ระหว่างการได้ร่วมงานกับคุณมิแฟรี่ของเตอร์เมนกรุ๊ปในฝรั่งเศสกับดูแลเสิ่นซิวจิ่น เธอเลือกอันหลัง
หลังจากวิเวียนได้ข่าวเรื่องนี้แล้ว เธอโกรธจนกระหืดกระหอบแล้วโทรศัพท์มาหาเจี่ยนถง”เธอบ้าไปแล้วเหรอ เสี่ยวถง เธอรู้มั้ยว่าสภาพของบริษัทเจี่ยนซื่อตอนนี้เป็นยังไง
ได้!
ไม่พูดไปไกล แม้ในยามรุ่งเรืองของบริษัทเจี่ยนซื่อ ได้รู้จักกับมิแฟรี่ สำหรับบริษัทเจี่ยนซื่อแล้ว มันมีแต่จะดี ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย”
เจี่ยนถงไม่ได้รีบตอบ เธออึ้งไปครู่หนึ่ง “เธอรู้เรื่องมิแฟรี่ได้ยังไง”
วิเวียนหัวเราะเยาะออกมาคำหนึ่ง “เสี่ยวถง ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
แต่เสียดาย ครั้งนี้เธอคิดผิด
ก่อนหน้านี้ คุณคาย์อัน เฟโรกิมาหาเธอที่บริษัทด้วยตนเอง
แน่นอนว่าฉันคงไม่เอาเบอร์ติดต่อของเธอให้กับใครอื่นไปมั่วๆแน่
ตอนที่เขามาหาเธอ ฉันเห็นเขารีบร้อนมาก พอสอบถามแล้วถึงรู้ ที่เขารีบร้อนมาหาเธอก็เพราะเรื่องของมิแฟรี่
การเดินทางและที่อยู่ของมิแฟรี่เอาแน่เอานอนไม่ได้โดยตลอด จะรอเขาปรากฏตัวได้ เดิมที ก็เป็นโอกาสยากเย็นมากอยู่แล้ว
สุดท้าย พอฉันสอบถามอีกที ถึงรู้ข่าวจากคุณคาย์อัน เฟโรกิว่าเธอไม่อยากไปแล้ว”
วิเวียนพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ “เสี่ยวถง ถ้าเกิดเธอไม่สบาย ถึงเธออยากจะไป ฉันเองก็คงต้องห้ามเธอไว้
แต่ตอนนี้ เธอเองก็หายดีแล้ว
ทำไม?”
วิเวียนถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
เจี่ยนถงเม้มปาก”ไม่มีอะไร ก็แค่ฉันไม่อยากไป”
“เธอคิดอะไรอยู่กันแน่!”วิเวียนตะคอกใส่เธอทีหนึ่งก็ตัดสายทิ้ง
หลังจากยี่สิบนาที เสียงกริ่งที่บ้านของเจี่ยนถงดังขึ้นรัวๆ
เธอนึกว่าเป็นอาหารที่เธอสั่งเดลิเวอรี่มาส่ง เลยเดินไปเปิดประตู พอเปิดประตู กลับเป็นวิเวียนที่วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
“เสี่ยวถง ฉันไม่เชื่อเหรอกนะ ว่าเธอไม่มีเหตุผล ก็ได้ทำการตัดสินที่ขาดสติแบบนี้ออกมา”เธอโกรธจนหูปากออกเป็นควัน ก็หยิบแก้วที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาจะดื่ม
ยังไม่ทันจะดื่ม แก้วชาก็ถูกคนแย่งไปซะงั้น
วิเวียนมองคนที่เดินมา อึ้งไปนิดๆ”ประธานเสิ่น?”
เรื่องที่เสิ่นซิวจิ่นถูกยิงบาดเจ็บสาหัสในโรมของอิตาลี ตอนที่เจี่ยนถงรู้ข่าวเธอเองก็รู้แล้ว หลังจากนั้น เจี่ยนถงก็กลับมา นั้นก็แปลว่า เสิ่นซิวจิ่นก็พ้นจากขีดอันตรายแล้ว และกลับมาที่เมืองSแล้ว
เธอแค่รู้สึกตกใจที่เห็นคนคนนี้มาปรากฏตัวที่บ้านพักชั่วคราวของเจี่ยนถง
“ประธานเสิ่น สวัสดีค่ะ……”เธอรีบยื่นมือออกมาจับมือกับเขาด้วยมารยาททางธุรกิจ
“นี่เป็นแก้วน้ำของถงถง เธอห้ามดื่มนะ”คนคนนั้นจองเธออย่างห่างเหิน กอดแก้วน้ำในมืออย่างแน่น ป้องกัน ไม่ให้เธอมาแย่ง
เห็นเสิ่นซิวจิ่นที่เป็นแบบนี้ จู่ๆ ในใจของวิเวียนก็เกิดความแปลกประหลาดขึ้นมา แล้วมองหน้าผู้ชายหลายทีด้วยสายตาแปลก เจี่ยนถงพยายามบังสายตาของวิเวียนไว้ “เธอกลับไปก่อนเถอะนะ มีธุระอะไร รอไปที่บริษัทแล้วเราค่อยคุยกัน”
อาการประหลาดใจของวิเวียน เขามาแวบเดียวแล้วหายไป แล้วมองหน้าเจี่ยนถง……นี่เธอกำลังไล่ตัวเองงั้นเหรอ?
“เสี่ยวถง!ฉันทนนานขนาดนั้นไม่ไหวเหรอกนะ
วันนี้ เธอต้องให้เหตุผลฉันมา โอกาสดีขนาดนี้ ทำไมเธอถึงไม่คว้าเอาไว้?นี่ไม่ใช่นิสัยเธอ”เพื่องานแล้ว เจี่ยนถงสามารถไม่หลับไม่นอนติดต่อกันหลายวัน ไม่มีวันปล่อยโอกาสดีแบบนี้หลุดมือไปแน่ สำหรับบริษัทเจี่ยนซื่อแล้ว เป็นโอกาสดีที่ได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส แต่เธอกลับปล่อยมันไปง่ายๆ
ต้องมีสาเหตุอะไรที่ตัวเองไม่รู้แน่
“ถงถง อาซิวหนาวครับ”เสียงหน่อมแน้มของผู้ชายได้ขาดจังหวะความคิดของวิเวียนทันที
ฟังเสียงพูดจาออดอ้อนแอ๊บแบ๊วของเขาแล้ว เธอแทบอ้าปากค้าง
เจี่ยนถงจับเสิ่นซิวจิ่นไว้ได้แล้ว “นายกลับไปที่ห้องก่อน”เธอข่มเขาด้วยเสียเบา
เธอได้แต่กล่อมให้เสิ่นซิวจิ่นเข้าไปที่ห้องนอนก่อน เรื่องที่เขาสูญเสียความทรงจำ ยิ่งคนรู้น้อยมากเท่าไหร่ยิ่งดี เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่า วิเวียนจะจู่ๆวิ่งมาที่บ้านของเธอ
ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจวิเวียนเหรอกนะ แต่ว่าเรื่องนี้ คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งปลอดภัย
“เสี่ยวถง เขา……เขาคือประธานเสิ่นใช่มั้ย?”วิเวียนเป็นคนฉลาดหลักแหลมมาก เธอสังเกตความผิดปกติได้ทันที เธอยื่นมือไปจับแขนของเจี่ยนถงไว้ มืออีกข้างทำท่าทาง”สมองมีปัญหา”ที่ขมับ
“ไม่……”
“ถงถง หนาว อาซิวหนาว”
เจี่ยนถงแทบอยากจะโยนไอ้หมอนี่ที่สร้างปัญหาให้เธอออกไปซะเลย
“ไม่นะ เขาที่นี่……จริงเหรอ”
“พอได้แล้ว วิเวียน”เจี่ยนถงทำหน้าบึ้ง
เธอไม่ชอบให้คนอื่นมาพูดว่าคนคนนี้สมองมีปัญหา ไม่รู้ทำไมก็คือไม่ชอบ
แต่เห็นว่าปิดวิเวียนไม่ได้แล้ว ขืนแก้ตัวต่อ ยิ่งจะเลอะเทอะไปกันใหญ่
เธอเม้มปากจนแน่น แล้วเข้าไปเทน้ำให้คนคนนั้นแก้วหนึ่งในห้องครัวแล้วเข้าไปหยิบเสื้อกันหนาวตัวหนามาตัวหนึ่ง “ไม่สบายก็นอนพักผ่อนซะ ใครเรียกนายออกมา?”
วิเวียนทำหน้าเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น เจี่ยนถงสงสายตาให้เธอ “นั่งสิ”
เธอถึงยอมนั่งลงที่โซฟาด้วยและระหว่างนั้นก็มองเสิ่นซิวจิ่นที่ดื่มน้ำอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆราวกับเห็นผีไปด้วย เธอฉลาดขนาดนั้น เข้าใจเรื่องหนึ่งทันที
“เสี่ยวถง เธอคงไม่ได้เป็นเพราะเขา ถึงยอมปล่อยโอกาสที่ได้ใกล้ชิดกับมิแฟรี่เหรอกนะ?”
เจี่ยนถงไม่พูด
วิเวียนใจร้อนทันที”เจี่ยนถง เธอเพื่อเขางั้นเหรอ?เธอบ้าไปแล้วใช่มั้ย!”
เจี่ยนถงหันไปพูดกับเสิ่นซิวจิ่นก่อน “นายเข้าไปที่ห้องนอนก่อน ทำตัวเป็นเด็กดีนะ”คนคนนั้นพูดอย่างไม่เต็มใจ”ครับ”คำหนึ่ง แล้วจากไป
เธอถึงพูด
“เขาไม่สบาย เป็นไข้สูง ฉันไม่สามารถไปได้”
“เขาไม่สบาย เธอก็เลยยอมปล่อยโอกาสหายากแบบนี้หลุดมืองั้นเหรอ?”วิเวียนโกรธจนหัวเราะออกมา
“เขาก็แค่เป็นไข้!”
วิเวียนยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ ยิ่งพูดแล้วยิ่งโมโห หน้าอกขึ้นลงอย่างแรง
“เขาไม่สบาย สามารถหาคนมาดูแลเขาก็ได้หนิ
เธอสามารถส่งเขากลับไปที่บ้านตระกูลเสิ่นก็ได้หนิ
มีวิธีตั้งมากมาย แต่เธอกลับอยู่เพื่อเขา
เธอรู้มั้ย โอกาสที่เธอสละไป ไม่ใช่แค่โอกาสที่ได้ใกล้ชิดกับคุณมิแฟรี่เพียงอย่างเดียว
แต่ที่เธอสละไป มันคือโอกาสของพนักงานบริษัทเจี่ยนซื่อทุกคน!
เธอปล่อยให้พนักงานทั้งหมดของบริษัทเจี่ยนซื่อต้องสละเส้นทางลัดและง่ายไปพร้อมเธอ แต่กลับเลือกอีกเส้นทางที่อันตรายและยากเย็น
เสี่ยวถง ครั้งนี้ เธอทำให้ฉันผิดหวังมาก”
ถ้าหากเธอไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงของบริษัทเจี่ยนซื่อล่ะก็ เธอก็คงไม่ใจร้อนขนาดนี้
เห็นเส้นทางลัดอยู่ต่อหน้าต่อตา กลับบอกว่าไม่ไปอย่างง่ายดายแบบนี้
เจี่ยนถงเงียบ จู่ๆ วิเวียนก็ลุกขึ้น
“เสี่ยวถง เธอโดนของแล้ว!เสียสติบ้าไปแล้ว!เธออย่าลืมนะ ที่ผ่านมาเขาทำอะไรกับเธอบ้าง!”วิเวียนเห็นจู่ๆสีหน้าของเจี่ยนถงก็เศร้าหมอง ตระหนักได้ว่าตัวเองพูดแรงไปหน่อย แต่ว่าเวลานี้ สิ่งที่เธอโกรธมากที่สุดก็คือความไม่เอาไหนของเจี่ยนถง
“สิ่งที่เขาทำกับเธอ มีเรื่องไหนบ้างที่มันไม่ผิดหรือบาป มันมากมายจนยากจะให้อภัย มีเรื่องไหนบ้างที่ทำให้เธอคุ้มค่าที่จะสละโอกาสดีที่ได้พบคุณมิแฟรี่ไป เขาเคยรู้สึกผิดและขอโทษเธอจากปากของเขาเองมั้ย?
เขาเคยพูดว่ารักเธอจากปากของเขาเองมั้ย?
และที่สำคัญ ตอนนี้ เขากลายเป็นสภาพแบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าจะกลับมาปกติได้เมื่อไหร่?
หรือว่าเธอจะดูแลเด็กคนหนึ่งทั้งชีวิตแบบนี้น่ะเหรอ?!”
แต่ละคำเหมือนดาบคมที่ทิ่มแทงหัวใจ และทิ่มโดนจุดสำคัญทุกที่!
ร่างกายของเจี่ยนถงสั่นคลอนเล็กน้อยโดยที่สังเกตไม่ออก มือเธอรีบจับโซฟาไว้ ถึงทำให้ตัวเองไม่ต้องถึงขั้นยืนไม่ไหว……หลังจากเขาเป็นแบบนี้ คำพูดที่เธอแอบซ่อนไว้ในใจ กับความจริงที่เธอพยายามหลบเลี่ยง ถูกวิเวียนยกออกมาพูดอย่างไม่ไว้หน้า
เธอก้มหน้าเอาไว้ เหมือนสูญเสียจิตวิญญาณไปทั้งคน
เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา”วิเวียน ถ้าเขากลับมาปกติ ฉันกลับสามารถปฏิบัติกับเขาอย่างเย็นชาได้ เสิ่นซิวจิ่นที่เป็นปกติ ฉันเคียดแค้นอยู่ตลอด ไม่มีทางให้อภัยได้ หวังว่าได้เจอหน้าคนคนนี้อีกครั้งคือตอนอยู่นรก”
คนคนนี้ถ้าเป็นเสิ่นซิวจิ่นที่ปกติคนนั้น เรื่องความโกรธแค้นเป็นเรื่องของสองคน เธอโกรธเขา แค้นเขา เขาก็ควรรับมันไว้
แต่คนคนนี้กลับสติไม่ปกติ เขาลืมความแค้นความเกลียดชังไปจนหมด ความแค้นทั้งหมดกลับเป็นเรื่องของเธอคนเดียวไปแล้ว เธอเกลียดเขาแค้นเขา เขาไม่เข้าใจ ยังมาถามเธออย่างมึนงงว่าทำไมต้องเกลียดเขาด้วย เธอกลับไม่สามารถเอาเรื่องที่สกปรกโสโครก ต่ำช้าและความเก็บกดมาพาลใส่เด็กที่สติปัญญาแค่แปดขวบเหรอกนะ……ถึงจะแย่แค่ไหน เธอก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้
“สติเขาไม่ดี เสิ่นซิวจิ่นที่สติไม่ดี ไม่ใช่เสิ่นซิวจิ่นในอดีต เสิ่นซิวจิ่นที่สติไม่ดี ใช้ทุกวิธีที่เขาสามารถนึกออกได้ทำดีกับเธอ ถึงเขาจะดูปัญญาอ่อน แต่ก็ดีกับฉันเจี่ยนถงคนนี้ ไม่เกี่ยวกับใครอื่น
ฉันยอมรับ ว่าฉันมันโลภ
โลภในความอบอุ่นที่มาจากเด็กอายุแปดขวบ วิเวียน……เธอจะให้ฉันทำยังไง?จะให้ฉันผลักความ’อบอุ่น’ที่มีอันน้อยนิดนี่ออกไปกับมือเองงั้นเหรอ?”
“ถ้าจะเกลียดจะแค้นจริง นั่นมันก็ควรจะเกลียดแค้นคนปกติคนนั้น ไม่ใช่เด็กแปดขวบที่เป็นอยู่ตอนนี้”