Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 116 การอยู่เคียงข้างกันคือคำสารภาพรักที่ยั่งยืนที่สุด

เมื่อเจี่ยนถงออกจากบ้าน เห็นผู้ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงลำลองคนนั้นอยู่ใต้ต้นไทรแก่ต้นนั้นอีกแล้ว

ภายในตามีความตกตะลึงเล็กน้อย “คุณเซียว”

เขาไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว

ในวันนี้อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหัน

“ไป หิวแล้วใช่ไหม” ผู้ชายที่อยู่ใต้ต้นไม้เดินมาข้างหน้า ยื่นมือออกมาที่เธออย่างอัตโนมัติ จับมือของเธอไว้ เจี่ยนถงอยากจะหลบ ทันใดนั้น เซียวเหิงเงยหน้าขึ้นมา “คุณก็รู้อยู่ แรงของคุณไม่เคยใหญ่เท่าผม”

ความหมายโดยนัยคือกำลังเตือนเจี่ยนถง:ไม่ต้องทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์

“ขึ้นรถ ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่ได้กินบะหมี่เนื้อวัวของลุงหูมาหลายวันแล้ว ไปกินเป็นเพื่อนผมหน่อย”

เจี่ยนถงเงยหน้าขึ้นมาเงียบๆ มองเซียวเหิงที่อยู่ตรงข้างหน้าแวบหนึ่ง ยกขาขึ้นมา เข้าไปนั่งอยู่ในรถ…เฮ้อ มีเรื่องอะไรที่จะพูด รอกินบะหมี่กับเขาเสร็จค่อยพูดเถอะ

ตลอดทาง สองคนดูมีความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

เหมือนเซียวเหิงจะไม่ค่อยชอบพูดสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับชายหนุ่มที่อยู่ในความทรงจำของเจี่ยนถงแล้ว นี่มันคนสองคนชัดๆ

เธอแอบไปเหลือบมองเซียวเหิงที่ขับรถอยู่ข้างๆ หลายครั้งตลอดทาง

เจี่ยนถงยิ่งมั่นใจการคาดเดาในใจกว่าเดิม…สีหน้าของเซียวเหิงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถึงแม้หน้าตาจะสะอาดสบายตา แต่ความบวมใต้ตาและขอบตาดำกลับมิอาจปกปิดได้

สองคนลงจากรถ เจี่ยนถงก็ตามเซียวเหิงเข้าไปร้านบะหมี่เนื้อวัวเหมือนเมื่อก่อน

ตอนที่กินข้าว มือถือของเซียวเหิงดังไม่หยุด ข้อความส่งมาอยู่ตลอดเวลา

พอได้ทานข้าวมื้อหนึ่งแล้ว ในใจเธอครุ่นคิดว่ารอกินบะหมี่เสร็จ ก็ควรคุยกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ คนนี้ให้เข้าใจกันแล้ว

“เซียว…” เธอวางตะเกียบในมือลง กำลังจะพูดขึ้นมา

มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะของเซียวเหิงก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

รอบนี้ไม่ใช่ข้อความ เซียวเหิงดูมือถือ ระหว่างคิ้วกองกันเป็นเนินเขา หยิบมือถือที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา ลุกขึ้นเดินไปข้างนอกด้วย บอกกับเจี่ยนถงด้วยว่า “รอสักครู่ ผมรับมือถือแป๊บหนึ่ง” จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกร้านบะหมี่อย่างรวดเร็วแล้ว

เจี่ยนถงดูไปทางนอกประตู เหมือนเซียวเหิงกำลังอารมณ์เสียอยู่ เดินไปเดินมาไม่หยุด ในใจมีความสงสัยโผ่ขึ้นมา รอเซียวเหิงกลับมา เจี่ยนถงกะพริบตา เห็นความวิตกกังวลและความโกรธเคืองในตาของชายหนุ่มคนนี้อย่างชัดเจน

ส่วนเนินเขาระหว่างคิ้วของเขายิ่งลึกกว่าเดิมแล้ว

“คุณเซียว ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

เซียวเหิงนึกไม่ถึงว่าเจี่ยนถงที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูดอะไรมาตลอด อยู่ๆ จะมาถามเขาแบบนี้

เงยหัวขึ้นมา “ทำไมถึงถามแบบนี้เหรอ”

“ฉัน…ก็แค่รู้สึกว่าคุณ ช่วงนี้เหมือนจะมีเรื่องเก็บไว้ในใจ”

หลังจากเจี่ยนถงพูดจบ ก็รู้สึกเสียใจที่ทำแบบนี้แล้ว…เซียวเหิงมีเรื่องเก็บไว้ในใจหรือไม่ หรือว่าเขาเกิดเรื่องอะไรจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองควรยุ่งเกี่ยวด้วยอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นคือวันนี้ยังเตรียมจะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ไม่ว่าการสารภาพรักของเขาที่มีต่อเธอจะจริงหรือปลอม มีความจริงใจเท่าไหร่ เจี่ยนถงก็รู้สึกไม่ควรลากคนคนหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยเข้ามาในนรกจากใจจริง

แต่วินาทีนี้ในใจเซียวเหิงกลับดีใจ ดูเจี่ยนถงที่ก้มหน้าลงและไม่ยอมพูดคุย ในใจรู้สึกหวานมาก…นี่เจี่ยนถงเธอกำลังเป็นห่วงตัวเองอยู่เหรอ

“ไม่มีอะไร” เนินเขาระหว่างคิ้วของเขาคลายออกเล็กน้อย เพิ่มความอ่อนโยนนิดหน่อย “เรื่องในบริษัท เสี่ยวถงไม่ต้องกังวล เรื่องแค่นี้เอง ผมสามารถจัดการได้”

“ออ…” เธอคิดว่าถ้าไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตมากขนาดไหน เช่นนั้น ก็ถึงเวลาพูดคำพูดที่ไม่เคยเปิดเผยเหล่านั้นแล้ว “จริงๆ แล้ว วันนี้ฉันอยากจะบอกคุณ…” อดีตของฉัน…

“อย่างเวิ้งว้าง…” เสียงเรียกเข้ามือถือที่คุ้นเคยดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พอเสียงเรียกเข้านี้ดังขึ้นมา เจี่ยนถงสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ คนนี้มีลมหายใจอันมืดเย็นลอยขึ้นมาในชั่วขณะ “เสี่ยวถง ผมส่งคุณกลับบ้านก่อน วันนี้บริษัทผมมีประชุมวิสามัญ”

เซียวเหิงกวาดสายตามองหน้าจอมือถือแวบหนึ่ง ไม่ได้รับสาย ปล่อยเสียงเรียกเข้าอันติดหูเพลงนั้นดังก้องอยู่ในร้านบะหมี่เล็กๆ นี้ แต่กลับทิ้งแบงก์สีแดงเหลือไว้อย่างปราดเปรียว ดึงแขนของเจี่ยนถงขึ้นมา เดินไปที่รถของเขาอย่างเร่งรีบ

ขึ้นมาบนรถ ในที่สุดเซียวเหิงก็นึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านี้เหมือนเจี่ยนถงมีอะไรจะพูด “ใช่แล้ว เมื่อกี้คุณอยากจะพูดอะไรเหรอ คุณอยากบอกเรื่องอะไรกับผม”

“ฉัน…” อยากบอกอดีตของฉันให้คุณ ผู้หญิงที่อยู่ตรงเบาะข้างคนขับ ตอนแรกอยากจะพูดแบบนี้ หลังจากนั้นลองคิดดูแล้ว เธอลังเลได้สักพัก ยังคงตัดสินใจว่าเรื่องนี้ยังไงก็ต้องพูดออกมาไม่นานก็ช้า ไม่จำเป็นต้องรีบในชั่วครู่ชั่วยาม แต่เหมือนเซียวเหิงจะมีเรื่องที่จัดการยากจริงๆ คิดไปคิดมา คำพูดที่อยู่ตรงปากก็ได้แก้ไขแล้ว “ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไรมากนัก รอช่วงนี้คุณเซียวยุ่งเสร็จ ฉันค่อยบอกคุณก็ไม่สาย”

ในตาของเซียวเหิงอ่อนโยนอีกครั้ง…ผู้หญิงคนนี้เริ่มเป็นห่วงตัวเองโดยไม่รู้สึกตัวแล้ว

ไม่ว่าเสิ่นซิวจิ่นเคยมีบทบาทอะไรในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ พวกเขาเคยมีเรื่องราวอย่างไหนก็ตาม เขาแค่อยากอยู่เคียงข้างผู้หญิงคนนี้ตลอดไป เซียวเหิงเชื่อว่า การอยู่เคียงข้างกันคือคำสารภาพรักที่ยั่งยืนที่สุด เธอเคยชินกับการมีอยู่ของเขา เคยชินกับการอยู่เคียงข้างกันของเขา…ดังนั้น สุดท้ายแล้วอดีตก็เป็นได้แค่อดีต เป็นได้แค่เรื่องราวมุมหนึ่งในความทรงจำเท่านั้นเอง

ถ้าเจี่ยนถงรู้ว่าเซียวเหิงคิดแบบนี้ เช่นนั้นวันนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ใจอ่อน ไม่ไปล่าช้าเวลานี้อีก

“ช่วงนี้…ช่วงนี้ยุ่งหน่อย เสี่ยวถง คุณอยู่ดีๆ นะ ผมจะมาหาคุณให้เร็วที่สุด ก่อนหน้านี้ต้องปกป้องตัวเองให้ดี อย่าได้รับบาดเจ็บ สัญญากับผมนะ”

หัวใจของเจี่ยนถงเพิ่มความเร็วขึ้นมาครึ่งจังหวะอย่างกะทันหัน มองลงไปข้างล่าง ตกลงมาตรงมือใหญ่ที่คลุมมือของเธอไว้แน่นๆ ของเซียวเหิง ในใจอยู่ๆ ก็สั่นขึ้นมา…จะให้ไม่ซึ้งใจยังไงล่ะ

มีคนคนหนึ่งบอกกับเธอว่า ปกป้องตัวเองให้ดี อย่าได้รับบาดเจ็บ

เจี่ยนถงเงยหน้าขึ้นมา สายตาตกลงมาที่ใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้ แรงกระตุ้นที่อยากจะพูดทุกอย่างในลำคอออกมาให้ชัดแจ้ง กางอดีตของเธอออกมาต่อหน้าเขา ให้เขารู้อย่างชัดเจนว่าตกลงเธอเป็นใคร และเธอเป็นคนยังไง…เธออยากบอกความจริงให้เขา…เท่ากับว่าบอกตัวเองออกมาให้เป็นชั้นๆ เปิดเผยด้านที่น่าเกลียดที่สุดออกมาต่อหน้าเขา

แต่เธออยากพูดว่าวินาทีนี้เธอมีแรงกระตุ้นนี้อย่างรีบร้อน

“คุณเซียว ฉันชื่อเจี่ยนถง ‘เจี่ยน’ที่เป็นของตระกูลเจี่ยนนั้น!” เธอเปิดปากอย่างกะทันหัน รวบรวมความกล้าหาญทั้งหมด หลับตาลง ตะโกนพูดออกมาอย่างรุนแรง!

ใช่ คือ“ตะโกน” ขณะนี้หัวใจเธอเต้นเร็วมาก เธอกลัวว่าถ้าเธอไม่ตะโกนออกคำพูดเหล่านี้ออกมาสุดแรง เธอก็จะไม่มีความกล้าหาญที่จะพูดออกมาอีกแล้ว

“เจี่ยนที่เป็นของตระกูลเจี่ยนนั้น” ที่เน้นเป็นพิเศษ เจี่ยนถงกัดฟันไว้ ตัดสินใจว่าไหนๆ ก็พูดออกมาแล้ว เช่นนั้นก็พูดออกมาให้หมดเลย “ฉันเคยทำ…”

หัวเราะ “คึๆ” ออกมาเบาๆ ริมฝีปากร้อนขึ้นมาอย่างกะทันหัน แค่ชั่วขณะเดียว เสียงอ่อนโยนที่อยู่ข้างหูนั้นพูดว่า “ผมรู้อยู่แล้ว คุณคือเจี่ยนถง ไม่ว่าคุณเคยทำอะไร ผมชอบคุณนะ เสี่ยวถง”

เจี่ยนถงลืมตาขึ้นอย่างงงงัน สิ่งที่เข้าตา คือรอยยิ้มอันสดใสของชายหนุ่มคนนั้น เผยฟันขาวออกมา ในตานอกจากหยอกล้อแล้ว ยังมีความรักใคร่อันอ่อนโยนที่เธอมิอาจมองเข้าไปตรงๆ ได้ “คุณเซียว…” เธองงงันกว่าเดิม

“ลงรถเถอะ รอผมจัดการทุกอย่างนี้เสร็จเรียบร้อย ผมก็มาหาคุณ”

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset