Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 216 ลู่หมิงชูจอมร้าย

ในเวลาเช้าตรู่ ท้องฟ้าส่องแสงสว่างไสวช่างสดชื่น

หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เขาก็สวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ในขณะที่กำลังจะเปิดม่านหน้าต่างนั้น ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ลู่หมิงชูละมือที่จับม่านนั้นออก แล้วเดินไปที่ประตู

เสียงประตูดัง “แกร๊ก” จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก

ทั้งคนที่ยืนอยู่ในห้องและนอกห้องก็มองหน้ากันด้วยความงุนงง

ลู่หมิงชูชะงักลงเล็กน้อย แต่วินาทีต่อมาเขาก็เผยแววตาอันเป็นประกาย

“อ่าหะ?” น้ำเสียงต่ำทุ้มของเขาดังออกมาจากลำคอ ช่างมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก

ประกอบกับที่เขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จออกมา ร่างกำยำถูกคลุมไว้ด้วยชุดคลุมบางๆ ท่าทางอันผ่อนคลายของเขา บอกได้ว่าช่างน่าหลงใหลจริงๆ

ที่ด้านนอกประตู สายตาของหญิงสาวมองไปทางอื่นแล้วพูดว่า “อาหารเช้าที่สั่งค่ะ พอดีคนอื่นๆยังไม่มีใครว่าง ส่วนจาวจาวก็ยังไม่ตื่น ฉันเลย……” ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นคนที่นำอาหารเช้ามาให้เขาเอง

แม้จะบอกว่าคนอื่นๆวุ่นอยู่กับงานของตัวเอง แต่ที่จริงในโฮมสเตย์นี้มีเพียงไม่กี่คน

เดิมทีโฮมสเตย์นี้ก็ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องจ้างคนมากมาย

ในมื้อเช้า จะมีบริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ซึ่งอาจเทียบไม่ได้กับโรงแรมห้าดาว มันมีเพียงอาหารเช้าธรรมดาทั่วไปเท่านั้น โดยมากแขกผู้มาพักจะลงไปรับประทานข้างล่าง แต่แขกบางคนก็อาจจะพิถีพิถัน โดยสั่งขึ้นมารับประทานข้างบนห้อง

ลู่หมิงชูจึงได้พบว่าในมือของเธอถือตะกร้าสานอยู่ เขารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย……นี่คือครั้งแรกที่เขาพบว่าโรงแรมใช้ตะกร้าสานในการเสริ์ฟอาหารเช้าให้แขก

เพียงแต่ว่า……นี่มิใช่เรื่องสำคัญอะไร

ริมฝีปากเรียวบางขยับขึ้นเล็กน้อย

“อ้อ……” น้ำเสียงของเขาลากยาว ดูเหมือนมันออกมาจากจมูกเสียมากกว่า จากนั้นเขาก็มองไปยังใบหน้าของหญิงสาว

“เอาเข้ามาสิ”

หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูดูไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก “คุณลู่คะ ถือเข้าไปเองไม่เป็นหรือไงไม่ทราบ?”

ลู่หมิงชูเลิกคิ้วอันคมได้รูปขึ้น แล้วพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “คุณคิดว่าผมเป็นคนที่ถนัดทำอะไรพวกนี้เองหรือไง?”

เรื่องพวกนี้?

เรื่องพวกไหนกัน?

หญิงสาวกลอกตามองเขา…..หึๆ คงเป็นพวกคุณชายที่หยิบจับอะไรไม่เป็นอีกแล้วสินะ

ลู่หมิงชูยืนอยู่ตรงหน้าประตู เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วถามว่า “มัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นล่ะ? เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไม่เป็นหรือไง?” เมื่อพูดจบเขาก็เบ้ปากแล้วพูดต่อไปว่า “จริงสินะ คุณเป็นคุณชายนี่”

เห็นได้ชัดว่า เขากำลังเยาะเย้ยถากถางเธอ!

หญิงสาวมองไปทางเขา จากนั้นก็ถือตะกร้าสานก้าวเท้าเข้าไปด้านในห้อง

จากนั้น ก็ได้ยินเสียงดังตามหลังมาว่า “เอาวางไว้บนโต๊ะน้ำชา”

เธอจึงทำได้เพียงเดินเข้าไปด้านในอีกหน่อย

หลังจากวางตะกร้าสานในมือลงเรียบร้อยแล้ว เธอจึงพูดว่า “คุณลู่รับประทานไปก่อนนะคะ ประเดี๋ยวตอนที่แม่บ้านมาทำความสะอาดจะมีคนเก็บกลับไปให้เอง”

เมื่อพูดจบเธอก็เดินตรงไปตรงประตูเตรียมตัวเดินจากไป

แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็พบท่าทางของลู่หมิงชูที่กำลังยืนกอดอกพิงอยู่ที่หน้าประตู ประตูนั้นถูกบังเอาไว้ ผมเผ้าของเขายังเปียกโชกมีน้ำหยดลงมาติ๋งๆ ลูกผมบริเวณหน้าผากเผยอขึ้นเล็กน้อย ให้ความรู้สึกถึงความผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

เธอจึงทำได้เพียงก้มตาลงไม่กล้าจ้องมอง

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงประตูชื่นชมใบหน้าอันบูดบึ้งของเธอด้วยความสุขใจ เขาไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ที่ดูไม่เป็นทางการแต่แอบมีเสน่ห์ของตนเองในตอนนี้เลย

“เถ้าแก่เนี้ยครับ ไม่กินอาหารเช้าด้วยกันหน่อยเหรอ?”

หญิงสาวยื่นมือออกไปจับลูกบิดประตูที่ถูกบังเอาไว้ จากนั้นก็รีบกางแขนอันเรียวงามของเธอออกไปแล้วกดลงที่ประตู

เมื่อตอนที่เธอเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนี้ทำท่าทางหัวเราะใส่เธอ จึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจนัก

คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน แล้วตอบว่า “ถ้าคุณลู่จะมีจิตใจดีขนาดนั้น ทำไมไม่ไปเลี้ยงข้าวคนยาจกข้างทางล่ะคะ?”

“ก็เข้าท่าดีเหมือนกันนะ” ลู่หมิงชูยิ้มขึ้นมาเบาๆ แต่จู่ๆ เขาก็ดึงมือที่กดไว้ตรงประตูออกแล้วตอบว่า “เถ้าแก่เนี้ยครับ เมื่อวานนี้คุณบอกกับผมว่าคุณจากมอบชุดชงชาแบบที่คุณดื่มให้ผมชุดหนึ่ง แล้วก็ยังมีเก้าอี้แบบเดียวกับที่คุณนั่งอีกตัวหนึ่งให้ผมด้วย”

“ใช่ค่ะ ฉันเคยพูดเอาไว้ เดี๋ยวรับประทานอาหารเสร็จแล้วฉันจะให้อาเซิ่งไปนำมาให้”

ลู่หมิงชูส่ายหน้า “ไม่ได้หรอกครับ ถ้าจะให้ของใครสักคนแน่นอนว่าจะต้องให้ในสิ่งที่ผู้รับอยากได้ ผมจะเลือกเอง”

เลือกเองอย่างนั้นหรือ?

“จะเลือก…… ยังไงคะ?” น่าสนุกดีเหมือนกัน “จะให้ฉันนำชุดชงชาและเก้าอี้ทุกชิ้นออกมาวางไว้ด้านหน้าคุณลู่และให้คุณ เลือกเองทีละอันอย่างงั้นหรือไง?”

“จะทำให้วุ่นวายแบบนั้นทำไมครับ?” ลู่หมิงชูแอบยิ้มออกมา ดวงตาของเขาดูเป็นประกาย “ได้ยินมาว่าที่เมืองโบราณต้าหลี่ครึกครื้นน่าดู มีพวกของสะสมน่าสนใจมากมายทีเดียว บังเอิญที่ผมก็อยากจะไปดูอยู่เหมือนกัน แต่ผมไม่รู้จักใครและไม่คุ้นเคยกับที่นี่เลย ในเมื่อเถ้าแก่เนี้ยให้สัญญากับผมแล้วว่าจะมอบชุดน้ำชาและเก้าอี้ให้ ในเมื่อจะเป็นคนดีก็ควรจะดีให้ถึงที่สุด ช่วยเป็นไกด์นำทางให้ผม และเดินเที่ยวชมเมืองโบราณต้าหลี่เป็นเพื่อนผมสักหน่อยเป็นไร”

หญิงสาวไม่แม้แต่จะครุ่นคิด เธอตอบกลับไปว่า “เดี๋ยวรอให้จาวจาวตื่นแล้วฉันจะให้จาวจาวไปเป็นเพื่อนคุณนะคะ”

“ไม่ๆๆๆ” ลู่หมิงชูยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมา จู่ๆ เขาก็ก้มตัวลงไปใกล้หญิงสาวคนนี้แล้วพูดว่า “ถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่จริงใจสิครับ คุณเป็นคนที่บอกว่าจะมอบของให้กับผม เช่นนั้นคนที่ไปเดินเลือกของกับผมก็ควรจะเป็นคุณสิ”

“……” เธอถูกใบหน้าที่ใกล้เข้ามาโดยกะทันหันนี้ทำให้ตกอกตกใจไม่น้อย เมื่ออยู่ในระยะใกล้เช่นนี้เธอจึงได้พบว่าเขาหน้าตาดีมากทีเดียว

เพียงแต่ว่า…… ในสมองของเธอปรากฏใบหน้าของคนคนหนึ่งลอยขึ้นมา จากนั้นสีหน้าของเธอก็ซีดเผือด…… คิ้วและแววตาช่างเหมือนกันได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?

รสชาติของความขมขื่นค่อยๆแพร่กระจายไปทั่ว

“ถอยไป!” เธอพยายามควบคุมตนเองและพูดออกมาให้น้ำเสียงดูปกติ หากไม่ได้สังเกตละก็ด้วยน้ำเสียงอันกระด้างนั้นคนอื่นๆคงฟังไม่ออกว่าเธอเป็นผู้หญิง เนื่องจากน้ำเสียงของเธอในตอนนี้ช่างใหญ่ห้าวหาญและแข็งกระด้าง

ลู่หมิงชูชะงักลงเล็กน้อย “เอ๊ะนี่คุณ ทำไม……” เป็นอะไรไป……

“เพียะ!”

เสียงดังชัดเจนก้องกังวาน เมื่อเขายื่นมือออกไปก็ถูกเธอตอบให้อย่างจัง

“อยู่ห่างฉันให้ไกลกว่านี้!”

ลู่หมิงชูยืนมองดูมือที่ถูกตบจนเอนไปอีกข้าง ด้านหลังมือนั้นแดงเรื่อ

ผู้หญิงคนนี้…… แรงเยอะจริงๆ!

เขากัดฟันหรี่ตาลงมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ด้วยความลึกล้ำ สีหน้าของเธอขาซีด แต่ก่อนหน้านี้เพียงวินาทีเดียวเธอยังดีๆอยู่ไม่ใช่หรือไง? สายตาของเขาจับจ้องไปยังริมฝีปากอันขาวซีดนั้น…… ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปได้แบบนี้ล่ะ?

เมื่อเขาหรี่ตาคิดพิจารณาอยู่สักครู่ ลู่หมิงชูไม่ใช่คนโง่ เขาช่างฉลาดหลักแหลม ดังนั้นใช้เวลาครุ่นคิดเพียงไม่นานเขาก็พอจะเดาออก

เขาขบฟันไปมา ดวงตานั้นมองมาที่เธออย่างลึกล้ำ จู่ๆ ใบหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึมและก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นดูเหมือน จะพัดพาเมฆหมอกจากไป มีเสียงออกมาจากลำคอของเขาว่า

“เถ้าแก่เนี้ยครับ คุณดูไม่ยุติธรรมเลยนะ เมื่อสักครู่ที่คุณตีผม มือผมแดงไปหมดแล้ว เจ็บจังเลย”

หญิงสาวเอื้อมมือไปพลิกมือเขาดูอย่างไม่รู้ตัว แดงจริงอย่างที่ว่า…… นิ้วมือของชายหนุ่มช่างขาวและเรียวงาม กระดูกกระเดี้ยวก็เรียงตัวเป็นระเบียบ เล็บของเขาสะอาดสะอ้าน….. มองดูก็รู้ว่ามือคู่นี้ไม่ค่อยได้ทำงาน

แต่บัดนี้กลับถูกเธอตีเสียจนแดงขึ้นเม็ดเลือด

อีกทั้งเขาถูกเธอตีเนื่องจากทำให้เธอโมโหเท่านั้น…..ไม่ได้มีความผิดใดๆด้วยซ้ำ

“โอ๊ย! เจ็บจริงๆนะครับ ผมโตจนป่านนี้ยังไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนตีที่มือมาก่อนเลย”

ลู่หมิงชูกุมมือของเขาและพิจารณาดูรอยแดงก่อนจะนวดเบาๆ……เธอมองดูผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน เนื่องจากพยายามระงับความเจ็บปวดเอาไว้

เดิมทีความรู้สึกละอายที่เธอมีอยู่กลับกลายเป็นความรู้สึกผิด

“เฮ้อ แบบนี้เมื่อไรผมจะหายละครับเนี่ย……” ลู่หมิงชูไม่ได้มองหน้าเธอแต่กลับกุมมือของตัวเองเอาไว้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลทำอะไรไม่ถูก

ตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่

“เฮ้อ ช่างมันเถอะ..…. ก็แค่ถูกตีจนมือแดงไม่ใช่หรือไง?…… คนเราต้องมีสักครั้งสองครั้งและนะที่ต้องโดนแบบนี้ คิดไปซะว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำก็พอ เดิมทีผมมาที่เอ๋อร์ไห่ก็เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะถูกตีเข้าแบบนี้ เฮ้อ……” ลู่หมิงชูพึมพำกับตัวเอง

ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ข้างๆตอนนี้แววตาของเธอแฝงไปด้วยความรู้สึกผิดอยู่ในอกจนแทบจะล้นออกมา “เอาล่ะค่ะๆ ฉันจะไปเดินดูของเป็นเพื่อนคุณที่เมืองโบราณต้าหลี่ ถือว่าเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน”

“หา!” จู่ๆ ลู่หมิงชูก็ร้องออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นเขาก็ทำท่าทางรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา “แบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่มั้งครับ…… ผมอาจทำให้คุณอึดอัดใจได้”

“คุณขับรถเป็นใช่ไหม? เดี๋ยวฉันจะลงไปข้างล่างก่อนนะ ถ้าคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ลงไปนะคะ ฉันจะรอคุณอยู่ข้างล่าง” เมื่อเธอพูดจบก็เดินออกไปทันที

ลู่หมิงชูมองตามหลังของเธอไป ดวงตาสีดำกลมโตของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มแวบหนึ่ง

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset