ภูเขาพญามังกรกว้างใหญ่เกรียงไกรเพียงไหน จะถูกผนึกได้ง่ายๆ หรือ
ไม่นานนักหลินสวินก็รู้ว่าที่ถูกผนึกจริงๆ คือเส้นทางขึ้นเขาที่ขึ้นสู่ยอดเขาพญามังกรได้เพียงทางเดียว
ทางสายนี้ถูกขนานนามว่า ‘ทางมังกรหมอบ’ บนนั้นมีพลังห้วงอากาศผนึกปกคลุมอยู่ ทำให้ไม่ว่าพลังปราณระดับไหนก็ทำได้เพียงเดินขึ้นเขาไป
และจากจุดอื่นไม่อาจเข้าใกล้ยอดเขาพญามังกรได้เด็ดขาด
พอรู้ดังนี้ในใจหลินสวินก็ตกตะลึงอีกครั้ง
สามารถคาดการณ์ได้ว่าถ้ามีผู้แข็งแกร่งที่คิดแหกกฎกลุ่มหนึ่งซุ่มอยู่บนทางมังกรหมอบสายนี้ เช่นพวกเซ่าเฮ่า รั่วอู่ ทันทีที่เผยร่องรอยจะต้องถูกโจมตีทันที!
“สาวเลว! ผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่พวกนั้นเผด็จการเกินไปแล้ว ขอเพียงลองเข้าไปใกล้ก็จะถูกโจมตี ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้คนอื่นสักนิด”
มีคนโกรธเคืองยากทานทน พร่ำบ่นไม่หยุด
“ไม่เคยได้ยินหรือไง มีเพียงคนที่ถือป้ายคำสั่งเซียนเหินเท่านั้นถึงได้รับอนุญาตให้เข้าไป เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือรีบไปล่าผู้แข็งแกร่งที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณพวกนั้น มีแต่พวกเขาถึงมีป้ายคำสั่งเซียนเหิน”
“ถูกต้อง ขอเพียงครอบครองป้ายคำสั่งเซียนเหิน ไม่เพียงเข้าไปในภูเขาพญามังกรได้ ต่อให้ไปแดนผนึกอื่นในแหล่งสถานคุนหลุนก็ไม่ใช่เรื่องยาก”
ผู้ฝึกปราณหลายคนกันกำลังแลกเปลี่ยนความเห็น
หลินสวินเงียบไม่เอ่ยคำ พลังขับเคลื่อนทั้งตัวยิ่งราบเรียบไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใคร เดินหน้าต่อไปกับอาหู
หลังจากได้ยินการสนทนา เขาก็ยิ่งแน่ใจว่าภูเขาพญามังกรก็คือบึงมังกรถ้ำเสือแห่งหนึ่ง ไอสังหารกระจายเต็มไปหมด
อย่างราชันเผิงปีกทองน้อยกับหยวนฝ่าเทียนต่างบรรลุระดับมกุฎมหาอริยะนานแล้ว อีกทั้งพลังพรสวรรค์ยังน่าตกตะลึงเป็นที่สุด
แต่ทั้งสองอาจจะกำลังประสบเคราะห์!
นี่ทำให้ไอสังหารผุดขึ้นในใจหลินสวินอย่างห้ามไม่อยู่ เพื่อชิงป้ายคำสั่งเซียนเหิน เจ้าพวกนั้นไม่เลือกวิธีจริงๆ!
ไม่นานนักหลินสวินก็มองเห็นทางมังกรหมอบนั้นอยู่ลิบๆ
จากด้านล่างสู่ด้านบนของทางภูเขาสายนี้ ประหนึ่งมังกรยักษ์ยืดตัวขึ้นเวิ้งฟ้า หัวมังกรอยู่ที่ยอดเขาพญามังกรพอดี
“ไม่มีป้ายคำสั่งเซียนเหินยังฝันเฟื่องจะปีนขึ้นยอดเขาพญามังกรหรือ ละเมอเพ้อพก ไม่อยากตายก็รีบจากไป!”
เสียงเหี้ยมเกรียมเสียงหนึ่งดังขึ้นบนตีนเขาตรงทางเดินมังกรหมอบ คนผู้นั้นเป็นชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดคลุมยาวสีเขียวเข้ม ถือทวนยาวสำริดเล่มหนึ่ง ท่าทางฉกาจฉกรรจ์น่ากลัวถึงที่สุด
เขายืนอยู่หน้าทางมังกรหมอบ โอ้อวดและโหดเหี้ยม
ในบริเวณใกล้เคียงมีผู้ฝึกปราณไม่น้อยรวมตัวกันอยู่ ถูกคนอื่นด่าทอและขับไล่เช่นนี้ทำเอาพวกเขาสีหน้าไม่น่าดูนัก
จากบทสนทนาของพวกเขา หลินสวินก็ได้รู้ว่าชายหนุ่มฉกาจฉกรรจ์คนนี้มีนามว่าเนี่ยฝู่ มาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เป็นมกุฎมหาอริยะที่เก่งกาจถึงที่สุดคนหนึ่ง
หลายวันมานี้มีผู้ฝึกปราณไม่น้อยฝืนฝ่าเข้าไป ต่างถูกเนี่ยฝู่ปลิดชีพทีละคน วิธีการโหดเหี้ยมนองเลือด อานุภาพดุร้ายน่ากลัว
“น่าเบื่อ ไม่กล้าบุกเข้ามาแต่ก็ไม่ยินยอมจากไป คนอย่างพวกเจ้ายังกล้ายื่นมือมายุ่งกับวาสนาอีกหรือ ไม่รู้สึกขายหน้าหรือไง”
เนี่ยฝู่เย้ยหยันอย่างไม่ปิดบัง
ผู้ฝึกปราณมากมายที่อยู่ใกล้เคียงต่างสีหน้าอึมครึมขึ้นมา มีคนอดไม่ได้ก้าวไปหมายจะบุก แต่กลับถูกพวกพ้องรั้งไว้
“ดูไม่ออกหรือ เขาตั้งใจยั่วยุเจ้า อยากให้เจ้าไปหาที่ตาย!”
เมื่อคำพูดนี้ดังออกมา ก็ดับความคิดที่จะบุกเข้าไปของคนผู้นั้นทันที
เนี่ยฝู่เห็นดังนี้คล้ายรู้สึกเบื่อนัก เอ่ยอย่างเกียจคร้านว่า “ขี้ขลาด ขี้ขลาดเป็นบ้าเลย ถ้าเปลี่ยนข้าเป็นพวกเจ้าคงปาดคอตัวเองตายไปนานแล้ว จะได้ขายขี้หน้าบนโลกนี้ให้น้อยลงหน่อย”
“พอแล้ว เนี่ยฝู่เจ้าไปยอดเขา ศิษย์พี่คุนของพวกเจ้าหาเจ้าอยู่ ที่นี่ให้ข้าดูแลเอง”
เงาร่างเด็กสาวชุดแดงผอมเพรียว ดูอ่อนแอไม่ต้านลมคนหนึ่งปรากฏตัว เนี่ยฝู่พยักหน้าแล้วก็ถือทวนศึกสำริดปีนขึ้นเขาหายลับไป
“เถาเยา!”
มีคนตกตะลึง ก่อให้เกิดความระส่ำระสาย หลายคนเงียบเป็นจักจั่นหน้าหนาว คนอีกไม่น้อยยิ่งหน้าเปลี่ยนสี ออกไปจากที่แห่งนั้นอย่างเงียบเชียบคล้ายไม่กล้าอ้อยอิ่งอีก
เพราะเด็กสาวชุดแดงที่ดูเหมือนอ่อนแอไม่ต้านลมดุร้ายเสียยิ่งกว่าเนี่ยฝู่!
นางเป็นลูกหลานเลือดบริสุทธิ์เผ่านักรบเถาอู้ อุปนิสัยดุร้าย ฆ่าคนนับไม่ถ้วน ก่อนเนี่ยฝู่ฆ่าคนยังตั้งใจท้าทาย แต่นางกลับไม่ทำ
สำหรับนางแล้วการฆ่าคนแล้วแต่อารมณ์ล้วนๆ!
เถาเยายืนอยู่หน้าทางขึ้นเขาเพียงลำพัง ใบหน้าเล็กอิ่มเอิบ ปากน้อยแดงอวบอิ่ม คิ้วตากระจ่างอ่อนเยาว์ ดูไปก็เหมือนเด็กสาวที่แฝงแววอ่อนต่อโลก
เพียงแต่กลับไม่มีใครกล้าสบตานาง
“ไสหัวไป!”
นางเอ่ยปากเพียงไม่กี่คำ กลับทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายประหนึ่งได้รับการละเว้นโทษตาย หันกายจากไปไม่กล้าร่ำไรอีก
แต่ก็มีคนไม่ยินยอม
ฟุบ!
เงาร่างเถาเยาพลันหายไป ครู่ต่อมาก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง ยื่นมือออกมาเด็ดหัวที่เลือดไหลริน
จนกระทั่งเงาร่างของเถาเยากลับไปหน้าทางขึ้นเขาอีกครั้ง ศพไร้หัวนั้นจึงตกลงมากับพื้นดังลั่น
เปรี๊ยะ!
เถาเยาออกแรง ศีรษะในมือนั้นระเบิดกระจุย เลือดสาดกระเซ็น นางเผยรอยยิ้มหวาน “ผู้อ่อนแอ สุดท้ายก็ทำได้เพียงปล่อยให้ฆ่าแกงอย่างไรก็ได้ ยังมีใครอยากลองไหม”
หลายคนตื่นตะลึงจนศีรษะชาหนึบ หนาวยะเยือกไปทั้งร่าง
โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!
ขัดกันคำเดียวก็ฆ่ากันเลย!
ไม่ทันไรก็มีผู้ฝึกปราณหลายคนถอยไปอีก ไม่กล้ารั้งอยู่ต่อ
หลินสวินจับจ้องทั้งหมดนี้อย่างสงบนิ่ง กำลังจะก้าวไปข้างหน้ากลับถูกอาหูรั้งไว้ สื่อจิตว่า ‘เจ้าได้คิดไหมว่ากับดักบนเขามังกรหมอบนี้ ความจริงแล้วเหมือนจะพุ่งเป้ามาที่เจ้าคนเดียวเสียมากกว่า’
หลินสวินใจกระตุก
‘ทางเดินขึ้นเขาถูกปิดไว้ ผู้สืบทอดจากขุมอำนาจใหญ่อย่างเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เรือนมรรคจักรวาล เผ่านักรบกิเลนโลหิตรวมตัว ไม่อนุญาตให้ผู้ฝึกปราณคนอื่นเข้าประชิด แต่กลับอนุญาตให้ผู้ที่ถือป้ายคำสั่งเซียนเหินขึ้นเขา…’
อาหูพูดอย่างรวดเร็ว ‘ถ้าเป็นเพียงแค่การช่วงชิงศุภโชครากฐานบรรลุจักรพรรดิ แต่กลับวางกำลังผิดแปลกเช่นนี้ก็แปลกเกินไปแล้ว’
‘ที่สำคัญกว่าก็คือ ผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้มีความแค้นกับเจ้าไม่น้อยทั้งนั้น!’
ดวงตาดำหลินสวินฉายวาบ ‘เจ้าจะพูดว่าแผนการสังหารบนภูเขาพญามังกรก็เตรียมเพื่อข้ามาตั้งแต่แรกหรือ’
อาหูพยักหน้า สายตามองดูทางมังกรหมอบที่คดเคี้ยวขึ้นไป สื่อจิตว่า ‘ถ้ายอดเขานี้มีวาสนาที่เกี่ยวข้องกับ ‘รากฐานบรรลุจักรพรรดิ’ จริง เหตุใดไม่เห็นพวกร้ายกาจคนอื่นเช่นเหวินชิงเสวี่ย ฮว่าซิงหลีปรากฏตัวล่ะ’
‘ถ้าพวกเขามาแล้ว ใครจะสามารถปิดทางขึ้นเขานี้ไว้ได้อีก’
หลินสวินนิ่งเงียบครู่หนึ่งค่อยเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชาว่า ‘ต่อให้เป็นแผนฆ่า ถ้าข้าไม่ปรากฏตัวจะไม่ใช่ทำให้เจ้าพวกนั้นผิดหวังหรือ’
‘อาหู เจ้ายังไม่ต้องเผยตัว ตามหลังข้ามาลับๆ ก็พอ’
หลินสวินตัดสิน
อาหูถอนหายใจเบาๆ รู้ทั้งรู้ว่ามีกับดักอยู่ตรงหน้าแต่กลับดึงดันจะไป เป็นเพราะมุทะลุและจองหองหรือ
ไม่
เพียงเพื่อสหายที่เขาให้ความสำคัญก็เท่านั้น!
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าทางขึ้นเขานี้เปิดให้เฉพาะคนที่ถือป้ายคำสั่งเซียนเหินเท่านั้น ข้าจะถามอีกครั้ง มีใครมีป้ายคำสั่งนี้หรือไม่”
เสียงเถาเยาดังขึ้น ณ ที่นั้น
หลายคนต่างลอบด่าทอ แม้มีป้ายคำสั่งเซียนเหิน พอเห็นสถานการณ์เช่นนี้ใครยังจะกล้าปรากฏตัว เกรงว่าจะหนีไปนานแล้ว!
แต่ก็ในตอนนี้เอง หลินสวินเดินไปข้างหน้าเพียงลำพัง ดวงตาดำแจ่มกระจ่างราบเรียบ มุ่งหน้าไปยังทางมังกรหมอบเช่นนั้นตรงๆ
“หืม”
“หลินสวิน!”
“สวรรค์ เจ้าหมอนี่ถึงกับปรากฏตัวแล้ว!”
ทันใดนั้นบริเวณใกล้เคียงก็มีเสียงร้องตกตะลึงดังขึ้น
ชายหนุ่มที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง กลับสังหารคนอย่างเยี่ยนฉุนจวินกับลู่อ๋าง ตั้งแต่อยู่ที่แดนหลอมสมบัติก็มีชื่อเสียงเรื่องความร้ายกาจ ใครเล่าจะจำไม่ได้
“เจ้ามาแล้วดังคาด!”
แววน่าสะพรึงผุดขึ้นในดวงตาเถาเยา ชุดสีแดงไหวกระพือเกิดเสียงแม้ไม่มีลม
ฉึบ!
ปราณกระบี่แดงฉานช่วงโชติที่ราวกับรุ้งยาวสีเลือดสายหนึ่งปรากฏ บาดตาจนทุกคนลืมตาไม่ขึ้น
ราวกับเป็นกระบี่ดุร้ายที่จะกวาดล้างโลก ทำลายจักรวาล
คนมากมายหนาวสะท้าน ต่างหน้าเปลี่ยนสีกันหมด นี่เป็นสมบัติลับซึ่งน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง สืบทอดมาในเผ่าเถาอู้ พลังพิฆาตคับฟ้า
หลายวันมานี้มีมกุฎมหาอริยะไม่รู้กี่คนถูกกระบี่นี้ปลิดชีพในการโจมตีเดียว!
เห็นได้ชัดว่าเถาเยาก็รู้ดีถึงความน่ากลัวในพลังต่อสู้ของหลินสวิน ทันทีที่ลงมือก็ไม่ได้คิดจะประจันหน้าตรงๆ ใช้วิธีที่แกร่งกล้าที่สุดทันที
หลินสวินสนใจเพียงมุ่งหน้าเดินไปราวกับไม่รู้สึกอะไร
เมื่อปราณกระบี่แดงสดนั้นฟันมา เขาถึงชูมือขึ้นคว้าเบาๆ อย่างสบายๆ ประหนึ่งเด็ดดอกไม้ติดมือ
จากนั้นปราณกระบี่ดุดันน่าครั่นคร้าม อหังการน่าหวาดหวั่นนั่นก็ถูกคว้าไว้ในมือ
ราวกับงูตายที่ถูกบีบหัวใจตัวหนึ่ง!
“อะไรกัน!?”
เถาเยาตกตะลึง ปราณกระบี่ในหีบกระบี่นี้ได้รับการฟูมฟักจากสัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าเถาอู้มานานแปดพันปีแล้ว ความทรงพลังของเจตกระบี่ ความแกร่งกล้าของพลังสังหาร สามารถดับสังหารมกุฎมหาอริยะได้อย่างง่ายดาย
แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะสลายได้ในชั่วขณะที่ยกมือ!
ปัง!
ปราณกระบี่แดงฉานระเบิดกระจุยในมือหลินสวิน ท่ามกลางละอองแสงที่ปลิวว่อน จู่ๆ เงาร่างหลินสวินหายลับไป ครู่ต่อมาก็ปรากฏตัวที่หน้าทางขึ้นเขาแล้ว
เถาเยาหน้าเปลี่ยนสี แม้นางเป็นมกุฎมหาอริยะเช่นกัน พลังต่อสู้ไม่ธรรมดา แต่จะกล้าต่อต้านพวกร้ายกาจอย่างหลินสวินได้อย่างไร
นางไม่ลังเลสักนิด เรียกโล่โลหิตกลมเกลี้ยงโล่หนึ่งออกมาป้องกันข้างหน้า ลายปริศนาแสงหิตหลั่งไหลออกมาจากโล่ ลึกลับหาใดเทียบ
และเถาเยาก็หันตัวพุ่งไปบนทางขึ้นเขา
ตูม!
หลินสวินโจมตี คัมภีร์เตาหลอมมหามรรคโคจร หมัดเดียวเท่านั้นก็ทะลวงโล่สีเลือดนั้นจนระเบิดเสียงดังโครม ราวกับกระดาษเปื่อยที่ไม่ทนต่อการโจมตี
เถาเยาส่งเสียงร้องแหลม จิตใจสั่นระรัว น่ากลัวเกินไปแล้ว โล่นั่นก็เป็นสมบัติอริยะที่แข็งแกร่งชิ้นหนึ่ง แต่กลับถูกระเบิดด้วยหมัดเดียว!
พลังต่อสู้ของหลินสวินนั่นน่ากลัวปานไหนกัน
“เจ้าไม่ได้อยากได้ป้ายคำสั่งเซียนเหินหรอกหรือ ทำไมกลับจะหนีล่ะ”
เสียงเย็นชาราบเรียบดังขึ้น เงาร่างหลินสวินปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ว่องไวจนเหลือเชื่อ แล้วโจมตีออกไปอีกหนึ่งหมัด
ประหนึ่งยกภูเขาเทพดึกดำบรรพ์ขึ้นกระแทกใส่อย่างหนักหน่วง
เถาเยาหนีจนไร้ทางหนี สองมือส่องแสง เข้าต้านเต็มกำลัง
เพียงแต่พลังที่มีอยู่ในหมัดนี้เรียกได้ว่าน่าครั่นคร้ามไร้เทียมทาน พริบตาเดียวก็ซัดแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแหลกกระจุย พลังหมัดโหมคลั่งซัดสาด ทั้งตัวนางถูกกำราบ กระแทกเข้ากับขั้นบันไดทางขึ้นเขาที่แข็งแรงหาใดเทียบเข้าอย่างจัง เลือดกระฉูดกระเซ็นกระสาย
กระดูกไม่รู้กี่ท่อนหักอยู่ภายในร่างผอมแบบบาง!
“หมัดเดียวนะ!”
เสียงร้องตกใจดังไกลออกไป
ทุกคนต่างหวาดหวั่น เป็นถึงลูกหลานเลือดบริสุทธิ์เผ่านักรบเถาอู้ ยอดฝีมือที่ฆ่าคนอย่างเลือดเย็นคนหนึ่ง กลับถูกหมัดเดียวของหลินสวินกระแทกลงกับพื้นเช่นนี้!
“อ๊าก…” เถาเยาส่งเสียงโหยหวน ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ร่างโชกเลือด ลุกขึ้นมาจากบันไดไม่ได้แล้ว
ปึง!
หลินสวินเหยียบลงไปบนร่างของเถาเยา มุ่งหน้าไปยังทางมังกรหมอบ เงาร่างตระหง่านประหนึ่งเทพมารเยื้องย่าง
ส่วนที่เดิม ร่างเถาเยาระเบิดออกโดยสมบูรณ์ ฝนเลือดสาดกระเซ็น ยามจิตวิญญาณลอยละล่องก็ถูกเสี่ยวอิ๋นที่ปรากฏตัวเงียบๆ อยู่อีกด้านกลืนกินไปอย่างไร้สุ้มเสียง