Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2092 เคียดแค้นมาถึงวันนี้

ตอนที่ 2092 เคียดแค้นมาถึงวันนี้

ปีนั้นเหตุไม่คาดฝันนั่นมาอย่างกะทันหันหาใดเปรียบ

ทำให้มหาจักรพรรดิปาฉีนึกถึงแล้วยังใจสั่นมาถึงตอนนี้

ในโถงใหญ่บรรยากาศลุ่มลึก เห็นมหาจักรพรรดิปาฉีเหมือนตกอยู่ในห้วงคิด จักรพรรดิมารวายุสังหาร เจ้าแคว้นหงอวี่และเจ้าแคว้นเซวียนชงล้วนตื่นตระหนกไม่หยุด

เห็นว่าบรรยากาศกดดันยิ่งกว่าเดิม จักรพรรดิมารวายุสังหารอดกล่าวไม่ได้ “อาจารย์ลุง เด็กทารกคนนั้นที่ท่านพูดถึง… คงไม่ใช่มารกระบี่เต้ายวนกระมัง”

ประโยคเดียวทำให้มหาจักรพรรดิปาฉีตื่นจากการหวนถึงความหลัง เขาพยักหน้ากล่าว “ไม่ผิด หากข้าสันนิษฐานไม่ผิด ควรเรียกเจ้าหมอนี่ว่า… หลินสวินจึงจะถูก”

หลินสวิน!

เป็นผู้สืบทอดแห่งคีรีดวงกมลคนนั้น!

พวกจักรพรรดิมารวายุสังหารล้วนเผยสีหน้ายากจะเชื่อ ทำไมถึงเป็นเขา

“ข้าเข้าใจแล้ว ลือกันว่าเจ้าหลินสวินนี่เคยใช้ไพ่ตายในมือสังหารระดับจักรพรรดิอย่างพวกจักรพรรดิกระบี่เยือกแข็งที่โลกใหญ่หงเหมิงเมื่อนานมาแล้ว ก่อเรื่องจนทั่วทางเดินโบราณฟ้าดาราอึกทึกครึกโครม”

เจ้าแคว้นหงอวี่ได้สติกลับมาเป็นคนแรก “ก็มีแค่คนอย่างเขาที่ช่วยเจ้าเฒ่าคีรีดำยึดครองอาณาเขตของพวกเจ้าแคว้นคลั่งโลหิต เจ้าแคว้นฮวงโหว เจ้าแคว้นหมิงเยวี่ยได้อย่างต่อเนื่อง!”

“ใช่ สองเดือนก่อนมารกระบี่เต้ายวนนี่เพิ่งปรากฏตัว อาศัยพลังของเจ้าเฒ่าคีรีดำเองไม่มีทางทำได้ถึงขั้นนี้แน่ หากกล่าวเช่นนี้ เจ้าหมอนี่ก็มีโอกาสเป็นหลินสวินจริงๆ”

จักรพรรดิมารวายุสังหารตื่นเต้นขึ้นมาทันที ไหนเลยจะคาดคิดว่าเป้าหมายที่ถูกทั้งโลกมืดตามล่าถึงกับมาอยู่ใต้จมูกเขา

“พวกเจ้ายังไม่นับว่าโง่เกินไป”

เสียงมหาจักรพรรดิปาฉีเรียบเฉย “ตั้งแต่นี้ไปเจ้าคีรีดำนี่ไม่สำคัญแล้ว เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือการหาเบาะแสของหลินสวินที่ใช้ฐานะเป็นมารกระบี่เต้ายวนนี่”

“อาจารย์ลุงโปรดวางใจ ข้าจะเรียกระดมพลทั้งหมดไปหาตัวเจ้าหมอนี่ทันที!”

จักรพรรดิมารวายุสังหารสูดหายใจลึก กล่าวอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ “ไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้ก็ปล่อยให้เขาหนีไปจากแคว้นหนาวเหน็บไม่ได้เด็ดขาด!”

เจ้าแคว้นหงอวี่และเจ้าแคว้นเซวียนชงต่างกระฉับกระเฉง

มีเพียงมหาจักรพรรดิปาฉีที่มุ่นคิ้ว ทำหน้าเหมือนเห็นพวกปัญญาอ่อนพลางกล่าว “เจ้าหมอนี่มีวิธีสังหารระดับจักรพรรดิ ต่อให้เจ้าเรียกระดมพลไปมากแล้วจะมีประโยชน์อะไร”

จักรพรรดิมารวายุสังหารสีหน้าค้างแข็ง อักอ่วนไม่หยุด ความจริงในใจก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง

ที่จริงแล้วฐานะมกุฎกึ่งจักรพรรดินั้นของหลินสวินทำให้คนดูถูกและละเลยง่ายเกินไป โดยเฉพาะระดับจักรพรรดิอย่างพวกเขายิ่งไม่เคยเห็นพวกที่อยู่ใต้ระดับจักรพรรดิในสายตา

แต่เห็นชัดว่าหลินสวินต่างออกไป!

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแต่ก่อน แค่กล่าวถึงช่วงสองเดือนที่ผ่านมาก็มีเจ้าแคว้นหกคนอย่างคลั่งโลหิต ฮวงโหว หมิงเยวี่ย หลิ่นเฟิง เฟยหยาและฮุยซวงถูกกำราบ

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าเฒ่าคีรีดำทำได้ด้วยตัวคนเดียว

จักรพรรดิมารวายุสังหารถึงขั้นสงสัยว่า เจ้าเฒ่าคีรีดำในตอนนี้เกรงว่าคงถูกกำราบไปนานแล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี้ หากระดับจักรพรรดิทั่วไปมุ่งหน้าไปจับตายหลินสวิน… ย่อมไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย!

เห็นชัดว่าเจ้าแคว้นหงอวี่และเจ้าแคว้นเซวียนชงก็ตระหนักถึงจุดนี้เช่นกัน สีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ในใจพลันเย็นวาบ ครั้งนี้หากไม่มีมหาจักรพรรดิปาฉีมา ในแคว้นหนาวเหน็บนี้ใครจะเป็นศัตรูของมารกระบี่เต้ายวน… ไม่สิ หลินสวิน ผู้สืบทอดแห่งคีรีดวงกมลนั่นได้

“อาจารย์ลุง เช่นนั้นท่านว่าควรทำอย่างไร”

ยามนี้จักรพรรดิมารวายุสังหารดูนอบน้อมหาใดเปรียบ ขอคำชี้แนะอย่างถ่อมตัว

“เจ้าหมอนี่ใช้ฐานะของมารกระบี่เต้ายวนเดินทางมาโลกมืด เห็นชัดว่ากลัวฐานะเปิดเผย ถูกทั่วหล้าประกาศจับเช่นกัน”

มหาจักรพรรดิปาฉีแววตาล้ำลึก นัยน์ตาแดงก่ำส่องประกายประหลาด “แต่เขากลับก่อเรื่องพลิกฟ้าพลิกดินในแคว้นหนาวเหน็บนี้ ทั้งที่รู้ดีว่าสำนักโบราณจรัสเทพของพวกเราไม่มีทางเก็บมือเฝ้ามอง แล้วยังกล้าทำตัวเช่นนี้อีก เจ้าว่า… เขาทำไปเพื่ออะไร”

พวกจักรพรรดิมารวายุสังหารมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ส่ายหัวไม่หยุด

กลับเห็นมหาจักรพรรดิปาฉีกล่าว “ข้าก็เดาไม่ได้ แต่ข้ากล้ายืนยันว่าในเมื่อเขาลงแรงมาทำเรื่องนี้ หากไม่บรรลุจุดประสงค์ย่อมไม่มีทางยอมแพ้แค่นี้แน่ นี่ก็หมายความว่าในเวลาอันสั้นเขาน่าจะไม่ไปจากแคว้นหนาวเหน็บ”

พูดถึงตรงนี้เขามองมาทางจักรพรรดิมารวายุสังหารพลางกล่าว “เจ้าออกคำสั่งให้จักรพรรดิมารคีรีดำมารับผิดภายในสามวันแล้วไม่ใช่หรือ”

จักรพรรดิมารวายุสังหารพยักหน้าไม่ว่างเว้น

“จักรพรรดิมารคีรีดำจะมาหรือไม่ แน่นอนว่าเจ้าหลินสวินนี่เป็นคนตัดสินใจ ทั้งเจ้าหมอนี่ต้องตระหนักได้อย่างแน่นอน ว่าเรื่องนี้สำนักโบราณจรัสเทพของพวกเราต้องดำเนินการอะไรบางอย่าง”

มหาจักรพรรดิปาฉีกล่าวเสียงขรึม “แต่เขาย่อมไม่มีทางเลิกล้มสิ่งที่ทำไปทั้งหมด เช่นนั้นในสถานการณ์นี้ เขาควรจะพลิกสถานการณ์อย่างไร”

จักรพรรดิมารวายุสังหารกล่าวมึนงง “เขาคงไม่มารับผิดจริงๆ กระมัง”

มหาจักรพรรดิปาฉีกล่าว “เจ้าเดาถูกแล้ว”

สีหน้าของจักรพรรดิมารวายุสังหารดูผิดคาด เขาแค่พูดลอยๆ เท่านั้น ตนเองยังไม่เชื่อ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเดาถูก!

มหาจักรพรรดิปาฉีกล่าว “แต่เขาต้องไม่ได้มารับผิดแน่ หากแต่จะมาแก้โจทย์ยากที่ขวางหน้าเขาอยู่ ดังนั้นพวกเราแค่รออยู่ที่นี่ก็พอแล้ว”

กล่าวถึงตอนท้ายน้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นมั่นใจหาใดเปรียบ

หากหลินสวินอยู่ที่นี่ต้องตกตะลึงในการวิเคราะห์ที่ละเอียดถี่ถ้วนของมหาจักรพรรดิปาฉีแน่ เรียกได้ว่าสันนิษฐานความจริงออกมาได้ถึงแปดเก้าส่วน!

เชาวน์ปัญญาเช่นนี้คือสิ่งที่น่ากลัวมากอย่างไม่ต้องสงสัย

“รอก่อนเถอะ ข้าก็อยากเจอเจ้าหนูนี่ เด็กทารกคนหนึ่งที่เดิมทีควรต้องตายหลังจากสูญเสียพรสวรรค์ของตนไป กลับรอดมาได้ถึงตอนนี้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งหลายปีนี้ยังก่อเรื่องใหญ่ที่สั่นสะเทือนฟ้าดารามากมาย น่าอัศจรรย์จริงๆ”

สายตาของมหาจักรพรรดิปาฉีทอดมองไปนอกโถงใหญ่ บนสีหน้าเจือความทอดถอนใจเสี้ยวหนึ่ง

เขาพลันนึกถึงอวิ๋นชิ่งไป๋ขึ้นมา

ปีนั้นที่แดนมกุฎ หากอวิ๋นชิ่งไป๋ไม่ตายในมือเจ้าหมอนี่ ตอนนี้ก็น่าจะมีรากฐานที่สามารถซัดสะเทือนฟ้าดาราแล้วกระมัง

ตัวหมากที่มีกระดูกกระบี่แต่กำเนิด ทั้งยังหลอมชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดหุบเหวกลืนกินเข้าไปในร่าง กลับถูกทำลายเช่นนี้…

น่าเสียดายจริงๆ

วันต่อมา

หลินสวินมองเห็นเขาเมฆาเลิศอยู่ห่างออกไป

“เย่จื่อ เรียบร้อยไหม” เขาตบกล่องกระบี่สำริดที่อยู่บนแผ่นหลัง

“ยังขาดฤทธิ์เดชอยู่บ้าง คงอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเค่อ” เสียงราบเรียบนั้นของเย่จื่อดังมาจากกล่องกระบี่สำริด

“แค่จัดการเจ้าเฒ่าของสำนักโบราณจรัสเทพเท่านั้น มากเกินพอแล้ว”

หลินสวินยิ้มก้าวไปในอากาศ พุ่งไปทางเขาเมฆาเลิศที่อยู่ห่างออกไป

สิ่งที่ทำให้เขาผิดคาดคือทั่วเขาเมฆาเลิศไม่มีกำลังพลป้องกันใดๆ ถึงขั้นไม่เห็นแม้แต่เงาร่างของผู้แข็งแกร่งสักคน

‘หรือจักรพรรดิมารวายุสังหารนั่นเดาออกว่าข้าจะมา ห่วงว่าเมื่อเกิดการต่อสู้อาจทำให้ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ใต้อาณัติตนโดนลูกหลง ทำให้พวกเขาถอยทัพไปนานแล้ว?’

ขณะที่หลินสวินกำลังใคร่ครวญก็พลันสังเกตเห็น พลังเจตจำนงเยียบเย็นที่น่ากลัวอำมหิตพุ่งออกมาจากเขาเมฆาเลิศ กวาดไปทั่วท้องนภาแล้วม้วนพัดเข้ามา

นัยน์ตาหลินสวินหดรัดทันที เท้าที่ก้าวไปข้างหน้าหยุดชะงัก สีหน้าเผยความคร่ำเคร่ง

“หลินสวิน ผ่านมาหลายปี พวกเราได้เจอกันอีกแล้ว”

เสียงที่ราบเรียบและแหบพร่าดังขึ้น เจือความทอดถอนใจเสี้ยวหนึ่ง

ที่มาพร้อมกับเสียงคือมหาจักรพรรดิปาฉีที่สวมเสื้อคลุมดำแขนกว้าง ใบหน้างามสง่าขาวกระจ่าง นัยน์ตาแดงก่ำดุจอัญมณี ส่องประกายอัศจรรย์ประหลาด เขาปรากฏตัวกลางอากาศ ยืนอยู่บนเขาเมฆาเลิศ

หลินสวินเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาดำลุ่มลึกจ้องมองเงาร่างนั้นของเขา ในใจตระหนักได้ว่าสุดท้ายตนก็ยังประเมินพลังของสำนักโบราณจรัสเทพต่ำไป เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่ตรงหน้ามองฐานะของเขาออกแล้ว

“มิน่าที่นี่ถึงเงียบสงัดไร้ผู้คน ที่แท้ก็มารอข้าคนแซ่หลินอยู่ก่อนแล้ว ก็ไม่รู้ว่า… เจ้าเป็นใคร”

สภาวะจิตของหลินสวินกลับสู่ความสงบทันที สีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลม

มหาจักรพรรดิปาฉีหัวเราะขึ้นมา ราวกับเทพมารที่ยืนอยู่ใต้เวิ้งฟ้า เอ่ยปากเนิบช้า “เจ้าจำข้าไม่ได้แล้วหรือ ปีนั้นก็เป็นข้าที่ชิงชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดของเจ้าไปให้อวิ๋นชิ่งไป๋ด้วยมือตัวเอง”

ตูม!

จิตใจที่แข็งแกร่งดุจหินผานั้นของหลินสวินราวกับถูกฟ้าผ่า เวลานี้สั่นสะเทือนอย่างห้ามไม่อยู่ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเยียบเย็นขึ้นมา

ไอสังหารและความแค้นที่สะสมในใจมาหลายปีพลุ่งพล่านดั่งคลื่นซัดพลิกสมุทร แทบจะกลั้นไว้ไม่อยู่

ปาฉี!

ตัวการหลังม่านที่ก่อเหตุนองเลือดในตระกูลหลินคนนั้น!

ก่อนหน้านี้หลินสวินยังใคร่ครวญอยู่ว่า ควรไปสำนักโบราณจรัสเทพเพื่อไปเจอศัตรูที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อนคนนี้อย่างไร

กลับคิดไม่ถึงว่าหน้าเขาเมฆาเลิศวันนี้ ปาฉีจะปรากฏตัวแล้ว!

นี่ทำให้หลินสวินผิดคาดอยู่บ้างจริงๆ

มหาจักรพรรดิปาฉีกล่าวอย่างทอดถอนใจ “ว่าไปแล้วข้าก็รู้สึกผิดคาดเหมือนเจ้า แต่เหมือนจะถูกลิขิตไว้แล้วว่าเจ้ากับข้าควรได้เจอกันที่นี่”

ครั้งนี้เขามีความรู้สึกว่าอยากออกจากความจำเจ ถึงได้มาที่แคว้นหนาวเหน็บ เดิมทีแค่เพื่อแก้ไขความปั่นป่วนที่เจ้าแคว้นคีรีดำชักนำมา

แต่ใครจะคิดว่ากลับทำให้เขาได้เจอเด็กทารกในปีนั้นอย่างคาดไม่ถึง!

ดังนั้นตอนนี้เมื่อเห็นหลินสวินนิ่งเงียบไม่พูดจา มหาจักรพรรดิปาฉีจึงเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ช่างบังเอิญจริงๆ

“แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ”

หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ จิตต่อสู้ทั่วร่างเดือดพล่าน ไอสังหารและความแค้นที่เก็บกลั้นมานานท่วมท้นทั่วสรรพางค์กายดุจเขาถล่มสมุทรคำราม

เขาทนมาหลายปีแล้ว เวลานี้เขาไม่ยอมทนอีกต่อไป!

เขาแค่ต้องการระบายแค้น!

ตั้งแต่เด็กถึงวันนี้ บนเส้นทางฝึกปราณของเขาปกคลุมด้วยเงามืดของโศกนาฏกรรมตระกูลหลินมาตลอด บิดามารดาหายสาบสูญ ท่านลู่ไม่รู้เป็นตายร้ายดี แม้แต่ชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดในตัวเขาก็ถูกแย่งไปอย่างไร้ปรานี

หลายปีนี้ ข้อสงสัย ความเดือดดาล และความคั่งแค้นที่ยากจะบรรยายฝังลึกในก้นบึ้งจิตใจ ไม่มียามใดที่ไม่เตือนหลินสวินว่าตัวการที่ก่อให้เกิดความแค้นพวกนี้ ถ้าไม่ตายในสักวันหนึ่ง ความแค้นในใจก็ไม่อาจขจัดไปได้แน่

ด้วยเหตุนี้เขาจึงกรำศึกทั่วดินแดนรกร้างโบราณ ผ่านความยากแค้นอันตราย ในที่สุดก็ฆ่าอวิ๋นชิ่งไป๋ที่แดนมกุฎได้

แต่สุดท้ายถึงรู้ว่าตัวการหลังม่านคือคนอื่น อวิ๋นชิ่งไป๋เป็นแค่คนน่าเวทนาที่ไม่อาจกำหนดชะตาชีวิตของตนได้เท่านั้น…

ต่อมาเขาจึงได้รู้จากม้วนหยกที่เฒ่าโดดเดี่ยวและราชครูเหลือทิ้งไว้ ว่าตัวการหลังม่านมาจากสำนักโบราณจรัสเทพ และถึงได้รู้เล่ห์เหลี่ยมและความจริงต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นองเลือดของตระกูลหลินในปีนั้น

แม้ว่าหากไร้ความช่วยเหลือจากพลังระเบียบต้องห้าม เหตุการณ์นองเลือดของตระกูลหลินในโลกชั้นล่างนั้นย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นได้ง่ายดายเช่นนี้แน่

แต่ทั้งหมดนี้ล้วนไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ปาฉีเป็นตัวการได้!

“ข้า… รอเจ้ามานานมากแล้วจริงๆ…”

น้ำเสียงเยียบเย็นที่เต็มไปด้วยความคั่งแค้นดังก้องขึ้น เสื้อผ้าหลินสวินสะบัดโบก ยืนอยู่กลางอากาศ ผมดำทั้งศีรษะแผ่สยาย ไอสังหารที่น่าหวาดกลัวพุ่งทะลวงฟ้าดิน ทำให้ภูผาธาราแถบนี้ตกอยู่ในความคร่ำครวญสั่นสะเทือน

อาฆาตพยาบาท เคียดแค้นมาถึงวันนี้!

ฝึกปราณมาถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่หลินสวินควบคุมความแค้นในใจไม่อยู่ เพลิงโทสะทั่วท้องกำลังพลุ่งพล่าน แผดคำรามทั้งภายในและภายนอกร่างกาย

สติและความสงบนิ่งถูกไอสังหารเข้ามาแทนอย่างไม่เคยมีมาก่อน

วันนี้ไม่ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไร เขาก็ต้องทำให้ตัวการหลังม่านคนนี้… ตายให้ได้!!

……………………..

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset