Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1870 ทางนรกไร้หวน

“คุณชาย อยากดื่มชาคงต้องรอสักครู่”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยเงยหน้าขึ้นพูดพร้อมยิ้มขื่น

การประลองรอบนี้จบลงไวจริงๆ ทำให้นางไม่ทันล้างใบชาด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับชงชา

การกระทำเช่นนี้ของนาง เมื่อคนรอบข้างเห็นแล้วความรู้สึกก็ซับซ้อนอย่างอดไม่ได้

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดจินเทียนเสวียนเยวี่ยจึงมั่นใจในตัว ‘คุณชาย’ คนนี้ของนางถึงเพียงนี้

“รอบที่สี่ให้ข้าเอง”

ทันใดนั้นในบรรดาผู้แข็งแกร่งเกาะเทพเวหาทมิฬ มีชายคนหนึ่งเดินออกมา

ชุดสีฟ้า ผิวสีขาวซีด ดวงตาทั้งคู่เขียวมรกต เผยประกายคลุมเครือ

“ได้”

ปี้หยวนจื่ออึ้งไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพลันปิติยินดี “เสอหลิง มีเจ้าลงมือข้าก็วางใจ”

เขาเหมือนจะมั่นใจในตัวชายคนนี้อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เมื่อมองดูผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ของเกาะเทพเวหาทมิฬ สีหน้าล้วนแตกต่าง มีทั้งประหลาดใจ หวาดกลัว และตื่นเต้น

นี่ทำให้พวกเหิงเซียวตระหนักได้ทันที ว่าชายที่ชื่อเสอหลิงคนนี้จะต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเสอจื่ออย่างแน่นอน!

“ผู้อาวุโส การประลองรอบที่สี่นี้ให้เป็นข้าดีกว่าไหม”

หลินสวินส่งเสียง

“ได้ เช่นนั้นรบกวนสหายน้อยด้วย”

ตอนนี้เหิงเซียวตอบรับอย่างรวดเร็ว ไม่มีความลังเลเหมือนก่อนหน้านี้อีก

ผู้แข็งแกร่งสำนักยุทธ์เสวียนจีคนอื่นๆ เช่นหงอวี่ต่างเผยรอยยิ้ม การปรากฏตัวของหลินสวินในครั้งนี้ช่วยพวกเขาแก้ปัญหายุ่งยากครั้งใหญ่เลยเชียว!

พวกเขาคาดหวังมากว่าในการประลองห้ารอบนี้ ชายหนุ่มจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนคนนี้จะนำพาความประหลาดใจอะไรมาสู่พวกเขา

ศิษย์แกนหลักอย่างพวกเจียงเหิงอารมณ์ต่างซับซ้อนมาก

ครั้งนี้เดิมทีเป็นการประลองระหว่างพวกเขาและผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬ ทว่าตอนนี้พวกเขากลับไม่มีใครยื่นมือเข้าแทรกได้

กลับเป็นคนนอกคนหนึ่งที่ออกหน้าแทนพวกเขา นี่ทำให้พวกเขาอยากดีใจก็ดีใจไม่ออก

ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!

เสอหลิงเข้าสู่ลานประลอง ทุกย่างก้าวแท่นประลองนี้จะสั่นไหวครั้งหนึ่ง เกิดเสียงราวกับตีกลองเทพ

อานุภาพรอบตัวเขาก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในทุกย่างก้าว หมอกสีเทาขมุกขมัวแผ่ออกจากเงาร่างผอมตอบของเขา ปิดฟ้าคลุมตะวัน

ส่วนดวงตากลับคล้ายเพลิงผีเขียวมรกตกำลังลุกโชน ยิ่งดูน่ากลัว

คนไม่น้อยต่างกลั้นหายใจ

โดยเฉพาะผู้สืบทอดแกนหลักอย่างพวกเจียงเหิง แต่ละคนล้วนรู้สึกถึงความกดดันอย่างที่สุด แม้แต่ร่างกายยังแข็งทื่อ ขนลุกซู่ระลอกหนึ่ง

เพียงแค่ยืนมองอยู่นอกลานประลองเท่านั้น พวกเขาก็เกิดความรู้สึกอย่างแรงกล้าว่าหากเปลี่ยนเป็นตนเข้าประลอง คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นี้!

นี่ทำให้พวกเขาอดเซื่องซึมไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ในบรรดาผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬซึ่งอันดับต่ำกว่าสำนักยุทธ์เสวียนจี กลับปรากฏบุคคลที่เก่งกาจขนาดนี้

พวกเหิงเซียวเองในใจก็หวั่นหวาด เพิ่งจะตระหนักได้ว่าเสอหลิงคนนี้ไม่เพียงแข็งแกร่งกว่าเสอจื่อ ยังแข็งแกร่งกว่าช่วงใหญ่ด้วย!

