หัวใจของเจี่ยนถงสั่นไหว ตอนนี้เวลานี้ เธอดูผู้ชายที่บางครั้งก็ไร้เดียงสาแต่บางครั้งก็เจ้าเล่ห์ตรงหน้าคนนี้ไม่ออก
เธอคิดว่าการพูดแบบนั้นจะทำให้เขาโมโหและจากไป
แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
เธอพูดกับเซียวเหิงว่า “จูบของคุณเซียวเมื่อกี้ไม่ใช้จูบฟรีๆ คุณเซี่ยวอย่าลืมโอนเงินให้ฉันด้วย”
พูดแบบนี้……คงจะได้ผล?
เจี่ยนถงคิดแบบนี้
เธอเห็นเขาปล่อยมือ ล้วงเข้าไปในกระเป๋าและยื่นมือออกมา ฝ่ามือของเขาก็อยู่ตรงหน้าเธอ “อ่ะ นี่ให้”
เจี่ยนถงตกใจ เธอไม่เคยเจอใครเหมือนเซียวเหิง
มองไปที่ธนบัตรสีแดงในมือของเซียวเหิง แต่เจี่ยนถงกลับไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง
“……” เขาให้เงินฉันแบบนี้……
เดิมทีคิดว่าเผยด้านที่น่ารังเกียจของตัวเองต่อหน้าเขา บรรยายตัวเองแบบนี้ต่อหน้าเขา มันจะทำให้เขากลัวและหนีไป
“เจี่ยนถง ผมบอกแล้วว่าคุณหนีไม่พ้นหรอก ผมจริงจัง”
เสียงที่หนักแน่นของเซียวเหิงดังเข้ามาในหู
แต่เจี่ยนถงกลับสับสนมากขึ้นกว่าเดิม
จริงจัง!
จริงจัง!
เรื่องที่จริงจัง……เธอไม่กล้ารับมันมา!
เธอคู่ควรกับเรื่องที่“จริงจัง”ที่ไหนกัน? !
“เจี่ยนถง คุณทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับผม”
จู่ๆ เจี่ยนถงก็เงยหน้าขึ้น สายตาของเธอมีความรู้สึกแปลกๆ “เซียวเหิง” เสียงที่หนักแน่นขัดจังหวะเซียวเหิง เธอมองเซียวเหิงอย่างอย่างจริงจังและถามว่า “เจี่ยนถงในสายตาของคุณเป็นยังไง?”
เซียวเหิงตกใจไปพักหนึ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้จะถามคำถามแบบนี้
นี่……มันสำคัญเหรอ?
ในที่ที่เซียวเหิงมองไม่เห็น เจี่ยนถงถูปลายนิ้วมือสองข้างไม่หยุด ไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียว……คนที่สนิทกับเธอจะรู้ได้ทันทีเลยว่า เธอในตอนนี้ ในใจของเธอ มันไม่ได้สงบนิ่งเหมือนสีหน้าของเธอ
“เซียวเหิง ฉันไม่มีอะไรเลย” เจี่ยนถงพูดเตือนเขาเบาๆ
เซียวเหิงร้อนรน “ใครบอก?”
“เซียวเหิง ฉันไม่มีอะไรจริงๆ ทำไมคุณถึงต้องเอา“ความจริงจัง”ของคุณให้กับฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
“คุณแข็งแกร่ง เข้มแข็งและจิตใจดี คุณกล้าทำกล้ารับ นอกจากเผชิญหน้ากับความรู้สึกของผม คุณไม่เคยหลบหนีอะไร ตอนคุณหูแดงคุณก็น่ารัก ตอนจูบคุณมันมักจะรู้สึกเหมือนรักครั้งแรก”
เซียวเหิงรีบพูดออกมา “เจี่ยนถง คุณไม่ใช่ไม่มีอะไร คุณดีมาก ดีจนสิ่งภายนอกเหล่านั้นมันไม่สำคัญเลยแม้แต่น้อย”
เจี่ยนถงฝืนยิ้มออกมา……เข้มแข็ง? จิตใจดี? กล้าทำกล้ารับ? ไม่หลบหนี?
เธอมองดูผู้ชายที่ยังไม่โตตรงหน้าของเธอ สายตาที่จริงจังและแน่วแน่ของเขา……เจี่ยนถงรู้สึกแค่ว่าเธอไม่กล้ามองเห็นเขาตรงๆ รู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างของเธอกำลังร้อน
สายตาที่แน่วแน่และจริงจังแบบนั้น……เจี่ยนถงกำลังอ้าปากอยากจะพูดว่า “เซียวเหิง คุณคิดผิดแล้ว คนที่คุณพูดถึงไม่ใช่ฉัน” เธออยากจะพูดแบนี้ แต่สุดท้ายเมื่อเห็นดวงตาที่เป็นประกายของเซียวเหิง ประโยคที่ติดอยู่ที่ปาก เธอไม่ได้พูดมันออกไป
บางที ตอนนี้เธออาจจะไม่มีแรงรักใครสักคน และก็ไม่มีความสามารถรักใครสักคน หรือบางทีมันอาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวลึกๆในใจของเธอ……
“เจี่ยนถง คุณไม่จำเป็นต้องเดินมาหาผม คุณไม่จำเป็นต้องเดิมมาใกล้ผม แค่คุณยืนตรงนั้นก็พอ ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ผมจะเป็นคนเดินไปหาคุณเอง เดินเข้าไปใกล้ๆคุณ เดินเข้าไปกอดคุณ แค่คุณยืนอยู่นิ่งๆไม่ขยับไปไหน ไม่ต้องทำอะไร ที่เหลืออยู่ผมเป็นคนทำเอง”
“เจี่ยนถง ถ้าคุณไม่ลองคุณจะรู้ได้ยังไงว่าโลกของคุณไม่มีทางมีคำว่าความสุข?”
“เจี่ยนถง ลองดูไหม ลองดู ผมไม่มีทางทำให้คุณเสียใจ เสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว”
“เจี่ยนถง ให้โอกาสผมและให้โอกาสตัวเอง ให้โอกาสเราสองคนได้มีความสุขไปด้วยกัน”
“เจี่ยนถง……”
“เจี่ยนถง……”
“เจี่ยนถง……”
เสียงเรียก“เจี่ยนถง” เสียงเรียกนี้กำลังจะเข้าไปในหัวใจของเธอ ทำยังไงดี?
ทำยังไง!
เจี่ยนถง คุณคิดว่าคุณในตอนนี้คู่ควรที่จะมีความสุขแล้วเหรอ?” เสิ่นซิวจิ่นพูดแบบนี้
“เจี่ยนถง ให้โอกาสเราสองคนได้มีความสุขไปด้วยกัน” เซียวเหิงพูดแบบนี้
เสียงสองเสียงนี้ดังวนอยู่ซ้ำๆ วนอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา หัวของเธอจะระเบิดอยู่แล้ว!
ความสุข เธอจะมีความสุขได้ยังไง! เธอเป็นคนบาป! อาลู่ตายเพราะเธอ แต่เธอกลับได้รับความสุขที่คนบนโลกอยากจะได้มากที่สุด?
เหลวไหล!
คนที่ควรตายไม่ตาย คนที่ไม่ควรตายกลับตาย คนที่สมควรตายกลับมีความสุข? คนที่ควรมีความสุขคืออาลู่! ชีวิตของเธอตอนนี้แย่งมาจากอาลู่!
ถ้า…… ถ้าอาลู่ไม่ได้ตายไปเพราะเธอ อาลู่ในตอนนี้คงจะมีความสุขใช่ไหม?
แย่งชีวิตของอาลู่มาแล้ว ยังจะไปแย่งความสุขของอาลู่อีก?
ดิ้นรน เจ็บปวด เกลียดแค้น ปฏิเสธตัวเอง เกลียดตัวเอง……ความรู้สึกแบบนี้ถาโถมเข้ามาอย่างล้นหลาม!
เจี่ยนถงกำลังจมดิ่งอยู่ในการออกห่างตัวเองรังเกียจตัวเอง เธอแยกไม่ออก ความสุขของเธอกับความสุขของอาลู่ไม่เหมือนกัน เธอคิดว่าอาลู่ตายแทนเธอ ตอนนี้เธอมีชีวิตอยู่ก็เพราะอาลู่ ชดใช้ให้กับอาลู่ ถ้าอาลู่ยังมีชีวิตอยู่ วันนั้นเธอคงตายไปแล้ว ทุกลมหายใจในตอนนี้ควรเป็นของอาลู่
แล้ว……ความสุขล่ะ?
เสียงของเซียวเหิงยังคงดังอยู่ในหู!
เจี่ยนถงโบกมือให้เซียวเหิง “หุบปาก! หุบปาก! ฉันไม่อยากมีความสุขอะไรทั้งนั้น~!” เธอตะโกนใส่เซียวเหิงราวกับสัตว์ร้าย เซียวเหิงไม่ทันได้เตรียมตัว เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะโมโหขนาดนี้ เขาไม่ทันระวังถูกเธอผลักออกไป เดินเซไปข้างหลังสองก้าว พึ่งจะยืนมั่นก็เห็นเธอเดินกะเผลกๆ จับขาข้างหนึ่งไว้เหมือนจะวิ่งเหยาะๆ
เจี่ยนถงอยากจะออกห่างจากเซียวเหิง
เซียวเหิงเดินตามไป
“เจี่ยนถง คุณกลัวอะไรอยู่!”
บนถนนสายเล็กที่มีต้นไม้เรียงราย ผู้หญิงคนหนึ่งรีบวิ่งกะเผลกๆ ชายใส่เสื้อเชิ้ตสีขาววิ่งตามมาข้างหลัง วิ่งตามไปพร้อมกับถามคำถาม บรรยากาศแบบนี้กลายเป็นการวิ่งไล่จับ
หรือว่านี่อาจจะไม่ใช่วิ่งไล่จับ เพราะความสามารถของคนที่วิ่งตามกับคนที่ถูกวิ่งตามนั้นไม่เหมือนกัน คนหนึ่งขายาวแขนยาว ฝีเท้าแข็งแกร่ง อีกคนหนึ่งเดินกะเผลกๆ ลากขาพิการข้างหนึ่ง
ท้องฟ้าเป็นไปตามอารมณ์ของเทพเจ้า อยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน
ก่อนหน้านี้ยังท้องฟ้าแจ่มใส แสงอาทิตย์สาดส่อง
วินาทีต่อมา……เปรี้ยง!
จู่ๆพายุฝนก็โหมกระหน่ำ!
ไม่รู้ว่าเมฆฝนสีดำมาจากไหน มันลอยมาปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ทันที จากนั้นฝนก็ตกหนัก!
“เจี่ยนถง หยุดวิ่งได้แล้ว คุณหนีผมไม่ได้หรอก”
เซียวเหิงตะโกนอยู่หลังเจี่ยนถง ระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองใกล้กันเรื่อยๆ มองดูระยะห่างประมาณห้าหกเมตร เจี่ยนถงร้อนรน เธอวิ่งพร้อมกับหันหน้ากลับไปมองเซียวเหิง “ฉันบอกว่า ฉันไม่ต้องการความ……”
“เจี่ยนถง ระวัง!”
เธอยังพูดไม่จบก็เห็นสายตาที่ตกใจของเซียวเหิง เจี่ยนถงยังไม่รู้ตัว ข้างหูของเธอมีเสียงชน“ปัง”ดังขึ้นมา เธอกำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตัวเธอก็ล้มลงกลิ้งอยู่กับพื้นไปแล้ว