Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 307 คนไหนคือเขาที่แท้จริง

เที่ยวบินไฟลท์กลางคืน ยังไม่ถึงสามชั่วโมง ก็มาถึงเมือง S เมื่อออกจากเครื่องบิน ก็เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว

จากใต้สู่เหนือ ตอนเธอออกมาจากวิลล่าเยว่หรงเพราะจากไปอย่างเร่งรีบ จึงลืมเปลี่ยนเสื้อผ้า ทันทีออกจากสนามบิน ลมหนาวพัดเข้าไปในคอเสื้อ

วิเวียนยังไม่ได้นอน เจี่ยนถงลงจากเครื่องบิน จึงเปิดมือถือ หลังจากนั้นไม่นาน ก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับเป็นจำนวนมาก และยังมีข้อความอีกมากมาย

ถ้าไม่เห็นก็จะไม่นึกถึง นิ้วเลื่อนไป เลื่อนมาถึงข้อความหนึ่ง

ทันใดนั้น ความรู้สึกที่เยือกเย็น ก็อบอุ่นขึ้น

เป็นวิเวียน “ยังไม่นอน?”

“เครื่องลงแล้วเหรอ? เดี๋ยวฉันจะไปรับคุณ”

“ไม่เป็นไร ฉันอยู่บนแท็กซี่แล้ว”

วางมือถือลง ริมฝีปากของเธอโค้งด้วยความประชดประชันอย่างไม่อาจเลี่ยงได้

คนที่เรียกว่าครอบครัวเหล่านั้น ยังสู้เพื่อนต่างสายเลือดไม่ได้เลย

ข้อความหนึ่งขู่เข็ญเธอ ต่อว่าเธอ เคียดแค้นเธอ ส่วนอีกข้อความหนึ่งรอเธอกลับมา เพื่อไปรับเธอที่สนามบิน

เมื่อไม่มีการเปรียบเทียบ จะไม่มีทางรับรู้ได้จริงๆ เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่ความเงียบของเธอ กลับเป็นผู้ช่วยทำร้ายพวกเขา……ผิดหรือเปล่า?

เธอ ทำผิดเหรอ?

ระหว่างทาง หญิงสาวเอาแต่คิดทบทวน หรือเป็นเพราะในตอนแรกเธอผิดพลาดอย่างอ่อนแอ

จนเมื่อคนขับหยุดรถ ” ถึงแล้วครับ”

เธอจึงได้สติกลับมา ตึกสูงที่คุ้นเคย บรรยากาศที่คุ้นเคย เงยหน้ามองชั้นที่ตนเองอาศัยอยู่โดยไม่รู้ตัว

ไม่มีแสงสว่าง และความมืดรอบด้าน รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ดูเหมือนว่า เขาคนนั้นหลับไปแล้ว ก็จริง ทำไมเขาจะต้องรอคนไกลกลับบ้านด้วย

เปิดประตูรถ เดินลงไป

ขึ้นลิฟต์ มาถึงหน้าประตูบ้าน

เปิดประตูเบาๆ

เธอไม่ได้กดสวิตช์บนผนัง อาศัยแสงไฟจากถนนที่ลอดเข้ามาทางระเบียง แสงไฟสลัว แต่เพียงพอกับสภาพแวดล้อมที่เธอคุ้นเคย เดินอย่างมองเห็นอะไรไม่ชัด

มองเห็นเงาเฟอร์นิเจอร์รางๆ ในห้อง

กลับมาจากซานย่า จนเข้ามาในบ้าน ถึงจะถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย เธอเดินไปที่ห้องรับแขก ทิ้งกระเป๋าเป้ในมือ ทำตัวเหมือนวัตถุทรงกลมขนาดใหญ่ไร้กระดูก เตรียมทิ้งตัวลงบนโซฟา

ถึงจะเห็นว่า บนโซฟามีเงาคนตะคุ่มๆ อยู่

หรี่ตาลงทันที จ้องมองสังเกตให้ดีอีกครั้ง……ไม่ใช่เหมือน นั่นเป็นคน

เส้นประสาทตึงเปรี๊ยะ ขยับเข้าไปอย่างเงียบๆ กลิ่นที่คุ้นเคย สูดดมเข้าไป นั่นคือกลิ่นแชมพูในห้องน้ำของเธอ

……เป็นเขา

คาดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ประหลาดใจ และไม่ได้เรียกเขาซึ่งผิดไปจากปกติ

เดินเข้าไปเงียบๆ ยืนข้างโซฟา มองอยู่เงียบๆ เขาคนนั้นนอนหนุนแขนตัวเองอยู่บนโซฟา

เธอไม่รบกวน หันตัวเดินไปห้องนอน นำผ้าห่มมาห่มให้

อาจเพราะเคลื่อนไหวแรงไปหน่อย คนบนโซฟาขยับ พลิกตัว และนอนต่อ

ในขณะที่เธอหันตัว มองเห็นเคาน์เตอร์ด้านข้าง มีกับข้าววางอยู่ เหมือนตะปูตอกเท้า ตอกเอาไว้กับที่ มองกับข้าวบนโต๊ะ ยื่นมือออกไป……ร้อนอยู่?

แววตาตกตะลึงแวบหนึ่ง

“ถงถง?”

ด้านหลัง เสียงอู้อี้ดังขึ้น เขาคนนั้นอาจจะเพิ่งตื่น ร้องเรียกอย่างนุ่มนวล

เธอไม่ตอบ

“ถงถง นี่ฉันฝันอีกแล้วเหรอ?”

“?”

กลับมองเห็นเขาหยิกมือตนเอง ส่งเสียงแหบแห้งออกมา “ไม่ใช่ความฝัน ถงถง เธอกลับมาแล้ว?”

“เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“หิวไหม?”

“อาซิวตักข้าวให้นะ”

เธอยืนอยู่กับที่ไม่ขยับ มองดูเขาลุกขึ้น เปิดโคมไฟ เต็มไปด้วยแสงอบอุ่นสาดส่องลงมาทันที เขาคนนั้นตักข้าวให้เธอไปพลาง พร้อมกับพูดเจื้อยแจ้ว

“ถงถงไม่รู้เหรอ อาซิวทำกับข้าวได้ตั้งหลายอย่าง เรียนมาจากในโทรทัศน์”

สายตากวาดมอง ชามข้าวสวยบนเคาน์เตอร์ตรงหน้าเธอ ยังมีไอร้อนออกมา

“วิเวียนบอกว่านายกินเก่ง วิเวียนหลอกฉันหรือเปล่า?

นายเพิ่งจะกินข้าวตอนดึกเนี่ยนะ?”

“เปล่านะ

อาซิวกินแล้ว กินตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มืด”

กินตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มืด?

เธอทำหน้าจริงจังทันที “โกหก กับข้าวยังร้อนอยู่เลย ฟ้ามืดถึงตอนนี้ กับข้าวจะยังร้อนอยู่เหรอ?”

น้ำเสียงของเธอเฉียบขาด

เขาคนนั้นทำหน้าน้อยใจ “อาซิวไม่ได้โกหกนะ

อาซิวกินก่อนหน้านี้นานแล้ว”

“งั้นฉันก็ไม่รู้ว่า ชามในบ้านของฉัน มีฟังก์ชันรักษาอุณหภูมิ” พูดอย่างเยาะเย้ย

ใบหน้าเขาคนนั้นเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “อาซิวไม่ได้โกหก อาซิวไม่มีทางโกหกถงถง”

“อา งั้นนายบอกฉันมา นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

“มันร้อน พอเย็นแล้ว อาซิวก็เอาไปทำให้ร้อนใหม่”

ถึงแม้จะพูดไม่ชัดเจน แต่หญิงสาวเข้าใจ

ใจสั่นฉับพลัน…… “นาย……กับข้าวเย็นแล้ว นายก็ทำให้ร้อนใหม่?……เพราะอะไร?” เธอควบคุมหัวใจที่เต้นแรงกะทันหัน จ้องมองคนตรงหน้า ตาไม่กะพริบ

มีคำตอบหนึ่ง พรั่งพรูออกมานานแล้ว

หญิงสาวคลึงฝ่ามือ ในฝ่ามือนั้น กลับชุ่มเหงื่อโดยไม่ทราบสาเหตุ

ไม่คิดว่า……เธอตื่นเต้นจนเหงื่อออก?

เหลือเชื่อเกินไป

“รอถงถง”

เมื่อสามคำนี้ ลอยเข้าไปในหู หัวใจของเธอที่เต้นแรงมาก หยุดเต้นกะทันหัน

ก้มลง ถามอย่างใจเย็น “วิเวียนบอกนายเหรอ?ว่าคืนนี้ฉันจะกลับมา?”

เขาคนนั้นส่ายหน้า

เธอเม้มปาก “งั้นนายรู้ได้ไงว่าวันนี้ฉันจะกลับมา?”

“ไม่รู้ว่าถงถงจะกลับมาวันนี้”

เขาหมายความว่าอะไร?

ไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาวันนี้ กลับทำกับข้าวไว้บนโต๊ะ เย็นก็เอาไปอุ่นร้อน ร้อนจนเย็น ก็เอาไปอุ่นร้อนอีกครั้ง?

“ฉันคิดว่า ถ้าถงถงกลับมา จะได้กินกับข้าวร้อนๆ ” เขาคนนั้นตอบ

คำตอบกล้ำกรายเข้าสู่สมองอย่างนึกไม่ถึง เธอดูเหมือนใจเย็น กลับลุกลี้ลุกลน ลองถามหยั่งเชิง “นายทำกับข้าวทุกวัน……เพื่อฉัน?”

“ใช่แล้ว”

ฝ่ามือของเธอตึงเปรี๊ยะทันที

เสิ่นซิวจิ่น นายอย่าแน่วแน่แบบนี้ได้ไหม!

“ทุกวันกับข้าวเย็นแล้วก็อุ่นร้อน วางไว้ให้เย็นแล้วก็อุ่นร้อนอีก?”

“อืม!” เขาคนนั้นพยักหน้าจริงจัง “ฉันอยากให้ถงถงกลับมาได้กินกับข้าวร้อนๆ ที่อาซิวทำ”

จู่ๆ เธอก้มหน้าลง ถ้าเป็นไปได้ เธอไม่อยากยอมรับว่า ในขณะนี้ สิ่งนี้กวนใจเธอ และทำให้เธอลังเลอย่างคาดไม่ถึง!

หยิบชามและตะเกียบบนโต๊ะ เธอค่อยๆ กินทีละคำ

ความจริงแล้ว รสชาติของกับข้าว ค่อนข้างแย่

เขาคนนี้ไม่มีพรสวรรค์ในการทำอาหาร แต่จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่า อาหารในปาก วันนี้มีกลิ่นหอมด้วยซ้ำไป

บ้าไปแล้ว!

เจี่ยนถง เธอบ้าไปแล้ว!

ในใจร้องตะโกนคำนี้ อาหารบนโต๊ะ เธอกินหมดเงียบๆ คนเดียว

เมื่อเอนกายบนเตียง คืนนี้จิตใจว้าวุ่นมาก เธอเข้าห้องนอน เขาคนนั้นก็ทำตาม เลียนแบบทุกอย่าง ติดตามเข้ามา ในมือยังถือผ้าห่มที่เธอเพิ่งจะกอดไปห้องรับแขก

ในครั้งนี้หญิงสาวไม่ได้ดุด่าให้เขาออกไป ผู้ชายที่เหมือนเด็กคนนั้น ลูกตาดำขลับของเขา ส่องประกายอย่างรวดเร็ว เปล่งประกายไปด้วยความสุข

หญิงสาวนอนอยู่บนเตียง ในใจว้าวุ่นกลายเป็นหม้อโจ๊ก

คิดถึงความเปลี่ยนแปลงของคนนี้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา นึกถึงคืนนั้น การรับรู้ต่อโลกใบนี้ของเขาหยุดชะงัก กลับยังคงซ่อนเธอเอาไว้ใต้ร่างกาย เผชิญหน้ากับคนชั่วร้าย รับไม้เบสบอลแทนเธอ

เขาสามารถหนีไปได้ แต่ไม่ทำ

นึกถึงเขาคนนี้ที่ตื่นมากลางดึก ช่วยทำให้ขาเธออบอุ่น……แท้จริง คนไหนคือเสิ่นซิวจิ่น?

อีกด้านของเตียงจมลง หญิงสาวตัวแข็ง คิดจะตวาดออกไปอย่างเย็นชา แต่สุดท้าย ก็หุบปากลงฉับพลัน แค่กอดผ้าห่มตนเอง ขยับหนีอีกฝั่งของเตียง พูดอย่างเย็นชา

“นอนใครนอนมัน ห้ามมาฝั่งฉัน และยิ่งห้ามโดนตัวฉัน ไม่อยากนั้นฉันจะไม่ต้องการนาย”

เขาคนนั้นอ้าปากหาว เอ่ยถามอย่างน่าเอ็นดู

“อาซิวเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ถงถงยังจะไม่ต้องการอาซิวอีกเหรอ?”

หญิงสาวหน้าตึ้งทันที……จู่ๆ เธอก็ถูกเด็กที่เหมือนกับเสิ่นซิวจิ่น ทำให้งงงัน

พูดเสียงแข็ง “รีบนอน ถ้ายังกล้าพูดมากอีก จะจับนายโยนออกไป”

เป็นไปตามคาดเขาคนนั้นไม่พูดอะไรอีก

ในไม่ช้า เสียงลมหายใจลึกดังมาจากอีกฝั่งของเตียง หญิงสาวหันกลับมาช้าๆ จ้องมองใบหน้าของคนข้างกายที่โผล่ออกมานอกผ้าห่ม ในสายตาของเจี่ยนถง มีความซับซ้อนไม่สามารถบรรยายได้

เหลือบดูเวลา เปรียบเทียบกับเวลาของทางฝั่งอิตาลี หญิงสาวลุกขึ้น เดินออกจากห้องนอนเงียบๆ

“ไป๋ยู่สิง เรื่องทางนั้น ราบรื่นไหม?” เธอถามปลายสาย

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้คาดหวังให้เธอโทรมา

“ใกล้ถึงเวลาจั่วไพ่ของอีกฝ่ายแล้ว”

“มีเรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่า ฉันจำเป็นต้องบอกคุณ” เจี่ยนถงพูด “หลายวันก่อนท่านแก่เสิ่นเรียกพบฉัน เขาลองถามหยั่งเชิง ซึ่งฉันคิดว่า เขาอาจจะสงสัยแล้ว

เขา……สูญเสียความทรงจำ ถ้าไม่สามารถนึกออก เกรงว่า ท่านแก่เสิ่นจะลงมือ

อีกอย่าง ร่องรอยของลู่หมิงชูกับเซียว……เซียวเหิง ก็จำเป็นต้องติดตาม รู้จักสองคนนี้ดี ต่างรู้ว่า แต่ไหนแต่ไรสองคนนี้ไม่ลงรอยกัน แต่ตอนนี้กลับไปมาหาสู่สนิทสนมอย่างผิดปกติ ตัวตนของลู่หมิงชู เป็นอะไรที่พิเศษ”

“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะบอกซีเฉิน ในกรณีที่เรื่องทางฝั่งของผมกับเสิ่นเอ้อคลี่คลาย จะกลับประเทศทันที”

“นั่นดีมาก เขา……อยู่กับฉันที่นี่ อยู่มานานพอแล้ว” หญิงสาวเตรียมไล่คนอย่างนิ่มนวล

ทางฝั่งปลายสาย ไป๋ยู่สิงได้ฟังก็เลิกคิ้วขึ้น “โอ้~ เป็นแบบนี้นี่เอง~”

“ได้ยินว่าเจี่ยนซื่อกรุ๊ปกับเตอร์เมนกรุ๊ปทำความร่วมมือกัน มิแฟรี่มาเซ็นสัญญาเองเลยรึ?”

“คุณเฝ้าติดตามฉันรึไง?” วันนี้ตอนกลางวันเพิ่งบรรลุข้อตกลงความร่วมมือ ยังไม่ได้ปล่อยข่าวออกไปภายนอก ไป๋ยู่สิงที่อยู่ไกลถึงอิตาลีกลับรู้ก่อน?

หลอกใคร?

“เฝ้าติดตาม?

ผมอยู่อิตาลี จะไปเฝ้าติดตามได้ยังไง?

คิดมากเกินไปแล้ว

ผ่อนคลายสักหน่อย ผมแค่จะบอกคุณว่า มิแฟรี่คนนี้ เน้นความเป็นเลิศชอบพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และนอกจากนี้ ไม่เคยเสียเปรียบ

คุณร่วมมือกับเขา ต้องเตรียมใจให้ดี ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องทำได้เพอร์เฟค ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ไม่อย่างนั้น คุณรอมิแฟรี่ฉีกสัญญาได้เลย

เขาคนนี้ไม่สนใจเรื่องเงิน

แต่ชื่อเสียงของเตอร์เมนกรุ๊ปในอุตสาหกรรม ถ้าพวกเขาฉีกสัญญา คาดว่าต่อไปเจี่ยนซื่อกรุ๊ปจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เข้าสู่สถานการณ์ที่น่าอับอายซึ่งไม่มีใครสนใจ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ฝ่ายที่ถูกเคลือบแคลง มีเพียงเจี่ยนซื่อกรุ๊ป”

เจี่ยนถงไม่โต้เถียง สิ่งที่ไป๋ยู่สิงเรียนมาคือหมอ แต่สำหรับการค้า กลับตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นในครอบครัว คนที่สามารถเคียงข้างเสิ่นซิวจิ่นได้ จะมีบทบาทธรรมดาๆ ได้อย่างไร

“คุณเคยคบค้ากับมิแฟรี่มาก่อน?”

ปลายสาย ไป๋ยู่สิง “เอ่อ” พูดอย่างไม่ชัดเจน “ก็……ประมาณนั้น”

“แค่นี้ก่อนนะ ผมมีธุระ” ไป๋ยู่สิงรีบพูด และวางสายไป

เจี่ยนถงหาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ง่วงนอนสุดๆ หันตัวเข้าห้องนอน

จับผ้าห่มและสอดตัวเข้าไป ช่วงต้นหนาว อากาศเย็นมาก

ความอบอุ่นภายในเตียง ขจัดความหนาวเย็นที่ติดมาจากห้องรับแขกเมื่อสักครู่

เส้นแบ่งตรงกลางบนเตียง แบ่งแยกชัดเจน……ต่อมา เธอรู้สึกตัวว่า มีเพียงเธอที่คิดว่า “ชัดเจน” เพียงแต่ หลอกตัวเองและผู้อื่น ในขณะนี้ เธอยังคงหลอกตัวเองและผู้อื่น และยังไม่เข้าใจตัวเอง

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset