Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1541 ยันต์ปักวิญญาณ

“ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งที่สอง สถานการณ์ของค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณสุดจะทนยิ่งกว่าตอนเราตอนนี้เสียอีก ตอนนั้น… แม้แต่มกุฎอริยะสักคนก็ยังไม่มี ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณจะเดินไปที่ไหน ล้วนถูกสยบสังหารและกวาดล้างหมด”

เมื่อได้ยินเสียงถอนใจเบาๆ ของหลินสวิน รั่วอู่ก็สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวยิ้มๆ ว่า “อีกอย่างข้าเชื่อว่าการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งนี้ ดินแดนรกร้างโบราณของพวกเราจะต้องดียิ่งๆ ขึ้นไปเป็นแน่!”

หลินสวินพยักหน้า “นี่ก็จริงอย่างว่า อย่างไรเสียในกาลเวลาที่ผ่านมา เคยมีอริยเมธีนับไม่ถ้วนทุ่มหยาดเหงื่อแรงกาย ตระเตรียมมหายุคที่ไม่เคยมีมาก่อนครั้งหนึ่งเพื่อพวกเรา ทำให้พวกเรามีโอกาสเหยียบย่างระดับมกุฎอริยะ”

“การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนในครั้งนี้ จะต้องต่างจากเมื่อก่อนอย่างแน่นอน!”

ขณะสนทนา บริเวณไม่ไกลจากทั้งคู่นักมีการต่อสู้หนึ่งกำลังปะทุเดือด

เสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าร่วมมือกัน กำลังโรมรันกับผู้แข็งแกร่งจากดินแดนโบราณยอดหยินกลุ่มหนึ่ง สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือด

เพราะในบรรดาศัตรูมีอริยะหลายคนนำทัพ

“รากฐานพลังของเจ้าตัวน้อยสองคนนี้ช่างน่าตกใจจริงๆ ทั้งคู่ร่วมมือกัน ยังไม่ได้บรรลุอริยะก็สามารถห้ำหั่นกับอริยะได้แล้ว”

รั่วอู่ทอดสายตามองไป “ข้าล่ะสงสัย หากพวกเขาเหยียบย่างระดับมกุฎอริยะ จะไม่วิปริตเหมือนอย่างเจ้าด้วยหรือ”

“วิปริต?”

หลินสวินบื้อใบ้ไป กล่าวว่า “พวกเขาคนหนึ่งเป็นทายาทหนอนกินเทพ คนหนึ่งเป็นทายาทผีเสื้อมารแยกฟ้า ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือพลังสายเลือด ล้วนเรียกได้ว่าสะท้านอดีตปัจจุบัน การที่มีพลังต่อสู้ระดับนี้ก็ถือว่าปกติกระมัง”

รั่วอู่กล่าวกลั้วหัวเราะ “นี่มันของแน่อยู่แล้ว จริงสิ เจ้าตั้งใจจะเสาะหาจุดเปลี่ยนบรรลุมกุฎอริยะให้พวกเขาเมื่อไหร่”

หลินสวินขบคิดแล้วกล่าวว่า “เกรงว่ายังต้องรอสักระยะ ข้าจำได้ว่าหนึ่งปีให้หลังยังจะมีพิภพเล็กที่คล้าย ‘แดนลับนรกโลกันตร์’ ปรากฏ ถึงตอนนั้นข้าจะพาพวกเสี่ยวอิ๋นมุ่งหน้าไปพร้อมกัน คุ้มกันการเดินทางให้พวกเขา”

“แดนลับสนามแม่เหล็กหรือ”

รั่วอู่นึกขึ้นได้ในทันที

“ใช่ แดนลับนี้ก็จะมาเยือนในโลกรกร้างโบราณแห่งนี้เช่นกัน”

หลินสวินพยักหน้า “ถึงตอนนั้นบุคคลขอบเขตมกุฎของดินแดนรกร้างโบราณของเรา ขอเพียงมีโอกาสบรรลุมกุฎอริยะ ข้าก็จะช่วยอีกแรง พิทักษ์ปกป้องพวกเขา”

เนตรดาราของรั่วอู่มีประกายหลากสีอันงดงามไหลเวียน “แต่เจ้าก็น่าจะรู้ดี เมื่อแดนลับสนามแม่เหล็กมาเยือน จะต้องถูกแปดดินแดนอื่นจับจ้องด้วยเช่นกัน”

หลินสวินหัวเราะร่วนคราหนึ่ง นัยน์ตาดำกลับมีแสงเยียบเย็นไหลผ่าน “หากพวกเขากล้ามาแย่งชิง ต้องถามข้าหลินสวินก่อนว่าอนุญาตหรือไม่”

รั่วอู่อึ้งไป “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่า… เจ้าตั้งตาคอยอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะมุ่งหน้ามาเมื่อถึงตอนนั้น”

หลินสวินยกนิ้วโป้งขึ้นกล่าวชื่นชม “ความรู้สึกของเจ้าแม่นนัก ข้าหมายจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคในโลกรกร้างโบราณอีกครั้ง ย่อมต้องการวัสดุสร้างเมืองมหาศาล ข้าคิดว่า โครงกระดูกและเลือดของศัตรูแปดดินแดนเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง”

ดูเหมือนกำลังพูดล้อเล่น แต่ในใจรั่วอู่กลับสะท้านไม่สิ้น ตระหนักได้ว่าหลินสวินถูกกระตุ้นจากเมืองอารักษ์มรรคในโลกมารโลหิตอย่างชัดเจน หมายจะเอาเลือดแลกด้วยเลือด!

“ถึงตอนนั้น ข้าจะช่วยเจ้ารวบรวมวัสดุด้วยกัน”

รั่วอู่กล่าวอย่างหนักแน่น

“ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว”

หลินสวินกล่าวยิ้มๆ

กล่าวพลาง เขาโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง เสียงฮู้มดังคราหนึ่ง ประกายสุกใสระฟ้าตลบม้วนออกไป ปิดครอบลานต่อสู้ที่อยู่ไม่ไกลแถบนั้นเอาไว้

ทันใดนั้นเหล่าศัตรูดินแดนโบราณยอดหยินที่กำลังโรมรันดุเดือดกับพวกเสี่ยวอิ๋น ล้วนล้มเกลื่อนพื้นในชั่วพริบตา!

เสี่ยวอิ๋นและเสี่ยวเทียนต่างเจ็บหนักสะบักสะบอม

ถึงอย่างไรก็เป็นการโรมรันฟันฆ่ากับอริยะแท้หลายคน พวกเขาทั้งคู่ยังไม่บรรลุอริยะ ฮึดสู้มาได้จนถึงตอนนี้ก็ไม่ง่ายอย่างที่สุดแล้ว

หนำซ้ำที่น่าตกใจคือ ในขณะที่ต่อสู้ยังมีอริยะแท้คนหนึ่งถูกทั้งคู่ร่วมมือกันซุ่มโจมตี!

จังหวะลงมือของหลินสวินมาถูกเวลาพอดี หาไม่ขืนสู้กันต่อไป พวกเสี่ยวอิ๋นจะต้องยันไม่ไหวเป็นแน่

นี่ก็คือการเคี่ยวกรำ ก่อนหน้านี้ที่หลินสวินไม่ยื่นมือเข้าแทรก แค่เพราะอยากให้พวกเสี่ยวอิ๋นอาศัยมือของศัตรู ทำการเคี่ยวกรำถึงขีดสุดเท่านั้น

“เสี่ยวอิ๋น เสี่ยวเทียน พวกเราต้องไปแล้ว”

หลินสวินเอ่ยเรียก

“นายท่าน ไปไหน”

เสี่ยวอิ๋นบินโฉบเข้ามายืนบนไหล่ของหลินสวิน ส่วนผีเสื้อมารแยกฟ้าก็ยืนบนไหล่ของเสี่ยวอิ๋น

“ซากเมืองอารักษ์มรรค”

หลินสวินกล่าว

ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งแรก โลกรกร้างโบราณแห่งนี้มีเมืองอารักษ์มรรคแห่งหนึ่ง แต่ต่อมากลับถูกผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนร่วมมือกันทำลายทิ้งจนสิ้นซาก

จนกระทั่งการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งที่สองเริ่มขึ้น เมืองแห่งนี้ก็เคยถูกบูรณะขึ้นใหม่ แต่เพียงครึ่งทางก็ถูกเหยียบย่ำทำลายอีกครั้ง

และการที่หลินสวินมุ่งหน้ามาโลกรกร้างโบราณในครั้งนี้ ก็เพราะตั้งใจจะสร้างเมืองอารักษ์มรรคที่เป็นของค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณขึ้นใหม่อีกครั้ง!

แน่นอน การสร้างเมืองย่อมเป็นงานที่ใหญ่ยิ่งอย่างหนึ่ง ไม่ใช่แค่ก่ออิฐหล่อกำแพง เนรมิตเมืองหนึ่งขึ้นมาง่ายๆ แค่นั้น

ยังต้องมีกระบวนค่ายกลอริยะพิทักษ์เมือง รวมถึงวัสดุที่จำเป็นต่อการสร้างเมืองอีกด้วย

หากใช้แค่วัสดุสร้างเมืองทั่วไป ก็ต้านการโจมตีจากอริยะคนไหนไม่อยู่เลยสักนิด!

“ไป!”

ไม่ได้รีรอ พวกหลินสวินเคลื่อนตัวออกเดินทางทันที

การเข่นฆ่าตลอดทางนี้ทำให้พวกเขาสืบข่าวแน่ชัดตั้งแต่แรกแล้วว่า ซากเมืองอารักษ์มรรคของโลกรกร้างโบราณตั้งอยู่ในพื้นที่แถบหนึ่งตรงจุดกึ่งกลางสุด

แต่ว่า การเดินทางในครั้งนี้ของพวกหลินสวินก็ไม่ได้ราบรื่นนัก

เมื่อเทียบกับโลกมารโลหิต โลกรกร้างโบราณในปัจจุบัน ร่องรอยของศัตรูที่พบเจอทุกแห่งล้วนมาจากแปดดินแดนอื่น

พวกเขามองโลกรกร้างโบราณเป็นสถานที่ไร้เจ้าของ รุกรานอย่างอุกอาจ ล้อมกรอบและล่าสังหารผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณทุกแห่งหน วางท่าหมายจะฆ่าล้างให้สิ้นซาก

ตัดรกร้างโบราณก่อน ค่อยประชันสูงต่ำ!

ประโยคนี้หาได้พูดส่งๆ แค่นั้น

“ดูเร็ว ชายหญิงชั่วช้าสองคนนั้นถึงกับกล้าปรากฏตัวอย่างผ่าเผย ไม่รู้จักเป็นตายซะจริงๆ เชียว!”

“ฮ่าๆๆ ระยะนี้โลกรกร้างโบราณนี้ไม่รู้ถูกกวาดล้างไปกี่รอบ คิดไม่ถึงว่ายังจะบังเอิญเจอปลาลอดตาข่ายได้อีก!”

“ฆ่า!”

ไกลออกไปผู้แข็งแกร่งของดินแดนโบราณเพลิงสวรรค์กลุ่มหนึ่งปรากฏตัว มีอริยะแท้สามคนนำทัพ พลานุภาพเดือดระห่ำ กลิ่นอายเข่นฆ่าระฟ้า

แต่ละคนล้วนมั่นใจเต็มเปี่ยม เจือแววเหี้ยมโหดทารุณ

นี่เป็นถึงโลกรกร้างโบราณ เป็นค่ายทัพของดินแดนรกร้างโบราณ!

แต่ตอนนี้กลับเป็นผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณกำลังถูกกวาดล้างและกำจัด ส่วนศัตรูแปดดินแดนพวกนี้ กลับวางท่าเหมือนนายเหนือหัว

“วัสดุพวกนี้ใช้ได้หรือไม่”

เนตรดาราของรั่วอู่เยียบเย็น

“แย่เกินไป เป็นได้แค่เศษวัสดุเหลือใช้เท่านั้น”

สายตาของหลินสวินเรียบเฉย

ต่อมาทั้งคู่ต่างลงมือ จังหวะนั้นดุจดั่งนายเหนือหัวแห่งฟ้าดินมาเยือนโลกชัดๆ!

เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น

ศัตรูที่มารุกรานล้วนตายเกลื่อนพื้น!

รั่วอู่กล่าวอย่างเคียดแค้น “หากไม่ใช่เพราะพวกเขายังมีค่าเอามาทำเป็นวัสดุสร้างเมือง ป่านนี้ข้าคงป่นกระดูกพวกเขาเป็นผงธุลีไปแล้ว!”

“ภายหน้ายังมีโอกาสอีกมาก ไม่รีบร้อน”

หลินสวินโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง กอบเก็บหยาดเลือดและศพเหล่านี้ขึ้นมา บรรจุเอาไว้ใน ‘ถุงวัสดุ’ ที่เตรียมมาเป็นการเฉพาะ

พวกเขามุ่งหน้าตลอดทาง เข่นฆ่าตลอดทางเช่นนี้ ทิ้งภาพนองเลือดไว้ตลอดทาง

เวลาหนึ่งถ้วยชาต่อมา

รั่วอู่มุ่นคิ้ว “เหตุใดจนป่านนี้ถึงกับยังไม่พบมกุฎอริยะเลยสักคน”

หลินสวินใคร่ครวญก่อนให้เสี่ยวอิ๋นลงมือ ดูดความทรงจำในจิตวิญญาณของศัตรู ไม่นานก็เข้าใจเรื่องราวส่วนหนึ่ง

ที่แท้เมื่อแดนลับนรกโลกันตร์ปิดม่าน มกุฎอริยะทั้งกลุ่มที่แต่เดิมกระจายตัวอยู่ในโลกรกร้างโบราณ ส่วนใหญ่ล้วนทำหน้าที่เป็นทหารองครักษ์ คุ้มกันส่งผู้แข็งแกร่งของค่ายทัพตนกลับสู่รังตัวเอง

ศัตรูแปดดินแดนที่ตอนนี้ยังอยู่โลกรกร้างโบราณ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นราชันระดับอมตะเคราะห์และอริยะแท้ทั่วไป

แต่ก็มีมกุฎอริยะส่วนหนึ่งไม่ได้จากไป ยังลงมือด้วยตนเอง กำลังจับกุมบุคคลขอบเขตมกุฎของดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้น!

สำหรับศัตรูแปดดินแดน หมายจะตัดรกร้างโบราณ เหยียบทำลายขุมอำนาจดินแดนรกร้างโบราณ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องกำจัดบุคคลขอบเขตมกุฎของดินแดนรกร้างโบราณให้สิ้นซากทั้งหมดเสียก่อน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เท่ากับทำลายพลังสำคัญที่เป็นแกนหลักที่สุดของดินแดนรกร้างโบราณ!

หลังจากทำความเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว รั่วอู่ก็โกรธจัดจนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “วิธีการเหี้ยมนัก พอบุคคลขอบเขตมกุฎดินแดนรกร้างโบราณของพวกเราตาย ต่อไปย่อมไม่มีทางมีกำลังต่อสู้กับพวกเขาอีกต่อไป”

“หืม?”

ทันใดนั้นในใจหลินสวินพลันกระตุก พลิกฝ่ามือออก ยันต์หยกแผ่นหนึ่งปรากฏขึ้น กำลังแผ่ระลอกคลื่นแปลกพิศวงออกมา

ยันต์ปักวิญญาณ!

วันแรกที่เข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดน หลินสวินก็เคยเอายันต์ปักวิญญาณนี้ออกมา พยายามเรียกรวมพลกับพวกจ้าวจิ่งเซวียน เจ้าคางคก อาหลู่ และนกทมิฬ

เพียงแต่ตอนนั้นเขาถูกเคลื่อนย้ายไปโลกมารโลหิต ยันต์ปักวิญญาณก็พลอยสูญเสียการตอบสนองไปด้วย

แต่ตอนนี้ในที่สุดยันต์ปักวิญญาณก็เกิดการเปลี่ยนแปลง

หลินสวินจับจ้องมองดู ทันใดนั้นก็ชี้ชัดได้ว่าบริเวณหนึ่งหมื่นสามพันลี้ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีกลิ่นอายของเจ้าคางคกและอาหลู่ปรากฏขึ้นพร้อมกัน!

แต่ตอนที่หลินสวินพยายามใช้ยันต์ปักวิญญาณติดต่อกับอีกฝ่าย ระลอกคลื่นที่ปรากฏชัดเจนเหล่านี้ก็เงียบหายลงทันควัน อันตรธานหายวับไป

“เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาประสบปัญหาเข้าแล้ว”

หลินสวินหัวคิ้วขมวดมุ่น

“ไป ไปดูด้วยกันเสียหน่อย”

รั่วอู่เห็นทั้งหมดนี้ในสายตา ย่อมรู้ดีว่าอะไรที่หลินสวินกำลังหวั่นใจอยู่

“ดี!”

หลินสวินก็ไม่พูดพล่ามอีกต่อไป เปลี่ยนเส้นทางตรงๆ โฉบพุ่งไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

หนำซ้ำตลอดทางมานี้หลินสวินเคลื่อนไหวเต็มเหนี่ยว ไม่ได้อืดอาดอีก

แม้จะพบกับศัตรูแปดดินแดนบางส่วน ขณะที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตอบสนอง ก็ถูกซัดสังหาร กำราบราบคาบ

เพียงแต่ไม่นานนัยน์ตาดำของหลินสวินก็หดรัด หนทางเบื้องหน้า เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เป็นของมกุฎอริยะ!

“เอ๋?”

ที่นั่นเป็นเขตทะเลทรายไพศาลไร้สิ้นสุดแถบหนึ่ง เม็ดทรายสีทองครอบคลุม เรื่อแสงแสบตา

เวลานี้ในบริเวณสุดขอบทะเลทราย ชายเกราะทองที่แผ่นหลังงอกปีกสีดำคู่หนึ่ง รอบกายแห่ห้อมด้วยประกายแสงสายฟ้าสีเลือดน่าสะพรึงคนหนึ่งแหงนหน้าขึ้นขวับ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ใกล้เข้ามาของพวกหลินสวิน

“มกุฎอริยะสองคน… หรือว่าสหายยุทธ์จากพื้นที่อื่นก็รุดมาเพราะได้ยินข่าวเหมือนกัน หมายจะไปล่าสังหารมกุฎอริยะที่ชื่อเซ่าเฮ่าคนนั้นด้วย?”

ชายเกราะทองฉงนใจ

ตอนนี้พื้นที่ทะเลทรายแถบนี้ถูกปิดผนึกแน่นหนานานแล้ว อริยะมากมายในแปดดินแดนรวมตัวกันอยู่ในนั้น ซ้ำยังมีมกุฎอริยะส่วนหนึ่งออกโจมตี

เป้าหมาย ก็คือบุคคลชั้นยอดของดินแดนรกร้างโบราณที่ชื่อเซ่าเฮ่า!

“ไม่สิ!”

ทันใดนั้นชายเกราะทองหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน ตระหนักถึงกลิ่นอายของหลินสวินและรั่วอู่ เป็นกลุ่มคนจากดินแดนรกร้างโบราณชัดๆ

“พวกเขามาช่วยเซ่าเฮ่านั่น!”

ในใจชายเกราะทองสั่นสะท้าน จากนั้นรอบกายมีไอสังหารคับฟ้าพวยพุ่งออกมา พุ่งทะยานเหินฟ้าสะเทือนเมฆลม

และในมือของเขากลับปรากฏปีกสีเลือดอันหนึ่งเพิ่มขึ้นมา บนนั้นเจือระลอกคลื่นลายมรรคน่าพิศวง

นี่คือปีกส่งสาร เป็นสมบัติเตือนภัยแบบเดียวกับแท่นเพลิงโหม ขอแค่ส่งออกไป คนอื่นในละแวกนั้นก็จะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝั่งนี้ได้

หลินสวินและรั่วอู่เร่งความเร็วมาพร้อมกัน ไม่ได้ปกปิดกลิ่นอายที่เป็นของมกุฎอริยะรอบกาย ส่งผลให้ชายเกราะทองรับรู้ได้ถึงความไม่เข้าทีในทันที วางแผนจะทำการส่งข่าวสาร!

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset