Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1869 กำราบศัตรูจากด้านหลัง

เสียงของจินเทียนเสวียนเยวี่ยราบเรียบ แฝงความเย่อหยิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความมั่นใจอย่างที่สุด ถึงขั้นเป็นความรู้สึกย่ามใจ

แต่สำหรับพวกเหิงเซียว หงอวี่ น้ำเสียงนี้อวดดีเกินไปแล้ว

แค่ดูการต่อสู้ก็พอแล้วอย่างนั้นหรือ

แต่ถ้าแพ้ล่ะ สำนักยุทธ์เสวียนจีจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“ฮ่าๆ น้องเหิงเซียว ในเมื่อเจ้าหมอนี่ออกมาแล้ว เช่นนั้นก็เริ่มเถอะ”

ฝั่งตรงข้ามบนยอดเขา ปี้หยวนจื่อหัวเราะเสียงดัง “เสอจื่อ เจ้าไปเจอสหายที่มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนสักหน่อย จำไว้ว่าต้องออมมือ ถึงอย่างไรสหายคนนี้ก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจี หากถูกตีจนพิการไปคงแย่แน่”

ฟึ่บ!

ยังไม่ทันสิ้นเชิง เสอจื่อที่อยู่ในชุดดำก็ปรากฏตัวในลานประลอง

ดวงตาเรียวยาวราวกับคมดาบของนางแฝงความเย็นเยียบ เอ่ยว่า “ผู้อาวุโสไม่ต้องห่วง ข้าจะปฏิบัติเป็นพิเศษ”

สีหน้าของพวกเหิงเซียวพลันย่ำแย่อย่างที่สุด

เดิมทีขึ้นลานประลองเองของหลินสวินก็ทำให้พวกเขาทำอะไรไม่ถูกแล้ว ในใจไม่สงบอย่างมาก แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะตัดสินใจ ก็ถูกปี้หยวนจื่อชิงตัดสินไปแล้ว

ที่น่าโกรธที่สุดคือ ในคำพูดของปี้หยวนจื่อเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ชั่วร้ายแปลกประหลาด ทำให้คนแค้นจนกัดฟัน

“เฮ้อ”

เหิงเซียวถอนหายใจยาว

เขาตระหนักได้แล้วว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงหวังว่าที่จินเทียนเสวียนเยวี่ยพูดจะเป็นจริง เจ้าหนุ่มที่ชื่อจินตู๋อีนั่นจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง

คนใหญ่คนโตสำนักยุทธ์เสวียนจีคนอื่นๆ ต่างรู้สึกซับซ้อนและหดหู่

ว่ากันถึงแก่น ฐานะของหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่ธรรมดาเกินไป ทำให้แม้พวกเขาจะไม่พอใจก็ทำได้เพียงทนไปก่อน

“หากเจ้าหมอนี่แพ้ ข้าไม่สนว่าเขาจะมีฐานะอะไร แต่ต้องให้พวกเขาชดใช้กับเรื่องนี้อย่างแน่นอน!”

“ใช่ เรื่องเช่นนี้ก็กล้าแทรกแซง ทั้งยังบอกว่าศิษย์แกนหลักอย่างเราสู้ไม่ไหว อวดดีเกินไปแล้ว”

“เฮ้อ ข้าหวังให้เขาชนะจากใจจริง ไม่เช่นนั้นสำนักยุทธ์เสวียนจีของเราก็จะแพ้โดยสมบูรณ์แล้ว…”

“ไม่ต้องเป็นห่วง หากเขาพ่ายแพ้ก็ไม่ใช่สำนักยุทธ์เสวียนจีของเราแพ้ ยังพอจะพลิกสถานการณ์ได้”

ศิษย์แกนหลักเหล่านั้นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา สีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้

พวกเขาไม่ชอบใจหลินสวินจริงๆ แต่ในใจก็ไม่อยากเห็นอีกฝ่ายล้มเหลว ทำให้เกิดความขัดแย้งในใจอย่างมาก

จินเทียนเสวียนเยวี่ยไม่อธิบายอะไรอีก คุณชายที่แม้แต่ระดับกึ่งจักรพรรดิยังฆ่าได้ หากสู้คู่ต่อสู้เหล่านี้ไม่ได้ นั่นต่างหากจึงจะเรียกว่าไม่สมเหตุสมผล

นางหยิบเบาะรองนั่งอันหนึ่งออกมานั่งขัดสมาธิ โบกมือคราหนึ่งสมบัติชงชาก็ปรากฏตรงหน้า จากนั้นเริ่มล้างเครื่องชาและต้มชาอย่างสบายๆ การกระทำเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ ท่าทางผ่อนคลาย

ภาพนี้ทำเอาพวกเหิงเซียวต่างผิดคาด สีหน้างุนงง คนหนุ่มสาวของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนนี้เสพสุขกันเกินไปแล้วกระมัง

ศิษย์แกนหลักเหล่านั้นยิ่งอึ้งจนอ้าปากค้าง นาง… นางยังมีกะจิตกะใจชงชาอีกหรือ นางเห็นการประลองครั้งนี้เป็นอะไร

แม้แต่ปี้หยวนจื่อที่อยู่ตรงข้ามยังอึ้ง พลันยิ้มเยาะ “เสอจื่อ ลงมือได้แล้ว!”

ชิ้ง!

กริชเจ็ดชุ่นดำมืดทึบแสงปรากฏในฝ่ามือขาวราวหิมะ เสอจื่อเชิดหน้าเล็กน้อย ดวงตาเรียวยาวเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

กลิ่นอายทั้งร่างแผ่วพลิ้วราวกับหมอกควั ประหนึ่งแสงดำที่ว่างเปล่า

บรรยากาศในลานประลองก็เปลี่ยนเป็นเคร่งครัด กดดัน และตึงเครียดขึ้นมาทันที

ไม่ว่าจะเป็นสำนักยุทธ์เสวียนจีหรือผู้แข็งแกร่งเกาะเทพเวหาทมิฬล้วนหันสายตาไปมองหลินสวิน

ความแข็งแกร่งของเสอจื่อพวกเขาล้วนเคยเห็นมาก่อน แต่สำหรับแขกที่มาจากตระกูลจินเทียนคนนี้… พวกเขาไม่รู้อะไรเลย

และตอนนี้เอง หลินสวินพูดขึ้นอีกครั้ง เอ่ยเตือนว่า “เจ้าลงมือเต็มกำลังจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจะแพ้อนาถ”

คำพูดผ่อนคลายเรียบง่ายนัก

ปี้หยวนจื่ออึ้งไปอีกครั้ง เจ้าหมอนี่อวดดีนัก!

พวกเหิงเซียวริมฝีปากกระตุกระลอกหนึ่ง ในใจกังวล เจ้าหนุ่มที่คุยโวโอ้อวดเช่นนี้ จะพึ่งได้หรือ

สวบ!

ในลานประลองจู่ๆ เงาร่างของเสอจื่อก็หายไปจากจุดเดิม ราวกับหมอกควันกลุ่มหนึ่ง ทะลุผ่านห้วงอากาศด้วยความเร็วเหลือเชื่อมาปรากฏตรงหน้าหลินสวิน

ที่ไวกว่าการเคลื่อนไหวของนางคือกริชในมือนาง พอสะบัดข้อคมประกายดำสนิทชักนำแสงประหลาดสายหนึ่งขึ้นมา คมประกายแทงเข้าหน้าอกหลินสวินโดยตรง

เร็ว!

เร็วจนเหลือเชื่อ!

คนทั่วไปยากจะจับการกระทำของเสอจื่อได้ ก็มีแค่คนใหญ่คนโตอย่างพวกเหิงเซียวเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ทว่าแม้แต่พวกเขาตอนนี้ยังอดสูดหายใจสะท้านไม่ได้ การเคลื่อนไหวนี้… เร็วถึงขีดสุด น่ากลัวเหนือคาดหมาย!

กลับเห็นหลินสวินสีหน้าราบเรียบ นิ้วชี้ขวาดีดเบาๆ คราหนึ่ง โจมตีทีหลังแต่กลับถึงก่อน ดีดกริชแหลมคมที่แทงเข้าอย่างแม่นยำ

เคร้ง!

เสียงที่ราวกับขวานดาบกระแทกกันดังขึ้น สะเทือนรอบทิศจนแสบหู

ก็เห็นร่างของเสอจื่อสั่นขึ้นมาพลัน จากนั้นเหมือนพบเจอการจู่โจมที่ประหนึ่งเขาถล่มสมุทรซัดสาด ทั้งตัวถลาถอยออกไปอย่างรุนแรง

กระเด็นออกไปสิบกว่าจั้งเต็มๆ จึงฝืนยืนทรงตัวในกลางอากาศได้ แต่ห้วงอากาศรอบร่างนางพลันยุบตัวแตกออก เสียงกึกก้องครึกโครม

แค่คิดก็รู้ว่าพลังของดรรชนีนี้ดุดันและเผด็จการเพียงใด!

“หืม?”

ปี้หยวนจื่อหรี่ตา รู้สึกประหลาดใจ

“นี่…”

พวกเหิงเซียวต่างตกใจ พวกเขาสามารถจินตนาการได้ ว่าแขกของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนคนนี้ไม่มีทางพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียวแน่

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาไม่เพียงสกัดการโจมตีที่มาอย่างกะทันหันนี้ได้ ยังโจมตีจนเสอจื่อถอยหลังไปสิบกว่าจั้งด้วยการดีดนิ้วลวกๆ!

สำหรับศิษย์แกนหลักเหล่านั้น เพียงรู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่าเบลอ ยังไม่ทันจับรายละเอียดได้ก็เห็นเงาร่างของเสอจื่อถอยออกไปอย่างรุนแรง

ดวงตาของพวกเขาต่างก็เบิกโพลงโดยพร้อมเพรียง เกือบสงสัยว่าตาลายแล้ว

แต่ตอนนี้หลินสวินพูดเสียงเรียบอีกครั้ง “ข้าบอกแล้วว่าลงมือเต็มกำลัง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”

ตอนที่มองไปยังหลินสวินอีกครั้ง สายตาของเสอจื่อได้เปลี่ยนไปแล้ว จริงจังและเคร่งขรึมอย่างยากจะเห็น

การโจมตีก่อนหน้านี้ทำให้เลือดลมในร่างนางตอนนี้ปั่นป่วนยากจะสงบ ความรู้สึกเช่นนั้นเหมือนถูกภูเขาเทพดึกดำบรรพ์ชนใส่ร่างอย่างหนักหน่วงก็ไม่ปาน

“สมดังปรารนาของเจ้า!”

นางสูดหายใจลึกคราหนึ่ง อานุภาพรอบตัวเปลี่ยนไป หมอกสีเทาพวยพุ่งปกคลุมเงาร่างของนางจนเลือนราง ราวกับหายไปอย่างไรอย่างนั้น

“ถึงกับไม่สามารถถูกจิตรับรู้จับได้”

“นี่ถึงจะเป็นความสามารถที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้หรือ”

“ก่อนหน้านี้ตอนที่นางเอาชนะศิษย์พี่จีเฉียนกับศิษย์พี่หยวนเม่า ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดเลย”

หลายคนตกใจร้องออกมา

ในลานประลอง…

เงาร่างของเสอจื่อปรากฏด้านหลังหลินสวินอย่างไร้สุ้มเสียง ราวกับเงามืดเงาหนึ่ง ไม่ได้ทำให้เกิดคลื่นพลังใดๆ

แย่แล้ว!

พวกเหิงเซียวที่สังเกตเห็นภาพนี้สีหน้าต่างเปลี่ยนไป นี่คือวิชามรรคอะไร เหตุใดจึงเหลือเชื่อเช่นนี้

ฉัวะ!

ทันใดนั้นกริชในมือเสอจื่อพลันแทงใส่หลังของหลินสวิน

รวดเร็ว แม่นยำ และรุนแรง!

และไม่ได้ทำให้เกิดการแผ่กระจายของพลังแม้แต่เสี้ยวเดียว ราวกับพลังทั้งหมดของนางได้หลอมเข้าไปในการแทงนี้

ทว่าครู่ต่อมาเสอจื่อเพียงรู้สึกว่ากริชในมือหยุดชะงักกะทันหัน ไม่สามารถเดินหน้าได้อีกแม้แต่ชุ่นเดียว

ในใจนางสะท้าน ตอนที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นิ้วเรียวยาวสองนิ้วได้หนีบกริชของนางไว้อย่างมั่นคง

ส่วนหลินสวิน ยังคงหันหลังให้นาง!

เวลาราวกับหยุดไปในชั่วขณะนี้ ตอนที่ภาพนี้ปรากฏในสายตาของทุกคน ทุกคนล้วนเกิดความรู้สึกยากจะเชื่อ

อันที่จริงก็คือภาพนี้น่าตกใจเกินไป หลินสวินราวกับหันหลังให้ทุกคน แต่นิ้วมือของเขากลับสกัดการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวที่มาจากด้านหลัง!

สีหน้าของเสอจื่อเองก็เปลี่ยนไป

ทว่าไม่รอนางเปลี่ยนกระบวนท่า ตัวกริชพลันมีพลังพลุ่งพล่านระลอกหนึ่งพวยพุ่งเข้ามา อานุภาพทำลายล้างรุนแรง

กร๊อบ!

ข้อมือที่กำกริชของนางหักโดยพลัน จากนั้นกล้ามเนื้อทั้งแขนระเบิดออกทุกกระเบียด กระดูกเอ็นแตกเป็นเสี่ยงๆ

จนถึงสุดท้าย ทั้งร่างของนางถูกซัดจนกระเด็นออกไป ร่วงล้มนอกระยะสิบกว่าจั้งอย่างแรง

พรูด!

นางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ในปากกระอักเลือด ส่งเสียงอึดอัดเจ็บปวด ทั้งร่างหมอบอยู่กับพื้น ถึงขั้นลุกไม่ขึ้นอีก

ในลานประลองเงียบสงัด ทุกคนต่างตกใจ!

ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งสำนักยุทธ์เสวียนหรือผู้แข็งแกร่งเกาะเทพเวหาทมิฬ จิตใจต่างสั่นสะท้านรุนแรงในชั่วขณะนี้ เผยสีหน้าเหลือเชื่อ

ก่อนหลังแค่เพียงชั่วพริบตา คนแข็งแกร่งอย่างเสอจื่อชั่วขณะนี้กลับดูไม่เอาไหนถึงเพียงนั้น ถูกกำราบโดยตรง!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ แขกตระกูลจินเทียนที่อยู่ในลานประลองยังไม่เคยหมุนตัวกลับ หันหลังให้กับทุกสิ่ง!

ภาพเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ใครเคยเห็นบ้าง

พวกเขาก่อนหน้านี้ เพราะการเข้าสู่ลานประลองโดยพลการของหลินสวินทำเอารับมือไม่ทัน รู้สึกขึ้งโกรธ คิดว่าหลินสวินต้องการก่อกวน

ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ผิดไปจากที่พวกเขารับรู้ก่อนหน้านี้โดยสมบูรณ์ ราวกับสายฟ้าฟาดสายหนึ่ง ทำให้พวกเขามึนงง

เจ้าคนที่คุยโวโอ้อวดคนนี้… ที่แท้ก็ดุดันขนาดนี้!

เห็นทุกอย่างนี้ จินเทียนเสวียนเยวี่ยที่กำลังชงชาเพียงยิ้ม แล้วจดจ่อกับการชงชาอีกครั้ง

ในใจมีความภาคภูมิมีเกียรติอย่าหนึ่ง

ตอนนี้พวกเขาคงจะเชื่อในศักยภาพของคุณชายแล้วใช่หรือไม่

“หากนี่เป็นพลังทั้งหมดของเจ้า ก็ช่างน่าผิดหวังอยู่บ้างจริงๆ”

ในลานประลองหลินสวินหมุนตัว สายตามองเสอจื่อที่หมอบกับพื้นยืนไม่ขึ้นอยู่ไกลๆ อย่างเรียบเฉย

บรรยากาศที่เงียบกริบก็ถูกทำลายไปด้วย เสียงฮือฮาเสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากทั่วทุกทิศ

“เสอจื่อกลับแพ้เช่นนี้หรือ”

“เหตุใด… เหตุใดข้ามีความรู้สึกเหมือนฝันไป ไม่สมจริงเกินไปแล้ว…”

“เมื่อครู่นี้เจ้าหมอนี่บอกว่าเขาชื่ออะไรนะ จินตู๋อีอย่างนั้นหรือ เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่พลิกฟ้าเช่นนี้”

แม้แต่ศิษย์แกนหลักเหล่านั้นยังสีหน้าตะลึง นึกถึงก่อนหน้านี้พวกเขายังเยาะเย้ยเสียดสีหลินสวิน บนใบหน้าพลันร้อนวาบขึ้นมา รู้สึกเหมือนถูกตบหน้า

พวกเหิงเซียว หงอวี่ก็มองหน้ากัน ต่างสามารถเห็นความตกใจในสายตาของอีกฝ่าย

ฟากตรงข้าม กลุ่มผู้แข็งแกร่งเกาะเทพเวหาทมิฬอย่างพวกปี้หยวนจื่อ แต่ละคนต่างเผยท่าทางรับมือไม่ทัน

การต่อสู้ครั้งนี้ ก่อนหลังเพียงไม่ถึงชั่วพริบตา เสอจื่อ…กลับพ่ายแพ้เช่นนี้หรือ

“ข้าแพ้แล้ว ยอมแพ้”

บนพื้นเสอจื่อมุมปากหลั่งเลือด บาดแผลของนางรุนแรงกว่าที่เห็นมาก พลังขับเคลื่อนในกายยังแทบถูกทำลาย บาดเจ็บสาหัสไปทั้งร่างแล้ว

การประลองรอบที่สามนี้ หลินสวินชนะ!

ผลลัพธ์นี้ทำให้พวกปี้หยวนจื่อสีหน้ามืดทะมึน สายตาที่มองไปยังหลินสวินเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร

แต่พวกเหิงเซียว หงอวี่ต่างโล่งอกเหมือนยกภูเขาออกจากอก สายตาที่มองไปยังหลินสวินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รวมถึงละลายใจ

ก่อนหน้านี้ท่าทีที่พวกเขามีการเสนอตัวเข้าสู่ลานประลองของหลินสวินไม่ดีจริงๆ นี่ทำให้เหล่าคนใหญ่คนโตอย่างพวกเขาอดอักอ่วนไม่ได้

…………………………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset