บทที่ 26 ไม่ต้องรีบ มาทีละคน
เดิมทีในห้องมีแค่ลูกค้า เจินเจินและเจี่ยนถง สามคน เรื่องนี้ถ้าเจี่ยนถงไม่พูดออกมา ก็คงเป็นหินที่จมอยู่ใต้สมุทร ไม่มีใครรู้ แต่เป็นเพราะเจินเจิน เปรียบเรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น จึงไปเล่าให้คนอื่นที่อยู่ในแผนกประชาสัมพันธ์ฟัง
ซูเมิ่งจึงได้รู้
ไป๋ยู่สิง ร้อง “โอ้โห” “ต้องโหดขนาดนี้เลยเหรอ? เจินเจินนี่ช่างเหี้ยมจริงๆ”
เมื่อเสิ่นซิวจิ่นได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเขานิ่งเกร็งไปทันที เขาพยักหน้าให้เสิ่นซิวจิ่น “ไปเรียกเจินเจินมาด้วย ฉันจะรออยู่ที่ห้องพิเศษ606”
เมื่อพูดจบ หันหลังเดินไปที่ลิฟต์ทันที
ไป๋ยู่สิงเดินตามหลังเสิ่นซิวจิ่น รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเพื่อนสนิทของตัวเองกำลังอดกลั้นความโมโหเอาไว้
ยิ้มมุมปาก แววตาของไป๋ยู่สิงเปล่งประกายขึ้นมาทันที…ชักน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ
มีคนรังแกเจี่ยนถง เสิ่นซิวจิ่นอดกลั้นความโกรธเอาไว้…นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?
ไป๋ยู่สิงยิ้มมุมปากอีกครั้ง
…
ห้อง VIP 606
ลู่น่าและเจินเจินจดจ้องมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยสายตาเป็นประกาย
สองคนนี้ถือว่าขั้นสุดยอดเลย!
ตอนที่ซูเมิ่งให้คนไปเรียกลู่น่าและเจินเจินไปที่ห้อง 606 VIP สองคนนี้ยังคิดว่ามีแขกพิเศษเรียกพวกหล่อนไปโดยเฉพาะ
เมื่อเข้าไปในห้อง สายตาของลู่น่าและเจินเจินส่องสว่างเป็นประกายทันที
เสิ่นซิวจิ่นกับไป๋ยู่สิง ถือเป็นคนใหญ่คนโตของคลับบันเทิงตงหวง!
“ใครคือลู่น่า? ใครคือเจินเจิน?”
ภายในห้องVIP เสิ่นซิวจิ่นนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางอันแสนขี้เกียจ ถามด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้งอย่างไม่ลังเล
“ฉัน! ฉันคือเจินเจิน!”
ลู่น่าเหลือบมองเจินเจินที่อยู่ด้านข้าง เบ้ปาก…ไม่พอใจเหมือนเด็ก เมื่อเห็นผู้ชายก็จะวิ่งเข้าใส่ รีบเข้าไปให้คลอเคลียเล่น หึ!
แม้ว่าในใจจะคิดเช่นนั้น แต่ลู่น่าก็ยังไม่กล้าแสดงความอ่อนด้อย เดินเข้าไปด้านหน้าหนึ่งก้าว : “ฉันชื่อลู่น่า”
บนโต๊ะคริสทัลมีไวน์และจานผลไม้ตั้งอยู่ ไป๋ยู่สิงรินไวน์ให้ตัวเองหนึ่งแก้ว พลางจิบไวน์ดูการแสดงเด็ดๆ พลางมองไปที่หญิงสาวแสนสวยทั้งสองตรงหน้า ที่สวมชุดวาบหวิว โดยเฉพาะเมื่อถูกยั่วยวนด้วยเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของทั้งสอง ไป๋ยู่สิงจึงใช้แก้วไวน์บังไว้และยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ใครมาก่อน?” เสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยเสียงนิ่งเรียบ ไป๋ยู่สิงแทบจะสำลักไวน์ออกมา…นี่ๆ พี่ชาย อย่าพูดอะไรคลุมเครือแบบนี้สิ เดี๋ยวเข้าใจผิดกันหมด!
“ประธานเสิ่น ฉันรินไวน์ให้นะคะ” ลู่น่าพูดเอาใจ
เจินเจินไม่ยอมน้อยหน้า ตั้งใจเชิดหน้าอกอันเอิบอิ่มขึ้นมา ยิ้มอย่างมีเลศนัย พูดขึ้น : “ประธานเสิ่น ลู่น่าช่วยรินไวน์ให้คุณ งั้นฉันป้อนผลไม้ให้คุณนะคะ”
ไป๋ยู่สิงนั่งยิ้มอยู่ด้านข้าง มองเสิ่นซิวจิ่นที่พูดอย่างไม่รีบร้อน พร้อมพยักหน้าลง : “ไม่รีบ ทีละคน”
อ่า~
ไป๋ยู่สิงแทบอยากจะหัวเราะออกมา
สงสารหญิงสาวทั้งสองตรงหน้า ไม่รู้เสียแล้วว่าวันตายมาถึงแล้ว
ขณะเดียวกัน ซูเมิ่งเคาะประตูเดินเข้ามา พร้อมมือกระเป๋าถือใบหนึ่ง : “ประธานเสิ่น ของที่คุณต้องการ ฉันเอามาให้แล้ว”
ภายใต้สายตาที่จดจ้องมองของเสิ่นซิวจิ่น ซูเมิ่งวางกระเป๋าลงบนโต๊ะคริสทัล “แคร๊ก” เสียงเปิดกระเป๋าดังขึ้น
เมื่อกระเป๋าถูกเปิดออก ภายในห้องก้องไปด้วยเสียงอันแสนตกใจของทั้งสองพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก
“ซี๊ด~”
ลู่น่ากับเจินเจินต่างพากันจดจ้องมองไปที่ปึกธนบัตรจำนวนมากในกระเป๋าใบนั้น จ้องมองดูจนเหม่อลอย
ทันใดนั้น ผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นยืน ตัวสูงตรงราวกับนายแบบ ดึงดูดความสนใจของหญิงสาวทั้งสองกลับมาได้ทันที
เสิ่นซิวจิ่นคว้าหยิบธนบัตรขึ้นมาหนึ่งปึก โปรยลงตรงหน้าหญิงสาวทั้งสอง ท่าทางสง่างามมาก “เธอ” เขามองไปที่ลู่น่า ไม่สนใจสายตาเย้ายวนของลู่น่า พูดขึ้นด้วยความเย็นชา : “คลานลงไปบนพื้น เก็บเงินบนพื้นทั้งหมดขึ้นมา”
ลู่น่าตกใจตะลึง…” ประธานเสิ่น บะ…แบบนี้ไม่ดีรึเปล่าคะ…”
“ไม่มีอะไรไม่ดีสักหน่อย ทำตามนั้นสิ”
ลู่น่าสีหน้านิ่งเกร็งไปทันที แต่หล่อนแก้ตัวเก่ง รีบตั้งสติขึ้น พูดอย่างโอดครวญ : “ประธานเสิ่น~ คุณอย่าแกล้งฉันเลยนะ คนที่ฉันชอบก็คือคุณไงล่ะประธานเสิ่น ไม่ได้ชอบเงินของประธานเสิ่นสักหน่อย”
หึ~!
ไป๋ยู่สิงสาบาน ครั้งนี้เขาอดกลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ!
“ซูเมิ่ง เธอสอนกฎระเบียบให้หล่อนหน่อย” ลู่น่าทำหน้าทำตาน่าสงสาร เสิ่นซิวจิ่นยังขี้เกียจจะหันไปมอง
“รับทราบค่ะ ประธานเสิ่น” ซูเมิ่งสายตาเย็นชาไปทันที “ลู่น่า ลูกค้าถูกเสมอ ลูกค้าให้เธอคลานก็คลาน ลูกค้าให้เธอดื่ม เธอก็ต้องดื่ม เธอก็เป็นคนเก่าแก่ของตงหวง ทำไมล่ะ? เรื่องกฎระเบียบแค่นี้ไม่รู้เลยหรือไง?”
“พี่เมิ่ง ฉะ…ฉันเปล่า…”
“คำพูดบางคำ คิดให้ดีก่อนแล้วค่อยพูด”
เมื่อลู่น่าได้ยินสิ่งที่ซูเมิ่งพูดขึ้น จึงกัดฟันทนคลานต่อไป
“เก็บเงินบนพื้นทั้งหมดขึ้นมา”
ลู่น่าไม่ยินยอมลงไปเก็บเงิน
คิดว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว แต่มีเสียงออกคำสั่งอันเย็นชาดังขึ้นมาจากด้านบน: “ส่ายเอวหน่อย ส่ายก้นด้วย อย่าทำเป็นเหมือนปลาสิ”
สีหน้าของลู่น่าซีดเซียวขึ้นมาทันที…คราวนี้ ในที่สุดหล่อนนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาทันที : “สิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ในตอนนี้ เหมือนฉากที่เจี่ยนถงต้องเผชิญในห้อง606ตอนนั้นไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าของหล่อนซีดเผือด ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
แม้ว่าหล่อนจะเป็นเจ้าหญิงของห้องพิเศษนี้ แต่ทำงานสายนี้มาตั้งนาน ยังไม่เคยถูกลูกค้าคนไหนดูถูกเช่นนี้มาก่อน หล่อนยอมรับเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองไม่ได้ หล่อนไม่เหมือนผู้หญิงแบบเจี่ยนถงที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน!
คุณค่าของตัวหล่อนในตงหวงตั้งอยู่ที่นี่ ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับคนชั้นต่ำอย่างเจี่ยนถง
“ไม่ได้ยินสิ่งที่ประธานเสิ่นพูดเหรอ?” ซูเมิ่งพูดย้ำด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ให้เธอส่ายก้นก็ส่ายสิ”
ลู่น่ารู้สึกละอายใจอย่างมาก!
“พี่เมิ่ง!ประธานเสิ่น!ฉันไม่ต้องการเงินพวกนี้อีกแล้ว!” แค่เงินบนพื้นแค่นี้ หล่อนไม่สนใจหรอก! ลู่น่าโมโหจนลุกขึ้นยืน
หล่อนมองไปที่เสิ่นซิวจิ่นด้วยความโกรธเคือง: “ประธานเสิ่น เงินพวกนี้ ฉันลู่น่าไม่เก็บ และไม่เอาแล้ว”
เสิ่นซิวจิ่นค่อยๆเผยอริมฝีปากอันเรียวบางขึ้น พูดขึ้นอย่างช้าๆ : “ใครบอกเงินบนพื้นพวกนี้ เธอเก็บขึ้นมาแล้วจะเป็นของเธอ?”
ลู่น่ากลับสูดหายใจเข้าลึก โกรธจนแทบจะระเบิดออกมา: “ประธานเสิ่น!อย่าคิดว่าคุณเป็นคนใหญ่คนโต แล้วจะดูถูกฉันยังไงก็ได้ ที่ตงหวง ต้องรักษากฎระเบียบของที่นี่ ไม่ว่าเป็นใครใหญ่มาจากไหน ก็ต้องเคารพกฎของที่นี่!”
ทีตงหวง แทบทุกคนที่รู้จักเสิ่นซิวจิ่นประธานเสิ่น แต่แทบไม่มีใครรู้ว่าตงหวงเป็นของเสิ่นซิวจิ่น แน่นอนว่า ตงหวงเป็นแค่ธุรกิจขนาดเล็กของเขาเท่านั้น
“ฮ่าๆๆๆๆ…” ท่ามกลางบรรยากาศเคร่งเครียดในตอนนี้ จู่ๆไป๋ยู่สิงก็หัวเราะจนน้ำตาไหล “ไอ้หยา คุณพระ! น่าสนใจจริงๆ เสิ่นซิวจิ่นมีคนให้นายเคารพกฎกติกาของตงหวง นายจะทำยังไงดีล่ะ?”
เสิ่นซิวจิ่นหัวเราะเบาๆ : “นายพูดได้ไม่เลวเลย” เขามองไปที่ลู่น่า: “ที่ตงหวง ต้องเคารพกฎระเบียบของตงหวง ช่างบังเอิญเสียจริง ที่ตงหวงแห่งนี้ ฉันก็คือกฎระเบียบ”
ลู่น่าไม่เข้าใจความหมายของเขา ซูเมิ่งที่อยู่ด้านข้างพูดเสริมขึ้น : “คลับบันเทิงตงหวงเป็นธุรกิจภายใต้ชื่อของประธานเสิ่น ดังนั้น… ลู่น่า ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็เชื่อฟังและทำตามคำพูดของประธานเสิ่นซะ อย่าทำให้ประธานเสิ่นต้องโมโห”
คราวนี้สีหน้าของลู่น่าซีดจนไม่มีสีแล้ว
………