บทที่ 12 เจี่ยนถงผู้ต่ำต้อย
เธอยังพูดกับเขาอย่างจริงจังว่า “เสิ่นซิวจิ่น คุณเป็นคนที่แข็งแกร่งและโดดเด่นเกินไป ศัตรูของคุณก็มีมากมาย เพราะฉะนั้นเสิ่นซิวจิ่น คุณไม่ควรมีจุดอ่อนหรือหนังหน้าไฟ ผู้หญิงของคุณไม่ควรเป็นจุดอ่อน เวยเหมิงอ่อนแอเกินไป เธอทำไม่ได้หรอก แต่ฉันเจี่ยนถงคนนี้ทำได้!”
ทุกครั้งที่โดนเขาต่อว่า “ผู้หญิงชั้นต่ำ อยากได้แม้กระทั่งของของเพื่อนตัวเอง” แต่เธอก็จะเงยหน้าตอบโต้ทุกครั้งว่า “เสิ่นซิวจิ่น ตอนนี้คุณยังโสด และเมื่อไหร่ก็ตามที่เซี่ยเวยเหมิงกลายเป็นแฟนของคุณ ฉันเจี่ยนถงจะเดินไปจากคุณเอง!”
ผู้หญิงจองหอง!
“ขอร้องล่ะ คืนเงินให้ฉันเถอะนะ” เสียงร้องอ้อนวอนของหญิงสาวดังเข้ามาในหู
เสิ่นซิวจิ่นเหมือนถูกแช่แข็ง…เธอคือเจี่ยนถงจริงๆหรือ? ผู้หญิงจองหองที่มีความมั่นใจหายไปไหนแล้ว?
มือข้างหนึ่งจับที่ข้อมือเจี่ยนถง เสิ่นซิวจิ่นลากเธอไปยังรถของเขา
“เงิน เงินฉัน ปล่อยฉัน ฉันไปไหนไม่ได้ถ้าไม่มีเงิน” เสียงของหญิงสาวดังก้องอยู่ในหู แววตาเสิ่นซิวจิ่นเริ่มเย็นยะเยือก…แท้ที่จริงแล้วเธอคิดจะหนี!
ทันใดนั้นเสิ่นซิวจิ่นก็หยุดเท้าและหันไปสั่งบอดี้การ์ดชุดดำ “ไปดูกระเป๋าของเธอซิ ยึดเงินสดกับบัตรธนาคารไปให้หมด”
พอเจี่ยนถงได้ยินดังนั้น แววตาก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก “คุณคิดจะทำอะไร?”
เสิ่นซิวจิ่นยิ้มอย่างเย็นชา “คิดจะหนีงั้นหรือ? ถ้ามีเงินก็จะหนีไปได้สินะ? เจี่ยนถงนะเจี่ยนถง เป็นเพราะเธอไร้เดียงสาเกินไปหรือฉันใจดีเกินไปแล้ว”
ริมฝีปากของเขาเข้ามากระซิบอยู่ข้างหูเธอราวกับฝันร้าย “ฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้อย่างไรล่ะ? หลังจากที่ออกจากคุก เธอควรจะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้และอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก แต่ในเมื่อฉันพบเธอแล้ว เจี่ยนถง เธอหนีไม่พ้นหรอก”
หลังจากที่พูดจบ เสิ่นซิวจิ่นก็บังคับให้เธอสบตาเขา ดวงตาที่คมชัดเหลือบมองไปยังคนขับแท็กซี่ที่อยู่ในรถข้างๆ
เสิ่นยีพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นสัญญาณว่าเข้าใจแล้ว
เสิ่นซิวจิ่นรวบตัวเจี่ยนถงทันทีและยัดเธอเข้าไปในรถด้วยความรุนแรง จากนั้นเขาก็เข้ามาในรถและพูดว่า “ขับไป”
คนที่อยู่ตำแหน่งคนขับตอบรับ “ครับ คุณเสิ่น ”
ระหว่างทางเจี่ยนถงไม่กล้าพูดอะไรมาก เหมือนมีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาอยู่ข้างลำตัว เธอไม่กล้าเข้าไปใกล้ เจี่ยนถงนั่งพิงอยู่ข้างหน้าต่างโดยมีเสิ่นซิวจิ่นนั่งอยู่ข้างๆ ในใจเจี่ยนถงรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก
ตั้งแต่ขึ้นรถมา อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไร ขายาวของเขานั่งไขว้กันอยู่ ดวงตาของเขาดูเหม่อลอย ภายใต้แว่นตากรอบทองมีกระแสคลื่นใต้น้ำ เสิ่นซิวจิ่นเองก็ไม่ได้สงบนิ่งเหมือนผิวน้ำ
ไม่รู้ว่าขับมานานแค่ไหน ในขณะนี้รถก็ได้จอดลง เจี่ยนถงมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ใบหน้าเธอก็ซีดเผือดไปชั่วขณะ
“นี่ นี่มันตงหวง?เสิ่น,คุณเสิ่น คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?”
ระหว่างทาง สายตาของเสิ่นซิวจิ่นไม่ได้มองมาที่เจี่ยนถงเลย แต่พอได้ยินน้ำเสียงหวาดผวาของเจี่ยนถง เขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อยโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จู่ๆเขาหันกลับไปมองผู้หญิงที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก ด้วยคิ้วที่เลิกขึ้นครึ่งหนึ่งรอยยิ้มเยาะเย้ยก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา เขาพูดอย่างไม่แยแส
“เธอคิดว่าไงล่ะ?” เขายกเปลือกตาขึ้นพร้อมรอยยิ้มจางๆ
“คุณ หนู เจี่ยน?”
เจี่ยนถงสูดหายใจเข้าลึกๆและอ้อนวอนด้วยริมฝีปากที่สั่นระริก “ขอร้องล่ะ คุณปล่อยฉันไปเถอะ คุณเสิ่น หากมีอะไรที่ฉันทำผิดไป ฉันขอโทษ ฉันจะคุกเข่าให้คุณ เขกหัวให้คุณ…”
“หุบปาก!”
เจี่ยนถงไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเสิ่นซิวจิ่นผู้เงียบขรึมจะพาลโกรธได้ถึงขนาดนี้! เธอหน้าซีดขึ้นกว่าเดิม “ฉัน ฉัน…” เธอไม่รู้จะพูดอะไรดี ในเวลานี้ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ผิดไปหมด เธองอเข่าและกัดฟันอยู่ในพื้นที่เล็กๆภายในรถ
ดวงตาล้ำลึกคู่นั้นจ้องมองเธออย่างเกรี้ยวกราด…เธอบอกว่าจะคุกเข่า นี่เธอไม่มีศักดิ์ศรีจริงๆแล้วสินะ?
เสิ่นซิวจิ่นโมโหอย่ารุนแรง เขาเปิดประตูรถด้วยมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งก็ดึงตัวเจี่ยนถงลงจากรถ “เธอจะคุกเข่าไม่ใช่เหรอ? เข่าของเธอนุ่มมากสินะ? เธอถึงได้ชอบคุกเข่า?” เสิ่นซิวจิ่นโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เขาลากเจี่ยนถงไปที่หน้าประตูคลับบันเทิงนานาชาติตงหวงและผลักเธอลงกับพื้น “ในเมื่อเธอชอบคุกเข่าเสียขนาดนั้น เจี่ยนถง ตอนนี้เธอก็เปิดทำการแสดงที่นี่ซะสิ!”
เขาเองก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมตัวเองต้องโมโหถึงขนาดนี้! ก่อนหน้านี้เธอทั้งทำตัวน่ารังเกียจและจองหองที่สุดในโลก แต่ตอนนี้เธอกลับสูญเสียความเย่อหยิ่งและยิ่งทำตัวให้คนอื่นดูถูก!
เจี่ยนถงเจี่ยนถงเจี่ยนถง! ! !
เธอคือเจี่ยนถงใช่ไหม? เจี่ยนถงคนนี้ที่อ่อนปวกเปียกคือเจี่ยนถงคนที่มาสารภาพรักกับเขาอย่างหยิ่งยโสคนนั้นจริงๆหรือ?
ตอนนี้เจี่ยนถงเพิ่งแยกแยะคำพูดของเสิ่นซิวจิ่นได้แล้ว เธอมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว “คุณเสิ่น ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว คุณปล่อยฉันไปเถอะ ขอร้องล่ะ ฉันติดคุกมาสามปีแล้ว ฉัน…” สิ่งที่เธออยากจะพูดต่อก็คือ—รอเธอจ่ายหนี้สินให้เสร็จเรียบร้อย แล้วเธอจะกลับมาชดใช้ให้เซี่ยเวยเหมิงด้วยชีวิตของเธอ
“เธอชอบคุกเข่ามากไม่ใช่เหรอ? คุกเข่าไปสิ!” ใบหน้าเย็นชาของชายคนนั้นปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง “ในเมื่อชอบคุกเข่ามากขนาดนี้ก็ทำให้ทุกคนได้เห็น คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจี่ยนจะยอมเสียหน้าได้อย่างไร!”
เจี่ยนถงเขย่าตัว เธอคิดว่าตัวเองจะไม่เสียใจอีกแล้ว เธอคิดว่าเธอสามารถยอมรับทั้งหมดนี้ได้อย่างสงบ
เธอผิดไปแล้ว!
คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจี่ยน…งั้นหรือ?
เสิ่นซิวจิ่น คุณกำลังพูดเรื่องตลกอยู่ใช่ไหม?
ใครกันที่ออกคำสั่งว่าถ้ามีเจี่ยนถงก็จะไม่มีตระกูลเจี่ยน นับตั้งแต่นั้นมาตระกูลเจี่ยนไม่มีคุณหนูเจี่ยนอีกต่อไปแล้ว?
คุกเข่า … ถ้าถามเธอว่าอยากคุกเข่าไหม?
เธอไม่อยาก!
แต่เธอเป็นใคร?
เธอเป็นเพียงตัวเลข “926” เท่านั้น! เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ศักดิ์ศรีงั้นหรือ? ความหยิ่งทระนงงั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…ตอนที่เธอยังเป็นเจี่ยนถงคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจี่ยน เขายังสามารถส่งเธอเข้าคุกได้โดยไม่ให้โอกาสแม้แต่จะโต้แย้ง!
ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้วนอกจากการคุกเข่าและทรยศต่อศักดิ์ศรีของตัวเอง เธอไม่มีข้อเรียกร้องอะไรไปต่อรองกับเขาได้อีก
เสิ่นซิวจิ่น ไม่ใช่ว่าฉันชอบคุกเข่าขนาดนั้น แต่เพราะฉันไม่มีของอะไรจะมามอบให้คุณ!
คุณเอาอดีตของฉันไป คุณฆ่าเจี่ยนถงแห่งตระกูลเจี่ยน คุณทำลายชีวิตคนคนหนึ่ง ชีวิตของฉันแย่ยิ่งกว่าคนจรจัดข้างถนน อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีบ้าน มีอดีตของตัวเอง แล้วฉันล่ะ?
ศักดิ์ศรี? เจี่ยนถงก้มหน้าลงโดยไม่รู้สึกถึงความขมขื่นที่อยู่ในปาก เธอตัวสั่นและเงยหน้าขึ้นก็พบดวงตาสีดำหมึกของเสิ่นซิวจิ่น เจี่ยนถงมองไปที่ดวงตาของเสิ่นซิวจิ่นแล้วค่อยๆคุกเข่าลงอย่างช้าๆ… คุณหนูเจี่ยนแห่งตระกูลเจี่ยนเป็นผู้หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรี ส่วนฉันคนนี้เป็นเพียงนักโทษชั้นแรงงานจะมีสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร!
เธอกัดริมฝีปากแน่น ชายหนุ่มเดินไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไร คนที่อยู่รอบๆต่างซุบซิบนินทา เขาทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่และเดินไปข้างหน้า ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร
ต่อมาขายาวใหญ่คู่หนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าเจี่ยนถง รองเท้าหนังสีดำเงาแสดงให้เห็นถึงความประณีต เธอใจสั่นเล็กน้อยและเห็นว่าขาทั้งสองค่อยๆย่อตัวลงมา เจี่ยนถงตั้งสติได้ก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลาและงดงามอยู่ตรงหน้าเธอ
“เธอคือเจี่ยนถงจริงๆหรือ?” ดวงตาสีหมึกของชายหนุ่มยังคงไม่เข้าใจ เขาถามเธอด้วยท่าทีจริงจัง เหมือนมีค้อนหนักทุบอยู่กลางใจเจี่ยนถง เธอไม่พูดอะไรอยู่นาน เสิ่นซิวจิ่นค่อยๆลุกขึ้นยืนและมองผู้หญิงที่ทำตัวต่ำต้อยเหมือนมดตรงเบื้องล่าง เขาพูดออกคำสั่งกับเธอว่า “ตามฉันมา”
————