“ก็ไม่รู้ว่าสหายน้อยคนนั้นจะขวางคนผู้นี้ไว้ได้หรือไม่…”

หว่างคิ้วของพวกเหิงเซียวต่างเผยความกังวลอย่างควบคุมไม่อยู่

ย้อนมองพวกปี้หยวนจื่อ ต่างเผยสีหน้าคาดหวัง

ในที่นั้นมีเพียงจินเทียนเสวียนเยวี่ยที่นิ่งที่สุด ข้อมือขาวกระจ่างดุจหิมะกำลังต้มชา ท่าทีใจเย็นและจดจ่อ

“ข้าไม่สนใจฐานะของเจ้า ขอเพียงลงมือ นอกจากเจ้ายอมแพ้ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่รอเจ้าอยู่ก็มีเพียงความตาย”

เสอหลิงพูด เสียงแหบพร่าและต่ำลึก

ตูม!

เมื่อเขาก้าวออกไป เขตแดนมรรคแถบหนึ่งปรากฏขึ้นโดยพลัน ราวกับโลกแห่งนรกที่มืดมิดมัวหม่น

หมอกหม่นมัวไหลเคลื่อน เพลิงผีเขียวมรกตนับไม่ถ้วนพริบไหวอยู่ในหมอก มีเสียงเทพผีร่ำไห้รางๆ ดังออกมา ชวนให้หนังหัวชาวาบ

“เขตแดนมรรค ทางนรกไร้หวน…”

เสอจื่อที่อยู่ไกลๆ เผยความตะลึง มีเพียงนางที่รู้ชัดว่าอานุภาพของเขตแดนมรรคที่เสอหลินควบรวมนี้สุดยอดเพียงใด

ถึงขั้นถูกคนระดับจักรพรรดิชื่นชม ความเยี่ยมยอดของคุณลักษณะเขตแดนมรรคนี้ เรียกได้ว่าเชิดทะยานในหมู่คนรุ่นเดียวกัน!

เห็นได้ชัดว่าเสอหลิงไม่ได้ดูถูกหลินสวิน ทันทีที่ลงมือก็สำแดงไม้ตาย

“แย่แล้ว!”

พวกเหิงเซียวล้วนสีหน้าเปลี่ยนไป เพราะเห็นหลินสวินไม่ได้ต้านทานด้วยซ้ำ ทั้งร่างถูกปกคลุมอยู่ในเขตแดนมรรคของเสอหลิง

“นี่…”

ตอนนี้พวกเจียงเหิงเองก็หัวใจบีบรัด หากหลินสวินแพ้ ก็หมายความว่าสำนักยุทธ์เสวียนจีของพวกเขาแพ้ ผลลัพธ์เช่นนี้ใครก็ไม่อยากเห็น

ด้านพวกปี้หยวนจื่ออดยิ้มไม่ได้

ทันทีที่เสอหลิงลงมือ ก็ได้เผยภาพที่แตกต่างกันอย่างสมบูรณ์!

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ในใจปี้หยวนจื่ออึดอัดอยู่บ้างคือ จินเทียนเสวียนเยวี่ยยังคงชงชา ราวกับไม่รับรู้ทุกอย่างในลานประลอง

นางไม่เป็นห่วงว่าเจ้าหมอนั่นจะถูกฆ่าหรือ

……

ในเวลาเดียวกัน ในเขตแดนมรรคทางนรกไร้หวน

หมอกมืดมัวหม่นหนาแน่น เพลิงผีเขียวมรกตเป็นจุดๆ แผ่พลังกัดกร่อนน่ากลัวอันแปลกประหลาด

ฟู่ๆๆ!

ทันทีที่เงาร่างของหลินสวินปรากฏ พื้นที่รอบๆ ตัวก็ถูกพลังกัดกร่อนโจมตี ส่งเสียงบาดหู

เขาเหมือนไม่รู้สึก มองไปรอบๆ สัมผัสพลังกฎเกณฑ์มหามรรคที่ปกคลุมอยู่ในเขตแดนมรรคแห่งนี้ ในที่สุดก็ตัดสินได้ว่า…

ไม่ว่าจะเป็นเสอจื่อก่อนหน้านี้หรือเสอหลิงในตอนนี้ ล้วนเป็นผู้สืบทอดสำนักโบราณจรัสเทพ หนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืด!

หรือก็คือทูตเทพพยากรณ์ที่ทุกคนพูดถึงแล้วหน้าเปลี่ยนสี!

เพราะตอนอยู่ที่แหล่งสถานคุนหลุน หลินสวินเคยสังหารทูตเทพพยากรณ์นามว่าซาหลิวชิงเองกับมือ คนผู้นี้มีการเคลื่อนไหวแปลกประหลาด เทพไม่รู้ผีไม่เห็น พลังและกลิ่นอายที่ครอบครองก็เรียกได้ว่าพิสดาร คลุมเครือ แทบจะเหมือนกับเสอจื่อและเสอหลิง!

นี่ทำให้หลินสวินประหลาดใจเล็กน้อย

เกาะเทพเวหาทมิฬเป็นถึงหนึ่งในเจ็ดสำนักใหญ่แห่งแคว้นเมฆา มาเกี่ยวข้องกับสำนักโบราณจรัสเทพได้อย่างไร

ไม่กลัวถูกผู้ฝึกปราณทั่วหล้ามองว่าเป็นศัตรูและต่อต้านหรือ

ในนี้จะต้องมีความลับที่บอกใครไม่ได้อย่างแน่นอน!

สวบ….

เพลิงผีเขียวมรกตสายนั้นเข้าใกล้อย่างไร้สุ้มเสียง เปลี่ยนเป็นเงาร่างของเสอหลิง กระชับเหล็กหมาดแหลมดำสนิทแทงไปที่ศีรษะหลินสวิน

หลินสวินชูมือขึ้นตบ

ตูม!

เงาร่างนี้ของเสอหลิงพลันระเบิดเป็นเสี่ยง กลายเป็นจุดแสงเขียวมรกตปลิวว่อนทั่วฟ้า

ทว่าต่อมาเพลิงผีมรกตเป็นกลุ่มๆ ก็พุ่งออกจากหมอกรอบๆ อีก เพลิงผีแต่ละกลุ่มเปลี่ยนเป็นเสอหลิงคนหนึ่ง จู่โจมหลินสวินจากทิศทางที่แตกต่างกัน

หลินสวินเลิกคิ้ว ความคิดขยับไหว รอบกายปลดปล่อยประกายเทพสีดินเหลืองที่หนาประหนึ่งภูเขา ควบรวมเป็นประทับฝ่ามือ พลังหมัด พลังดรรชนีกลางห้วงอากาศ… โจมตีออกไปแน่นขนัด

ตูมโครม!

เสียงปะทะสะเทือนหูดังขึ้นเป็นระลอกๆ

ก็เห็นเสอหลิงแต่ละร่างถูกโจมตีจนยับเยินประหนึ่งกระดาษเปื่อย เปลี่ยนเป็นละอองแสงสาดกระจาย

แต่หลินสวินไม่บาดเจ็บสักนิด

เสอหลิงที่ควบคุมเขตแดนมรรคเห็นเช่นนี้ยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ เผยความประหลาดใจ

ควรรู้ว่าในฟ้าดินเขตแดนนี้ เขาก็คือตัวตนระดับนายเหนือหัว ชี้เป็นชี้ตาย ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

อย่างเงาร่างแต่ละร่างที่เขาแปลงออกมาก่อนหน้านี้ แต่ละคนล้วนมีพลังต่อสู้ระดับมกุฎราชันอริยะ เมื่อลงมือพร้อมสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกันสิ้นหวัง

แต่การโจมตีทั้งหมดนี้กลับใช้กับจินตู๋อีไม่ได้!

“พลังเขตแดนของเจ้ายังไม่ได้สำแดงเต็มที่ ข้าให้โอกาสเจ้าลงมือ หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”

ในหมอกมัวหม่น เสียงอันเรียบเฉยของหลินสวินดังขั้น

“หึ!”

ดวงตาเขียวมรกตของเสอหลิงเผยประกายประหลาดรุนแรง

เขาสูดหายใจลึกคราหนึ่ง ริมฝีปากท่องวิชาลับคลุมเครือ มือทั้งคู่ทำมุทราที่ซับซ้อนอย่างที่สุด

โลกหมอกแห่งนี้เปลี่ยนไปทันที มีสีแดงเลือดพิสดารเพิ่มเข้ามา สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่าในส่วนลึกของคลื่นหมอกมีเส้นทางเลือดสายหนึ่งปรากฏ

เพียงพริบตาก็ยืดขยายไปถึงตรงหน้าหลินสวิน

และในครรลองสายตาของหลินสวินก็เปลี่ยนไป ราวกับยืนอยู่บนเส้นทางสีเลือดที่เชื่อมไปยังนรก ทอดสายตามองไปรอบๆ ล้วนเป็นความว่างเปล่า

มีเพียงเส้นทางสีเลือดใต้ฝ่าเท้าที่อยู่เบื้องหน้า

หลินสวินเพิ่งคิดจะเคลื่อนไหว พลังกฎเกณฑ์ที่นองเลือดและแปลกประหลาดสายหนึ่งปรากฏขึ้น กดทับอยู่รอบตัวเขาอย่างรุนแรง ราวกับกรงขังไร้รูป

และในเวลาเดียวกัน เสียงสยดสยองดังขึ้นในสภาวะจิต ราวกับเสียงเรียกจากนรก เกิดพลังสะท้านสะเทือนพิสดาร

มีชั่วขณะหนึ่งหลินสวินรู้สึกเหมือนนักโทษที่ถูกจับกุม ถูกพันธนาการอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ และกำลังจะถูกส่งไปนรก สิ่งที่รอคอยเขาคือโทษตาย

พลังประหลาดนั่นแข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ

แต่เพียงพริบตาหลังจากนั้น สภาวะจิตของหลินสวินก็กลับคืนเป็นกระจ่างชัดอีกครั้ง เขาเผยสีหน้าครุ่นคิด เขตแดนมรรคแห่งนี้ก็เรียกได้ว่าประหลาดและโดดเด่นจริงๆ

แต่น่าเสียดาย สำหรับเขาแล้วยังไม่มีค่าให้มองดู

เขาก้าวเท้าออกไปเบาๆ

ตูม!

เส้นทางสีเลือดที่ประหนึ่งเชื่อมสู่นรกพลันสั่นไหวรุนแรง แตกออกจากกันจากตรงกลาง

ละอองแสงสีเลือดสาดพรม กลายเป็นพลังกฎเกณฑ์ที่ปลิวกระจัดกระจาย

ในเวลาเดียวกันเสอหลิงส่งเสียงอึดอัดคราหนึ่ง เผยสีหน้าตกตะลึง เจ้าหมอนี่ถูกกักขังในเขตแดนมรรคของตน แต่กลับยังแข็งแกร่งขนาดนี้หรือ

“สยบ!”

เขาเอ่ยกำราบ

ทันใดนั้นราวกับฟ้าพลิกดินตลบ ในหมอกสีเทาหม่นมัวปรากฏเส้นทางสีเลือดที่สายแล้วสายเล่าพุ่งตัดสลับออกมา ดุจแหใหญ่เข้าปกคลุมหลินสวิน

สี่ทิศแปดด้านล้วนเป็นเส้นทางไร้หวน!

หากเปลี่ยนเป็นมกุฎราชันอริยะคนอื่นๆ ถูกกักขังเช่นนี้เกรงว่าคงขยับไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงนั่งรอความตาย

ทว่าหลินสวินกลับไม่มองด้วยซ้ำ ถูปลายนิ้วเบาๆ คราหนึ่ง กรวดทรายเม็ดหนึ่งพลันปรากฏ จากนั้นกลายเป็นโลกปานภาพมายา กว้างใหญ่และหนาหนัก แผ่กลิ่นอายที่ยิ่งยงทรงพลังไม่อาจประเมิน

และเมื่อหลินสวินเพิ่มแรงปรารถนาของสรรพชีวิตเข้าไป

วู้ม!

ในโลกแห่งนี้ปรากฏลักษณ์แห่งสรรพชีวิต เผยการไหลเคลื่อนของเวลา ทุกข์สุข พบปะจากลา ความรักความแค้น…

สุดท้ายโลกแห่งนี้ก็เปลี่ยนเป็นประทับสีดินเหลืองชิ้นหนึ่ง เรียบง่ายเวิ้งว้าง หนาแน่นและทรงพลัง

ประทับแห่งสรรพชีวิต!

พลังพรสวรรค์ที่กายมรรคดินเหลืองครอบครอง ความมหัศจรรย์ของประทับนี้อยู่ที่ยามสู้กับศัตรู จะประหนึ่งนำพาพลังของโลกแห่งหนึ่งที่รวมอานุภาพทุกสิ่งอย่างโจมตีออกไป อานุภาพน่ากลัวเหนือคาดหมาย

โครม!

พอประทับแห่งสรรพชีวิตร่วงลง เส้นทางไร้หวนที่ปกคลุมสี่ทิศแปดด้านพลันระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เปลี่ยนเป็นละอองแสงทั่วฟ้า เสียงครื้นโครมดังไม่ขาดสาย

พรูด!

เสอหลิงราวกับถูกฟ้าผ่า พลันกระอักเลือด เงาร่างกะพริบ ถูกโต้ตอบอย่างรุนแรงจนถึงขีดสุด สีหน้าที่เดิมก็ซีดเซียวอยู่แล้วของเขา ราวกับโปร่งแสงไปแล้ว

“เหตุใด…เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้…”

เขาประหลาดใจ รู้สึกถึงความตะลึงและหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิงแล้ว คิดให้หัวแตกก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่า บนโลกนี้จะมีใครสามารถสำแดงพลังต่อสู้ที่น่ากลัวขนาดนี้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้!

เพียงแต่ไม่รอเสอหลิงตอบสนอง ภายใต้การโจมตีของประทับแห่งสรรพชีวิต ทางนรกไร้หวนแห่งเขตแดนมรรคที่เขาภาคภูมิใจก็ยุบทลายในชั่วขณะนี้

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset