เจี่ยนถงเองก็สังเกตเห็นว่าคนรอบข้างเริ่มหันมาสนใจแล้ว
“ฉันจะไปห้องน้ำ” เธอก้าวเดินตรงไปยังห้องน้ำอย่างรีบๆ
คิดว่าคาย์อันจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆเหรอ?
เมื่อเห็นเจี่ยนถงกำลังจะเดินไป ใบหน้าสวยกว่าหญิงสาวก็พลันเปลี่ยน จากนั้นก็ก้าวเดินตามไปติดๆ ทว่าตรงหน้าเขายังมีเสิ่นซิวจิ่นขวางทางเอาไว้เหมือนภูเขาลูกใหญ่
“เกะกะ!” เขายื่นมือออกไปผลักเสิ่นซิวจิ่นออก จากนั้นดวงตาก็ทอประกายเย็นชา “กล้าเข้ามายุ่งเหรอ นายอยากรู้ไหมว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง?”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมา
เจี่ยนถงเร่งฝีเท้า แต่ส้นสูงที่ใส่อยู่กลับถ่วงเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน เจี่ยนถง! ตอบคำถามผมก่อน!”
คาย์อันใจร้อน เขาจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้ยังไง?
ถ้าวันนี้ไม่ได้มาเจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง บางที เขาก็อาจจะปล่อยให้เรื่องมันจบไปทั้งอย่างนี้
เจี่ยนถงหยุดเดิน
เธอหันหลังให้คาย์อันเป็นเวลานาน จากนั้นถึงได้เอ่ยพูดออกมาว่า “ได้” เสียงของเธอแข็งกร้าวไร้อารมณ์
“นอกจากเงินของผมแล้ว เคยมีสักวินาทีไหม…….ที่คุณจริงใจกับผม?”
ในตอนที่คาย์อันเอ่ยถามประโยคนี้ออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป
ดวงตาของเสิ่นซิวจิ่นทอแววคมกล้า จ้องเขม็งไปยังเจี่ยนถง
ไป๋ยู่สิงกับซีเฉินต่างพากันนิ่งอึ้ง……นี่…..คงไม่ใช่ว่าชายหนุ่มต่างชาติหน้าตาสะสวยคนนี้ คิดอะไรกับเจี่ยนถงใช่ไหม?
ทั้งสองก็ยังเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันมาหลายปี เพราะแทบจะคิดได้เหมือนๆกัน พวกเขาหันมองหน้ากันอึ้งๆอีกครั้ง ต่างก็มองเห็นความตกใจและความงุนงงในสายตาของอีกฝ่าย
ด้านเจี่ยนถง ในตอนที่คาย์อันเอ่ยถามประโยคนี้ออกมา ในใจของเธอก็กระตุกวูบ มีชั่วแวบหนึ่งสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความอ้ำอึ้ง
ด้านตัวคาย์อัน ในวินาทีที่เอ่ยถามออกไป คนที่ตกใจก่อนใครเพื่อนก็คือตัวเขาเอง……ดวงตาสีน้ำตาลทอแววตกตะลึง ทำไมเขาถามออกไปอย่างนั้น?
แต่ในวินาทีนั้น มันก็หลุดพูดออกไปแล้ว ต่อให้เขาไม่อยากยอมรับสักเท่าไหร่ ก็จำเป็นต้องยอมรับความจริง!
บางอย่าง ต่อให้ไม่อยากยอมรับแค่ไหน แต่ร่างกายและหัวใจกลับซื่อสัตย์เป็นที่สุด ถ้อยคำที่หลุดพูดออกไปโดยไม่ทันคิด เป็นได้สองอย่างคือคำพูดโกหก หรือไม่ก็สิ่งที่ใจกำลังคิด
และแน่นอน….ว่าเขาเป็นอย่างหลังอย่างไม่ต้องสงสัย
คาย์อันเป็นคนฉลาด เพียงแค่ชั่วครู่ ก็เหมือนว่าสามารถรับมือกับทุกสิ่งได้
เขาจัดร่างกาย แล้วเอ่ยถามเจี่ยนถงอีกครั้งว่า “มื้อดึกที่ทำให้ผมกินทุกคืน…..นอกจากเรื่องเงินแล้ว มีจุดประสงค์อื่นอีกไหม?”
ครั้งนี้ เขาไม่ได้รีบร้อนถามเหมือนครั้งแรก บนใบหน้าสวยประดับไปด้วยความเคร่งขรึม มองตรงมาที่เจี่ยนถง
เสิ่นซิวจิ่นรู้สึกจี๊ดๆในใจ มองเจี่ยนถงเหมือนมองภรรยากำลังนอกใจ
ทางด้านไป๋ยู่สิงกับซีเฉินกลับกำลังมองเสิ่นซิวจิ่น
“เห็นหรือยัง” ไป๋ยู่สิงแบมือออก “ฉันเคยบอกแล้ว เธอไม่ควรกลับมาที่เมืองS”
ความรู้สึกของซีเฉินเริ่มซับซ้อน “ไปๆมาๆ สุดท้ายทั้งสองก็ผิดใจกัน แต่อาซิวกลับหวั่นไหว…….” ขณะที่พูด ในดวงตาของซีเฉินก็เปี่ยมไปด้วยความกังวล “พวกเขา…..” พวกเขายังจะรักกันได้ไหม?
“ฉันกับนาย ก็เป็นแค่ผู้ชม ไปแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก ก็คง…..ทำได้แค่ปลอบใจไอ้โบ้เท่านั้นแหละ”
แน่นอน “ไอ้โบ้” ที่ว่าหมายถึงเสิ่นซิวจิ่นอย่างไม่ต้องสงสัย
ซีเฉินไม่ได้พูดอะไร ถือเป็นการเห็นด้วยอย่างเงียบๆ
ด้านเสิ่นซิวจิ่น ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดข้างในหัวใจ แต่ในเวลานี้ เขาไม่คิดที่จะห้ามเจี่ยนถง ความจริงแล้ว เขาเองก็อยากฟังคำตอบของเธอเหมือนกัน
หลังจากเงียบอยู่นาน ในที่สุดเจี่ยนถงก็เอ่ยพูด “ฉันไม่เคยคิดและไม่เคยจินหวัง ว่าฉันกับคุณคาย์อันจะได้กลับมาเจอกันอีกตอนไหน ในสถานการณ์ใด หรือเผชิญหน้ากันยังไง……เรื่องเหล่านี้ ฉันไม่เคยคิดถึงมันเลยค่ะ”
ถ้าเธอเคยรู้สึกอะไรกับเขา เธอก็คงแอบหวังและจินตนาการภาพที่จะได้พบเจอกับเจ้าชายขี่ม้าขาวอีกครั้งไปแล้ว แต่นี่เธอไม่แม้แต่จะรอคอย เพราะฉะนั้น เธอจึงไม่เคยรู้สึกอะไรเลยจริงๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น บนใบหน้าสวยของเขา ก็ยิ้มออกมาบางๆ แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกหน่วงๆ
ดวงตาของคาย์อันวูบไหว เขาเงยหน้ามองเพดาน จากนั้นก็ทอดมองมาที่เจี่ยนถง แล้วหัวเราะออกมา “คำตอบของคุณอ้อมค้อมดีเหมือนกันเนอะ……แถมยังโหดร้ายชะมัด”
“ฉันยอมรับ ตอนนั้นที่ฉันยอมให้คุณคาย์อันไปหาที่หอพัก” เจี่ยนถงเอ่ยพูดขึ้นมา ดวงตาหม่นแสงของคาย์อันเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง แต่วินาทีต่อมา ก็ทำเอาความหวังของเขาดับวูบ “ที่ฉันยอมให้คุณคาย์อันมากินมื้อดึกที่หอพัก เป็นเพราะว่าฉันอยากได้เงินของคุณ”
“คุณ…..ใจร้ายมาก” คาย์อันพูดออกมา จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากงานเลี้ยงไปอย่างรีบๆ
มีสายตาคู่หนึ่ง มองาที่เจี่ยนถง เจี่ยนถงเหลือบมองเล็กน้อย ท่ามกลางผู้คน ลู่เชนยืนอยู่ตรงนั้น เขาโดดเด่นท่ามกลางผู้คน ลู่เชนมองมาที่เจี่ยนถงนิ่งๆ จากนั้นก็ผงกหัวให้เล็กน้อย แล้วจึงกันหลังเดินตามคาย์อันออกไป
เจี่ยนถงหันมองเสิ่นซิวจิ่น “ฉันไปเข้าห้องน้ำนะ” ขณะที่หมุนตัวกลับหลัง เธอก็หลับตาลง…..เธออ่านสายตาของลู่เชนออก เหมือนกับว่าที่ลู่เชนผงกหัวให้เธอ นั่นก็เพราะว่าลู่เชนอ่านความรู้สึกเธอออกเหมือนกัน
ในห้องน้ำ เธอเอาแต่ล้างหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า จนเครื่องสำอางบนหน้าหลุดออก
“มากับฉัน” ทันใดนั้นแขนของเธอก็ถูกฉุดเอาไว้ เมื่อเจี่ยนถงหันไปมอง หน้าก็เปลี่ยนสีเล็กน้อย รีบดึงมือของเขาออก แล้วก้าวถอยหลัง จนระยะห่างระหว่างทั้งสองไกลกัน “คุณชายเซียว ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“เจี่ยนถง มากับฉัน!” เซียวเหิงยื่นมือออกไปหาเธออีกครั้ง
เจี่ยนถงรู้เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย….วันนี้มันอะไรกันเนี่ย?
เดี๋ยวก็คนนั้นเดี๋ยวก็คนนี้…..ก่อนออกจากบ้านเธอต้องก้าวเท้าผิดข้างแน่ๆ
“คุณชายเซียวไม่มีอะไรทำหรือไง ข้างนอกยังมีผู้หญิงอีกหลายคน ฉันแก่แล้ว เล่นด้วยไม่ได้หรอกค่ะ คุณชายเซียวกรุณาปล่อยมือได้แล้ว คนแก่ๆอย่างฉันไม่มีเวลาไปเล่นสนุกกับคุณชายเซียวหรอก”
อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีเรื่องของคาย์อัน ยิ่งตอนนี้เจอเซียวเหิงตามมาวุ่นวายอีก…..เจี่ยนถงจึงรู้สึกเหนื่อยมากๆ
“เจี่ยนถง มากับฉันเถอะ ฉันจะดูแลเธออย่างดี!” เซียวเหิงเดินเข้าไปจับเจี่ยนถงอย่างไม่สนสิ่งใด
“ปล่อย! คุณชายเซียว ปล่อยนะ!”
“เจี่ยนถง อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้น ฉันรู้ว่าเมื่อก่อนฉันเลวมาก…..ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะใช่ฆาตกรหรือเป็นอย่างที่คนอื่นพูดหรือเปล่า เจี่ยนถง ฉัน ฉัน……”
“หุบปาก!” จู่ๆเจี่ยนถงก็ตัดบทเซียวเหิงอย่างดุร้าย ไม่ว่าเซียวเหิงกำลังจะพูดอะไรออกมา เธอก็ไม่อยากฟังทั้งนั้น!
“ได้ ฉันจะหุบปาก แต่เธอต้องมากับฉัน เราสองคนไปใช้ชีวิตสงบๆอยู่ด้วยกันที่หมู่บ้านเล็กๆเป็นไง เจี่ยนถง ฉันจริงใจนะ”
กรอบตาของเซียวเหิงแดงก่ำ
เจี่ยนถงหันหน้าหนี เธอไม่อยากเห็น จึงหลับตาลง ในตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็ฉายแววเฉียบขาดอย่างสังเกตเห็นได้ยาก
“คุณชายเซียว คุณฟังนะ อยากให้ฉันอยู่กับคุณงั้นเหรอ? เหอะ เทียบกับเสิ่นซิวจิ่นแล้ว คุณมีอะไรดีตรงไหน? คิดว่าฉันจะยอมเสียเพชรชิ้นที่หนึ่งชิ้นที่สองไป เพียงเพราะแค่เพชรกะรัตเดียวอย่างคุณงั้นเหรอ? สมองฉันไม่ได้มีปัญหานะ ฉันรู้ว่าฉันควรเลือกอะไร”
ริมฝีปากแดงระเรื่อขยับพูด
เซียวเหิงเซเล็กน้อย ก้มหน้ามองริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังพ่นถ้อยคำไร้ความปรานีออกมา “เธอ……”