Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1716 สามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืด

<*>นิยายBookmarksไม่แจ้งเตือนท่านสามรถดูนิยายอัพเดทได้ที่นี่<*>Click

พรึ่บ!

ดาบหักก็เหมือนหมาป่าหิวโซที่ยากจะข่มกลั้น ทันทีที่ปรากฏก็พุ่งโถมเข้าไปในไอมรรคหลอมสมบัติสายนั้น พื้นผิวภายนอกที่ขาวสว่างดุจหิมะแผ่ระลอกคลื่นคลุมเครือชวนตกใจ ส่งเสียงใสรื่นเริงไม่หยุด

สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่าไอมรรคหลอมสมบัติถูกหลอมทีละนิด

และพื้นผิวดาบหักก็ปรากฏการเปลี่ยนแปลงที่ชวนตกใจหาใดเปรียบ…

ลายสมบัติบริสุทธิ์ที่เหมือนมังกรใหญ่เหลืองทองตัวแล้วตัวเล่าปรากฏขึ้น พาดผ่านท่องทะยานอยู่ในดาบหักอย่างมีชีวิตชีวา

หลินสวินและอาหูต่างมองตาค้าง

ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงนี้สะดุดตาเกินไป แต่เดิมดาบหักมีลายสมบัติบริสุทธิ์แปดสาย แต่ภายในไม่กี่อึดใจสั้นๆ ก็เพิ่มลายสมบัติบริสุทธิ์ขึ้นมาอีกหกสาย!

หนำซ้ำ การเปลี่ยนแปลงยังคงดำเนินต่อไป…

วู้ม…

เสียงใสกังวานของดาบหักยิ่งฮึกเหิมขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นอายคลุมเครือที่แผ่ออกมาก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นทุกที เมื่อมองอย่างถี่ถ้วน ลายมรรคมรดกทั้งสามอย่าง ‘ปฐม’ ‘ยอด’ ‘สังหาร’ ล้วนประดุจฟื้นคืนชีพจากความเงียบงัน แผ่กลิ่นอายเร้นลับออกมา

ในถ้ำสลัวราง เวลานี้ส่องประกายสว่างไสว ถูกแสงสมบัติราวกับวิเศษศักดิ์สิทธิ์ท่วมท้น

หากไม่ได้เห็นเองกับตา อาหูไม่กล้าเชื่อเด็ดขาด ว่าการเปลี่ยนแปลงของสมบัติชนิดหนึ่งจะถึงกับปรากฏลักษณ์ประหลาดที่เร้นลับสุดหยั่งเช่นนี้ได้

สมบัตินี้มีที่มาอย่างไรกันแน่

อาหูยิ่งสงสัยใคร่รู้มากขึ้นเรื่อยๆ

และพร้อมกันนั้นในใจหลินสวินก็ไม่อาจสงบได้เช่นกัน ดาบหักกลายเป็นศาสตราอริยะบริสุทธิ์ของเขานานแล้ว ทุกๆ การเปลี่ยนแปลงของดาบหักในขณะนี้ ล้วนปรากฏกลางใจเขาอย่างถี่ถ้วนทุกรายละเอียด ทำให้เขาแปลกใจ ยินดี ถึงขั้นสะท้านสะเทือน

“ยี่สิบ”

“สามสิบ”

“สี่สิบ”

“ห้าสิบ”

…เวลาหนึ่งถ้วยชาเต็ม ดาบหักเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ราวกับไม้ไผ่ที่แตกหน่ออย่างบ้าคลั่งกลางฝนยามวสันต์ ไต่ทะยานไม่ว่างเว้น!

และพร้อมกับๆ กับการเปลี่ยนแปลงของดาบหัก ไอมรรคหลอมสมบัติที่วิวัฒน์เป็นบทประพันธ์มหามรรคนั่นก็ค่อยๆ หม่นแสง เลือนรางจางลงไป

จนถึงเวลานี้ไอมรรคหลอมสมบัติเหลืออยู่ไม่เท่าไหร่แล้ว

สุดท้ายภายใต้สายตาจับจ้องด้วยความตกตะลึงของหลินสวินและอาหู ดาบหักก็หลอมไอมรรคหลอมสมบัตินี้อย่างหมดจด

และพื้นผิวภายนอกของมัน ก็ปรากฏลายสมบัติบริสุทธิ์ที่สว่างเรืองรองดุจดั่งมังกรใหญ่สีเหลืองทองห้าสิบสี่สาย!

ชิ้ง!

ไม่รอให้ทั้งคู่ดึงสติกลับมา ดาบหักเปล่งแสงทันควัน ราวกับว่าพลังที่สั่งสมมากเกินไป เริ่มปลดปล่อยอย่างรุนแรงในเวลานี้

ตูม!

ลำแสงเทพพุ่งพรวดออกจากคมประกายของดาบหัก กลิ่นอายที่แข็งกร้าวราวเสมือนจริงก่อเกิดขึ้นตามมา

ถ้ำมืดสลัวนี้ล้วนถูกกระแทกถล่ม ต้านแรงโจมตีของกลิ่นอายน่าสะพรึงเช่นนี้ไม่ไหว ถูกแหวกออกเป็นโพรงสายหนึ่ง ด้านล่างทะลวงพื้น ด้านบนทะยานฟ้า!

“เอ๋! แสงสมบัติน่ากลัวชะมัด พุ่งทะยานเหมือนวัวกระทิง คมประกายเจือไอกร้าวแกร่ง จะต้องมีสมบัติสำคัญแห่งยุคปรากฏสู่โลกเป็นแน่!”

พื้นที่ละแวกใกล้เคียงแถบนี้มีผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งถูกทำให้ตื่นตกใจ ต่างทอดสายตามองไป แต่ละคนเผยสีหน้าเร่าร้อน

“เร็ว! รีบเคลื่อนไหว!”

พวกเขาเคลื่อนผ่านห้วงอากาศโดยไม่ลังเลสักนิด

ทว่าตอนที่มาถึง แสงสมบัติชวนตกใจนั้นกลับอันตรธานหายไป และพร้อมกันนั้นเงาร่างของหลินสวินและอาหูก็โผล่ออกมาจากใต้พื้นดิน

ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นต่างอึ้งไป จากนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี

“สมควรตาย เป็นเจ้าหมอนั่น!”

“ใคร”

“หลินสวิน!”

“เป็นเขา!?”

ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ไม่มีใครไม่ใจสะท้าน ในใจลั่นกลองถอยทัพ นึกถึงผลงานการต่อสู้อันเฉิดฉายหลายวันก่อนที่หลินสวินต่อสู้กับผู้กล้ากลุ่มหนึ่ง และสังหารลู่อ๋างลงได้

“พวกเจ้าคิดจะแย่งสมบัติหรือ”

หลินสวินเผยสีหน้านึกสนุก

ร่างกายของผู้ฝึกปราณเหล่านี้ต่างสั่นระริก รีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน

“เอ่อ พวกเราแค่ผ่านทางมาเท่านั้น ขอตัวลา” พวกเขาไม่ลังเลสักนิด ใต้เท้าราวกับทาน้ำมัน หันตัวแล้วจากไปทันที

หลินสวินอดอึ้งไปไม่ได้

ผู้ฝึกปราณบนทางเดินโบราณฟ้าดารานี่เปลี่ยนเป็นขี้ขลาดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

อาหูเม้มปากยิ้ม กล่าวว่า “พวกเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าเทพมารหลินเช่นเจ้าไม่ใช่จะหาเรื่องได้ง่ายๆ”

หลินสวินยิ้มกว้าง กล่าวว่า “ข้าแค่อยากลองอานุภาพของดาบหักก็เท่านั้น”

ดาบหักมีลายสมบัติบริสุทธิ์เพิ่มมากอีกหนึ่งสาย ก็ทำให้พลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณเพิ่มขึ้นหนึ่งในร้อยส่วน

เพิ่มมาสิบสาย สามารถเพิ่มพลังต่อสู้ได้หนึ่งในสิบส่วน!

