Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2123 ปลดปล่อยเต็มพลัง

“ต้นสำริดเฒ่าตื่นรู้มีปัญญาตั้งแต่สมัยบรรพกาล ต้นกำเนิดของเขาคือรากไม้เทพคุนอู๋ท่อนหนึ่ง หลายปีมานี้ดูดกลืนเศษเสี้ยววิญญาณระดับจักรพรรดิและพลังเจตจำนงไปนับไม่ถ้วน เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งหาใดเปรียบนานแล้ว ระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่งทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแต่แรก”

เสียงเยียบเย็นหนึ่งเอ่ยปาก “จักรพรรดิอสูรมารกิเลนก็ไม่ธรรมดา ร่างเดิมวิวัฒน์มาจากเศษเสี้ยววิญญาณของกิเลนเพลิงสัตว์เทพดึกดำบรรพ์ หลายปีมานี้สหายร่วมวิถีที่ตายในมือเขา… มีจำนวนไม่น้อย”

เสียงลอยอยู่กลางฟ้าดินที่มืดมนกดดันนี้ ราวกับคำขู่ที่ไม่อำพรางแม้แต่น้อย ไม่กลัวว่าจะถูกหลินสวินได้ยินอย่างสิ้นเชิง

แววตาหลินสวินเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

แต่กลับไม่ได้หวาดหวั่นหรือเกรงกลัว หากแต่เกินคาดหมาย

เขาคิดไม่ถึงว่าต้นไม้เก่าแก่ที่แตกกิ่งก้านเสียดฟ้า ก้านใบประหนึ่งหล่อจากสำริดต้นนั้น ถึงกับวิวัฒน์มาจากรากของไม้เทพคุนอู๋!

ยามนี้ในมือเขามีบ่อเกิดต้นฝูซางและไม้เทพที่คล้ายเจี้ยนมู่อยู่แล้ว ขาดแค่ไม้เทพสองชนิดอย่างคุนอู๋และชางอู๋เท่านั้น

หากรวบรวมไม้เทพฟ้าประทานที่เกิดในบ่อเกิดแรกกำเนิดสี่อย่างนี้จนครบ ใช้วัตถุเทพอย่างดินปราณแรกกำเนิด ดินอัศจรรย์ห้าสี ทรายวิญญาณดาราขุ่นใส วารีแรกปฐมมาหล่อเลี้ยง ก็จะสร้างต้นกล้าของต้นบ่อเกิดแรกกำเนิดออกมาได้!

ถึงตอนนั้นค่อยนำต้นกล้านี้ไปหล่อเลี้ยงไว้ในร่าง ย่อมมีประโยชน์ที่ไม่อาจประเมินได้ต่อพลังปราณระดับจักรพรรดิ ผู้ใดได้ครอบครองต้นบ่อเกิดแรกกำเนิด ผู้นั้นก็เท่ากับหยั่งรู้กฎเกณฑ์แรกกำเนิด ถือครองรากฐานของพลังมรรคแรกกำเนิด!

หลายปีมานี้หลินสวินทยอยรวบรวม ก็ได้มาแค่บ่อเกิดจิตวิญญาณของต้นฝูซาง เจตวัตถุที่คล้ายเจี้ยนมู่ท่อนหนึ่ง ดินอัศจรรย์ห้าสีหนึ่งกำมือ และดินปราณแรกกำเนิดส่วนหนึ่งเท่านั้น

แค่คิดก็รู้แล้วว่าอยากรวบรวมไม้เทพและเจตวัตถุพวกนี้ให้ครบเป็นเรื่องที่ยากลำบากระดับใด ล้วนไม่อาจร้องขอโดยแท้

ตูม!

ต้นสำริดเก่าแก่พุ่งสังหารเข้ามาแต่ไกล กิ่งก้านนับหมื่นพันคล้ายสายโซ่เทพที่คลั่งระบำ เจือประกายกฎเกณฑ์สีแดงสดบาดตา เข้าปกคลุมเหมือนบดบังฟ้าคลุมตะวัน

ฟ้าดินล้วนอลหม่าน ห้วงอากาศถูกบดขยี้

อีกด้านหนึ่งสัตว์ปีศาจราวกับกิเลนพลันพุ่งเข้าใส่ เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศเข้ามา เร็วจนน่าเหลือเชื่อ ยามกรงเล็บมหึมาข้างหนึ่งตะปบออกมา ก็ก่อให้เกิดแสงเทพของกฎเกณฑ์มรรคจักรพรรดิล้นฟ้า

วิญญาณร้ายทั้งสองมีอานุภาพระดับจักรพรรดิ ทันทีที่ลงมือก็เผยการโจมตีดุจอสนีบาต รวดเร็วรุนแรงและดุดัน เพียงพอจะทำให้เทพผีสั่นสะท้าน

ขณะเดียวกันหลินสวินก็เคลื่อนไหวแล้ว เงาร่างดุจเหวลึกที่เคลื่อนขวางฟ้าดิน ควบคุมดาบไร้วิชาห้ำหันกับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิทั้งสอง

ผมยาวของเขาพลิ้วไหว นัยน์ตาดำวาบประกายอสนี มรรควิถีทั้งตัวเผยออกมาเต็มกำลัง อานุภาพสะเทือนเก้าฟ้าสิบแผ่นดิน

ฟ้าดินแถบนี้ตกอยู่ในความปั่นป่วน สะท้อนลักษณ์ประหลาดน่าสะพรึงนานัปการ

สัตว์ร้ายที่ลอบจับตามองทุกอย่างนี้ต่างนิ่งอึ้งตะลึงงัน ต้นสำริดเฒ่าและจักรพรรดิอสูรมารกิเลนลงมือพร้อมกัน แต่แค่พอสูสีกับเจ้าหนุ่มระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดินั่น!?

นี่เกือบจะทำให้พวกเขาอึ้งงัน ยากจะจินตนาการว่าบนโลกนี้ทำไมถึงมีคนที่ก้าวข้ามปราการสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้ นี่มันตัวประหลาดชัดๆ

หวนนึกถึงสมัยดึกดำบรรพ์ คนผู้นั้นที่หยิ่งทะนงและอวดดีหาใดเปรียบ ก็อาศัยแค่สมบัติลับบางอย่างทะลวงฝ่าฟ้าดินแห่งนี้แล้วรอดไปได้

แต่เจ้าหนุ่มตรงหน้านี้ไม่เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัด!

ตูม!

ฟ้าถล่มดินทลาย ห้วงอากาศปั่นป่วน

หลินสวินสังหารอย่างเต็มที่ กวาดขวางฟาดฟันตามอำเภอใจ เงาร่างดุจเหวลึกม้วนกลืนทั่วทิศ มีสัญญาณว่าจะกำราบต้นสำริดเฒ่าและจักรพรรดิอสูรมารกิเลนได้รางๆ!

โดยเฉพาะตอนที่ดาบไร้วิชากวัดแกว่ง เฉือนตัดกิ่งก้านที่ร่ายระบำเหมือนแส้เทพหลากสายของต้นสำริดเฒ่านั้น ยิ่งดุดันหาใดเปรียบ ทรงพลังเกินต้านทาน

นี่ทำให้ต้นสำริดเฒ่าบันดาลโทสะ ส่งเสียงตะโกนอย่างต่อเนื่อง อานุภาพร้ายกาจน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่าเดิม

จักรพรรดิอสูรมารกิเลนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร แม้ความเร็วของเขาจะว่องไว รวดเร็วรุนแรงดุจอสนี แต่ทุกครั้งที่ปะทะกับหลินสวินจะถูกซัดจนเลือดลมตีกลับ ไม่อาจเข้าประชิด

นี่ทำให้เขาทั้งประหลาดใจทั้งยากจะเชื่อ

หลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ห้อตะบึงอยู่กลางที่นั้นราวกับเทพมารซัดกวาด ทรงพลังไร้เทียมทาน ยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง อานุภาพล้วนกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ปึง!

ไม่ทันไรประทับไร้ชีพก็ดังกัมปนาท จักรพรรดิอสูรมารกิเลนถูกกระแทกกระเด็น ขนผิวเปื้อนเลือด กล้ามเนื้อและกระดูกยุบทลาย

เห็นได้ชัดว่าต่อให้เขาตีขนาบพร้อมต้นสำริดเฒ่าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แต่แรก

แต่เมื่อหลินสวินคิดจะรุกไล่ต่อเนื่อง สังหารจักรพรรดิอสูรมารกิเลนนี้ทิ้ง ทันใดนั้นก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น…

นกยักษ์กระดูกขาวปีกขาดวิ่น ร่างลุกโชนด้วยเพลิงวิญญาณโชติช่วงตัวหนึ่งโฉบออกมา พุ่งโจมตีมาทางหลินสวิน กรงเล็บคมกริบราวกับยอดอาวุธศาสตราจิตดูเฉียบคมหาใดเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

นี่เป็นวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิอีกตนหนึ่ง!

หลินสวินไม่เปลี่ยนสีหน้า ราบเรียบดังเดิม มีเพียงเพลิงไฟในดวงตาที่ลุกโชน โบกสะบัดดาบไร้วิชาสู้กับมันอย่างดุเดือด

เพียงพริบตาเขาคนเดียวก็ห้ำหั่นกับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิสามตน อานุภาพที่ผงาดผยองไร้คู่ต่อกรนั้น ถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนาเช่นกัน

แต่ก็ทำได้แค่นั้น ต่อให้ถูกล้อมโจมตี หลินสวินยังคงสู้อย่างฮึกเหิม ยามขยับตัวได้ปลดปล่อยอานุภาพไร้ใดเปรียบที่เหนือธรรมดาออกมา

นี่ทำให้ผู้คนใจสะท้าน ยิ่งทำให้สัตว์ร้ายที่ลอบจับตามองเหตุการณ์ต่างๆ นี้ตื่นตระหนก หากไม่ใช่ว่ามั่นใจในพลังปราณของหลินสวิน พวกเขาคงเกือบสงสัยว่านี่เป็นระดับจักรพรรดิที่จงใจปิดบังพลังปราณไว้คนหนึ่ง

น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

สัตว์ร้ายพวกนี้แม้จะติดอยู่ในฟ้าดินแห่งนี้มาตลอด แต่ควบรวมสติปัญญาออกมาได้นานแล้ว ในความทรงจำตามสัญชาตญาณยังเหลือความเข้าใจอยู่มาก

นี่ทำให้พวกเขารู้ดีว่าการก้าวข้ามปราการสวรรค์ระดับจักรพรรดิ ข้ามระดับใหญ่ไปสู้กับระดับจักรพรรดิ เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อระดับใด

ที่น่ากลัวที่สุดคืออีกฝ่ายยังสู้แบบหนึ่งต่อสามด้วย!

ตูม!

ทันใดนั้นเมฆดำแถบหนึ่งพุ่งมาแต่ไกล กลายเป็นหญิงสาวที่ร่างเป็นคนศีรษะเป็นงู ท่าทางอ่อนช้อย สะบัดหางงูมหึมา

นางถือขวานยักษ์กระดูกขาวพุ่งพิฆาตเข้ามา พละกำลังยิ่งใหญ่ ทำให้ฟ้าดินแถบนั้นตกอยู่ในความปั่นป่วน

นี่เป็นการบุกโจมตีของวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนที่สี่แล้ว หมายจะจัดการหลินสวินด้วยกัน สังหารเขาให้ตายคาที่!

ในเวลานี้เองที่เงาร่างของหลินสวินไหววูบ

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ไม้เขียว เพลิงแดง ดินเหลือง วารีดำ ทองขาว กายมรรคทั้งห้าพุ่งออกมาพร้อมกัน ต่างครอบครองศาสตราจักรพรรดิที่ไม่เหมือนกัน พุ่งไปหาคู่ต่อสู้แต่ละตน

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้ต้นสำริดเฒ่า จักรพรรดิอสูรมารกิเลน นกยักษ์กระดูกขาว และหญิงศีรษะงูนั้นใจสะท้านทันที หน้าพลันเปลี่ยนสี

แค่คนเดียวก็ยากจัดการแล้ว ตอนนี้ยังมีเพิ่มเป็นห้าคน นี่มันน่าสิ้นหวังจริงๆ!

“หนึ่งต่อหนึ่ง ข้าคนแซ่หลินไม่หวั่นเกรง ต่อให้ยกพวกมา… แล้วมีค่าอะไรให้พูดถึง”

ท่ามกลางเสียงราบเรียบ ร่างต้นของหลินสวินและร่างแยกมหามรรคห้าคนพุ่งไปหาคู่ต่อสู้ต่างกันไป ราวกับเหล่าเทพมารออกโจมตี แผ่อานุภาพและความน่าเกรงขามที่ไม่เหมือนกันออกมา

ตูม!

ต้นสำริดเฒ่ารับไม่ไหวเป็นคนแรก ถูกร่างต้นอย่างหลินสวินและกายมรรคไม้เขียวตีขนาบพร้อมกัน กิ่งก้านกระจัดกระจายร่วงกราว ปลิดปลิวท่ามกลางกระแสพลังดุดัน

ลำต้นของมันยิ่งถูกโจมตีอย่างหนัก เกิดรอยแตกนับไม่ถ้วน

“พวกเจ้ายังไม่ยื่นมือมาช่วยอีก? ทันทีที่เจ้าหมอนี่รอดไปได้ พวกเจ้าก็ต้องประสบเคราะห์!” ต้นสำริดเฒ่ากรีดร้องโหยหวนหาใดเปรียบ

ครู่ต่อมาเสียงของต้นสำริดเฒ่าพลันหยุดชะงักลง ถูกร่างต้นของหลินสวินเรียกเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดออกมากำราบอย่างสมบูรณ์ เก็บเข้าไปในเจดีย์สมบัติ

หลินสวินและกายมรรคไม้เขียวพุ่งไปหาศัตรูคนอื่นโดยไม่ลังเล

ตูม!

ฟ้าดินปั่นป่วน หลินสวินหกคนออกศึกพร้อมกัน มีอานุภาพไร้เทียมทาน สังหารจนสัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิพวกนั้นกระเจิดกระเจิงไม่เป็นขบวน ไม่ทันไรก็บาดเจ็บกันหมด

นี่ทำให้พวกเขาขวัญหนีดีฝ่อ ในที่สุดก็รู้สึกหวาดผวา

แต่เวลานี้เองในที่ลับนั้นทยอยมีเงาร่างสายแล้วสายเล่าพุ่งออกมา

มีชายไร้หัวที่ร่างปกคลุมด้วยเกราะแน่นหนา มือถือทวนยาว อำมหิตเยียบเย็น

มีภิกษุที่กลิ่นอายชั่วร้ายโหมซัดไปทั่วร่าง สีผิวขาวซีด สองมือกุมลูกประคำที่ทำมาจากโครงกระดูกขาวเส้นหนึ่ง

มีร่างที่ควบคุมกระแสน้ำหลากสีดำ เงาร่างเลือนรางราวกับหมอกควัน ยามสะบัดมือจะมีเงาโลหิตเหมือนเทพดุอสูรร้ายพุ่งออกมากลางอากาศ

มี…

เพียงครู่เดียวในที่นั้นมีวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิมาเพิ่มอีกเจ็ดแปดตน!

เผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้ เกรงว่าหากระดับจักรพรรดิแท้มาเองก็คงถูกทำให้หวั่นหวาด รู้สึกสิ้นหวัง

ในสถานการณ์ที่อันตรายหาใดเปรียบเช่นนี้ ในที่สุดหลินสวินก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันและภัยคุกคามอย่างมาก

แต่เขาไม่ตระหนกกลับยินดีแล้วยิ้มน้อยๆ “น่าจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว!”

พลันเห็นร่างต้นและร่างแยกมหามรรคทั้งห้าของเขาล้วนกลิ่นอายสะท้านสะเทือน ปลดปล่อยและสำแดงมรรควิถีแห่งตนออกมาเต็มพลังในยามนี้

คัมภีร์มหาครรภ์จุติ คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด คัมภีร์กระบี่ไท่เสวียน ไปไร้หวน วิชาบัวเขียวหยั่งโลก คัมภีร์เก้ากระถางสยบหล้า คัมภีร์มหาอสนีดับสูญ…

ยอดคัมภีร์นานัปการถูกร่างแยกมหามรรคต่างกันไปสำแดงออกมา เพียงชั่วขณะอานุภาพที่ปรากฏออกมาพลันทอแสงส่องสะท้อน ย้อมฟ้าดินแถบนี้เป็นสีสันสวยงาม

ส่วนร่างต้นของหลินสวินก็โคจรเขตแดนมรรคแรกกำเนิดเต็มกำลัง บ้างแปลงเป็นหุบเหวลึก บ้างวิวัฒน์เป็นเตาหลอมกลียุค

ศาสตราจักรพรรดิอย่างดาบไร้วิชา ประทับไร้ชีพ ธงไร้ระเบียบและดาบหักก็ม้วนตลบ เข้าร่วมในการต่อสู้นี้ด้วย สำแดงอานุภาพและนัยเร้นลับที่ไม่เหมือนกันออกมา

ตูม!

นรกอำพรางชั้นหกนี้ปั่นป่วนถึงที่สุด ฟ้าแลบฟ้าคำราม แสงมรรคดุจสายฝน แสงศักดิ์สิทธิ์ราวกับห้วงสมุทร

นี่เรียกได้ว่าเป็นศึกแห่งเหล่าจักรพรรดิ หากเกิดขึ้นในโลกภายนอกต้องเปิดฉากความโกลาหลทั่วหล้าอย่างแน่นอน ทำให้สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนพากันตื่นตระหนก

และต้องไม่มีใครจินตนาการได้แน่ว่า หลินสวินคนเดียวจะสู้กับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิมากเช่นนี้!

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

ในการต่อสู้นั้นหลินสวินต่อสู้เหมือนเดือดคลั่ง ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง ทั้งตัวราวกับร้อนเล่าลุกโชน วิชามรรคทั้งตัวสำแดงออกมาเต็มที่ในฟ้าดินแถบนี้

ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นการห้ำหั่นและต่อสู้อย่างเต็มกำลังครั้งแรก หลังจากหลินสวินบรรลุระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิสามชั้นฟ้าขั้นสมบูรณ์!

วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิพวกนั้นแต่ละตนล้วนแปลกใจสงสัย เกือบจะคลุ้มคลั่ง พวกเขาสิบกว่าตนลงมือพร้อมกัน แต่กลับทำอะไรมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งไม่ได้

นี่จะให้พวกเขากล้าเชื่อได้อย่างไร

“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องฆ่าเจ้าหมอนี่ให้ได้!”

“มรรควิถีบนตัวเขาเย้ยฟ้านัก ต้องมีคัมภีร์ที่ไม่มีใครล่วงรู้แน่ ถ้าฆ่าเขาแล้ว บางทีพวกเราอาจชิงศุภโชคที่คาดไม่ถึงได้มากมาย”

“สมบัติพวกนั้นก็ร้ายกาจนัก!”

…วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิพวกนั้นก็ทุ่มสุดตัวแล้ว แต่ละตนเย่อหยิ่งร้ายกาจ สู้เหมือนเอาชีวิตเข้าแลก หมายจะสังหารหลินสวิน แบ่งสรรสมบัติและคัมภีร์ในตัวเขา

แต่หลินสวินมีหรือจะให้พวกเขาสมปรารถนา

“โอม!”

ทันใดนั้นร่างต้นพลันเอ่ยเสียงมรรค พุ่งสังหารไปทางจักรพรรดิอสูรมารกิเลนที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว

ขณะเดียวกันในทิศทางอื่น ร่างแยกทั้งห้าที่กำลังห้ำหั่นกับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนอื่นล้วนปลีกตัวกลับมาพร้อมกัน พุ่งสังหารไปทางจักรพรรดิอสูรมารกิเลนจากทั่วสารทิศ!

วิธีโจมตีประสานเช่นนี้ทำให้จักรพรรดิอสูรมารกิเลนตกใจวิญญาณเกือบหลุดออกจากร่าง เลือกหลบหลีกหนีไปโดยไม่ลังเล

น่าเสียดายที่ช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว

ตูม!

ท่ามกลางเสียงระเบิดราวสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ร่างของจักรพรรดิอสูรมารกิเลนระเบิดกระจุย ถูกแสงมรรคแปรปรวนที่เจิดจรัสไร้สิ้นสุดฝังกลบ

จิตสิ้นวิญญาณสลาย!

………………………

Manga Info

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset