นิยาย Divine Card Creator
ตอนที่ 77 ไอเดียธุรกิจ
ช่วงกลางดึก
ลู่หมิงกลับมาถึงร้าน
เสี่ยวไปยังคงนั่งสัปหงกอยู่ตรงเคาน์เตอร์
“ยังไม่นอนอีกเหรอ?” ลู่หมิงถาม
“รอคุณอยู่นั่นแหล่ะ”
เสียวไปจ้องมองลู่หมิงด้วยความสงสัย จากนั้นก็เดินเข้ามาใกล้ๆ เขาและดมฟุดฟิด
จมูกของเธอยนทันที “อาจารย์ ตัวคุณเหม็นมาก!”
“เอ่อ..?”
ล่หมิงเกาหัวของเขา บางที่คงเป็นกลิ่นที่ติดมาจากสุสาน?
“ช่างมันเถอะ” เขาโบกมือ
“ไม่ได้!”
เสียวไปผลักล่หมิงเข้าไปในห้องน้ํา “ไปอาบน้ํา!”
“ก็ได้ๆ”
ลู่หมิงทําได้เพียงยิ้มขมขื่น แล้วเดินไปอาบน้ํา
โดยปกติแล้วเสี่ยวไปเป็นเด็กที่เชื่อฟังมาก แต่ก็อาจจะมีซื้อบ้างเป็นบางครั้งทว่าล่หมิงก็ไม่ติดใจอะไร
หลังจากที่เขาอาบน้ําเสร็จ เสี่ยวไปก็หลับคาโต๊ะไปแล้ว
“เด็กคนนี้..”
ลู่หมิงยิ้มก่อนอุ้มเสี้ยวไปไปที่เตียง ก่อนจะกลับไปยังห้องของตน
วันนี้เขาตัดสินใจพักผ่อนมากกว่าทํางานโต้รุ่งแม้ว่าการ์ดที่ฉ่เซียวมอบให้เขาอาจมีประโยชน์ต่อการบ่มเพาะของเขามากแต่เขาก็ไม่อยากทําเสียงดังจนเสียวไปตื่น
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ
เช้าวันถัดมา
เมื่อลู่หมิงตื่นแต่เช้า เขาก็ได้ยินข่าวว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
เมื่อคืนแก๊งลักลอบค้ายาบังเอิญไปพบกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในสุสานแถวชานเมืองและด้วยความหลอนหรืออะไรบางอย่างแก๊งค้ายานั่นตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ!?
ลู่หมิง “o( 2)o”
เขาจะพูดอะไรได้อีก
ชาติที่แล้วเรื่องตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินคือโจรโทรแจ้งตํารวจเพราะโดนโกงตอนขายของที่ขโมยมาไม่นึกว่าปรากฏการณ์เพี้ยนๆแบบนี้จะเกิดขึ้นในโลกนี้เช่นกัน
พ่ววว คนพวกนี้นี่แม่งเหนือจินตนาการ!
คล้ายกับประโยคที่ไอน์สไตน์ไม่ได้กล่าวไว้:“จินตนาการสําคัญกว่าความรู้แต่เลิกเอากรูมาเป็นข้ออ้างตอนทําอะไรโง่ๆสักที!”
หลังอาหารเช้ลู่หมิงก็เริ่มศึกษาการ์ดที่ฉ่เซียวมอบให้เขา
อื่ม…มันเป็นการ์ดระดับ 1 ขนานแท้
อย่างไรก็ตาม…
เมื่อล่หมิงพิจารณาถึงท่าทางจริงจังของฉ่เซียวตอนนั้นเขาก็เชื่อว่ามันต้องมีความลับอะไรบางอย่างแฝงอยู่!
“ฉันลองผนึกมันลงการ์ดดั้งเดิมก่อนดีกว่า…”
เขาหยิบการ์ดดั้งเดิมออกมาแล้วเล็งไปที่การ์ดของฉ่เซียว
รูซซซซ
แสงไฟสีเขียวโผล่ออกมาล้อมรอบการ์ดและเริ่มกระจายเป็นอนุภาคสีเขียวนับไม่ถ้วน
เดี๋ยวก่อน…
ลู่หมิงเบิกตากว้าง!
สีเขียว?
มันเป็นสีเขียว!
นี่มันแปลกมาก!
ปกติแล้วเวลาการ์ดสลายไป อนุภาคจากพลังงานพวกนั้นมักจะสีขาวนี่หน่า? แล้วการ์ดใบนี้มัน…
เขาเริ่มเช็คเว็บบอร์ดนักสร้างการ์ดและค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอนุภาคสีเขียวหลังจากเจอข้อมูลไร้สาระจํานวนมากในที่สุดเขาก็พบกับสิ่งที่เขาอยากรู้
และตอนนั้นเองลู่หมิงก็ตระหนักได้ว่ามันคืออะไร
สกิลระดับสูง!
อนุภาคพลังงานสีเขียว!
ลู่หมุ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขาพอจะรู้เกี่ยวกับสกิลระดับสูงอยู่บ้าง
ตอนนั้นที่โล่พลังงานของฟูหงหมิงกลายเป็นเกราะพลังงานก็เป็นเพราะเขาใช้สกิลระดับสูงเช่นกันสกิลเหล่านี้แข็งแกร่งมากแม้แต่อาจารย์อันก็ทําอะไรมันไม่ได้!
เขาจําได้แล้วว่าสกิลระดับสูงที่ฟูหงหมิงใช้คราวนั้นถูกผนึกไว้ในการ์ด!แถมมันยังเป็นสีเขียวเหมือนกัน
ทว่าเพราะตอนนั้นความรู้ของลู่หมิงยังตื้นเขิน เขาเลยไม่ได้สนใจสีของอนุภาค!
“สกิลระดับสูง…”
ลู่หมิงหาข้อมูลเพิ่ม
สกิลระดับสูงนั้นก็คือสกิลที่ถูกปรับแต่งไปจนเหนือกว่าสกิลปกติ!
ในทางทฤษฎีแล้วสกิลระดับสูงมักจะมีพลังเหนือกว่าระดับ 1 ขั้นเสมอหรือพูดง่ายๆคือความรุนแรงของการโจมตีด้วยสกิลระดับสูงขั้น 1จะเทียบได้กับสกิลปกติขั้น 2!
แถมมันยังมีอัตราการใช้พลังงานที่ต่ากว่าปกติ!
และตอนนี้…ลู่หมิงมีการ์ดสกิลระดับสูงอยู่ในมือเขาแล้ว!
“ซูดดด” ลู่หมิงหายใจเข้าอย่างแรง
การปรากฏตัวของการ์ดสกิลระดับสูงเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้กับเขา
จากข้อมูลที่เขาอ่าน โดยธรรมชาติแล้วมีเพียงนักสร้างการ์ดระดับ 4 ขึ้นไปเท่านั้นที่รู้เรื่องพวกนี้…
และพอมันอยู่ในมือของลู่หมิงที่กําลังขาดพื้นฐานความรู้แล้ว…
เอาจริงๆ มันก็คล้ายกับตอนเข้ามหาลัยใหม่ๆที่สมัยเรียนคณิตศาสตร์คลาสแรกๆเรามักจะพอรู้เนื้อหาว่าอี้ยฉันกําลังจะเรียนอะไรแคลคูลัสหรอ?หรือว่าสถิติ?แต่พอปีท้ายๆจะมีสักกี่คนที่ยังอยู่แล้วรู้ว่าตัวเองกําลังเรียนเรื่องอะไรอยู่?
ปริภูมิยูคลิด?
ฮิลเบิร์ตสเปซ?
การแปลงพิกัดและการแปลงฐาน?
TL: พวกนี้คือความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ Quantum Computer นะ
ค่าตอบคือไม่! แทบไม่มีใครรู้!
ตอนเรียนเรื่องยากๆ พวกนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่าด่านกันทั้งนั้น
บางคนเรียนจบไปแล้วยังงงๆ อยู่เลย ว่านตรูเรียนอะไรมาวะ?!
ซึ่งตอนนี้..
ลู่หมิงเองก็กําลังดําน้ําหาทางทําความเข้าใจด้วยตัวเองอยู่เหมือนกัน
จากความรู้อันง่อยเปลี้ยของเขา ลู่หมิงเริ่มจากการหาหนังสือพื้นทางที่เกี่ยวข้องในอินเตอร์เน็ต
“ความรู้และวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวกับทฤษฎีลาดับขั้นของการ์ด” 1 หมื่นหยวน
เมื่อลู่หมิงเห็นราคาเขาตัดสินใจซื้อโดยไม่ลังเล
ลําดับขั้น…
การปิดผนึก…
สกิลระดับสูง…?
ถูกต้อง
แม้แต่นักสร้างการ์ดก็มีสกิลระดับสูงเช่นกัน
หากนักสร้างการ์ดมีเพียงความสามารถในการปิดผนึกอย่างเดียว พวกเขาจะยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ได้ยังไง?
จากหนังสือคู่หมิง ได้เรียนรู้ว่านักสร้างการ์ดที่แข็งแกร่งสามารถเปลี่ยนการ์ดสกิลธรรมดาๆ ให้กลายเป็นการ์ดสกิลระดับสูงได้
นี่มันแจ่มไปเลย!
อีกทั้งหนังสือเล่มนี้เขียนไว้ว่า ทั้งนักสร้างการ์ดระดับต่ํา ระดับกลาง หรือกระทั่งระดับสูง… ก็ยังคงพัฒนาเทคนิคต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นเทคนิคระดับพื้นฐาน!
เมื่อเห็นเช่นนี้ลู่หมิงก็ตระหนักได้ว่าเขานิ่งนอนใจเกินไป!
ท้ายที่สุดแม้หนังสือเล่มนี้จะไม่ช่วยเขาในเรื่องเทคนิคการสร้างและการพัฒนาระดับของการ์ด แต่มันก็ช่วยขยายโลกทัศน์ของเขาได้ดีมาก
หลังจากได้ทําความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้แล้ว ลู่หมิงก็จ้องมองไปที่การ์ดในมืออีกครั้ง
สกิลระดับสูง พลังข้ามระดับ… แม้ตอนนี้ลู่หมิงจะยังไม่รู้อะไรมากนักแต่จากนี้มันจะกลายเป็นจุดที่เขาจะโฟกัส
“เอ๊ะ เหมือนว่าตอนนั้น ฉ่เซียวจะบอกให้ฉันไปอ่านประวัติของเขา?” ลู่หมิงนึกขึ้นมาได้
บางทีเขาอาจเจอเบาะแสอะไรที่อาจจะช่วยเขาได้จากตรงนั้น?
ลู่หมิงเริ่มท่องอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง
ทว่าเมื่ออ่านไปสักพัก เขาก็ต้องตกตะลึงไปในทันที
จริงๆ แล้วอาชีพของฉ่เซียว ไม่ใช่โจรหรือนักฆ่า?
แต่เขาเป็นนักเวทย์พลังธาตุที่มีเอกลักษณ์พิเศษ!
เพราะว่าสกิลของเขานั้นแปลกไปจากนักเวทย์พลังธาตปกติ จนไม่สามารถจัดอยู่ในคลาสนักเวทย์ทั่วไปได้
แท้จริงแล้วสกิลของฉ่เซียวคือการสร้างชั้นฟิล์ม
และความสามารถของมัน…
เอ่อ…
ป้องกันแสงสีฟ้าและรังสี แถมยังป้องกันลายนิ้วมือ….
ใช่แล้ว!
จากเว็บบอร์ด ประวัติของเขายังกล่าวเสริมว่า สมัยหนุ่มๆ เขายังเคยเปิดร้านบริการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอและฟิล์มกันแสงสีฟ้าบนโทรศัพท์ที่หน้าโรงเรียนของตน
แถมยังทําเงินได้ดีทีเดียว!
เขาทําอาชีพนั้นมาหลายปีจนวันที่สกิลฟิล์มของเขาพัฒนากลายเป็นสกิลระดับสูง!
หลังจากนั้น..
ฉ่เซียวก็เริ่มศึกษาและคิดค้นวิธีใช้งานสกิลของเขาในหลากหลายรูปแบบจนเขาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชื่อของจอมโจรเงาเมฆาก็เริ่มทะยานขึ้นสู่อันดับโจรที่คนแขยง
ฟิล์มเวทย์!
มันสามารถป้องกันการโจมตีทางเวทมนตร์
ฟิล์มป้องกัน!
สามารถห่อหุ้มส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายด้วยชั้นของฟิล์มบางๆ ช่วยลบเนื่อสัมผัสและออร่าทั้งหมดออกไปได้
ฟิล์มปิดปาก!
ใช้หุบปากศัตรูเหมาะสําหรับพวกมาโซคิส
ฟิล์มล่องหน!
มันทําให้แสงทะลุร่างกายและล่องหนได้
เชีย
ทําไมมันดูโกงจังวะ!
แถมยังช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยนะเนี่ย!
หะๆ…?
ประหยัดอะไรน่ะหรอ?
ด้วยฟิล์มป้องกันสุดนี้ ถุงยางอนามัยก็จะกลายเป็นนวัตกรรมที่ตกยุคไงเล่า!
เท่านี้เขาไม่ต้องเสียเงินซื้อมันอีกต่อไปแล้ว!
โห่ นี่มัน อะเมซิ่ง” มาก
เอาล่ะๆ ถือว่าไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉ่เซียวบอกให้เขาไปอ่านประวัติ
ในเมื่อเป็นแบบนี้…
ลู่หมิงเหลือบมองไปที่การ์ดในมือของเขา
ถ้างั้นมันหมายความว่ายังไง ทําไมฉ่เซียวถึงให้มันกับเขา? ลู่หมิงรู้สึกงงเล็กน้อย
หรือฉ่เซียวอยากให้เขาตั้งโรงงานผลิตฟิล์มพวกนี้มาขายแทนถุงยาง?
เอิ่ม…แต่จะว่าไปแล้ว มันก็เป็นไอเดียธุรกิจที่ดีเหมือนกันนะ…
