Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1703 คัมภีร์ยุทธจักรมหสติ

หินรองเท้า!

ก่อนหน้านี้ตอนหลินสวินพูดสามคำนี้ออกมา ยังทำให้เยี่ยนฉุนจวินเดือดดาล คิดว่านี่เป็นการท้าทายศักดิ์ศรีของเขา

ทำให้คุนจิ่วหลินกับเว่ยจื่อหยาต่างหัวเราะหยัน คิดว่าหลินสวินจองหอง คุยโวโอ้อวด เห็นได้ชัดว่าไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว

แต่ตอนนี้คำพูดนี้กลายเป็นเรื่องจริง!

แม้แต่อาหูยังอึ้งไปเล็กน้อย นางเชื่อว่าหลินสวินไม่ได้อวดอ้างอย่างแน่นอน

แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าผู้ที่อยู่ในร้อยอันดับแรกของกระดานมหาอริยะฟ้าดาราอย่างเยี่ยนฉุนจวิน จะถึงกับแพ้ได้รวดเร็วปานนี้

  เจ้ากล้า!  

คุนจิ่วหลินตะคอกกราดเกรี้ยว

  รีบปล่อยเยี่ยนฉุนจวิน ถ้าเขาเป็นอะไรไป ทั้งเรือนมรรคจักรวาลต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!  

เว่ยจื่อหยาก็ร้อนรน เอ่ยเสียงดุดันข่มขู่

หลินสวินร้องอ้อคำหนึ่ง

กร๊อบ!

ที่ใต้เท้าของเขา ศีรษะของเยี่ยนฉุนจวินถูกเหยียบแหลกอย่างจัง มลายสิ้นทั้งกายจิต

  เจ้า…  

คุนจิ่วหลินกับเว่ยจื่อหยาต่างสยดสยอง สมองแทบระเบิด

เยี่ยนฉุนจวินเป็นบุคคลเช่นไร

บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ต่อให้เป็นคนใหญ่คนโตรุ่นอาวุโสอย่างราชันอริยะกับกึ่งจักรพรรดิ ยังไม่กล้าโจมตีเยี่ยนฉุนจวินง่ายๆ

เพราะผลลัพธ์ร้ายแรงยิ่งนัก จะถูกเรือนมรรคจักรวาลที่เป็นหนึ่งในหกเรือนมรรคใหญ่หมายหัว ถึงตอนนั้นแม้เป็นกึ่งจักรพรรดิก็ไม่อาจหนีพ้น!

ยิ่งเป็นผู้ฝึกปราณที่เกิดและเติบโตบนทางเดินโบราณฟ้าดารา ก็ยิ่งรู้ดีว่าอิทธิพลของ ‘หกเรือนมรรคใหญ่’ มากมายเพียงไหน

ความน่ากลัวทางภูมิหลังและความแกร่งกล้าแห่งอิทธิพลของพวกเขา สามารถส่งผลกระทบต่อแนวโน้มโดยรวมของทางเดินโบราณฟ้าดาราได้!

แต่ตอนนี้หลินสวินยังคร้านจะไตร่ตรอง เท้าข้างเดียวเหยียบศีรษะของเยี่ยนฉุนจวินจนแหลก กระทำการตามใจราวกับเหยียบแตงโมแตก…

เรื่องนี้ใครจะคิดได้

  เจ้าจบเห่แล้ว ไม่ว่าเจ้าเป็นใคร ไม่ว่าเบื้องหลังของเจ้าจะมีขุมอำนาจไหนสนับสนุนอยู่ ภายหน้าต้องแบกรับไฟโทสะของเรือนมรรคจักรวาลแน่!  

คุนจิ่วหลินร้องเสียงดัง

เขายังไม่กล้าทำใจเชื่อ เพราะการตายของเยี่ยนฉุนจวินทำให้เขากระทบกระเทือนใจอย่างยิ่งจริงๆ

เว่ยจื่อหยาก็เช่นกัน

  หรือพวกเจ้าคิดว่าคราวนี้จะยังจากไปทั้งที่มีชีวิตอยู่ได้  

อาหูขุ่นเคือง แววตาเย็นชาน่ากลัว

เจ้าสารเลวสองคนนี้ประลองกับตน แต่กลับยังสนใจความเป็นความตายของเยี่ยนฉุนจวินเสียได้ นี่ไม่เห็นตนอยู่ในสายตาชัดๆ!

ตูม!

การจู่โจมของนางยิ่งดุดัน

และในขณะเดียวกันหลินสวินก็ทะลวงอากาศมา

เพียงแต่ในตอนที่เขาจะลงมือก็พลันนิ่วหน้า หยุดเท้ากะทันหันแล้วหันหน้ามองไปยังที่ไกลออกไปทันใด

พลังขับเคลื่อนราวกับจับต้องได้พุ่งเป้ามาที่ตนอย่างเงียบเชียบ หนาวยะเยือกราวน้ำค้างหิมะ เผยกลิ่นอายน่าหวาดผวา

นี่ทำให้สัญชาตญาณของหลินสวินรู้สึกถึงการคุกคามเล็กน้อย

ณ ห้วงอากาศไกลออกไป ละอองแสงขาวแวววาวบริสุทธิ์ลอยละล่อง ก่อร่างเป็นเงาร่างงดงามร่างหนึ่ง ร่างนั้นแต่งกายด้วยชุดขาวทั้งตัว เอวคาดเข็มขัดทอง ผมดำขลับยาวสยายราวน้ำตก

นางงดงามดั่งภาพเขียน ผิวพรรณผุดผ่อง เนตรกระจ่างทั้งสองเปล่งประกายดั่งน้ำพุบริสุทธิ์ อ่อนช้อยและเยียบเย็น ประหนึ่งนางเซียนจากดวงจันทร์มาเยือนโลก

เหวินฉิงเสวี่ย!

ผู้สืบทอดเรือนมรรคยุทธจักร หญิงงามแห่งยุคที่อยู่อันดับสามของกระดานยอดจรัสฟ้าดารา ถูกมองว่ารูปลักษณ์พิสุทธิ์ล้ำ พบเห็นได้ยากในหมื่นพันปี!

ชายหญิงกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันข้างหลังนาง ขับเน้นให้นางยิ่งโดดเด่น รูปลักษณ์เพริศพริ้ง ความสง่างามอทำเอาฟ้าดินหม่นหมอง

‘ระวังแม่นี่ไว้ อันดับในกระดานมหาอริยะฟ้าดาราของนางดูเหมือนต่ำว่าเยี่ยนฉุนจวิน แต่ข้ารู้สึกได้ว่านางอันตรายเสียยิ่งกว่าเยี่ยนฉุนจวิน’

อาหูรีบสื่อจิตเตือนหลินสวิน

หลินสวินจำได้ว่าเหวินฉิงเสวี่ยอยู่อันดับที่เก้าสิบสามของกระดานมหาอริยะฟ้าดารา หากจากเยี่ยนฉุนจวินไม่น้อยจริงๆ

แต่อันดับนี้ประเมินไว้เมื่อราวเก้าสิบกว่าปีก่อน!

นี่ก็หมายความว่าในช่วงเก้าสิบกว่าปีนี้ เห็นได้ชัดว่าเหวินฉิงเสวี่ยมีพัฒนาการก้าวกระโดดในการฝึกฝนมหามรรค ทิ้งเยี่ยนฉุนจวินไว้ข้างหลังไปแล้ว

‘เหลือเวลาอีกไม่ถึงห้าปีก็จะมีการจัดอันดับกระดานมหาอริยะฟ้าดาราใหม่อีกครั้ง กลัวแต่ว่าตอนนั้นอันดับของเหวินฉิงเสวี่ยคงจะสูงขึ้นฮวบฮาบ…’

ความคิดนี้ฉายวาบในสมองหลินสวิน แต่สีหน้าเขากลับเจือความเย็นชา กล่าวว่า   เจ้าก็มาเพราะป้ายคำสั่งเซียนเหินหรือ  

วาจานี้ไม่เกรงใจนัก ทั้งยังตรงไปตรงมามาก

นี่ทำให้ผู้สืบทอดเรือนมรรคยุทธจักรเหล่านั้นนิ่วหน้าอย่างอดไม่ได้ ที่ผ่านมาผู้ฝึกปราณคนใดยามได้พบเหวินฉิงเสวี่ย มีหรือจะไม่เรียกอย่างยกย่องว่าธิดาเทพชิงเสวี่ย

แต่เจ้าหมอนี่กลับไม่มีมารยาทชัดแจ้ง

  เป็นพวกที่มาจากสถานที่เล็กๆ อย่างดินแดนรกร้างโบราณดังคาด ไม่มีการอบรมสักนิด ศักยภาพสูงเพียงไหนก็เป็นคนกักขฬะหยาบคายอยู่ดี  

มีคนกระทบกระเทียบเสียงเย็นชาอย่างอดไม่ได้

คนผู้นี้เป็นชายหนุ่มแต่งกายหรูหราผู้หนึ่ง ร่างสูงโปร่งสง่างามทรงภูมิ โดดเด่นเหนือใคร เจือความหยิ่งทระนงแต่กำเนิด

ศิษย์พี่เนี่ยเทียนพูดได้ดี!

ชายหญิงเหล่านั้นล้วนพยักหน้า ชายหนุ่มชุดหรูหรามีนามว่าเนี่ยเทียน เป็นอัจฉริยะหล่อเหลาที่ชาติตระกูลไม่ธรรมดา พลังต่อสู้แกร่งกล้าถึงที่สุดผู้หนึ่งเช่นกัน

ในกลุ่มนี้ฐานะและพลังของเขาด้อยกว่าเหวินฉิงเสวี่ยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลินสวินชำเลืองมองเนี่ยเทียนคราหนึ่ง ปากก็พ่นคำว่า   รนหาที่หรือ  

เนี่ยเทียนอึ้งไป ทันใดนั้นประกายเย็นยะเยือกก็ปะทุออกมาจากดวงตา   เจ้า…  

พูดยังไม่ทันจบก็หยุดลงกะทันหัน

เพราะพลังดรรชนีอันแข็งแกร่งเคลื่อนผ่านห้วงอากาศ บดขยี้เวิ้งฟ้ามาเยือน!

ดรรชนีมหาอุดมสลายมายา… ห่างไกลล้วนไปถึง!

แม้ห่างกันไร้สิ้นสุด ข้าย่อมใช้นิ้วเดียวสังหารได้

เนี่ยเทียนคิดไม่ถึงสักนิดว่าหลินสวินจะอหังการปานนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงสักนิดก็ลงมือทันทีแล้ว!

ผู้สืบทอดจากเรือนมรรคยุทธจักรคนอื่นๆ ต่างก็งุนงง

แต่ก่อนขอเพียงรู้ฐานะของเขา หากไม่หวั่นเกรงเป็นอย่างยิ่งก็ต้องเคารพนบนอบถึงที่สุด จะป่าเถื่อนหยาบคายอย่างหลินสวินได้อย่างไร

ครืน…

พลังดรรชนีไพศาลนั่นพาดขวาง ลวดลายบนนั้นประหนึ่งร่องรอยมหามรรค กฎเกณฑ์ถักทอราวกับดรรชนีที่ทวยเทพบนสวรรค์ยื่นออกมา ใหญ่โตดุจเขาเทพ อานุภาพเหลือคณา

ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ นัยเร้นลับที่ซ่อนอยู่ในคัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุดนี้ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าหมื่นวิญญาณในฟ้าดินต่างถูกบดขยี้และกลืนกินภายใต้นิ้วนี้!

หัวใจเนี่ยเทียนเกร็งกระตุกรุนแรง หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ เขารับรู้ได้ถึงอันตรายถึงชีวิต ทันใดนั้นก็ตะคอกดังลั่น กดฝ่ามือหนึ่งออกมา

พลังฝ่ามือราวกับงูมังกรขดตัว ทรงพลังหนักแน่น มีจิตกลืนคายภูผาธารา

เคล็ดวิชางูมังกรยุทธจักร!

หนึ่งในมรดกก้นกรุนานาชนิดของเรือนมรรคยุทธจักร

พอฝ่ามือโจมตีออกไป งูมังกรก็กระโจนขึ้นคว่ำสมุทรพลิกธารา กลับด้านหยินหยาง!

ที่มาพร้อมกับเสียงดังสนั่นคือห้วงอากาศที่สั่นสะเทือน ฟ้าดินแห่งนั้นกำลังพังทลาย

ชิ้ง!

ทันใดนั้นเหวินฉิงเสวี่ยนิ่วหน้า ปราณกระบี่คล้ายมายาโฉบขึ้นไป ตัดจุดที่พลังดรรชนีกับพลังฝ่ามือปะทะกัน

เพียงกระบี่เดียวเท่านั้นก็ขจัดการปะทะครั้งนี้ให้หายไป!

ในขณะเดียวกันเงาร่างเนี่ยเทียนก็พลันไหวโคลงเหมือนดื่มเหล้าเมาสุรา แก้มแดงก่ำ เลือดลมภายในร่างของเขาปั่นป่วน รู้สึกแย่จนแทบกระอักเลือด

กลับมาดูหลินสวิน เขายืนอยู่กลางอากาศ แขนเสื้อปลิวไสว ท่าทางสุขุมเยือกเย็น

การโจมตีเดียวตัดสินสูงต่ำได้ทันที!

ผู้สืบทอดจากเรือนมรรคยุทธจักรเหล่านั้นต่างสีหน้าไม่น่ามองขึ้นมาแล้ว

พวกเขาจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าหากเหวินฉิงเสวี่ยไม่ได้ลงมือทันท่วงที การโจมตีนี้แม้แต่เนี่ยเทียนยังต้านไม่อยู่ เกรงแต่จะยับเยินยิ่ง หรืออาจถึงขั้นได้รับบาดเจ็บ!

  ต่ำช้า!  

เนี่ยเทียนเก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่ ตะคอกเสียงดุดัน เขาไม่พอใจนัก คิดว่าถูกหลินสวินลอบโจมตี เล่นงานเขาตอนไม่ทันตั้งตัวเมื่อครู่นี้

หลินสวินยิ้ม ในแววตามีแต่ความดูถูกที่ไม่ปิดบังสักนิด   ถ้าไม่มีคนมาช่วยเจ้า อย่างเจ้า… แน่ใจหรือว่าจะต้านไว้ได้  

เนี่ยเทียนยังหมายจะพูดอะไรอีก แต่ถูกเหวินฉิงเสวี่ยรั้งไว้

  ถ้าปล่อยคุนจิ่วหลิน ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป  

นางเอ่ยปากแล้ว เนตรกระจ่างมองดูหลินสวิน เสียงกังวานดุจหยกประดับ ใสเสนาะหูดั่งเสียงสวรรค์

หลินสวินอึ้งไป เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าที่เหวินฉิงเสวี่ยยื่นมือเข้ามา ไม่ใช่เพื่อป้ายคำสั่งเซียนเหิน แต่เพื่อช่วยคุนจิ่วหลิน!

ไกลออกไปคุนจิ่วหลินที่กำลังขับเคี่ยวกับอาหูก็อึ้งไปเช่นกัน จากนั้นพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ แววคล้ายริษยาชิงชังฉายวาบที่หว่างคิ้ว

เขากัดฟันตะคอกลั่นว่า   เป็นเพราะพี่ใหญ่ของข้าคนนั้น เจ้าถึงอยากช่วยข้าใช่ไหม ถ้าเป็นเช่นนี้เจ้ารีบจากไปให้ไวเถอะ!  

เหวินฉิงเสวี่ยนิ่วหน้าเล็กน้อย ยกนิ้วขึ้นวาดออกไป

ฉึบ!

เจตกระบี่ปราดเปรียวคล้ายมายาสายหนึ่งปรากฏขึ้น ฟันไปที่อาหู

เงาร่างหลินสวินเคลื่อนย้ายกลางอากาศ ฝ่ามือตะครุบออกไปเสียงดังปึง กลืนกินดับทำลายเจตกระบี่สายนี้จนสิ้น ดูเหมือนสบาย แต่ในใจเขากลับตกตะลึงแล้ว

เจตกระบี่แข็งแกร่งนัก!

กระบี่นี้เหมือนเมฆลอยละล่อง เลื่อนลอยเฉื่อยชา แต่พลังมหามรรคที่มีกลับบริสุทธิ์หาใดเทียบ เฉียบคมไร้เทียมทาน ทำเอาผิวหนังเขายังรู้สึกเจ็บ ต้องโคจรพลังทั้งหมดจึงสลายไปได้

แต่ตอนนี้ผู้สืบทอดเรือนมรรคยุทธจักรเหล่านั้นล้วนท่าทางเหมือนเห็นผีกลางวันแสกๆ เจ้าหมอนี่… ถึงกับสกัดเจตกระบี่ ‘ยุทธจักรมหสติ’ ของศิษย์พี่ฉิงเสวี่ยได้ตามใจชอบเช่นนี้เชียวหรือ

เนี่ยเทียนยังหน้าเปลี่ยนสี

ยุทธจักรมหาสติ!

นี่คือตำราลับสูงสุดของเรือนมรรคยุทธจักร ทั้งสำนักมีคนแค่หยิบมือที่มีสิทธิ์หยั่งรู้และครอบครองมรดกนี้ มองไปทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารายังเรียกได้ว่าเป็น ‘ยอดวิชา’ สูงสุด

ขอเพียงเป็นผู้ที่ฝึกฝนวิชานี้ ล้วนสามารถพัฒนาพลังต่อสู้ให้เหนือล้ำคนรุ่นเดียวกันไปไกล ครอบครองอภินิหารอันน่าเหลือเชื่อได้

อย่างกระบี่ของเหวินชิงเสวี่ยเมื่อกี้นั้นดูเหมือนเบาสบาย แต่อานุภาพของมันสามารถสังหารมหามกุฎอริยะคนหนึ่งได้ง่ายๆ!

แต่หลินสวิน…

กลับสกัดไว้ได้

หนำซ้ำยังไม่ได้รับบาดเจ็บ!

ชั่วขณะเดียวสายตาที่พวกเขามองหลินสวินต่างเปลี่ยนไป เจ้าคนหยาบคายที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนนี้ ถึงกับแข็งแกร่งปานนี้เชียวหรือ

มีเพียงเหวินฉิงเสวี่ยที่สีหน้าราบเรียบ เส้นผมของนางดุจน้ำหมึก อาภรณ์ขาวปลอด เงาร่างพร่าเลือนดุจเซียนจุติลงมา

นางเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า   ถ้าเปิดศึกตอนนี้ เจ้าไม่ตายก็ต้องเจ็บหนัก อีกอย่างความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นที่นี่ดึงดูดสายตาที่แอบจ้องตาเป็นมันมากมายมานานแล้ว ถ้าตอนนี้พวกเจ้าไม่ไป อีกหน่อยเกรงว่าจะหนีไม่พ้น  

หลินสวินเลิกคิ้วเล็กน้อย จู่ๆ ก็ยิ้ม   อาหู พวกเราไปกันเถอะ  

พอพูดจบเขาก็หันไปมองอาหู

เขาเปลี่ยนท่าทีรวดเร็วเกินไป ทำเอาหลายคนงุนงงไม่หยุด

แต่อาหูคล้ายจะเข้าใจ ไม่ลังเลแต่อย่างใด ปลีกตัวถอยออกมาทันที

เพียงแต่ยังไม่ทันให้เว่ยจื่อหยาถอนหายใจโล่งอก ประกายขาวสว่างเจิดจ้าสะดุดตาปรากฏขึ้นเหนือศีรษะเขาอย่างรวดเร็ว

นี่คือมีดบินที่วิจิตรยิ่งเล่มหนึ่ง

ฟุบ!

มีดบินไหววูบ ศีรษะที่เลือดไหลรินลอยขึ้นไปในอากาศ

เว่ยจื่อหยาตาเบิกโพลงด้วยความโกรธ ทำใจเชื่อได้ยาก เจือไปด้วยความตกตะลึง บนโลกนี้… ยังมีมีดบินที่น่ากลัวปานนี้ได้อย่างไร

ปึง!

ครู่ต่อมาทั้งร่างและศีรษะของเขาก็ตกลงบนพื้น พลังชีวิตแห้งเหือด จิตวิญญาณถูกสังหาร ตายคาที่โดยสมบูรณ์

ขณะเดียวกันใบหน้างามของอาหูก็ซีดเผือด คิดเงียบๆ ในใจว่า ‘สมบัติกลับมา’

ในห้วงอากาศ มีดบินวิจิตรกะทัดรัดนั้นกลายสภาพเป็นรัศมีสีขาว เคลื่อนเข้าไปในฝ่ามือนางอย่างรวดเร็ว

พอจะเห็นได้ลางๆ ว่าในฝ่ามือดุจหยกขาวของอาหูราวกับมีสัญลักษณ์น้ำเต้าปรากฏ วับแวบลึกลับหาใดเทียบ

ทั้งหมดนี้แทบจะเกิดขึ้นในชั่วพริบตา เมื่อได้เห็นภาพนองเลือดที่เว่ยจื่อหยาถูกปลิดชีพกะทันหัน ทุกคนในที่นั้นต่างหวาดผวา

 

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset