ตอนที่ 665: ความพ่ายแพ้ของเซียนผู้คุมกฎ (3)
ที่บริเวณทิวเขานั้น ซิตูชิงในชุดขาวได้พรางกายไปกับป่าเพื่อทำให้การหนีเป็นไปอย่างรวดเร็วและเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงใดออกมาจากการเคลื่อนไหวของเขา และไม่มีแม้แต่ร่องรอยการเคลื่อนไหวของเขาให้เห็นเลย เขายังลังเลที่จะใช้พลังมิติในการหลบหนีของเขาตั้งแต่ออกมาจากคฤหาสน์สี่ประสาน เพราะการใช้พลังมิตินั้นทำให้เซียนผู้คุมกฎสัมผัสได้ และนั่นจะเป็นการแสดงตำแหน่งของเขา
การที่เขาพยายามที่จะลบร่องรอยในการเคลื่อนไหวของเขานั้น ทำให้เขาเคลื่อนที่ไปได้ไม่เร็วมาก ดังนั้นระยะทางแค่ประมาณ 50 กิโลเมตรจึงใช้เวลามากกว่าปกติเป็น 10 เท่าตัว
ข้าหนีมาได้ซักพักแล้ว ข้าคิดว่าตอนนี้น่าจะใช้พลังมิติได้แล้วล่ะ ข้าจำเป็นที่จะต้องร่วมกับไป๋ไฮ แม้ว่าเราจะยังสู้ 3 คนนั้นไม่ได้ แต่ยังน้อยก็ยังมีโอกาสรอดมากกว่า ซิตูชิงคิดในใจของตัวเอง ก่อนที่อะไรบางอย่างจะทำให้เขาหันหน้ากลับไป พวกมันจะมาถึงที่นี่แล้ว ข้าลืมเจ้างูตัวนั้นไปซะสนิทเลย
ซิตูชิงใช้พลังมิติอย่างไม่ลังเลเพื่อบินออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ ด้วยความหวังที่จะสร้างระยะห่างระหว่างเขาและพวกนั้นให้มากที่สุด ในเมื่อเขาเปิดเผยตัวตนแบบนี้แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะหลบซ่อนอีกต่อไป ในกรณีแบบนี้ทางที่ดีที่สุดคือหนีไปให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
หวงเทียนป้านั้นรับรู้ได้ถึงการใช้พลังมิติของซิตูชิง เขาได้กวาดสายตาลงไปยังยังรอยต่อระหว่างหมู่ต้นไม้ที่หนาทึบยังที่ซึ่งซิตูชิงอยู่ ข้าเจอมันแล้ว มันกำลังใช้พลังมิติและอยู่ข้างหน้าพวกเรา 10 กิโลเมตร
ในพวกเราทั้ง 3 คน เจ้าเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถตามจับมันได้ รีบไล่ตามมันไป มันไม่ได้ติดพิษของข้า ข้าจึงไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้ ถ้ามันอยู่ไกลเกินไป นูบิสกล่าว
ไม่ต้องห่วง มันหนีข้าไม่พ้นหรอก หวงเทียนป้าหัวเราะ ทันทีทันใดนั้นธนูสีทองก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา; มันคือธนูสุริยันจันทรานั่นเอง !
ทันทีที่สายธนูถูกดึงมาข้างหลัง ลูกธนูสีทองก็ปรากฏขึ้นจากอากาศ หลังจากสิ้นเสียงสายธนูที่ดีดออกไป ลูกธนูถูกยิงไปด้วยความเร็วที่เร็วมากไปทางซิตูชิง ลูกธนูที่ลอยอยู่กลางอากาศดูเหมือนจะละลายหายไปกับสายลม
ความแปลกประหลาดของลูกธนูนี้คือไม่มีเสียงแหวกอากาศอย่างที่การยิงธนูธรรมดาจะมี มันเหมือนว่าลูกธนูนี้เคลื่อนทะลุผ่านมิติเพื่อไปไล่ล่าซิตูชิงโดยตรง
หลังจากที่เขายิงธนูไปแล้ว หวงเทียนป้าก็ลดธนูของเขาลง ลูกธนูนี้จะติดตามกลิ่นอายของมัน แม้ว่ามันจะเป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 มันก็ไม่สามารถที่จะหลบได้ ลูกธนูนี้สามารถเคลื่อนที่ระหว่างมิติได้ด้วยตัวของมันเอง
ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่สร้างทิ้งไว้โดยเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 มีความแข็งแกร่งมาก ในสถานการณ์แบบนี้ นูบิสพูดอย่างจริงจัง
ไม่นานหลังจากนูบิสพูดจบ ห่างไป 30 กิโลเมตรนั้น ลูกธนูของหวงเทียนป้าที่ยิงออกไปก็ได้ไปถึงตัวของซิตูชิง
ผู้อาวุโสหวง นูบิส รีบไปกันเถอะ เราจะปล่อยให้มันหนีไม่ได้คราวนี้ เจี้ยนเฉินกล่าว
การใช้พลังมิตินั้นทำให้หวงเทียนป้าและนูบิส ทั้งคู่กลมกลืนไปในอากาศเพื่อเพิ่มพลังในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ในพริบตานั้นเอง พวกเขาก็ลอยไปข้างหน้าไปยังทิศที่ซิตูชิงอยู่
เจี้ยนเฉินเริ่มใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย เพราะเขายังไม่แตกฉานเรื่องห้วงมิติ
เมื่อเจี้ยนเฉินไปถีงแล้ว เขาเห็นเพียงแค่เซียนผู้คุมกฎจากนิกายพยัคฆ์มังกรที่นอนอยู่ตรงหน้าผาเลือดกลบปากอยู่ ตรงหน้าเขานั้นมีหวงเทียนป้าและนูบิสยืนขวางทางอยู่เพื่อไม่ให้ซิตูชิงหลบหนีไป.
พลังของยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนั้นแข็งแกร่งมาก, และลูกธนูที่ถูกยิงออกมาจากธนูสุริยันจันทรานั้นก็แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำร้ายเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 อย่างไป๋ไฮ แม้ว่าพลังของเขาจะแข็งแกร่งกว่าของซิตูชิง ลูกธนูนี้ไม่ได้ทำมาจากพลังเซียนด้วย แต่มันยืมพลังจากธรรมชาติเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของมัน ดังนั้นมันจึงเป็นการยากมากที่จะป้องกันมัน ดังนั้นถึงแม้ว่าซิตูชิงจะป้องกันได้ เขาก็ต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
เจี้ยนเฉินฉีกยิ้มกว้างอย่างช่วยไม่ได้ไปที่ร่างของซิตูชิงที่ถูกเอาชนะ ซิตูชิง ตอนนี้เจ้าก็ไม่มีที่ให้หนีแล้ว
ใบหน้าของซิตูชิงมืดครึ้ม ตาของเขาจ้องไปยังเจี้ยนเฉินอย่างดุร้ายด้วยปากที่กล่าวถ้อยคำข่มขู่ เจี้ยนเฉิน สิ่งเดียวที่ข้าเสียดายคือการที่ข้าไม่ได้ฆ่าเจ้าก่อนหน้านี้ ถ้าข้าฆ่าเจ้า เรื่องนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
ผิดแล้ว เจ้าน่าจะเสียดายที่เลือกข้าเป็นศัตรูและโจมตีข้า ไม่อย่างนั้น เจ้าคงได้เป็นเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรอันสูงส่งและยิ่งใหญ่ไปแล้ว มากกว่าที่จะต้องมาอยู่ในสภาพที่พ่ายแพ้เช่นนี้ เจ้าส่งลูกศิษย์ของเจ้าไปให้หมาป่าแล้วก็หนีออกมา ช่างชั่วร้ายเสียจริง เจี้ยนเฉินหัวเราะอย่างเหยียดหยามไปที่ซิตูชิง
แสงเป็นประกายปรากฏที่หน้าของซิตูชิง ในขณะที่เขาถอนหายใจ เจ้าก็พูดถูกในแง่นั้น ข้าควรจะตำหนิความโลภของข้า ถ้าข้าไม่สงสัยอยากรู้ในพลังที่แปลกประหลาดของเจ้าแล้วละก็ บางทีเรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
น่าอายจริงที่จะมารู้สึกเสียดายในตอนนี้ ณ เวลานี้ เจี้ยนเฉินเบื่อที่จะสนทนาต่อแล้ว เอาเลย, จัดการฆ่ามันซะ ! หลังจากสิ้นเสียงสั่ง เจี้ยนเฉินก็มุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับนูบิสและหวงเทียนป้าเพื่อจะจัดการซิตูชิง เมื่อทั้ง 3 อยู่ล้อมรอบเขาแล้วมันคงใช้เวลาไม่นานนักหรอกที่จะฆ่าเซียนผู้คุมกฎ
อย่างไรก็ตาม ซิตูชิงไม่ใช่คนที่จะมานั่งรอความตายอยู่อย่างเดียว อย่างไม่ต้องสงสัย, เขาได้นำอาวุธเซียนออกมาเพื่อต่อสู้เอาชีวิตรอด เขากวัดแกว่งอาวุธไปมา พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะต่อกรกับ 3 คนนั้น
หวงเทียนป้าเก็บธนูสุริยันจันทราของเขาและเอาดาบเล่มใหญ่ขึ้นมาแทนเพื่อต่อสู้กับซิตูชิง แต่และครั้งที่เขากวัดแกว่งดาบ พลังงานมหาศาลจากดาบก็แหว่งอากาศออก
ที่มือของนูบิสได้เปลี่ยนเป็นกรงเล็บสีทองที่กวัดแกว่งไปในอากาศรอบ ๆ ซิตูชิง ในการกวัดแกว่งครั้งที่สองและสามนั้น กงเล็บนั้นสร้างรอยแผลที่ดูย่ำแย่บนตัวของเขา ในขณะเดียวกันนั้น พิษของนูบิสก็เริ่มแพร่เข้าไปในตัวของซิตูชิง
เจี้ยนเฉินมีพลังบรรพกาลปกคลุมตัวเขาเพื่อเพิ่มพลังป้องกันให้ถึงขีดสุด ในขณะนี้กำปั้นของเขาแข็งกว่าเหล็กหลายเท่าในขณะที่กระทบกับอาวุธเซียนของซิตูชิง แม้ว่าที่กำปั้นของเขาจะมีรอยแผลเล็กน้อยในจุดที่ อาวุธเซียนกระทบ แต่แผลนั้นก็กลับมาหายอย่างรวดเร็วคล้ายกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
การต่อสู้ของทั้ง 4 คนนั้นตึงเครียดมาก จากพื้นดินสู่บนท้องฟ้า เกิดระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าจากการต่อสู้ แม้แต่สวรรค์ทั้ง 9 ชั้นยังได้ยินเสียงการต่อสู้ครั้งนี้ พลังจากการต่อสู้ครั้งนี้กระจายไปทั่วทั้งบริเวณจนแม้กระทั่งท้องฟ้าเบื้องบนยังเปลี่ยนสีจากแสงสว่างไปเป็นมืดครึ้ม
เบื้องล่างนั้น ภูเขาที่พวกเขาต่อสู้อยู่ด้านบนนั้นเริ่มแตกและพังทลายลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับจำนวนไม่ได้ซึ่งถล่มไปยังป่าด้านล่าง ฝุ่นพัดกระจายไปในอากาศและปกคลุมพืชผักทั้งหมดหรือแม้กระทั่งทำให้พืชผักกระจายเป็นเสี่ยง ๆ
แผ่นดินสะท้านภูเขาสะเทือนในขณะนี้ บริเวณภูเขากำลังเจอเหตุการณ์ราวกับเหมือนวันสิ้นโลก
ซิตูชิงกำลังเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากประมือกันไปสักพัก ร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเลือด บาดเเผลนับไม่ถ้วนและรอยกรงเล็บที่สร้างความเจ็บปวดจากหวงเทียนป้าและนูบิส
จนถึงกระทั่งตอนนี้ ซิตูชิงรู้ว่าเขาไม่มีทางมีชีวิตรอดได้แน่ในวันนี้ หลังจากตระหนักได้ดังนั้น เขาจึงร้องออกไป เจี้ยนเฉิน ถึงข้าผู้ชราจะตายในวันนี้ แต่ข้าจะแสดงให้เจ้าดูเองว่ามันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น ! ไม่นานนักหลังจากที่เขาพูดจบ เซียนผู้คุมกฎบินขึ้นไปบนอากาศ โดยบังเอิญนั้น กลิ่นอายของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ มันเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงจากชั้นสวรรค์ที่ 4 ไปเป็นชั้นสวรรค์ที่ 5 กลิ่นอายของเขาแทบจะทำให้โลกรอบ ๆ ตัวเขาหยุดนิ่งไปด้วยแรงกดดัน แม้แต่เจี้ยนเฉินยังรู้สึกถึงแรงกดดันราวกับว่าเขาถูกโยนลงไปในบ่อโคลนตม ดังนั้น เขาจึงเคลื่อนไหวจำกัดขึ้น
เมื่อรู้สึกได้ถึงการเพิ่มขึ้นของกลิ่นอายของเซียนผู้คุมกฎ เจี้ยนเฉินคิดกับตัวเองว่า เขาตัดผ่านหรือ ?
ระวังให้ดี มันใช้พลังชีวิตของมันเพื่อจะเพิ่มพลังให้ตัวเองชั่วคราว พลังเขาอยู่ในระดับเดียวกับพวกเราแล้วตอนนี้ หวงเทียนป้าพูดด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด เมื่อซิตูชิงต่อสู้โดยแลกด้วยชีวิตแบบนี้ มันคงค่อนข้างจะเป็นเรื่องเสี่ยงสำหรับพวกเขา 3 คน
เจี้ยนเฉิน ตามไอ้เฒ่าแบบข้าไปลงนรกด้วยกันซะ ! โดยที่ไม่สนใจนูบิสและหวงเทียนป้าเลย ซิตูชิงเล็งไปทางเจี้ยนเฉินเท่านั้น ตาของเขาจับเป้าไปยังเจี้ยนเฉิน และด้วยการตวัดอาวุธเซียนไปด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อของเขาไปที่หัวของเจี้ยนเฉิน เพื่อหวังจะปลิดวิณญาณและเอาชีวิตเจี้ยนเฉินอย่างสมบูรณ์
ในขณะที่เขาโจมตีนั้น ห้วงอากาศรอบตัวระหว่าง 2 คนนั้นหยุดนิ่งและล็อคร่างของเจี้ยนเฉินให้อยู่กับที่ ในขณะนั้น เจี้ยนเฉินไม่สามารถเคลื่อนที่ออกจากจุดนั้นไปได้เลย และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต่อสู้มาที่เจี้ยนเฉิน คิดว่าเขามีโอกาสที่อาจจะตายได้จากการโดนโจมตีในครั้งนี้
Related