Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่1702 หินรองเท้า

กระบี่ยักษ์ทองอร่ามทะยานฟ้า ผ่าเผยเกรียงไกร ปราณกระบี่หนาใหญ่สะดุดตา พลังกฎเกณฑ์สายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวรัดพัน ทำเอาฟ้าดินปั่นป่วน

เยี่ยนฉุนจวินแข็งแกร่งมาก ราวกับนายเหนือหัว กระบี่ประหนึ่งจักรวาล ความเชี่ยวชาญในมรรคกระบี่เรียกได้ว่าแข็งกร้าว สมกับเป็นผู้ฝึกกระบี่ระดับมหาอริยะที่ชื่อเสียงสะเทือนทางเดินโบราณฟ้าดารา

ทว่าภายใต้การเข่นฆ่าที่รุนแรงหาที่เปรียบไม่ได้ หลินสวินกลับสามารถสลายการโจมตีทั้งหมดได้

นี่ทำให้เขาอดประหลาดใจไม่ได้

เจ้าหนุ่มที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่งเท่านั้น แม้เป็นอันดับหนึ่งแห่งสมรภูมิเก้าดินแดน ก็ไม่มีทางอยู่ในสายตาของเยี่ยนฉุนจวิน

มิใช่เย่อหยิ่งและยโสโอหัง

แต่เป็นความมั่นใจและเป็นรากฐานพลังที่แน่นอนของผู้ที่มาจากหกเรือนมรรคใหญ่ และอยู่ในร้อยอันดับแรกของผู้แข็งแกร่งกระดานมหาอริยะฟ้าดารา!

ทว่าหลังจากประลองกันอย่างจริงจัง เยี่ยนฉุนจวินถึงเพิ่งพบว่าหลินสวินเป็นข้อยกเว้น เป็นศัตรูแข็งแกร่งที่แม้ไม่ได้ถือกำเนิดในขุมอำนาจใหญ่ชั้นยอดในทางเดินโบราณฟ้าดารา ทว่าพลังต่อสู้กลับเรียกได้ว่าน่าทึ่ง

ถึงขั้นที่ว่าสำหรับเยี่ยนฉุนจวิน ด้วยพลังต่อสู้ที่หลินสวินแสดงออกมาในตอนนี้ ก็สามารถเบียดตัวเข้ามาในอันดับของกระดานมหาอริยะฟ้าดาราอย่างง่ายดายแล้ว

นี่ดูเหลือเชื่อมากอย่างไม่ต้องสงสัย

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ดินแดนใต้ฟ้าดารากลับปรากฏบุคคลที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้!

น้อยมากที่จะเห็น!

สามารถใช้คำว่าพันหมื่นปียังยากจะเจอได้โดยสมบูรณ์!

ผ่านไปครู่หนึ่งเยี่ยนฉุนจวินไม่อาจคิดมากความอีก สีหน้าของเขาค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา เพราะความแข็งแกร่งของพลังที่หลินสวินสำแดงออกมาทำเอาเขารู้สึกถึงแรงกดดันอย่างหนึ่งแล้ว

……

ตูม!

สีหน้าของหลินสวินนิ่งสงบ ไม่ดีใจหรือเสียใจ เงาร่างสง่างามมีแสงมรรคแพรวพราวไหววน สาดส่องห้วงฟ้า

เขาปล่อยหมัดมือเปล่า ทุกอิริยาบถล้วนเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ไม่แฝงกลิ่นอายโลกีย์ แต่ทุกการโจมตีกลับมีอานุภาพกลืนกินฟ้าดิน บดขยี้ทั่วทิศ!

มองจากไกลๆ ทั้งตัวเขาราวกับหุบเหวใหญ่ เคลื่อนย้ายอยู่กลางอากาศ ทำลายล้างสรรพสิ่งอย่างง่ายดายตลอดทาง เผด็จการไร้สิ้นสุด

เคร้ง!

พร้อมๆ กับการปล่อยหมัดของหลินสวิน ไม่ทันไรกระบี่ยักษ์สีทองก็ส่งเสียงสะเทือนก้องรุนแรง เกือบหลุดออกจากการควบคุมของเยี่ยนฉุนจวิน

พลังหมัดที่เหี้ยมหาญซัดสาด ราวกับหุบเหวใหญ่ที่บดขยี้อย่างกำเริบรวมอยู่ในหนึ่งหมัดนี้ ทำให้ร่างของเยี่ยนฉุนจวินถูกซัดสะเทือนอย่างแรง เลือดลมรอบตัวพลิกตลบ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างอดไม่อยู่

พลังมหามรรคที่น่ากลัวยิ่งนัก!

ความดูถูกและประหลาดใจภายในใจเยี่ยนฉุนจวินหายไปในตอนนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง

นี่เป็นศัตรูตัวฉกาจคนหนึ่ง!

แม้มีเพียงพลังปราณขั้นต้นแห่งระดับมหาอริยะ ทว่าเห็นได้ชัดว่าได้สร้างวิชาแห่งตนแล้ว ครอบครองรากฐานพลังที่แข็งแกร่งเหลือเชื่อ

ชิ้งๆๆ!

เสียงกระบี่ครวญราวกับกระแสธาร เยี่ยนฉุนจวินตวาดก้อง ใช้ไม้ตายของตน กระบี่ยักษ์สีทองพลันเปลี่ยนเป็นกระบี่บินสีทองเก้าสิบเก้าเล่ม ราวกับเจียวหลงสีทองฝูงหนึ่ง คดเคี้ยวดุร้าย บดบังฟ้าดิน

เจตกระบี่สีทองแสบตาพวกนั้นสาดพรมพลังกฎเกณฑ์มหามรรคที่ราวกับจับต้องได้ออกมา ภูผาธาราและสรรพสิ่งถูกย้อมเป็นสีทอง

หนึ่งกระบี่วิวัฒน์เป็นเก้าสิบเก้า ในนอกจักรวาลข้าคงอยู่ชั่วนิรันดร์!

คัมภีร์กระบี่เก้าเก้า!

นี่คือวิชาแห่งตนที่เยี่ยนฉุนจวินสร้างขึ้น ใช้วิชากระบี่จักรวาลไพศาลแห่งเรือนมรรคจักรวาลเป็นแกนหลัก หลอมวิชาที่เยี่ยนฉุนจวินร่ำเรียนมาทั้งชีวิต สร้างวิชาหนึ่งขึ้นมา

กระบี่บินเก้าสิบเก้าเล่ม หมายความถึงนัยเร้นลับมรรคกระบี่เก้าสิบเก้าอย่าง วิวัฒน์เป็นอานุภาพกระบี่ยิ่งยงราวกับไม่เสื่อมสลาย!

ชั่วขณะเดียวกระบี่ครวญสะเทือนฟ้าดิน สิบด้านล้วนสะท้าน เยี่ยนฉุนจวินสีหน้าเย็นชา สายตาวาววาบปานสุริยัน

ปังๆๆ!

การโจมตีของหลินสวินถูกกระบี่บินมากมายผ่าแหวกจนสลายในพริบตา กระบี่บินเก้าสิบเก้าเล่ม เจตกระบี่ท่วมฟ้าที่ปลดปล่อยออกมา ถึงกับต้านการกลืนกินและกำราบของหุบเหวใหญ่ไว้

“ข้าต้องการเพียงป้ายคำสั่งเซียนเหิน ขอเพียงเจ้าส่งมันมาข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า มิฉะนั้นต่อไปก็คือเวลาตายของเจ้า!”

เสียงของเยี่ยนฉุนจวินดังกึกก้อง ไอสังหารล้นฟ้า ราวกับเซียนกระบี่พลิกฟ้าที่สังหารอย่างเด็ดขาด

ยามเอ่ยวาจาการโจมตีของเขาไม่มีหยุดลง กระบี่บินเก้าสิบเก้าเล่มทะลวงฟัน แปลงเป็นนัยเร้นลับมหามรรค ดุดันรุนแรง กรีดทึ้งห้วงอากาศจนแหลกละเอียดปั่นป่วน!

มุมปากหลินสวินเหยียดโค้งเย้าแหย่ “หินลับมีดก้อนหนึ่งเท่านั้น ก็กล้าคุยโวเช่นนี้ด้วย ก็เป็นได้แค่หินรองเท้าเท่านั้น”

หินลับมีด ก็คือสิ่งที่มีเพื่อเคี่ยวกรำวิชาแห่งตน!

การต่อสู้กับเยี่ยนฉุนจวิน นับเป็นครั้งแรกที่หลินสวินเจอคู่ต่อสู้ที่พอจะสามารถยืนหยัดต่อสู้ได้ตั้งแต่เขาก้าวสู่ระดับมกุฎมหาอริยะ

ด้วยเหตุนี้ตอนต่อสู้จึงมองเยี่ยนฉุนจวินเป็นเหมือนหินลับมีด

ส่วนหลูเป่ยกู้ที่ประลองด้วยก่อนหน้านี้ แม้เป็นมกุฎมหาอริยะ แต่พลังต่อสู้กลับต้านเขาไม่ได้แม้การโจมตีเดียว กระทั่งหินลับมีดของหลินสวินยังไม่มีสิทธิ์ได้เป็น ไม่ควรค่าแก่การพูดถึง

เยี่ยนฉุนจวินสีหน้าอึมครึม หินลับมีด หินรองเท้าหรือ

เจ้าหมอนี่เห็นตนเป็นอะไร!?

ชั่วขณะนี้เยี่ยนฉุนจวินรู้สึกเพียงว่าศักดิ์ศรีถูกท้าทายและเหยียบย่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เดือดดาลถึงขีดสุด พูดว่า

“เจ้าสวะ ข้าจะส่งเจ้าลงนรกเดี๋ยวนี้!”

ฮูม…

กระบี่บินสีทองที่แน่นขนัดราวกับกระแสน้ำ ดุจดั่งรุ้งเทพพุ่งทะยานศ ทะลวงฟ้าแทรกดิน มีประกายเฉียบคมที่ไร้เทียมทาน

ตูม!

ในเวลาเดียวกัน อานุภาพรอบตัวหลินสวินพลันเปลี่ยนไป ทั้งตัวมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่ลึกล้ำดั่งหุบเหว ยิ่งใหญ่ไม่อาจประเมิน

และในมือเขา กระบี่อเวจีแทงออกไปเบาๆ

ในห้วงอากาศ กระบี่อเวจีราวกับเปิดประตูนรกบานหนึ่ง แสงที่มืดมนราวกับรัตติกาลนิรันดร์เปลี่ยนเป็นเจตกระบี่ที่กลืนกินสรรพสิ่ง

ทุกที่ที่ผ่าน กลบฝังภูผาธารา ทำให้ห้วงความว่างเปล่าจมดิ่ง

เปรี๊ยะ!

กระบี่บินทองอร่ามสายหนึ่งระเบิดแตกโดยพลัน ละอองแสงที่สาดกระเซ็นถูกทำลายสิ้น

เยี่ยนฉุนจวินนัยน์ตาหดรัดทันที

ทว่าไม่รอให้เขาตอบสนอง กระบี่บินสีทองทั่วฟ้าล้วนระเบิดออกดังเปรี๊ยะๆ ราวกับกระดาษเปื่อย

เยี่ยนฉุนจวินประหนึ่งถูกฟ้าผ่า ร่างสั่นสะท้านรุนแรง มุมปากหลั่งเลือด แม้แต่สีหน้ายังขาวซีดทันใด

เพียงแต่ทั้งหมดนี้ยังไม่จบ

กระบี่ที่แทงสังหารออกมาราวกับนรกมืดดำนั่น อานุภาพที่เหลืออยู่ไม่ลดละ ทะยานเข้ามาเยือน

เป็นปราณกระบี่สายหนึ่งชัดๆ แต่กลับกลืนกินสรรพสิ่ง!

ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงนั่น ทำเอาเว่ยจื่อหยากับคุนจิ่วหลินที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่อีกด้านตัวสั่นขึ้นมา เป็นกระบี่ที่น่ากลัวนัก!

แม้แต่อาหูยังอดเผยสีหน้าประหลาดไม่ได้

ปัง!

เยี่ยนฉุนจวินหลบอย่างไม่ลังเล ห้วงอากาศตรงจุดที่เขายืนอยู่ตอนแรกพลันถล่มทลาย ลำแสง ฝุ่นผง หมอกควัน… ล้วนถูกสลายหมดสิ้น

เยี่ยนฉุนจวินสูดหายใจหนาวเยือก เจ้าหมอนี่มีพลังปราณเพียงขั้นต้นของระดับมหาอริยะเท่านั้น ทว่าเหตุใดพลังต่อสู้จึงพลิกฟ้าเช่นนี้

“ทะยาน!”

