บทที่ 84 เสี่ยวถงเธอสบายดีมั้ย
การจากไปของคาย์อัน ก็ได้นำเอาวิญญาณของเจี่ยนถงที่ถูกฉุดขึ้นมาจากนรกอย่างยากลำบากไปด้วยอย่างสิ้นเชิง
การที่ไปกระตุ้นบาดแผลของคนคนหนึ่งซ้ำๆ ที่จริงแล้วก็คือเป็นการเพิ่มร่องรอยสำหรับตัวเองบนตัวคนคนนั้น
คาย์อันเป็นผู้ยอดเชี่ยวชาญด้านความรัก เขาเข้าใจอย่างดี ที่เขาไปแตะบาดแผลของเจี่ยนถงบ่อยๆ และไปกระตุ้นบาดแผลของเธอซ้ำๆ สำหรับเจี่ยนถงแล้ว มันทำให้ความคิดและความเคยชิน พฤติกรรมของเธอค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว เจี่ยนถงไม่รู้ แต่คาย์อันรู้อยู่แก่ใจดี
ยิ่งน่าแค้นก็คือ ทุกครั้งที่เธอตั้งใจทำบะหมี่ให้รสชาติเปรี้ยวหรือเผ็ดจัด ถึงเขาจะทานเผ็ดไม่ได้ แต่ทุกครั้ง เขาก็จะทานจนหมดเกลี้ยงไม่ให้เหลือ
เพราะฉะนั้น เกมไล่ล่าเหยื่อเกมนี้เขาเป็นฝ่ายชนะ และชนะอย่างขาดลอย ไม่มีที่ว่างสำหรับให้เจี่ยนถงได้ทำใจเลย
……
“เงินหามาครบหรือยัง?”
วันที่สอง ซูเมิ่งเรียกเจี่ยนถงไปหาที่ออฟฟิศ
เจี่ยนถงส่ายหัว
ซูเมิ่งขมวดคิ้วขึ้น “เธอไม่ได้เอ่ยปากกับเขาเหรอ?”
เจี่ยนถงส่ายหัวเหมือนเคย
ซูเมิ่งเข้าใจทันที
“ความคิดของคนรอย คนธรรมดาอย่างเราไม่มีวันเข้าใจได้หรอกนะ เจี่ยนถง เธอรู้สึกเสียใจมั้ย?”เห็นชัดว่าซูเมิ่งคงเดาอะไรออกแล้ว “เจี่ยนถง ฉันมีข่าวร้ายจะบอกเธอ เมื่อกี้ประธานเสิ่นโทรมา บอกว่าเขาจะเข้ามาสายหน่อย
และฉันก็มีข่าวดีจะบอกเธออีก เธอยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงที่จะหาเงินมาให้ครบ”
ซูเมิ่งหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา “เจี่ยนถง เงินห้าแสนฉันมี แต่ฉันไม่กล้าให้เธอ”ซูเมิ่งเป็นคนตรงมาก เธอไม่ได้รู้สึกผิดต่อเจี่ยนถง เพราะที่เธอช่วยเจี่ยนถงปกปิดเงินก้อนนี้ถือว่าที่สุดที่เธอสามารถช่วยได้แล้ว
“ขอบคุณมากเลยนะคะพี่เมิ่ง ฉันรู้ค่ะ พี่ช่วยฉันมาเยอะแล้ว คนอย่างประธานเสิ่น……ฉันรู้ดี เพราะฉะนั้น ถ้าฉันเป็นพี่ ฉันก็คงทำอย่างที่พี่ทำเหมือนกันค่ะ”
……
เธอกำลังขึ้นลิฟต์ แล้วประตูลิฟต์ก็เปิดออก ข้างนอกมีคนคนหนึ่งยืนอยู่ เจี่ยนถงเห็นแล้วแข็งทื่อไปทั้งคน
คนที่ยืนอยู่ข้างนอกก็มองเจี่ยนถงอย่างตกตะลึง ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก
“เสี่ยวถง……”คนที่ยืนอยู่ข้างนอกเรียกชื่อเธอขึ้นเบาๆอย่างตกใจ
ฟูด!
สีหน้าของเจี่ยนถงขาวซิดในทันที “คุณผู้ชายคะ คุณคงทักผิดคนแล้วค่ะ ฉันไม่ใช่เสี่ยวถงคนที่คุณรู้จัก ไม่ใช่ค่ะ”
เธอพูดจบ ก็รีบเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดประตู
“เดี๋ยวก่อนครับ รอก่อน!”คนทียืนอยู่ข้างนอกรีบเบียดเข้ามาแล้วจับมือของเจี่ยนถงไว้อย่างรีบร้อน “เสี่ยวถง เสี่ยวถง เธอคือเสี่ยวถงฉันจำไม่ผิดแน่”
“ฉันไม่ใช่ค่ะ คุณคะ คุณทักผิดคนแล้วค่ะ”
“เสี่ยวถง ถึงเธอจะกลายเป็นขี้เถ้า ฉันก็ยังจำเธอได้ เสี่ยวถง พี่ขอโทษเธอนะ……”
คำว่า“พี่”หัวใจของเจี่ยนถงถึงกับสั่นสะท้าน
“ฉันไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณ”
“เสี่ยวถง เธอเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย?พี่คิดถึงเธอมากเลยนะ พี่มันไม่ดีเอง พี่ขอโทษ ทุกวันนี้ พี่รู้สึกผิดต่อเธอมาก เสี่ยวถง เธออยู่ในคุก……ที่ตรงนั้น มีใครรังแกเธอมั้ย ทำไม ทำไมถึงได้สภาพโทรมขนาดนี้?”
คนคนนั้นจับไหล่ของเจี่ยนถงไว้จนแน่นแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “ให้พี่ได้ดูหน้าเธอดีๆหน่อย เสี่ยวถงของพี่ผอมไปเยอะเลยนะ……”
“หยุดพูดได้แล้ว!ฉันบอกไปหุบปากไง!”อารมณ์ของเจี่ยนถงควบคุมไม่ได้อีกต่อไป……เขาพูดเหมือนกับห่วงใยเธอมากแบบนี้ออกมาได้ยังไง?
“พี่คิดถึงฉันงั้นเหรอ?รู้สึกผิดต่อฉันงั้นเหรอ?เวลาสามปี สามปีมานี้ พี่และคนในตระกูลเจี่ยนเคยมาเยี่ยมฉันสักครั้งมั้ย?
ฉันสบายดีมั้ยเหรอ?ฉันสบายหรือเปล่า พี่ดูเองไม่เป็นเหรอ?”
แถมยังมาถามว่ามีใครรังแกฉันมั้ย?
ฮ่าๆๆๆ……
“เสี่ยวถง พี่ขอโทษ……”
ไม่มีใครต้องการคำขอโทษจากเขา?
“ในเวลาสามปีนี้ ขอแค่พี่กับคนในตระกูลเจี่ยนมีใครสักคนมาเยี่ยมฉันที่คุกบ้าง ฉันก็รู้สึกซาบซึ้งแล้ว เพราะฉะนั้น คุณเจี่ยน ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกนะคะ ระหว่างเรา ไม่มีอะไรที่ต้อง‘ขอโทษ’เชิญคุณหลบไปหน่อยค่ะ อย่ามาขวางทางหาเงินขอฉัน”
“หา……เงิน?หาเงินอะไร?”พี่ชายของเจี่ยนถง เจี่ยนโม่ป๋ายทำหน้ามึนงง
จู่ๆเจี่ยนถงก็หันหน้ามาแล้วหัวเราะให้พี่ชายของเธอ “ก็หาเงินจากผู้ชายไงล่ะคะ คุณชายเจี่ยน คุณนึกว่าที่ฉันอยู่ที่ตงหวง คือมาเที่ยวเหมือนคุณงั้นเหรอคะ?
คุณชายเจี่ยน คุณคิดผิดไปแล้วค่ะ ฉันทำงานที่นี่ เงินที่ฉันหาก็คือเงินที่คอยเอาใจลูกค้า ทำให้ลูกค้าดีใจ‘เงินแบบนั้นไงล่ะคะ’!”
เจี่ยนโม่ป๋ายทั้งโกรธทั้งโมโห ราวกับเขาไม่รู้จักเจี่ยนถงอย่างไรอย่างนั้น “เสี่ยวถง เธอหาเงินแบบนั้นได้ยังไง?เธอมาทำงานแบบนี้ได้ยังไง?เธอทำไมถึงได้ทำตัวเหลวแหลกแบบนี้!”
“เธอโกหกพี่ใช่มั้ย เสี่ยวถง พูดมาสิ เธอโกหกพี่ใช่มั้ย?เธอเป็นคนมั่งใจในตัวเองมาก เธอกล้าเชิดหน้าต่อหน้าของเสิ่นซิวจิ่นอย่างเย่อหยิ่ง ฉันไม่เชื่อหรอกว่า ไม่เชื่อว่าเธอจะกลายเป็นคนที่ทำอะไรก็ได้เพื่อเงิน!”
กลอด!!ดังขึ้นทีหนึ่ง เจี่ยนถงเหมือนได้ยินเสียงกัดฟันร่วงของตัวเอง!
จู่ๆ เธอเหมือนนึกอะไรได้ เจี่ยนถงมองใบหน้าที่คุ้นเคยตรงหน้านี้แล้วหลับตาลง ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกทีนั้น เธอควบคุมอารมณ์เจ็บปวดอารมณ์โกรธและความโมโหของตัวเอง พยายามให้ตัวเองมีสติ
“ในฐานะที่เราสองคนมีสายเลือดเดียวกัน โตมาด้วยกัน ในฐานะฉันเป็นน้องสาวพี่มาหลายปี ฉันขอยืมเงินพี่ห้าแสนหน่อย”
“เธอจะเอา……เงินห้าแสนไปทำอะไร?”
“ฉันติดหนี้เสิ่นซิวจิ่น”เจี่ยนถงพูดอย่างเรียบเฉย “คุณชายเจี่ยนสำหรับคุณแล้ว กับแค่เงินห้าแสนคงเป็นแค่เศษเงิน แต่ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องใช้เงินห้าแสน เด่น ในฐานะที่ฉันเคยเป็นน้องสาวของคุณ อยากให้คุณช่วยฉันครั้งนี้ครั้งหนึ่ง”
ถ้าเป็นไปได้ เจี่ยนถงไม่อยากเจอหน้าใครก็ตามที่เป็นคนของตระกูลเจี่ยน ยิ่งไม่อยากเอ่ยปากขอยืมเงินใครด้วย ……แต่เจอเรื่องที่หนักทั้งสองเรื่องพร้อมกันก็ต้องเลือกที่มันเบากว่า เมื่อเทียบกับเสิ่นซิวจิ่นกับอิสระของเธอแล้ว เจี่ยนถงคิดไตร่ตรองอยู่หลายรอบ สุดท้ายเลยยอมเปิดปากขอความช่วยเหลือจากพี่ชายเธอ
เธอนึกว่าครั้งนี้ เธอจะสามารถหาเงินครบห้าล้านก่อนเสิ่นซิวจิ่นมาถึงได้สักที คืนเงินเขาไป หลังจากนี้เธอก็จะได้เป็นอิสระในที่สุด
แต่พอเจี่ยนโม่ป๋ายได้ยินชื่อ“เสิ่นซิวจิ่น”นี้แล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนเล็กน้อย“……ขอโทษนะ”
หูของเจี่ยนถงดังหึ่งๆ แล้วมองหน้าพี่ชายของเธออย่างเซ่อๆ “เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ?”
“ตอนนั้นคุณเสิ่นเคยส่งข้อความถึงที่บ้าน บอกว่าไม่ก็ตระกูลเจี่ยนไม่เคยมีคนชื่อเจี่ยนถง ไม่ก็เมืองSไม่มีตระกูลเจี่ยน”เจี่ยนโม่ป๋ายทางหนึ่งรู้สึกผิดและอีกทางก็ลำบากใจ “เสี่ยวถง ขอโทษนะ……พ่อกับแม่ทั้งสองอายุมากแล้ว จะทนกับเรื่องที่มากระทบจิตใจอีกไม่ไหวแล้ว”
เจี่ยนถงมองหน้าของเจี่ยนโม่ป๋ายอย่างเซ่อๆอยู่สักพัก ในหัวมีแต่คำพูดของเจี่ยนโม่ป๋าย……ผ่านไปนาน เธอก้มหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไม่ทำให้คุณชายเจี่ยนต้องลำบากใจแล้วค่ะ”
“เสี่ยวถง เธออย่าทำแบบนี้ได้มั้ย ฉัน พี่……ก็จนปัญญาจริงๆ เธออย่าโทษพี่เลยนะ”ระหว่างที่เขาพูดก็เม้มปาก แล้วหยิบกระเป๋าตังออกมาจากอกเสื้อ เอาเงินออกมาปึกหนึ่ง วัดจากสายตาแล้วคงมีราวๆเกือบหมื่นได้ แล้วยื่นให้เจี่ยนถง “เงินนี้เธอเก็บไว้ก่อน ไปซื้อของกินและของใช้ส่วนตัวนะ”
เจี่ยนถงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับ ยิ่งไม่มีวันรับเงินนั่น
เจี่ยนโม่ป๋ายจับมือของเจี่ยนถงไว้แล้วนำเงินยัดใส่มือของเจี่ยนถง “เสี่ยวถง อย่าเอาแต่ใจได้มั้ย ควรยอมรับความหวังดีจากคนอื่นบ้าง อย่าเอาแต่ใจเหมือนเมื่อก่อนอีกเลยนะ”
เจี่ยนถงมองดูเงินที่อยู่ในมือแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เจ็บจนเธอหน้าซิดอย่างกับถูกดูดเลือดไปหมด……
“พี่คะ ฉันเป็นผู้หญิงขายตัวก็จริง แต่เงินของตระกูลเจี่ยน ฉันไม่เอา!”เสียงแหบพร่าของเธอดังขึ้น แล้ว“พรึ่บ”ทีหนึ่ง มือของเจี่ยนถงยกขึ้น ในลิฟต์เต็มไปด้วยเงินที่ค่อยๆปลิวร่วงหล่น
“และอีกอย่าง นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเรียกพี่ว่าพี่”