ตอนนี้ดาบหักมีลายสมบัติบริสุทธิ์ห้าสิบสี่สายแล้ว อานุภาพของมันจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน

อาหูกล่าวว่า “รอยามเจ้าหลอมลายสมบัติบริสุทธิ์ของสมบัติชิ้นนี้ออกมาได้ร้อยสาย ก็จะยิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เอี่ยม ฟูมฟักครรภ์วิญญาณอาวุธออกมา ถึงตอนนั้นแค่อานุภาพของสมบัตินี่ ก็สามารถทำให้พลังต่อสู้ของเจ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวแล้ว”

หลินสวินถอนใจเบาๆ กล่าวว่า “ยากเกินไปแล้ว ไอมรรคหลอมสมบัติที่ได้รับก่อนหน้านี้น่าตกใจปานใด แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงเปลี่ยนดาบหักถึงแค่ระดับนี้ คิดอยากหลอมลายสมบัติบริสุทธิ์ร้อยสาย… ก็ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่”

จากนั้นหลินสวินก็ยิ้มน้อยๆ “แต่ข้ารู้สึกพอใจแล้ว”

ในเวลาถัดมาทั้งคู่เริ่มเคลื่อนไหว ตั้งใจจะค้นหาไอมรรคหลอมสมบัติเพิ่มอีกสักหน่อยในช่วงเวลาที่เหลืออยู่

ระหว่างทางที่เคลื่อนไหว พวกเขาก็ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารจำนวนหนึ่ง

อย่างเช่น ในแดนหลอมสมบัติขณะนี้ พวกกร้าวแกร่งมากมายต่างกำลังเสาะหาที่อยู่ของหลินสวิน ซ้ำยังลั่นวาจาร้ายกาจว่าจะกำจัดเขาทิ้งให้ได้!

นี่ทำให้ในใจหลินสวินก็เกิดไอสังหารขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เจ้าอันธพาลพวกนี้ คิดจริงๆ หรือว่าเขาหลินสวินเป็นเนื้อปลาบนเขียงที่จะยื้อแย่งกันอย่างไรก็ได้

ขณะเดียวกันหลินสวินและอาหูก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับซาหลิวชิงด้วยเช่นกัน

สำนักโบราณจรัสเทพ!

นี่ทำให้เนตรงามของอาหูยังนิ่งค้างฉับพลัน กล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นทูตเทพพยากรณ์คนหนึ่ง มิน่าถึงได้มีฝีมือที่ลี้ลับระดับนั้น”

ส่วนในใจหลินสวินก็ไม่อาจสงบได้เช่นกัน

เขานึกถึงเรื่องในอดีตเรื่องหนึ่ง

ปีนั้นยามสังหารจู๋อิ้งคงในสมรภูมิเก้าดินแดน เขาเคยถามข้อมูลข่าวเกี่ยวกับกึ่งจักรพรรดิปาฉีจากจู๋อิ้งคง

จนกระทั่งก่อนจู๋อิ้งคงจะสิ้นใจ ถึงได้ให้คำตอบว่า…

ปาฉีเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของ ‘สำนักโบราณจรัสเทพ’ แห่งดินแดนโบราณยอดหยิน ซ่อนตัวในชายแดนมานานปี มีปราณระดับกึ่งจักรพรรดิ!

หนำซ้ำตอนนั้นจู๋อิ้งคงยังเอ่ยพูดอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม ว่าจากรากฐานพลังของหลินสวิน บางทีในอนาคตตอนที่เหยียบย่างระดับกึ่งจักรพรรดิอาจสามารถฆ่าปาฉีตายได้สบายๆ แต่ก็จะไม่อาจแบกรับเพลิงโทสะของสำนักโบราณจรัสเทพได้ไหวด้วยเหตุนี้เช่นเดียวกัน

ตอนนั้นหลินสวินไม่เชื่อสักนิด

จู๋อิ้งคงก็ไม่ได้กล่าวอธิบาย เพียงแต่กล่าวว่า ‘ภายหน้าเจ้าจะเข้าใจเอง ว่าสำนักโบราณจรัสเทพเป็นขุมอำนาจที่น่ากลัวแค่ไหน’

เพียงแต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึง ว่าซาหลิวชิงนั่นดันมาจากสำนักโบราณจรัสเทพด้วย!

“สำนักโบราณจรัสเทพร้ายกาจมากหรือ”

หลินสวินตระหนักได้ว่าสภาพอารมณ์ของอาหูแปลกไปเล็กน้อย

“ในโลกมืดบนทางเดินโบราณฟ้าดารา สำนักโบราณจรัสเทพถูกมองเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ ขุมอำนาจนี้…”

ต่อมาอาหูก็เล่าข้อมูลบางส่วนของสำนักโบราณจรัสเทพให้หลินสวินฟังโดยละเอียด

ไม่นานหลินสวินก็เข้าใจ นี่ก็คือกลุ่มนักฆ่าที่เร้นลับแห่งหนึ่ง ผู้สืบทอดสำนักนี้ถูกขนานนามว่า ‘ทูตเทพพยากรณ์’ ไปมาเร้นลับ ลงมือเลือดเย็น

ที่ทำให้คนกริ่งเกรงมากที่สุดก็คือสำนักนี้ลึกลับถึงที่สุด มาจากโลกมืด ไม่มีใครรู้ว่ารากฐานพลังของสำนักนี้น่าสะพรึงแค่ไหนกันแน่

“สำนักนี้มี ‘กระดานเทพลงทัณฑ์’ กระดานหนึ่ง ขอเพียงเป็นเป้าหมายที่ถูกจับจ้อง ล้วนถูกบันทึกลงบนกระดานนี้ ข้าสงสัยว่า…”

“เจ้าสงสัยว่าชื่อของข้าก็ถูกใส่ลงในนั้นด้วย?”

หลินสวินเลิกคิ้วกล่าว

นักฆ่า มาไร้เงาไปไร้ร่องรอย ทำให้ผู้คนยากจะป้องกันมากที่สุด หากถูกกลุ่มนักฆ่าที่เร้นลับน่าสะพรึงเช่นนี้หมายหัว ก็ทำให้คนปวดหัวยิ่งจริงๆ

อาหูร้องอืมคราหนึ่ง กล่าวด้วยแววตาแปลกพิกล “ในสามยักษ์ใหญ่โลกมืดฟ้าดารา นอกจากสำนักโบราณจรัสเทพแล้วยังมีแดนกษิติครรภ์ ลาหัวโล้นพวกนั้นอ้างตนว่าเป็นผู้หลุดพ้น ยึดการกำจัดมารนอกรีตบนโลกเป็นหน้าที่แห่งตน เจ้าอย่าลืมเชียว ลาหัวโล้นพวกนั้นก็หมายหัวเจ้ามาตั้งนานแล้วเช่นกัน”

หลินสวินอึ้งไป “แดนกษิติครรภ์กับอารามกษิติครรภ์เกี่ยวข้องกันอย่างไร”

อาหูรีบอธิบายฉับไว “อารามกษิติครรภ์เป็นแขนงย่อยแห่งหนึ่งของแดนกษิติครรภ์ สามารถเรียกได้ว่าเป็น ‘สายนอก’ ผู้สืบทอด ‘สายใน’ อย่างแท้จริงแต่ไรมาไม่เคยเปิดเผยตัวตนของตนเองเลย”

หลินสวินจนคำพูดไปพักหนึ่งอย่างอดไม่ได้

บุญคุณความแค้นของเขากับอารามกษิติครรภ์ ยังต้องย้อนความตั้งแต่ได้รับ ‘คัมภีร์มหาครรภ์จุติ’ ที่อริยสงฆ์ตู้จี้เหลือทิ้งไว้ ในช่วงหลายปีนี้เขาสังหารผู้สืบทอดอารามกษิติครรภ์ไปไม่น้อยทีเดียว

อย่างเช่นสิบแปดศิษย์กษิติครรภ์ หรืออย่างอริยะที่ชื่อฝ่าหลิน…

เพียงแต่หลินสวินคิดไม่ถึงว่าอารามกษิติครรภ์ที่ตั้งอยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ จะถึงกับยังมีแหล่งกำเนิดที่พิเศษเช่นนี้กับ ‘แดนกษิติครรภ์’ ในโลกมืดฟ้าดาราด้วย

“กล่าวเช่นนี้ ภิกษุชุดดำคนนั้นที่พวกเราเจอก่อนหน้านี้ เกรงว่าไม่ได้มาจากอารามกษิติครรภ์ แต่มาจากแดนกษิติครรภ์สินะ”

นัยน์ตาดำของหลินสวินลุ่มลึก นึกถึงภิกษุชุดดำซึ่งกลางหน้าผากประทับลายดอกบัวดำที่เคยเจอก่อนหน้านี้ไม่นาน

ถูกขุมอำนาจสองยักษ์ใหญ่ในโลกมืดฟ้าดาราหมายหัวในคราวเดียว หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น เกรงว่าจิตมรรคต้องพังทลายเป็นแน่

หลินสวินกลับไม่ถึงขั้นหวาดผวาและเกรงกลัว แต่ก็อดเสียววาบไม่ได้เช่นกัน ขมวดคิ้วมุ่นไม่เลิก

เขาเข้าใจวิธีการลงมือของอารามกษิติครรภ์มากที่สุด ลาหัวโล้นพวกนั้นแต่ละคนเลือดเย็นและไม่กลัวตาย เพื่อจะฆ่าศัตรู ไม่หวั่นกลัวความเป็นความตายเลยสักนิด

“ทำไม เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วหรือ”

อาหูเอ่ยแซวหนึ่งประโยค

หลินสวินลูบจมูกป้อยๆ กล่าวว่า “ข้าแค่กลัวความวุ่นวาย ถูกแมลงวันฝูงหนึ่งจ้องเล่นงานก็น่ารำคาญพอแล้ว ตอนนี้กลับดีนัก ดันมีแมลงวันโผล่มาอีกฝูง”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งค่อยกล่าวอย่างใคร่รู้ “จริงสิ ขุมอำนาจยักษ์ใหญ่อีกหนึ่งแห่งในโลกมืดนั่นคือที่ไหน”

เนตรงามของอาหูวาบประกายพราว กล่าวว่า “หอวิหคทองแดง ขุมอำนาจที่แผ่อิทธิพลไปในโลกมืด ปกครององค์กรเร้นลับของ ‘แดนปั่นป่วน’ และ ‘โลกใต้พิภพ’”

“ในตอนนี้ บน ‘กระดานรางวัลค่าหัว’ ที่แพร่หลายในทางเดินโบราณฟ้าดารา นักโทษโฉดชั่วเกือบเก้าส่วน แทบทั้งหมดล้วนมาจากอาณาเขตโลกมืดที่หอวิหคทองแดงปกครองทั้งนั้น”

“ต่างจากสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์ หอวิหคทองแดงเหมือนนายเหนือหัวที่คอยควบคุมระเบียบในโลกมืด ใช้บัญชาสูงสุดและพลังที่กร้าวแกร่งปกครองโลกมืด”

“ข้าเคยได้ยินคนพูดกันว่าหากไม่มีหอวิหคทองแดงคอยปกครอง เมื่อระเบียบของโลกมืดพังทลาย พวกชั่วร้ายโหดเหี้ยมที่กระจายตัวในโลกมืดพวกนั้นจะต้องไหลกรูออกมา ทะลักเข้าสู่ทางเดินโบราณฟ้าดารา นำมาซึ่งเคราะห์สังหารและหายนะที่ไม่อาจจินตนาการ”

กล่าวถึงตรงนี้อาหูทอดสายตามองหลินสวิน กล่าวว่า “เจ้ารู้สึกว่าขุมอำนาจอย่างหอวิหคทองแดงไม่เหมือนยักษ์ใหญ่ในโลกมืดเลยใช่หรือไม่”

หลินสวินพยักหน้า

“น่าเสียดาย ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่บนโลกนี้ไม่ได้คิดเช่นนั้น”

อาหูกล่าวว่า “ในความเห็นพวกเขา หากไม่มีการคุ้มครองของหอวิหคทองแดง นักโทษโหดเหี้ยมชั่วร้ายที่กระจายตัวอยู่ในโลกมืด ป่านนี้คงถูกฆ่าไม่เหลือกซากนานแล้ว ‘โลกใต้พิภพ’ และ ‘แดนปั่นป่วน’ ที่เรียกกันก็คงถูกเหยียบย่ำและกำจัดทิ้งไปนานแล้ว”

หลินสวินอึ้งไป กล่าวคล้ายใคร่ครวญ “แล้วเจ้าล่ะ มองหอวิหคทองแดงอย่างไร”

แววตาอาหูวับวาว สีหน้าเคร่งขรึมอย่างหาได้ยาก เอ่ยอย่างจริงจัง “ข้ารู้เพียงว่า หากปราศจากหอวิหคทองแดงปกครองโลกมืด ป่านนี้ทางเดินโบราณฟ้าดาราคงวุ่นวายไปนานแล้ว!”

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset