Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1469 ต้นกำเนิดของสามด่านเคราะห์ต้องห้าม

เด็กสาวจักจั่นขาวบันดาลโทสะ บนหน้างามหาใดเปรียบเต็มไปด้วยความดุดันเย็นชา

นางเหลือแค่ก้าวสุดท้ายก็จะทะลวงนรกหมื่นเคราะห์ทั้งหมดผ่านแล้ว เดิมคิดว่ามีชายหนุ่มจักจั่นทองคอยช่วย จุดเปลี่ยนใหญ่นี้ต้องได้มาอย่างง่ายดายแน่

ไหนเลยจะคิดว่าจุดเปลี่ยนใหญ่นี้จะถูกคนชิงไปก่อน!

“ข้าจำศีลอยู่ที่นี่กับเจ้ามาเนิ่นนาน แต่เจ้ากลับทำกับข้าเช่นนี้หรือ”

เด็กสาวจักจั่นขาวตะโกนด้วยความเดือดดาล

นางเรียกตัวเองว่าไป๋ตี้ (จักรพรรดิขาว) สิ่งที่มุ่งหวังในใจมาตลอดแน่นอนว่าคือการบรรลุจักรพรรดิ แต่ตอนนี้ความหวังที่เฝ้ารอมานานอย่างยากลำบากหายไปหมดแล้ว

นี่จะให้นางพอใจได้อย่างไร

นางรู้ว่าชายหนุ่มจักจั่นทองต้องได้ยินแน่

“ข้าเคยบอกว่าจุดเปลี่ยนใหญ่นี้ไม่ใช่ของเจ้า ครั้งนี้ที่พาเจ้ามาก็ด้วยอยากพิสูจน์ในจุดนี้ เพื่อให้เจ้าไม่ยึดมั่นกับเรื่องนี้”

ไม่ทันไรเสียงทอดถอนใจของชายหนุ่มจักจั่นทองก็ดังขึ้นดังคาด “อาไป๋ หากเจ้ายังเชื่อข้าเหมือนตอนนั้น รอเมื่อออกไปจากที่นี่แล้ว ข้าจะเสาะหาจุดเปลี่ยนบรรลุจักรพรรดิให้เจ้า”

เด็กสาวจักจั่นขาวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แค้นเสียจนสั่นไปทั้งตัว “จุดเปลี่ยนบรรลุจักรพรรดิครั้งต่อไป? ยังต้องทนรอผ่านกาลเวลาไร้สิ้นสุดอย่างยากลำบากอีกหรือไม่”

“ไม่ ไม่นานแล้ว”

เสียงของชายหนุ่มจักจั่นทองเจือความเด็ดเดี่ยว “มหายุคในตอนนี้ต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิงแล้ว”

เด็กสาวจักจั่นขาวเงียบไปครู่ใหญ่ ควบคุมความโกรธและหดหู่ในใจแล้วกล่าวเย็นชา “ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าไม่บรรลุจักรพรรดิ ก็ไม่อนุญาตให้เจ้าเรียกข้าว่าอาไป๋อีก!”

ชายหนุ่มจักจั่นทองที่ยืนอยู่ในตำหนักจักรพรรดิหมื่นเคราะห์เงียบไปสักครู่ ในที่สุดก็ถอนใจเบาๆ ไม่กล่าวอะไรอีก

หลินสวินไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงประหลาดทั้งหมด

เขากำลังต้านเคราะห์มรรคตัดขาดเต็มกำลัง

แม้จะรู้ดีว่ามหาเคราะห์นี้ถูกผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิคนอื่นแบกรับอานุภาพส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่เขากลับไม่กล้าประมาทเลินเล่อใดๆ

ต่างจากเคราะห์ของการบำเพ็ญ การข้ามเคราะห์มรรคตัดขาดไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรแก่พลังปราณของหลินสวิน

เพียงแต่หากทำลายเคราะห์นี้ได้ เขาก็จะฝึกมกุฎไตรมรรคพร้อมกันต่อไปได้ สามารถเสาะหามรรคาที่ก้าวสู่ระดับมกุฎอริยะโดยการฝึกมรรคาทั้งสามสายอย่างการหลอมปราณ หลอมจิต หลอมกายด้วยกันได้!

นี่ก็คือสิ่งที่หลินสวินมุ่งหวังปรารถนา

แต่สำหรับเหล่ากึ่งจักรพรรดิที่กระจายอยู่ในแดนลับต่างๆ ของนรกหมื่นเคราะห์พวกนั้น มหาเคราะห์นี้กลับเหมือนหายนะไม่คาดฝันอย่างหนึ่ง ทำให้พวกเขาหน้าดำราวก้นหม้อ ในใจไม่รู้ด่าโคตรเหง้าตระกูลของหลินสวินไปถึงไหน

น่าอดสูจริงๆ

ถ้าถูกคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันลอบวางแผนใส่เช่นนี้ พวกเขาคงไม่มีทางหัวเสียเช่นนี้แน่ แต่เมื่อถูกมดปลวกที่พวกเขาไม่เห็นอยู่ในสายตาตัวหนึ่งขี้เยี่ยวรดหัว รสชาตินั้นไม่ต้องพูดเลยว่าน่ารังเกียจแค่ไหน

“อย่าให้ข้าจับเจ้าได้แล้วกัน!”

ดวงตาทั้งคู่ของบรรพจารย์บัวโลหิตดุจเปลวเพลิงร้อนระอุ

“มารดามันเถอะ!”

กึ่งจักรพรรดิที่ใจดีและจิตใจมั่นคงบางส่วนยังโกรธจนหลุดปากด่ายกใหญ่อย่างอดไม่อยู่

“ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงดิ้นรนเก่งแบบนี้ ทำไมเคราะห์มรรคตัดขาดไม่ผ่าเขาให้ตายเล่า”

พวกอูจิ่วฉง จวี้เทียนสิงแต่ละคนเดือดดาล

ความจริงแล้วสาเหตุที่แท้จริงอยู่ที่ครั้งนี้ไม่เพียงถูกหลินสวินหลอกใช้ สิ่งสำคัญยังอยู่ที่ทำให้พวกเขาพลาดจุดเปลี่ยนใหญ่ในการบรรลุจักรพรรดิตอนนี้ไปด้วย!

นี่ก็คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สภาวะจิตของพวกเขาเดือดจัดและไม่พอใจ

พวกเขาแค่นำต้นเหตุของบทสรุปไปลงที่หลินสวินเท่านั้น คิดว่าหากหลินสวินไม่ชักนำเคราะห์มรรคตัดขาดนี้มากะทันหัน จนทำให้พวกเขาไม่อาจไม่ถูกดึงไปต้านพิบัติเคราะห์ด้วย คงไม่มีทางทำให้จุดเปลี่ยนใหญ่นี้หลุดมือไปต่อหน้าต่อตาแน่!

ในที่สุดเคราะห์มรรคตัดขาดก็หายไป ถูกคลี่คลายได้อย่างไร้อันตราย

ทั้งไม่เกิดเหตุไม่คาดฝัน

การข้ามด่านเคราะห์ในโลกลึกลับไม่ธรรมดาอย่างนรกหมื่นเคราะห์ ทั้งมีกึ่งจักรพรรดิมากมายร่วมแบกรับอานุภาพของมหาเคราะห์พร้อมกัน หากข้ามด่านเคราะห์นี้ไม่พ้นอีก นั่นก็เรียกว่าผิดปกติแล้ว

เพียงแต่ยังไม่รอให้กึ่งจักรพรรดิพวกนั้นโล่งอก ก็พลันสังเกตเห็นว่าช่องโหว่มหึมาราวถูกแหวกบนเวิ้งฟ้านั่นไม่ได้หายไป

กลิ่นอายพิบัติเคราะห์ต้องห้ามชวนประหวั่นที่อัดแน่นอยู่ในรอยแยกนั้น กลับน่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่ร้อยเท่าพันเท่า!

แม้เป็นพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิของพวกเขาก็ยังรู้สึกจิตใจสะท้านไหว ขนลุกไปทั้งตัว

“นี่…”

“เคราะห์พิฆาตมรรค!”

“นี่เป็นเรื่องจริง จุดเปลี่ยนใหญ่นั่นถูกคนชิงไปแล้ว…”

เพียงพริบตากึ่งจักรพรรดิทุกคนสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ หน้าประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ในใจมีความรู้สึกคับข้องราวมีฝูงม้าห้อตะบึงคำรามก้อง โกรธจนแทบกระอักเลือด

เคราะห์พิฆาตมรรค นี่คือพิบัติเคราะห์ต้องห้ามอันน่ากลัวที่สุดที่ผู้แข็งแกร่งระดับอริยะทุกคนต้องเจอก่อนกลายเป็นจักรพรรดิ

ตั้งแต่สมัยบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน ผู้แข็งแกร่งที่ฝีมือล้ำเลิศไม่รู้เท่าไรต่างหยุดอยู่ตรงนี้ ไร้วาสนาได้กลายเป็นจักรพรรดิ!

กึ่งจักรพรรดิแม้จะอยู่เหนือระดับอริยะ แต่ถ้าว่ากันตามจริงแล้วกลับอยู่ระหว่างระดับอริยะและระดับจักรพรรดิ ต้องเผชิญหน้ากับเคราะห์พิฆาตมรรคเหมือนกัน

อีกทั้งหากพวกเขาเหล่ากึ่งจักรพรรดิเดาไม่ผิด อานุภาพของเคราะห์พิฆาตมรรคครั้งนี้ เป็นไปได้สูงว่าจะถูกพวกเขาแบ่งไปทีละน้อยเหมือนกับเคราะห์มรรคตัดขาดก่อนหน้านี้ด้วย

เพียงพริบตาพวกเขาต่างมีความรู้สึกเหมือนอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก นี่ไม่ใช่แค่ถูกหลอกแล้ว หากแต่เข้าทำนองลำบากทำแทนคนอื่น!

ช่วงชิงจุดเปลี่ยนใหญ่ไม่ได้ก็ทำให้พวกเขาหดหู่ใจและเคียดแค้นชิงชังแล้ว ตอนนี้ยังต้องมาช่วยเจ้าคนที่ได้จุดเปลี่ยนใหญ่ไปนั่นแบ่งเบาความเสี่ยงของการข้ามด่านเคราะห์อีก นี่…

ช่างน่าอัดอั้นจริงๆ!

“จำศีลอย่างยากลำบากมาถึงวันนี้ ในที่สุดก็จะมาแล้ว…”

ขณะเดียวกันชุดคลุมม่วงของจ้าวหยวนจี๋สะบัดโบก สีหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงฮึกเหิม เขารู้ว่าหลังจากข้ามด่านเคราะห์นี้ ความปรารถนาในการบรรลุจักรพรรดิของตนจะไม่มีสิ่งกีดขวางอีก!

“สหายน้อย ควรกลับมาได้แล้ว”

ในตำหนักจักรพรรดิหมื่นเคราะห์ ชายหนุ่มจักจั่นทองเอื้อมมือล้วงเข้าไปในชามหมื่นเคราะห์แปรนภา

วู้ม…

คลื่นประหลาดหนึ่งซัดโหม เงาร่างของหลินสวินพลันกลับเข้ามาในตำหนักอีกครั้ง

หลินสวินสีหน้ามึนงง

จนถึงตอนนี้เขายังไม่กล้าเชื่ออยู่บ้างว่าตนจะก้าวข้ามเคราะห์มรรคตัดขาดเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าง่ายดายเกินไป หากแต่น่าเหลือเชื่อเกินไป

มุมปากของชายหนุ่มจักจั่นทองโค้งเป็นรอยยิ้มประหลาด ดูเหมือนเดาความคิดของหลินสวินออก ในใจแอบพูดว่า หากเจ้ารู้ว่ากึ่งจักรพรรดิพวกนั้นด่าเจ้าจนควันออกหูเกรงว่าคงจะเข้าใจ ว่าการข้ามด่านเคราะห์นี้ไม่ธรรมดาแค่ไหน…

ครู่ใหญ่หลินสวินจึงได้สติ ประสานมือกล่าว “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ”

เขารู้ว่าที่สามารถใช้วิธีน่าเหลือเชื่อเช่นนี้มาก้าวข้ามเคราะห์มรรคตัดขาดได้ หนีไม่พ้นการชี้แนะของชายหนุ่มจักจั่นทองอย่างสิ้นเชิง

ชายหนุ่มจักจั่นทองยิ้มกล่าว “ต่อให้ข้าไม่ชี้แนะ จ้าวหยวนจี๋คนนั้นก็จะช่วยเจ้าชิงโอกาสนี้ ข้าแค่ทำตามน้ำเพื่อให้เจ้า จ้าวหยวนจี๋ และข้าสมปรารถนาเท่านั้น”

หลินสวินชะงัก

ก็เห็นชายหนุ่มจักจั่นทองชี้ชามหมื่นเคราะห์แปรนภาแล้วกล่าว “เจ้าดู จุดเปลี่ยนใหญ่นี้ถูกจ้าวหยวนจี๋ได้ไป เวลานี้ได้ดึงดูดสิ่งที่มองเขาเป็นศัตรูอย่างเคราะห์พิฆาตมรรคมาแล้ว หมายจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก เพียงแต่ก็เหมือนการข้ามด่านเคราะห์ของเจ้า ยามที่จ้าวหยวนจี๋ข้ามด่านเคราะห์นี้ กึ่งจักรพรรดิคนอื่นก็ได้แต่ถูกลากไปแบ่งเบาพลังของพิบัติเคราะห์นั้นด้วย”

สีหน้าหลินสวินเปลี่ยนเป็นพิกลขึ้นมา เวลานี้เขาเป็นผู้ชมแล้ว ได้เห็นภาพต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในนรกหมื่นเคราะห์อยู่ในสายตา

และเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นบรรพจารย์บัวโลหิต ดอกกระบี่พันปีก หรือพวกอูจิ่วฉง จวี้เทียนสิง แต่ละคนต่างสีหน้าผิดแปลกกำลังคำรามด่ายกใหญ่

ไหนเลยจะเหมือนกึ่งจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง ช่างเหมือนหญิงปากร้ายที่โวยวายอยู่บนถนนกลุ่มหนึ่งจริงๆ ทำให้หลินสวินได้เปิดโลกทัศน์ ยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

แต่เมื่อสังเกตเห็น ‘เคราะห์พิฆาตมรรค’ ที่จ้าวหยวนจี๋ชักนำมา รอยยิ้มบนหน้าหลินสวินพลันถูกเก็บไปทันที เปลี่ยนเป็นแปลกใจไม่หยุด

บนเวิ้งฟ้าห้วงอากาศแยกออกจากกันเป็นช่องโหว่มหึมาหนึ่ง ทวนพิฆาตมรรคเล่มหนึ่งปรากฏ เต็มไปด้วยพลังต้องห้ามราวกับจะทลายฟ้ามลายดิน น่าหวาดกลัวไร้ขีดจำกัด

หลินสวินกล้ายืนยันว่าเขาเคยเห็นพิบัติเคราะห์นี้มาก่อน

ปีนั้นในอารามที่อยู่ใต้แม่น้ำนรก เขาก็เคยเห็นภาพต่างๆ ที่อริยสงฆ์ตู้จี้และนางพญาหงส์ทมิฬข้ามด่านเคราะห์ในปีนั้น

ปีนั้นผู้มากสามารถทั้งสองนี้อนุมาน หยั่งรู้ และแลกเปลี่ยนผ่านกาลเวลาไร้สิ้นสุด สรรสร้าง ‘คัมภีร์มหาครรภ์จุติ’ อยู่ใต้ต้นโพธิ์ด้วยกัน

ปีนั้นอริยสงฆ์ตู้จี้เคยกล่าวว่า เขามองเห็นระดับที่สูงกว่าแล้วพูดว่า ‘หากข้าเป็นมาร ก็จะเป็นมารที่เหนือกว่าพุทธองค์ทั้งปวงในใต้หล้า’

แต่ต่อจากนั้นเขาก็พูดอีกประโยคหนึ่งทันที ‘หากข้าเป็นพระ ใต้หล้าต้องไร้มาร!’

จากนั้นมหาเคราะห์ต้องห้ามหนึ่งก็มาเยือน

ด่านเคราะห์นี้แปลงเป็นทวนศึกต้องห้ามโจมตีลงมา ถึงตอนท้ายสุด ในช่องว่างมหึมาที่แยกออกจากกันบนเวิ้งฟ้านั่นถึงขั้นปรากฏเงาร่างสีทองร่างหนึ่ง อานุภาพสะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ราวกับนายเหนือหัวมาเยือนโลก!

สุดท้ายอริยสงฆ์ตู้จี้และนางพญาหงส์ทมิฬล้วนประสบเคราะห์…

หลินสวินจำได้ชัดเจน ตอนนั้นนางพญาหงส์ทมิฬเคยพูดกับอริยสงฆ์ตู้จี้ว่า ‘ตอนพวกเราเหยียบย่างมาถึงขั้นนี้ก็ถูกลิขิตให้เป็นเช่นนี้แล้ว นับแต่โบราณกาลอริยบุคคลล้วนเป็นเช่นนี้!’

ตอนนี้เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ของ ‘เคราะห์พิฆาตมรรค’ ที่เล็งเป้าไปยังจ้าวหยวนจี๋นี้ ในที่สุดหลินสวินก็แน่ใจเรื่องหนึ่ง

มหาเคราะห์ที่ทำให้อริยสงฆ์ตู้จี้และนางพญาหงส์ทมิฬประสบหายนะในปีนั้น ก็คือเคราะห์พิฆาตมรรค!

‘ที่แท้ยามผู้อาวุโสทั้งสองสร้าง ‘คัมภีร์มหาครรภ์จุติ’ ก็เป็นระดับกึ่งจักรพรรดิแล้ว…’

ใจของหลินสวินไหวหวั่นโหมซัด

“เจ้าดู นี่ก็คือโฉมหน้าที่แท้จริงของเคราะห์พิฆาตมรรค”

นัยน์ตาของชายหนุ่มจักจั่นทองฉายประกายลึกลับน่าพรั่นพรึง กล่าวเสียงต่ำลึก

หลินสวินมองไปก็หนังหัวชาวาบทันที ในเคราะห์พิฆาตมรรคที่พวกจ้าวหยวนจี๋เผชิญหน้า ปรากฏเงาร่างกำยำสีทองนั่นอีกครั้ง!

ร่างสีทองนั้นดูเหมือนผอมบาง แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่าสูงใหญ่ไร้ขอบเขต เบียดแน่นทั้งใต้หล้า บีบกดฟ้าดินทุกหัวระแหง ราวกับนายเหนือหัวคนเดียวของปวงสวรรค์

ในมือกุมทวนศึกสีทองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างต้องห้ามเล่มหนึ่ง!

เพียงแค่มองก็ทำให้เลือดของหลินสวินราวถูกแช่แข็ง จิตวิญญาณกดดันจวนพังทลาย รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง

เป็นเขา!

ตัวการคนนั้นที่ทำให้อริยสงฆ์ตู้จี้และนางพญาหงส์ทมิฬข้ามด่านเคราะห์ล้มเหลวในปีนั้น!

“ผู้อาวุโส นี่… คือสิ่งมีชีวิตที่แปรสภาพมาจากเคราะห์พิฆาตมรรคหรือ”

หลินสวินข่มความตระหนกในใจ เอ่ยถามเสียงเบา

ชายหนุ่มจักจั่นทองส่ายหัว “ควรพูดว่าสิ่งมีชีวิตนี้เป็นแค่สิ่งที่สร้างขึ้นจากพลังกฎเกณฑ์เจตจำนง และพลังกฎเกณฑ์เจตจำนงนี้ก็มาจากผู้ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งคนหนึ่ง”

“ก่อนหน้านี้เจ้าต้องเคยสงสัยแน่ ว่าหลังจากสมัยดึกดำบรรพ์ทำไมดินแดนรกร้างโบราณถึงถูกมหาเคราะห์ต้องห้ามสามอย่างปกคลุม ง่ายมาก สามด่านเคราะห์ต้องห้ามนี้ก็มาจากเจ้าของกฎเกณฑ์เจตจำนงนี่”

ฟังถึงตรงนี้หลินสวินพลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง

ตั้งแต่สมัยบรรพกาล สามด่านเคราะห์ต้องห้ามอย่าง ‘ตัดขาด’ ‘กักขัง’ ‘พิฆาตมรรค’ ที่ปกคลุมอยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ ถึงกับมาจากฝีมือของคนผู้เดียว?

เขาเป็นใคร

ทั้งครองพลังที่น่ากลัวระดับใด จึงสามารถใช้พลังกฎเกณฑ์เจตจำนงของตัวเอง สร้างเป็นสามด่านเคราะห์ต้องห้ามปกคลุมทั้งดินแดนรกร้างโบราณได้

และด้วยพลังของเขาทำให้ตั้งแต่สมัยบรรพกาลเป็นต้นมา ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนไม่กล้าฝึกมรรคาสามสายพร้อมกันอีก

ทำให้ระดับอริยะทุกคนในดินแดนรกร้างโบราณถูกลบหายไปก่อนได้กลายเป็นจักรพรรดิ

ทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายในดินแดนรกร้างโบราณราวกับอยู่ในกรงขัง เสียโอกาสที่จะไปเสาะหายังโลกภายนอก

นี่ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว!

…………..

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset