Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1735 ระฆังมหามรรคไร้กฎ

สายตาหลินสวินฉายแววใจลอย

ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่จนบัดนี้เขายังคงจำได้อย่างลึกซึ้ง ระฆังสำริดใบนั้นมีชื่อเรียกว่า ‘มหามรรคไร้กฎ’!

เพียงแต่ระฆังใน ‘ภาพหมื่นวิญญาณเซ่นไหว้’ นั่น จะใช่ระฆังมหามรรคไร้กฎจริงหรือไม่

“บัดซบ…!”

พลันนั้นลู่เสวียนจีส่งเสียงคำรามออกมา เขายืนอยู่เบื้องหน้ากำแพงหิน ผมยาวทั่วศีรษะปลิวไสว สีหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล

ผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ แถวนั้นต่างพากันเงียบกริบปานจักจั่นหน้าหนาว

“พี่ใหญ่ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันไม่รู้มีผู้ฝึกปราณเท่าไหร่มาที่นี่ ทว่าจนบัดนี้ยังไม่มีใครได้รับการยอมรับจากภาพนี้เลยสักคน”

เสียงแหบพร่าสายหนึ่งดังขึ้น “ในเมื่อเจ้าก็ทำไม่ได้ เหตุใดถึงไม่รามือ ศุภโชคในโบราณสถานคุนหลุนมากมายปานใด หากเอาเวลาและประสบการณ์มาทิ้งเปล่าที่นี่… ช่างไม่คุ้มเอาเสียเลย”

คราวนี้หลินสวินและอาหูถึงได้มองเห็น ว่าส่วนล่างของภูเขาใหญ่นั้น กลางไอขุ่นมัวคละคลุ้ง มีเงาร่างผอมบางสายหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่

คนผู้นี้ผมเผ้าปลิวยุ่ง ใบหน้าหล่อเหลา หว่างคิ้วเปี่ยมด้วยแววเรียบเฉย บนพื้นเบื้องหน้าเขาเสียบดาบใหญ่สีเลือดที่ลักษระน่าหวาดหวั่นอยู่เล่มหนึ่ง

สายโซ่สีเทาเป็นสายๆ ยืนขยายออกมาจากดาบใหญ่สีเลือด อีกด้านหนึ่งของโซ่กลับเสียบเข้าไปในร่างของเหล่าผู้ฝึกปราณ

“หืม?”

เมื่อมองเห็นภาพนี้ นัยน์ตาหลินสวินพลันหดรัด

เงาร่างหลายร่างที่ถูกสายโซ่สีเทาเสียบทะลุพันธนาการเหล่านั้น ถึงกับเป็นพวกหมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอ ชื่อหลิงเซียว เยวี่ยเจี้ยนหมิง!

เพียงแต่พวกเขาแต่ละคนประหนึ่งสูญเสียสติครองตัว สีหน้าเฉยชา แววตานิ่งค้าง เหมือนตุ๊กตาอย่างไรอย่างนั้น

สายโซ่สีเทานั้นแทงทะลุร่างของพวกเขาเหมืองปลิงที่กระหายเลือด สามารถมองเห็นแสงเลือดเป็นสายๆ ไหลเข้าไปกลางดาบใหญ่สีเลือดที่ปักอยู่บนพื้นเล่มนั้น

“วิชาหลอมอาวุธเลือดอริยะ!”

นัยน์ตาอาหูวาบประกายหนาวเย็น จำวิชาหลอมอาวุธที่แปลกพิสดารเช่นนี้ได้ เป็นมรดกลับของเผ่านักรบกิเลนโลหิต ใช้เลือดของอริยะเป็นสิ่งหล่อเลี้ยง หลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์ ทารุณและเผด็จการอย่างที่สุด

“เจ้าสวะพวกนี้ วิธีการโหดเหี้ยมนัก…”

ตอนที่หลินสวินได้รู้เรื่องพวกนี้ สีหน้ายิ่งเยียบเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ “อาหู อีกเดี๋ยวพวกเราจะแยกกันเคลื่อนไหว ข้าจะโจมตีลู่เสวียนจี เจ้าไปช่วยพวกหมีเหิงเจิน”

อาหูกล่าวโดยไม่ลังเล “ดี!”

หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ชีวิตของพวกหมีเหิงเจินถูกควบคุมอยู่ในมือเจ้าหมอนั่นอย่างสิ้นเชิง ตอนลงมือ จะต้อง…”

อาหูกล่าวว่า “วางใจได้ ข้ารับรองว่าจะเชือดเจ้านั่นตั้งแต่จังหวะแรกแน่ จะไม่ให้สหายของเจ้าเหล่านั้นประสบเหตุไม่คาดฝันอย่างแน่นอน”

หลินสวินพยักหน้า

ทั้งสองต่างเรียกพลังเตรียมต่อสู้ ตั้งท่าจะบุกโจมตีอย่างเงียบๆ!

“ลู่ชง เจ้าว่าข้าทำไม่ได้หรือ”

หน้ากำแพงหิน ลู่เสวียนจีสีหน้ามืดทะมึน มองไปยังเงาร่างที่นั่งขัดสมาธิด้วยสายตาเยียบเย็น

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าลู่ชงกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบ “ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าเสียเวลาอีก”

ลู่เสวียนจีแค่นเสียงเย็น เหลียวมองภาพหมื่นวิญญาณเซ่นไหว้บนกำแพงหินนั่นอีกครั้ง กล่าวด้วยสายตาเจือแววขุ่นเคือง

“นี่เป็นถึงพลังแห่งสรรพชีวิต ขอเพียงควบคุมมันได้สำเร็จ ข้าก็จะกลายเป็นอริยบุคคลอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่อริยะ!”

“อริยบุคคล อริยะ สองคนนี้ต่างแค่คำเดียว ขอบเขตพลังที่หมายถึงกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง!”

“มีเพียงผู้ที่ตั้งฌานระดับมหาอริยะสำเร็จ จึงจะเรียกว่าเป็นอริยบุคคล สามารถควบคุมพลังแห่งสรรพชีวิตได้ ภายหน้าจึงจะสามารถกลายเป็นราชันอริยะบนมกุฎมรรคาได้!”

“วาสนาและศุภโชคระดับนี้ บนทางเดินโบราณฟ้าดาราล้วนเห็นไม่มาก ตอนนี้ในเมื่อถูกข้าพบเข้าแล้ว ไหนเลยจะยอมแพ้เช่นนี้ได้”

“ขอเพียงคว้าพลังแห่งสรรพชีวิตมาได้ สิบอันดับแรกบนกระดานมหาอริยะฟ้าดารานั่นจะต้องมีพื้นที่ของข้าแน่นอน!”

กล่าวพลางลู่เสวียนจีเปลี่ยนเป็นเหิมฮึกหาใดเปรียบ

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ร่างเปล่งแสง แผ่จิตรับรู้ไปสัมผัสภาพหมื่นวิญญาณเซ่นไหว้บนกำแพงหินนั้นอีกครั้ง

ตูม!

ทว่าครู่สั้นๆ ร่างของลู่เสวียนจีกลับสั่นกึกราวกับถูกฟ้าผ่า ลอยกระเด็นออกไปอย่างจัง ในปากกระอักเลือด

ผู้ฝึกปราณใกล้เคียงต่างแตกตื่น

ลู่ชงที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นขมวดคิ้วกล่าว “ฝืนบังคับไม่ได้ ไยต้องดึงดัน”

“เจ้าหุบปาก!”

ลู่เสวียนจีคำรามเดือดดาล เขาเสมือนบ้าคลั่ง ตะกายตัวขึ้นอีกครั้ง แผ่จิตรับรู้และพลังไปสัมผัสแผนภาพบนกำแพง

สวบ!

และในยามนี้เอง ดาบหักที่ขาวกระจ่างดุจหิมะสายหนึ่งพลันแหวกอากาศมาเยือน ฟันสังหารด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ

พริบตานั้นดุจดั่งธารดาราเก้าสวรรค์ปรากฏกลางอากาศ!

“ระวัง!”

เกือบจะเวลาเดียวกัน ลู่ชงที่นั่งขัดสมาธิบนพื้นส่งเสียงตะโกนดังสนั่นขึ้นมา

เพียงแต่สุดท้ายก็ยังช้าไปหนึ่งก้าว

ทั้งใจลู่เสวียนจีคิดแต่จะได้รับการยอมรับจากพลังแห่งสรรพชีวิต คิดไม่ถึงสักนิดว่าในเวลาเช่นนี้ดันมีการลอบโจมตีเข้ามาปุบปับ

หนำซ้ำยังฉับไวและเผด็จการปานนั้น!

เขาหลบไม่ทันสักนิด ล้วนแต่อาศัยสัญชาตญาณที่กรำศึกมานานปีไปต่อต้านทั้งสิ้น

ตูม!

ท่ามกลางเสียงก้องกระหึ่มที่สะเทือนฟ้าดิน ทั้งตัวลู่เสวียนจีถูกฟันกระเด็นออกไป เกราะที่กำบังอยู่เบื้องหน้าถูกบดแตกละเอียด บริเวณอกถูกแหวกออกเป็นรอยแผลที่ลึกจนเห็นกระดูกสายหนึ่ง เลือดสดๆ ราวน้ำตกไหลริน

ตึง!

ร่างของเขากระแทกพื้น ส่งเสียงอู้อี้ออกมา สะบักสะบอมสุดขีด

“แย่แล้ว มีคนลอบโจมตี!”

ผู้ฝึกปราณแถวนั้นต่างตอบสนองขึ้นมาแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่ พากันเรียกสมบัติออกมา ไอสังหารแห่ห้อมทั่วร่าง แต่ละคนล้วนระวังตัวขึ้นมา

“พวกสวะหน้าไม่อายคนไหนถึงขั้นกล้าลอบโจมตีข้า”

ลู่เสวียนจีคำรามเดือด สีหน้ากราดเกรี้ยวเขียวคล้ำ รอยแผลบนตัวเขาถึงกับฟื้นฟูด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

สวบ!

ดาบหักพริบไหว บุกจู่โจมอีกครั้ง

และยามนี้ในที่สุดลู่เสวียนจีก็มองเห็นคู่ต่อสู้ชัดเจน อดเผยแววตกใจออกมาไม่ได้ “หลินสวิน! เป็นเจ้าได้อย่างไร”

ไม่รอให้สิ้นเสียง ทั้งตัวเขาก็ถูกดาบหักกระแทกกระเด็นอีกครั้ง ในปากกระอักเลือดไม่หยุด บาดเจ็บรุนแรง

ต่อให้เขาเตรียมรับมือไว้แล้ว ต่อต้านสุดกำลัง แต่ภายใต้การโจมตีเต็มกำลังของหลินสวินก็ยังถูกกำราบอยู่หมัด!

“ฆ่า!” ผู้ฝึกปราณที่อยู่ใกล้เคียงเหล่านั้นล้วนลงมือ ไม่กล้าอืดอาดแต่อย่างใด

หลินสวินในเวลานี้ก็เหมือนลมกระโชกแรงสายหนึ่ง เงาร่างเรืองแสง เคลื่อนย้ายลุยฆ่า สำแดงพลังแห่งตนออกมาถึงขีดสุด

ตูมโครม!

พริบตาเดียวท่ามกลางเสียงดังก้องกระหึ่มที่สะเทือนจนหูแทบหนวก ผู้ฝึกปราณที่บุกจู่โจมเข้ามาเหล่านั้นก็ถูกซัดโจมตีแตกพ่าย ร่างถูกซัดสะเทือนกระเด็นออกไป

ในนั้นมีหลายคนยิ่งถูกปลิดชีพตายคาที่ตรงๆ ร่างแตกระเบิด!

นี่ทำให้คนพรั่นพรึง ล้วนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

แม้จะเป็นลู่เสวียนจีก็อดสูดหายใจเย็นไม่ได้ เจ้าหมอนี่… ถึงกับแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนอยู่ภูเขากลับหัวหลายโขแล้ว!

สิ่งที่ทำให้ในใจลู่เสวียนจีไม่สงบมากที่สุดคือ หลินสวิน… เข้ามาได้อย่างไรกัน

ยอดเขาพญามังกรถูกผู้แข็งแกร่งอย่างพวกกู่ฉางซิน เถาเจี้ยนสิง คุนจิ่วหลินปิดผนึกตั้งแต่แรกแล้ว ซ้ำยังวางกระบวนค่ายกลสังหารชั้นยอดไว้อีกด้วย

แต่หลินสวินกลับปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ นี่ไม่ได้หมายความว่ากับดักของพวกกู่ฉางซินไม่อาจต้านหลินสวินได้หรอกหรือ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจลู่เสวียนจีพลันสะท้านขึ้นมา

เขารู้ถึงกระบวนค่ายกลบนยอดเขาพญามังกรดีที่สุด ล้วนสามารถฆ่าราชันอริยะให้ตายได้ แต่กลับไม่อาจต้านหลินสวินได้ นี่จะน่ากลัวปานใด

ตูมโครม!

หลินสวินไม่ให้โอกาสลู่เสวียนจีไตร่ตรองสักนิดก็พุ่งทะยานโจมตี เขาเหมือนเทพมารบรรพกาลมาเยือนโลก ร่างดุจเหวใหญ่ อานุภาพดุดันปานวัวกระทิง แข็งแกร่งอย่างที่สุด

ผู้ฝึกปราณที่ขัดขวางเหล่านั้น แต่ละคนล้วนเป็นพวกร้ายกาจมากสามารถ มีปราณไม่ด้อยกว่าระดับมหาอริยะ

แต่ภายใต้น้ำมือหลินสวิน กลับเสมือนไก่ดินสุนัขกระเบื้องที่หมดท่าในการโจมตีเดียว!

เพียงครู่เดียวก็ถูกสังหารจนแตกกระบวน เลือดไหลเป็นสายน้ำ

“ตาย!”

นัยน์ตาหลินสวินดุจสายฟ้า จับจ้องลู่เสวียนจี อานุภาพน่าสะพรึงนั่นทำเอาลู่เสวียนจียังอดสะท้านไม่ได้

“หลินสวิน เจ้าอยากเห็นคนพวกนี้ตายหรือไม่”

ทันใดนั้นลู่ชงที่นั่งอยู่ตรงตีนเขามาตลอดเอ่ยปากอย่างเย็นชา เอาชีวิตของพวกหมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอมาขู่

เห็นชัดว่าเขาเยือกเย็นยิ่ง

เงาร่างที่บุกไปข้างหน้าของหลินสวินพลันหยุดชะงัก

และลู่เสวียนจีก็เหมือนเห็นความหวังอีกครั้ง กล่าวหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ลู่ชง ฆ่าเชลยคนหนึ่งให้เจ้าสวะนี่ได้ยลหน่อยสิ!”

“เจ้าโง่”

แววตาหลินสวินล้วนเจือแววเวทนา พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล เสมือนไม่สนใจคำขู่อะไรทั้งสิ้น

ลู่เสวียนจีพลันประหลาดใจ ตั้งตัวไม่ติดอยู่บ้าง

ตูม!

ครู่ต่อมาทั้งตัวเขาถูกฟันกระเด็นออกไปอีกครั้ง ร่างกายล้วนชุ่มเลือด บาดแผลบาดตาน่าตกใจ ทั้งตัวเกือบถูกฟันขาดเป็นสองท่อน

ควรรู้ว่าเขาลู่เสวียนจีเป็นทายาทเลือดบริสุทธิ์เผ่านักรบกิเลนโลหิต ลู่อ๋างที่ตายด้วยน้ำมือหลินสวินก่อนหน้านี้ก็แข็งแกร่งเทียบเขาไม่ติด

แต่ในการต่อสู้ซึ่งหน้า ก็ยังถูกหลินสวินบดขยี้อย่างหมดจด!

“ลู่ชง เหตุใดเจ้าไม่ลงมือ”

ลู่เสวียนจีลนลานอย่างที่สุดแล้ว ส่งเสียงตวาดคำราม

พรูด!

และในยามนี้ ภาพเหตุการณ์น่าสะพรึงนองเลือดก็ปรากฏขึ้น ลู่ชงที่นั่งขัดสมาธิบนพื้น จู่ๆ หัวก็กลิ้งหลุดออกจากคอ เลือดพุ่งกระฉูดออกมาเหมือนน้ำพุ!

“นี่…”

ลู่เสวียนจีตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอย ตายอย่างไร้สุ้มเสียงเช่นนี้เลยหรือ

และพร้อมกันนั้นเงาร่างของอาหูก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าศพไร้หัวของลู่ชงอย่างแผ่วเบา สวมกระโปรงเหลืองทั้งชุด ดุจฝันมายาดั่งเซียน

นางกวักมือเบาๆ คราหนึ่ง กล่าวในใจเงียบๆ ‘เด็กดีกลับมา’

ในห้วงอากาศดาบบินที่เกือบจะโปร่งใสเล่มหนึ่งพริบไหวโฉบเข้าไปกลางฝ่ามือของนาง ก่อนกลายเป็นแผนภาพน้ำเต้าที่เร้นลับภาพหนึ่งและอันตรธานหายไป

น้ำเต้าบั่นจิต!

เพื่อจะฆ่าลู่ชงในทันที อาหูเรียกใช้สมบัติโบราณที่วิเศษอัศจรรย์สุดหยั่งชิ้นนี้อีกครั้ง

เพียงแต่ทุกอย่างนี้ลู่เสวียนจีล้วนมองไม่เห็น

ตูม!

ในยามที่จิตใจของเขาสั่นสะเทือน หลินสวินก็โจมตีเข้ามาแล้ว ดาบหักกวาดขวาง ตัดเอวเขาขาดสะบั้น

“เจ้า…” ก่อนสิ้นใจลู่เสวียนจียังเจือแววเคียดแค้นและไม่ยินยอมสุดขีด

ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นไวเกินไปแล้ว

ตั้งแต่หลินสวินลงมือจนถึงลู่เสวียนจีถูกฆ่า การเคลื่อนไหวทั้งหมดแทบจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่อึดใจก็ปิดฉากลง ไวจนน่าเหลือเชื่อ

ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรืออาหู ตอนที่ลงมือต่างไม่มียั้ง ล้วนหมายจะใช้อานุภาพทรงพลังดั่งอสนีบาตสังหารศัตรูในคราวเดียว!

วางแผนพร้อมจัดการยามอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว พวกลู่เสวียนจีอยากรอดชีวิตล้วนยากนัก

ถึงตอนนี้หลินสวินจึงถอนหายใจเฮือกออกมา ไม่แม้แต่จะมองศพเกลื่อนพื้นนั่นแม้แต่ปราดเดียว เขามาถึงข้างกายอาหูแล้วเอ่ยถาม “พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

อาหูเริ่มลงมือแล้ว กำจัดสายโซ่สีเทาบนตัวพวกหมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอ

“บนตัวพวกเขาถูกครอบด้วยวิชาลับพลังคำสาปต้องห้าม ถึงจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ต้องใช้เวลาสักพักในการทุบทลาย”

อาหูตอบง่ายๆ ประโยคหนึ่ง

“เช่นนั้นก็ดี”

หลินสวินเบาใจลงมา เขาก็ไม่ได้อยู่เฉย ขยับมือเก็บกวาดทรัพย์หลังศึกในที่นั้น เมื่อเห็นว่าอาหูยังยุ่งง่วนก็ไม่กล้ากวนนาง จึงมาหยุดที่ตรงหน้ากำแพงหินภูเขาใหญ่นั่น

ยามเงยสายตาขึ้นมองดูระฆังมรรคที่อยู่ในภาพหมื่นวิญญาณเซ่นไหว้บนกำแพงหิน จิตใจหลินสวินผุดความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยรู้จักมาก่อนอีกครั้ง

เป็นระฆังมหามรรคไร้กฎจริงๆ หรือ

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset