Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1323 ราวกับตำนาน

“หลินสวินชนะแล้ว!”
องค์ชายเซ่าเฮ่าน้ำเสียงเจือความทอดถอนใจเสี้ยวหนึ่ง
จนถึงตอนนี้สภาวะจิตของเขายังทิ้งร่องรอยสั่นสะเทือนไว้ ไม่อาจขับออกไปได้ นึกถึงภาพต่างๆ ของการต่อสู้เมื่อครู่ ทำให้ยามเขามองไปยังหลินสวิน กลางนัยน์ตาจึงฉายแววอัศจรรย์อย่างบอกไม่ถูก
“เสียดายอวิ๋นชิ่งไป๋ที่เหมือนตะวันกลางนภา แต่กลับร่วงหล่นสู่นิรันดร์ในยุคสมัยนี้ สำหรับทั้งดินแดนรกร้างโบราณคงอ้างว้างเพิ่มสามส่วน”
เทพธิดารั่วอู่พึมพำ นัยน์ตากระจ่างดั่งวารี เงาร่างดูประหนึ่งควันมายา
ช่างน่าเสียดายจริงๆ
หากไม่มีการประลองนี้ ในมหายุคปัจจุบันอาศัยระดับความเชี่ยวชาญลึกซึ้งในมรรคกระบี่ของอวิ๋นชิ่งไป๋ ภายหน้าจะต้องผงาดเป็นอริยะกระบี่แห่งยุคที่เพียงพอจะเย้ยก้องนิรันดร์กาลคนหนึ่งแน่!
น่าเสียดาย วันนี้เขาสิ้นชีพแล้ว
‘จากการประลองนี้อานุภาพของหลินสวินไร้ผู้ต้านทานแล้ว ทั้งไม่มีใครสามารถสยบ ภายหน้า… เกรงว่าคงไม่มีใครอาจเอื้อมด้วยกระมัง’
เย่หมัวเฮอ หมีเหิงเจิน หวังเสวียนอวี๋ ชื่อหลิงเซียวและบุคคลระดับนายเหนือหัวแห่งยุค เวลานี้กลับรู้สึกซับซ้อน!
การต่อสู้นี้ไร้ใดเปรียบตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์
แต่การตายของอวิ๋นชิ่งไป๋กลับกลายเป็นฐานเหยียบ จะต้องทำให้อานุภาพของหลินสวินบรรลุถึงขั้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์แน่
ต่อจากนี้อย่าว่าแต่กำราบเขา แค่คิดจะไล่ตามให้ทันเขาเกรงว่ายังยาก!
สำหรับบุคคลระดับพวกเขาที่อยู่ในขอบเขตมกุฎมรรคาอมตะเหมือนกัน ในใจย่อมรู้สึกซับซ้อนเป็นธรรมดา
ไม่มีใครเต็มใจยอมรับว่าตนสู้เขาไม่ได้!
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลินสวินในยามนี้ พวกเขากลับไม่อาจไม่ยอมรับว่าหากประลองกับอีกฝ่าย แรงกดดันต้องมากมายมหาศาลแน่
“ชนะแล้ว!”
พวกเจ้าคางคก นกทมิฬและอาหลู่ต่างจิตใจฮึกเหิม รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
มีเพียงพวกเขาที่รู้ดีว่าหลินสวินรอวันนี้มานานแล้ว ดังคำกล่าวที่ว่าสิบปีลับกระบี่ ทดแทนคุณชำระแค้นในวันนี้!
“อวิ๋นชิ่งไป๋แพ้แล้ว…”
โม่เทียนเหอสีหน้ามึนงง
“ทำไม เจ้าหวังให้เขาชนะรึ”
จี้ซิงเหยากล่าวเย็นชา
โม่เทียนเหอเก้กังทันที รีบร้อนกล่าว “จะเป็นไปได้อย่างไร! ข้าแค่ทอดถอนใจว่าผู้ฝึกกระบี่แห่งยุคคนหนึ่งเช่นนี้ถึงกับมาตายที่นี่ ช่างเหมือนฝันจริงๆ”
พวกเซียวชิงเหอ เยวี่ยเจี้ยนหมิง เยี่ยเฉินและเซี่ยวชางเทียนได้ยินดังนั้นก็ต่างรู้สึกแบบเดียวกัน ทอดถอนใจไม่หยุด
ดินแดนรกร้างโบราณในอดีต อวิ๋นชิ่งไป๋เป็นถึงตัวตนที่เจิดจรัสหาใดเปรียบคนหนึ่ง โดดเด่นเหนือคนรุ่นเดียวกัน สยบวีรชนคนกล้าในใต้หล้าจนไม่อาจเงยหน้าขึ้น
บ่อยครั้งที่มีคนพูดว่า การอยู่ร่วมยุคกับอวิ๋นชิ่งไป๋คือโชคร้ายใหญ่หลวงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ได้แค่อยู่ใต้รัศมีของเขา
แต่ตอนนี้อวิ๋นชิ่งไป๋แพ้แล้ว และยังร่วงหล่นไปชั่วนิรันดร์…
นี่จะไม่ให้ผู้คนทอดถอนใจได้อย่างไร
“และด้วยเหตุนี้จึงเสริมให้หลินสวินประหนึ่งไร้คู่ต่อกรยิ่งกว่าเดิม!”
เยวี่ยไฉ่เวยยิ้มเอ่ยปาก แววตาไหลวนด้วยคลื่นอัศจรรย์
‘พวกเขารู้เพียงความเจิดจรัสของเจ้าในวันนี้ แต่อาจมีเพียงข้าที่เข้าใจว่าตั้งแต่เด็กถึงตอนนี้ เจ้าทุ่มเทความพยายามและหยาดเหงื่อไปเท่าไหร่’
อีกด้านหนึ่งไป๋หลิงซียืนอยู่ในฝูงชน พึมพำในใจ
ยังจำได้ว่าตอนเด็กพวกเขาเข้าร่วมฝึกที่ค่ายกระหายเลือดของจักรวรรดิพร้อมกัน เวลานั้นใครเล่าจะคาดคิด ว่าเด็กหนุ่มที่มาจากบ้านนอกคนนั้นจะเผยคมประกายที่ไร้คู่ต่อกรเช่นนี้ที่แดนเก้าบนในวันนี้
จักรวรรดิเล็กมาก ดินแดนรกร้างโบราณใหญ่ยิ่ง
แต่หลินสวินกลับมาผงาดอยู่ที่นี่ วันหน้าต้องชื่อเสียงสะเทือนใต้หล้าแน่!
ห่างออกไปยังมีผู้ชมมากมายตกอยู่ในความตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์ สีหน้าอึ้งงันไม่เอ่ยวาจา
ทุกคนต่างเหม่อลอยมึนงง มองเงาร่างนั้นที่ยืนตระหง่านอยู่ใต้เวิ้งฟ้า ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกดุจเขาถล่มสมุทรคำราม
การต่อสู้ก่อนหน้านี้อวิ๋นชิ่งไป๋ถูกคาดหวังไว้มากกว่า ไม่ว่าพวกเขาจะประเมินหลินสวินสูงอย่างไร ต่างก็คิดไม่ถึงว่าการโจมตี ‘พลีชีพสังเวยกระบี่’ สุดท้ายของอวิ๋นชิ่งไป๋จะถึงกับล้มเหลว…
หลินสวินกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด!
ผลลัพธ์นี้เกินความคาดหมาย ทำให้ผู้คนไม่ทันตั้งตัว
คาดไม่ถึงและไม่อาจเข้าใจ
ราวกับตำนาน!
ด้านผู้แข็งแกร่งพวกนั้นที่มองหลินสวินเป็นศัตรู แต่ละคนต่างราวสูญพ่อสิ้นแม่ อกสั่นขวัญหาย แม้แต่อวิ๋นชิ่งไป๋ยังพ่ายแพ้ ใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเทพมารหลินนั่นได้อีก
สวบ!
เงาร่างของหลินสวินโฉบลงมาจากเวิ้งฟ้า
“ยินดีด้วยพี่หลิน” องค์ชายเซ่าเฮ่ายิ้มน้อยๆ พลางเอ่ยปาก
เพียงพริบตาผู้แข็งแกร่งอื่นบางส่วนที่รู้จักหลินสวินต่างก้าวเข้าไปคารวะแสดงความยินดี อย่างเช่นหมีเหิงเจิน ชื่อหลิงเซียว โม่เทียนเหอ จี้ซิงเหยาและเยวี่ยไฉ่เวยเป็นต้น
เจ้าคางคก นกทมิฬและอาหลู่กลับระแวดระวังยิ่ง คุ้มกันอยู่ข้างหลินสวินอย่างไร้ร่องรอย ทั้งนี้จะได้ไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันบางส่วน
“หลินสวิน เจ้าต้องระวังตัวแล้ว เพิ่งผ่านศึกใหญ่ แม้จะสังหารอวิ๋นชิ่งไป๋ได้ แต่ตัวเจ้าก็คงบาดเจ็บหนัก ล่อแหลมอันตราย เวลานี้หากมีคนฉวยโอกาสลงมือ ผลที่ตามมานั้นเกรงว่าคงร้ายแรงยิ่ง”
ทันใดนั้นเสียงสะท้อนหนึ่งดังขึ้นกลางฟ้าดิน
ดูเหมือนกำลังกล่าวเตือน แต่เสียงดังเช่นนี้ถูกทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้ยินหมด ‘การกล่าวเตือน’ นี้เห็นได้ชัดว่าคือการซ่อนแผนชั่วร้ายไว้
เพียงพริบตาผู้แข็งแกร่งไม่น้อยต่างแววตาวาววาบ
จริงดังว่า เทพมารหลินเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่อันตรายดุเดือดหาใดเปรียบ ต่อให้ได้ชัยชนะก็ต้องเป็นชัยชนะที่เสียหายสาหัส ถูกโจมตีอย่างหนักมากเกินไป ทั้งพลังกายจะต้องผลาญไปมากอย่างแน่นอน
สรุปง่ายๆ ก็คือยามนี้เทพมารหลินกำลังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอที่สุดหลังผ่านศึกใหญ่ เวลานี้หากมีคนคิดไม่ซื่อ…
จะต้องเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสังหารเทพมารหลินอย่างแน่นอน!
“รนหาที่ตาย!”
พวกเจ้าคางคกโกรธจัด “ยุแยงตะแคงรั่ว คดในข้องอในกระดูก เป็นสุนัขลอบกัดตัวไหน กล้าออกมาพูดซึ่งหน้าไหมเล่า”
ขณะเดียวกันพวกเขาก็แผ่จิตรับรู้ออกค้นหา
หลินสวินสีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลม เขาเคยผ่านเรื่องแบบเดียวกันมามากมาย ไม่มีสิ่งใดผิดจากที่คาด
“ข้าหวังดีกล่าวเตือน ทำไมกลายเป็นยุแยงตะแคงรั่ว คดในข้องอในกระดูกไปได้เล่า แน่นอนว่าต่อให้ครั้งนี้หลินสวินจะจากไปได้อย่างปลอดภัยก็ต้องระวังตัวอยู่ดี เพราะอีกไม่นานแดนยอดมรดกก็จะปรากฏ หากได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป เกรงว่าคงจะเกิดอันตรายไม่น้อย”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนถึงได้เห็นชัดเจนว่าคนที่พูดก็คือชายหนุ่มดวงตาโลหิตชุดดำ กลิ่นอายเย็นชาคนหนึ่ง
“โก่วเหยียนป้าแห่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ!”.ไอรีนโนเวล.
มีคนรู้ฐานะของฝ่ายตรงข้ามแล้วร้องออกมา นำพาให้เกิดความแตกตื่นขึ้นในที่นั้น
คนมากมายต่างรู้ว่าเมื่อครั้งยังอยู่แดนฐิติประจิม หลินสวินก็ผูกพยาบาทกับเผ่านี้แล้ว
กระทั่งเข้าสู่แดนชัยบูรพา หลินสวินยังเคยเหยียบประตูเขาเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬพร้อม ‘อริยะหญิง’ ปริศนาคนนั้นแล้วสังหารพวกเขาเสียราบคาบ ชักนำมาซึ่งแรงสะเทือนทั้งใต้หล้า
“เหอะ เป็นหมาตัวหนึ่งจริงด้วย!”
อาหลู่สบถออกมา
เพียงพริบตาเหล่าผู้กล้าในที่นั้นสีหน้าแปลกประหลาด โก่วเหยียนป้านี่ช่างเป็นสุนัขกล้าคับฟ้ายิ่งนัก เวลานี้ยังมายั่วยุ ไม่กลัวประสบหายนะรึ
โก่วเหยียนป้าไม่สนสายตาแปลกประหลาดโดยรอบสักนิด กล่าวเสียงดัง “เช่นเดียวกัน ข้าเชื่อว่าในที่นี้ต้องมีคนไม่อยากให้เจ้าหลินสวินฟื้นคืนสภาพกลับมาสมบูรณ์แน่ ถ้าเป็นเช่นนั้นหากเจ้าเข้าร่วมการช่วงชิงของแดนยอดมรดก คนอื่นไหนเลยจะมีโอกาสไปแย่ง ‘อริยะนำพา’ ที่เร้นลับนั่น”
ประโยคเดียวทำให้คนไม่น้อยในที่นั้นหน้าพลันเปลี่ยนสีอีกครั้ง
นัยในคำพูดของโก่วเหยียนป้าชัดเจนเกินไปแล้ว เทพมารหลินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อให้เข้าร่วมการแย่งชิงของแดนยอดมรดกก็ไม่มีภัยคุกคามเท่าไร
แต่ถ้าเขาฟื้นคืนสภาพกลับมาสมบูรณ์แล้วไปร่วมช่วงชิงด้วย คนอื่นก็มีโอกาสไม่เท่าไหร่แล้ว!
ถึงอย่างไรแม้แต่อวิ๋นชิ่งไป๋ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แล้วใครจะกำราบเขาได้อีก
ไม่ว่าใครขอแค่มีปณิธานจะเข้าร่วมช่วงชิงในแดนยอดมรดก คงไม่อาจไม่พิจารณาถึงสถานการณ์นี้
และการที่โก่วเหยียนป้ากล่าวคำพูดพวกนี้ออกมาเวลานี้ ไม่ใช่แค่ซ่อนแผนชั่วร้าย แต่เห็นชัดว่ากำลังทำให้เหล่าผู้กล้าหลงผิดหันปลายหอกจ่อใส่หลินสวิน!
ด้วยเวลานี้หลินสวินอ่อนแอที่สุด หากสามารถจัดการเขาได้ในทันที ก็เท่ากับกำจัดคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดในการแข่งขันแดนยอดมรดกไปได้คนหนึ่ง!
เหล่าผู้กล้าในที่นั้นสามารถรอดชีวิตในการช่วงชิงและเข่นฆ่าหลายปีนี้มาได้ถึงตอนนี้ แน่นอนว่าไม่มีสักคนที่เป็นพวกโง่เขลา เพียงพริบตาก็เข้าใจจุดสำคัญในประเด็นนี้
สีหน้าต่างวูบไหวไม่หยุดขึ้นมาทันที
หลินสวินมุ่นคิ้ว คำพูดที่จู่โจมกะทันหันพวกนี้ของโก่วเหยียนป้าแน่นอนว่าเหี้ยมโหดลอบกัดหาใดเปรียบ ฆ่าคนอย่างเลือดเย็น!
ฟุ่บ!
เวลานี้องค์ชายเซ่าเฮ่าลงมือทันใด เพียงพริบตาก็ปรากฏตัวอยู่หน้าโก่วเหยียนป้าแล้วยื่นมือออกไป ฝ่ายหลังไม่ทันแม้แต่จะตอบสนองก็ถูกตัดหัว!
ซ่า…
เลือดแดงสดดั่งน้ำพุสาดกระจายออกมาจากศพไร้หัวของโก่วเหยียนป้า ภาพนองเลือดนี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงทันใด
“เสี้ยมคนให้ทำผิด เจตนาชั่วช้า!”
เซ่าเฮ่าสีหน้าเย็นชา นัยน์ตาดุจอสนีกวาดมองทั่วลาน “หากใครไม่พอใจก็ไปสู้กับหลินสวินอย่างผ่าเผย ใช้วิธีชั้นต่ำเช่นนี้ก็ได้แต่ทำให้ผู้คนดูถูก!”
คำพูดมีจังหวะจะโคน เสียงกึกก้องสะท้านปฐพี
ประกอบกับเดิมทีเซ่าเฮ่าก็เป็นราชันแห่งยุคที่แข็งแกร่งยิ่งคนหนึ่ง ทันทีที่เขาเอ่ยปากก็พาให้บรรยากาศในที่นั้นเงียบสงัด
หลินสวินยิ้มไม่พูดอะไร เพียงแต่มองเซ่าเฮ่าวูบหนึ่ง
“มาๆๆ ใครไม่พอใจก็ก้าวออกมา!”
เจ้าคางคกตะโกนกระเหี้ยนกระหือรือ
นกทมิฬและอาหลู่ก็สีหน้าเย็นชา
“ยังมีพวกเราด้วย”
พวกเซียวชิงเหอ ชื่อหลิงเซียว จี้ซิงเหยา โม่เทียนเหอ เยี่ยเฉิน เซี่ยวชางเทียน เยวี่ยไฉ่เวย… ก็ต่างทยอยก้าวออกมา
นี่ทำให้เหล่าผู้กล้าในที่นั้นใจสั่นสะท้าน สีหน้าปรวนแปรยิ่งกว่าเดิม
หลินสวินคนเดียวก็แข็งแกร่งจนพาให้ผู้คนสิ้นหวังแล้ว เมื่อลองดูเหล่าคนข้างกายเขา มีใครไม่ใช่บุคคลขอบเขตมกุฎที่ร้ายกาจโดดเด่น และครองอำนาจในฝ่ายหนึ่งบ้าง
บุคคลร้ายกาจกลุ่มหนึ่งเช่นนี้ยืนอยู่หน้าหลินสวินพร้อมกัน ใครจะกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอีกเล่า
ประกอบกับท่าทีขององค์ชายเซ่าเฮ่า พูดได้ว่าเวลานี้ใครกล้าหาเรื่องหลินสวิน ก็เท่ากับสร้างความลำบากให้ชีวิตของตัวเอง!
“แดนยอดมรดกคือการต่อสู้ของผู้กล้าที่แท้จริง มีเพียงผู้ที่เคยมีชื่อปรากฏอยู่บนกระดานทองคำผู้กล้าถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วม”
ทันใดนั้นเทพธิดารั่วอู่เอ่ยปาก น้ำเสียงแผ่วเบา งดงามเงียบสงบและเลือนราง “ในเมื่อเป็นผู้กล้าก็ต้องรับผิดชอบต่อสองคำนี้ให้ได้ หากใช้วิธีลอบกัดต่ำทรามบางอย่างด้วยเกรงกลัวและหวาดหวั่นใครบางคน เช่นนั้นก็ไม่คู่ควรที่จะเรียกว่าผู้กล้าแต่แรก”
พูดจบเงาร่างนางก็พุ่งวาบ ลอยล่องจากไป
ต่อจากนั้นเหล่าผู้กล้าในที่นั้นก็ทยอยแยกย้ายกันไปทันที ถ้าปล่อยเวลาให้ผ่านไปอีกต้องถูกเข้าใจผิดว่าเจตนาทำร้ายหลินสวินแน่
และวันนั้นเอง ข่าวเกี่ยวกับการประลองนี้เสมือนสายฟ้าแลบผ่าน ตัดทำลายแหวกอากาศเหนือแดนเก้าบน
เพียงพริบตา ผู้แข็งแกร่งที่กระจายอยู่ต่างบริเวณของแดนเก้าบนแต่ไม่ได้มาชมการประลองพวกนั้น ต่างตกอยู่ในความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่
เทพมารหลินชนะแล้ว!
เขาเอาชนะอวิ๋นชิ่งไป๋ผู้ฝึกกระบี่อันดับหนึ่งแห่งยุคได้!
ได้ยินว่าช่วงสุดท้ายอวิ๋นชิ่งไป๋พลีชีพสังเวยกระบี่ แต่ยังไม่อาจหลุดพ้นความตาย ส่วนเทพมารหลินแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ภายใต้สายตาของมวลชนที่จับจ้องกลับจากไปได้อย่างปลอดภัย ไม่ถูกขัดขวางใดๆ!
นัยแฝงที่เผยออกมาอย่างชัดเจนเบื้องหลังทุกอย่างนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจไม่ไหวหวั่น
……………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset