาอยู่ออก
ช่วยไม่ได้ แรงกดดันและการคุกคามที่ซีมอบให้พวกเขายิ่งใหญ่เกินไป!
ตอนที่สายตามองไปยังหลินสวินอีกครั้ง แววตาของพวกเจียงหลันสุ่ยต่างซับซ้อนมาก ไม่หลงเหลือความดูถูกและมองข้ามเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“เจ้าตามข้ามาเถอะ”
เจียงหลันสุ่ยถอนหายใจยาว ตัดสินใจพาหลินสวินไปพบเจียงซิงเชวี่ย
“ขอบคุณมาก”
หลินสวินผ่อนคลายไปทั้งตัว
……
ในส่วนลึกของเมืองจักรพรรดิเพลิง มีเส้นทางกลางอากาศที่เชื่อมสู่เขตหวงห้ามลึกลับเส้นหนึ่ง เจียงหลันสุ่ยพาหลินสวินเคลื่อนเข้าไปอย่างไร้สุ้มเสียง
ภายในเขตหวงห้ามลับเป็นโลกหินหนืดแห่งหนึ่ง บนพื้นดินปกคลุมด้วยทะเลเพลิงไร้ขอบเขต คลื่นเพลิงเดือดพล่าน สาดแสงเพลิงขึ้นหมื่นจั้ง
หมอกควันที่ร้อนระอุหาที่เปรียบไม่ได้พวยพุ่ง ทำให้โลกทั้งใบราวกับเตาเพลินใหญ่ กำลังลุกโชนร้อนแรง คล้ายจะหลอมละลายทุกสิ่ง
นี่ก็คือสถานที่กักขังเจียงซิงเชวี่ย!
“ซิงเชวี่ย มีแขกมา อยากจะเจอเจ้า”
เจียงหลันสุ่ยเอ่ยปาก เสียงก้องไปมาในโลกดินหนืดทั้งใบนี้
“หลายปีแล้ว ข้ายังนึกว่าพวกเจ้าลืมนักโทษของตระกูลอย่างข้าไปแล้ว…”
เสียงเนิบช้าดังขึ้น ราวกับกำลังพึมพำ เผยความผิดหวังอันไร้สิ้นสุด
เจียงหลันสุ่ยสีหน้าอึมครึมไม่นิ่ง เขาถอนหายใจยาวคราหนึ่งก่อนพูดว่า “ข้าพาแขกมาแล้ว พวกเจ้าคุยกันเถอะ”
ว่าแล้วเขาก็หมุนตัวจากไป
หลินสวินมองไปรอบๆ ก็เห็นทะเลเพลิงไพศาล หมอกเพลิงคละคลุ้มทั้งฟ้าดิน มองไม่เห็นเงาใดๆ
ตอนที่ในใจเขาเกิดความประหลาดใจ บนทะเลเพลิงอันกว้างใหญ่พลันปรากฏเรือเล็กสีดำลำหนึ่ง หญิงผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเรือเพียงลำพัง
นางอยู่ในชุดขาวเรียบง่าย ผมที่ดำราวกับหมึกสยายลง เมื่ออยู่บนผิวทะเลสีแดงเพลิงนั่น นางกลับให้ความรู้สึกเย็นเยียบเสียดกระดูกปานหิมะน้ำแข็งบนหน้าผา
ยามสายตาของหลินสวินมองไป หญิงผู้นี้ก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เคลื่อนสายตามองมา
ชั่วขณะเดียวหญิงผู้นั้นราวกับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง พลันลุกขึ้นพูดว่า “เป็นกลิ่นอายของ ‘ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว’! เสวียนคง เจ้าใช่ไหม… ในที่สุด… เจ้าก็กลับมารับข้าแล้ว!”
น้ำเสียงแฝงความตื่นเต้นที่ปิดไม่อยู่!
………………………..
Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset