ตอนนี้เจี่ยนถงขยะแขยงคำว่าลงโทษมากที่สุด!
“ประธานเสิ่นไม่พูดไม่จาก็ลงโทษ ถ้าวันนี้ฉันไม่ยอมฟังคำพูดของคุณล่ะ ประธานเสิ่นจะลงโทษฉันยังไง” เธอยังเจอบทลงโทษของเขาไม่พอเหรอ
ลงโทษก็ลงโทษสิ หญิงสาวที่นั่งตรงข้างคนขับคิดเช่นนั้น… “ถ้าประธานเสิ่นอยากลงโทษฉันก็เชิญตามสบาย” เธอยอมแพ้ หดหู่ไปหมดแล้ว ลงโทษไปสิ เธอไม่สนใจอีกแล้ว
จะเป็นยังไงอีก จะทำอะไรได้อีก!
แววตาของชายหนุ่มที่นั่งตรงเบาะคนขับวูบไหว จากนั้นก็ลึกลงไป เขาหันหน้ามาพูดด้วยเสียงทุ้ม “ได้ ถ้าเธออยากรู้ ฉันจะสนองให้เธอเอง” พูดจบ เขาก็ใช้มือรวบคอของเจี่ยนถงมาตรงหน้า ส่วนอีกมือหนึ่งก็ถูไปบนริมฝีปากของเจี่ยนถง เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นในรถ
“เธอรู้ไหม ฉันเกลียดปากของเธอที่สุด มันเปื้อนลมหายใจของคนอื่น” นิ้วโป้งของเขาเอาแต่ถูไปที่ริมฝีปากของเธอไม่หยุด จู่ๆ เขาก็โน้มตัวลงมากัดริมฝีปากของเจี่ยนถงอย่างแรง
ใช่ เขากัดริมฝีปากของเธอ!
“อื้อ!” ความเจ็บทำให้เจี่ยนถงส่งเสียงออกมา เธอรีบยกมือขึ้นมาผลักเสิ่นซิวจิ่น แต่ทว่าชายหนุ่มกลับผละตัวเองอย่างรวดเร็ว เขาสตาร์ทรถ ใส่เกียร์แล้วเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็วดั่งสายน้ำ
เมื่อรถออกตัว เจี่ยนถงเอามือที่ปิดปากเอาไว้ลง กลิ่นที่เหมือนกับสนิม เธอรู้ว่ามันคือกลิ่นของเลือด
แต่ว่าเธอเหนื่อยจริงๆ เธอนอนพิงกับเบาะอย่างหมดแรง ตามใจเขาเถอะ จะทำอะไรก็ทำ ถึงเธอจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
เสิ่นซิวจิ่นโทรหาลูกน้อง “ทุกคนกลับตงหวง”
เมื่อรถเคลื่อนตัวมาจอดใต้อาคารตงหวง ชายหนุ่มก้มตัวลงอุ้มเจี่ยนถงอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง จากนั้นจึงเดินเข้าไปข้างในตงหวง
“อย่าขยับ ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันทำกับเธอเหมือนที่ทำในรถ ถ้าเธอขึ้นไปแสดงอีกครั้ง ทางที่ดีทำตัวดีๆ อย่ายั่วโมโหฉัน มันไม่มีผลดีกับเธอ”
เสิ่นซิวจิ่นรู้ว่าเจี่ยนถงจะขัดขืน เขาจึงใช้สายตาอันเย็นชาหยุดเธอเอาไว้
ในใจของเจี่ยนถงเต็มไปด้วยความโกรธ ไอ้หมอนี่ไม่เคยถามว่าเธอยอมหรือไม่ แต่เมื่อเธอกวาดตามองไปรอบๆ เธอทำได้เพียงหลับตา เธอไม่มีสิทธิ์เลือกอะไร มีสิทธิ์ทำได้เพียงไม่มอง
เสิ่นยีกับคนอื่นๆ มาถึงตงหวงตั้งนานแล้ว เขายืนรออยู่ ตอนนี้เสิ่นซิวจิ่นอุ้มเจี่ยนถงเดินเข้ามาในลิฟต์ เขามองแล้วพูดว่า “พวกนายตามฉันขึ้นมา”
ชั้น 28
เสิ่นซิวจิ่นอุ้มเจี่ยนถงออกจากลิฟต์ เขาโยนเธอลงบนเตียงในห้องนอนแล้วพูดทิ้งท้ายว่า “คืนนี้เธอนอนที่นี่ ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น” เขาหันหลังเดินออกไปสั่งบอดี้การ์ดด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า
“ดูเธอให้ดี ไม่อนุญาตให้เธอออกจากชั้นนี้”
“ครับบอส!”
สีหน้าของเจี่ยนถงซีดเผือด “ไม่!” วันนี้เธอต้องทุ่มสุดตัว นี่เรียกว่าเอาแต่ใจแล้ว “นายไม่มีสิทธิ์!”
“หุบปาก” ชายหนุ่มหันมา เขามองเจี่ยนถงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ฉันมีทางเลือกให้เธอเลือกสองทาง หนึ่งคือไปอาบน้ำนอน สองคือให้ฉันช่วยเธออาบน้ำแล้วนอนเป็นเพื่อนเธอ”
สีหน้าของเจี่ยนถงไม่สู้ดี แววตาของเธอเต็มไปด้วยความโมโห
เสิ่นซิวจิ่นยกยิ้มมุมปากแล้วหันหลังเดินออกไป
เมื่อเข้ามาในลิฟต์ ลิฟต์เคลื่อนตัวลงมาข้างล่าง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เสิ่นยีกับเสิ่นเอ้อยืนรออยู่ข้างๆ ตอนที่ชายหนุ่มก้าวออกจากลิฟต์ เขาก็พูดสั่งออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไปสืบมาว่าไอ้เลวนั่นอยู่ที่ไหน!”
……
เซียวเหิงดื่มจนเมาแอ๋ เขาจับหน้าอกด้วยความเจ็บปวด เหมือนเขาโดนควักอะไรออกไป
มีเสียงดังขึ้นมาว่า นายต้องเชื่อเธอ เธอเป็นคนยังไง นายไม่รู้เหรอ
ส่วนอีกเสียงหนึ่งกลับพูดขึ้นว่า คนในครอบครัวต่างพากันไม่เชื่อเธอ ทุกคนต่างบอกว่าเธอทำผิด เธอเป็นคนทำเรื่องไม่ดีพวกนั้น นายยังเอาแต่พร่ำเพ้อถึงผู้หญิงแบบนี้ นายโง่หรือเปล่า ผู้หญิงแบบนั้นไม่สมควรได้รับความรักจากเซียวเหิง ศักดิ์ศรีและเกียรติของนายล่ะ คุณชายเซียวผู้เย่อหยิ่งไปชอบฆาตกรที่วางแผนฆ่าเพื่อนรักของตัวเอง นี่มันเป็นเรื่องที่น่าขำมาก ฮ่าๆๆๆ
“หุบปากๆๆๆ” เซียวเหิงทุบขวดเหล้าในมือลงกับพื้นจนแตกละเอียด
เสียงแตกของขวดเหล้า ตามมาด้วยเสียงเคาะประตู
เซียวเหิงนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาอย่างหมดสภาพ อยู่ๆ เขาก็ตวาดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ตายแล้ว ไม่ต้องเคาะ!”
แต่ทว่าคนข้างนอกยังคงเคาะต่อเรื่อยๆ
“ไสหัวไป ฉันบอกว่าตายแล้วไง ไม่ได้ยินเหรอ ออกไป!”
ปังๆๆๆ
“ไอ้ฉิบหาย!” เซียวเหิงโมโหกับเสียงเคาะประตู เขารีบเดินมาเปิดประตูออกอย่างแรง เขาก่นด่าออกมาโดยที่ไม่ได้มอง “เคาะอะไรนัก…”
พลั่ก!
พูดยังไม่ทันจบ หมัดหนักๆ กระแทกเข้ามาที่หน้าของเซียวเหิง หมัดนี้หนักมาจนทำให้เซียวเหิงเซถอยหลัง เขาเกือบจะยืนไม่อยู่
ใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะยืนเป็นปกติ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับเสิ่นซิวจิ่นยืนอยู่หน้าประตูบ้าของเขา
“เสิ่นซิวจิ่น แกบ้าไปแล้วหรือไง!”
แววตาของชายหนุ่มเย็นชา ความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากตัวของเขา สายตาของเขาจ้องไปที่ไอ้ขี้เมาตรงหน้า เขาเหวี่ยงหมัดไปมา จากนั้นก็ชกออกไป
“นี่คือที่แกบอกกับฉันว่า ‘ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้น’ ใช่ไหม”
เขาต่อยออกไปอีกครั้ง “นี่หรือที่แกเรียกว่า ‘จะไม่มีวันเปลี่ยนใจถึงจะพ่ายแพ้’ ใช่ไหม ”
“เซียวเหิง งั้นสิ่งที่แกทำในวันนี้คืออะไร ที่แกบอกว่าไม่ยอมแพ้กับผู้หญิงคนนี้ แต่สิ่งที่แกทำวันนี้ไม่ได้เรียกว่ายอมแพ้ แต่มันเรียกว่าทำร้าย!”
หมัดของเสิ่นซิวจิ่นหนักมาก เซียวเหิงโดนต่อยจนสร่างเมา เขาโดนต่อยติดกันสามหมัด เซียวเหิงก็ไม่ยอมคน เมื่อได้ยินสิ่งที่เสิ่นซิวจิ่นพูด เขาจึงโกรธขึ้นมาทันที เขายกหมัดขึ้นมาต่อยไปหาคนข้างหน้าอย่างไม่เกรงใจ
“แกมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน!”
“ตัวแกเองล่ะ”
“สิ่งที่แกทำไม่ได้เรียกว่าทำร้ายเธอเหรอ!”
“เสิ่นซิวจิ่น ถ้าแกมาที่นี่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแทนเจี่ยนถง ฉันขอถามแกหน่อยเถอะ” เซียวเหิงมองอย่างโกรธแค้น “แกมีสิทธิ์ทำแบบนั้นเหรอ!”
แววตาของเสิ่นซิวจิ่นเย็นชาและหลบหมัดของเซียวเหิงไปด้วย
ชายทั้งสองคนไม่หลงเหลือภาพลักษณ์อันงดงาม พวกเขาต่อยตีกันเหมือนอันธพาล
พลั่ก!
เสียงดังสนั่นเกิดขึ้นอีกครั้ง เซียวเหิงโดนเสิ่นซิวจิ่นต่อยจนไปกระแทกกับกำแพงและล้มลงกับพื้น เศษขวดเหล้าที่แตกอยู่บนพื้นบาดตัวเขา
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้สิ่งที่อยู่ในใจของเขาหลังจากที่กลับมาจากงานเลี้ยงปะทุออกมาทันที
เขาเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาแดงก่ำมองชายที่อยู่ตรงหน้า
“เสิ่นซิวจิ่น! แกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน!”
“แกรู้อยู่แก่ใจว่ารักผู้หญิงคนนั้น แต่ฉันขอถามแกแค่คำถามเดียว แกกล้ายอมรับจากปากของแกไหมว่าแกรักผู้หญิงคนนั้น! แกยอมรับไหมว่าตัวเองชอบผู้หญิงที่วางแผนลงมืออย่างโหดเหี้ยม! ถึงแกจะรักผู้หญิงคนนั้น แต่ก็จะรับได้ไหม แกพูดออกมาจากปากของแกสิ กล้าไหมล่ะ!”
ในที่สุดเขาก็พูดความขัดแย้งอันเจ็บปวดที่อยู่ในใจออกมา
เซียวเหิงหัวเราะออกมา แต่ทว่าแพขนตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเปียกชื้น…