เยี่ยนฉุนจวินเรียกเหล็กหมาดเล็กสีม่วงที่สาดแสงสว่างไสวออกมา บนนั้นสลักอักษรมรรคเก่าแก่สองตัวว่า ‘ดับภัย’ อบอวลด้วยกลิ่นอายแห่งระดับจักรพรรดิ

เหล็กหมาดแสงม่วงดับภัย!

สมบัติอริยะที่เสริมกลิ่นอายมรรคจักรพรรดิ เป็นหนึ่งในไพ่ตายของเยี่ยนฉุนจวินเช่นกัน

ผู้แข็งแกร่งที่มาเยือนแหล่งสถานคุนหลุนในครั้งนี้ ล้วนเตรียมวิธีปกป้องชีวิตไว้สารพัดแทบทุกคน บุคคลอย่างผู้สืบทอดแกนหลักที่มาจากหกเรือนมรรคใหญ่อย่างเยี่ยนฉุนจวิน แน่นอนว่าไม่ขาดสมบัติเช่นนี้

วู้ม!

ก็เห็นเหล็กหมวดเล็กสีม่วงนั่นทะยานอากาศ กวาดเบาๆ คราหนึ่ง แสงมรรคราวกับประกายฟันผ่าออกไปดุจสายฟ้า เหมือนเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา ไวจนแทบถึงขั้นเหลือเชื่อแล้ว

ในใจอาหูบีบรัดทันที

ทว่าเหนือความคาดหมายของนาง เหล็กหมวดเล็กสีม่วงนั่นไม่ทันเข้าใกล้หลินสวินก็ถูกแสงมรรคสีทองปานอริยเทพแถบหนึ่งกำราบ หยุดชะงักอยู่กลางอากาศ ไม่สามารถเข้าได้แม้แต่ชุ่นเดียว

ยามมองดูหลินสวินอีกครั้ง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่บนศีรษะของเขาปรากฏเจดีย์สมบัติที่คล้ายหลอมจากทองเทพแก้วสมบัติ ปลดปล่อยกลิ่นอายลึกลับสุดหยั่ง

“นี่…”

สีหน้าของเยี่ยนฉุนจวินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

นั่นเป็นถึงสมบัติอริยะที่สั่งสมกลิ่นอายมรรคจักรพรรดิชิ้นหนึ่ง ยามที่นำมาสังหารหลินสวิน ในใจเขายังรู้สึกเสียดายไม่หาย

ใครจะคิดว่าสมบัตินี้กลับถูกกักขังไว้ เหมือนแมลงวันตัวหนึ่งถูกแหใหญ่รวบ ไม่สามารถสลัดหลุด!

ปัง!

หลินสวินไม่ให้โอกาสเยี่ยนฉุนจวินได้ตอบสนอง ระเบิดเหล็กหมาดเล็กสีม่วงไปตรงๆ ละอองแสงสาดพรมดั่งน้ำฝน ม้วนตลบกลางอากาศ

ส่วนตัวหลินสวินพุ่งโจมตีเข้ามาแล้ว

ผมดำของเขาพลิ้วไหว นัยน์ตาเย็นเยียบดุจสายฟ้า ถือกระบี่อเวจีราวกับแบกนรกเดินหน้า หมายจะทำลายล้างสรรพสิ่งบนโลก

“เจ้า…”

เยี่ยนฉุนจวินลนลานขึ้นมาเล็กน้อย เพิ่งหมายจะพูดอะไร

หลินสวินกลับฟันกระบี่ออกไปอย่างไม่ลังเล

เรียบง่ายธรรมดา ใช้การ ‘ฟัน’ นี้สำแดงพลังขั้นสูงสุด ดุจดั่งเทพเซียนบนสวรรค์ ภูผาธาราที่ขวางอยู่ตรงหน้าล้วนถูกกระบี่นี้กวาดเรียบ!

นี่เป็นอานุภาพกระบี่อย่างหนึ่ง เป็นอานุภาพกระบี่ที่ไร้เทียมทาน!

เยี่ยนฉุนจวินหวาดกลัวจนเกือบขวัญหาย ใช้พลังทั้งหมดออกมาสกัดกั้นราวกับเป็นสัญชาตญาณ รอบตัวยิ่งมีแสงสมบัติมากมายพวยพุ่ง

นั่นเป็นพลังที่ป้องกันสมบัติและป้องกันวิชามรรค แม้แต่จิตวิญญาณก็ถูกเกราะที่มหัศจรรย์นี้ป้องกัน

ทว่าภายใต้กระบี่นี้ การป้องกันของเขาพลันถูกบดขยี้

ตูมโครมๆ!

ประกายแสงระเบิดแตกดั่งสายฟ้า ก็เห็นว่าเมื่อกระบี่นี้ของหลินสวินผ่าลง พลังที่ป้องกันสมบัติและวิชามรรคทั้งร่างของเยี่ยนฉุนจวินล้วนถูกฟันผ่าเป็นชั้นๆ เกิดเสียงกึกก้องสะเทือนหู

หากไม่ได้เห็นกับตา ยากจะจินตนาการจริงๆ ว่าอานุภาพของกระบี่นี้จะน่ากลัวเพียงใด

ควรรู้ว่าเยี่ยนฉุนจวินไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคจักรวาล ยิ่งเป็นถึงมกุฎอริยะที่อยู่ในร้อยอันดับแรกของกระดานมหาอริยะฟ้าดารา เป็นผู้ฝึกกระบี่ที่เลือดเย็นและแข็งแกร่งมากคนหนึ่ง

ทว่าภายใต้กระบี่นี้ของหลินสวิน ทุกสิ่งล้วนถูกกำราบโดยสมบูรณ์!

สุดท้ายแม้เยี่ยนฉุนจวินจะสกัดกระบี่นี้ได้ แต่เขากลับถูกฟันกระเด็นไปทั้งตัว ปราณกระบี่ที่น่ากลัวกรีดเปิดหน้าอกเป็นแผลน่าตกใจ เลือดไหลนอง กระดูกขาวปรากฏอยู่รางๆ

จมูกปากของเขากบเลือด ส่งเสียงโหยหวนออกมา ร่างกายแตกหัก บาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย!

นี่เป็นภาพนองเลือดที่น่าทึ่งไร้ใดเปรียบ ทำให้คุนจิ่วหลินและเว่ยจื่อหยาต่างตัวสั่น กลัวจนหน้าซีด นี่… เป็นไปได้อย่างไร

นั่นเป็นถึงเยี่ยนฉุนจวินนะ!

ถึงกับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินสวินหรือ

ทว่าหลินสวินไม่ได้ชักช้า เงาร่างเคลื่อนขยับ ปรากฏเหนือตัวเยี่ยนฉุนจวินโดยพลัน เหยียบหนึ่งเท้าลงบนศีรษะของอีกฝ่าย

“เจ้ากล้า…”

เยี่ยนฉุนจวินคำราม ตาแทบถลนออกมา เท้าที่เหยียบลงมาเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์สิทธิ์และร่างกายของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แฝงความเย้ยหยันที่ไม่ปกปิดแม้แต่น้อย

ทว่าตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส โต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์

เงาร่างของหลินสวินดุกร้าว ราวกับนายเหนือหัวมาเยือน เท้าที่เหยียบลงไปมีอานุภาพน่ากลัว เหยียบจนเยี่ยนฉุนจวินร่วงหล่นจากห้วงอากาศ กระแทกใส่พื้นอย่างแรง

ตูม!

พื้นดินเกิดเป็นรอยแตก รับอานุภาพการเหยียบนี้ของหลินสวินไม่ไหว

ชุดขาวพระจันทร์ของเขาพลิ้วไหว สีหน้าราบเรียบ กลิ่นอายกลับประหนึ่งเทพมารที่สามารถผงาดกร้าวเหนือโลก

ใต้ฝ่าเท้าของเขา ผิวเนื้อของเยี่ยนฉุนจวินปริแตก แขนขาหมอบกับพื้น ศีรษะถูกเท้าของหลินสวินเหยียบไว้ สะบักสะบอมและน่าอนาถอย่างที่สุด

หลินสวินเอามือไพล่หลัง พูดเสียงเบา “เอ้า ไม่ว่าเจ้าจะยินยอมหรือไม่ เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า เจ้าก็เป็นแค่หินรองเท้าเท่านั้น”

ยามเอ่ยคำพูด สายตาของเขากลับมองไปยังคุนจิ่วหลินและเว่ยจื่อหยาที่กำลังต่อสู้กับอาหูอย่างดุเดือด กลางนัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset