Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 52 ออกมาแล้วค่ะ

「เอ๋? ไม่มีห้อง?」

 

และนั่น คือประโยคที่พูดขึ้นหลังจากที่พวกเราตามองค์ชายจนมาพบกับมากิลูก้าตรงทางเดิน

 

「ใช่แล้วค่ะ ดูเหมือนว่าตรงอาคารเก่าที่พวกเรานักเรียนควรจะขอยืมใช้ได้จะถูกระงับการใช้งานในช่วงนี้ค่ะ」

 

「อาคารเก่า? มีของแบบนั้นด้วยสินะ」

 

ฉันที่ยืนอยู่ตรงทางเดินมองออกไปด้านนอกตัวอาคาร เริ่มมองหาอาคารเก่าที่ว่า แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถมองเห็นจากตรงนี้ จากประตูโรงเรียนเข้ามาตามถนนหลัก ก็เห็นแต่อาคารใหม่รายล้อมหอนาฬิกาอยู่ทั้ง 4 ทิศ นอกจากนั้นก็มีพวกอาคารเอนกประสงค์ ลานประลอง ศูนย์ฝึก ศูนย์วิจัย สนามหญ้า และอื่นๆ ซึ่งดูเหมือนว่าอาคารเก่าจะไม่ได้อยู่ในนั้น

 

「อาคารเก่าถูกห้ามใช้? มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าครับ?」

 

「เปล่า ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นหรอกค่ะ คือว่า…」

 

องค์ชายถามเช่นนั้น แล้วมากิลูก้าก็ตอบกลับแบบอ้อมแอ้ม ฉันรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรไม่ดี เริ่มคิดที่จะล้มเลิกความตั้งใจ

 

「ดูเหมือนมันจะออกมาน่ะค่ะ」

 

「อะไรเหรอ?」

 

สีหน้าแปลกๆกับการพูดแบบเบาๆของมากิลูก้าทำให้ฉันถามออกไปอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว

 

「วิญญาณค่ะ」

 

คำตอบของมากิลูก้าทำให้องค์ชายกับซาฮะกลืนน้ำลาย ซาฟีน่ากับทุตเต้*ฮี้*เข้ามาเกาะฉันหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว ส่วนฉันนั้น ดวงตาเปล่งประกายด้วยความคาดหวังเลยล่ะ

 

「ไม่น่าเชื่อ เรื่องจริงเหรอ! อยากจะเห็นของจริงซักหน่อย」

 

「「「เอ๋!」」」

 

ผู้คนรอบตัวต่างแสดงความประหลาดใจกับน้ำเสียงมีความสุขของฉัน

 

「อะเระ? ท่านแมรี่ ไม่มีปัญหากับเรื่องแบบนั้นเลยหรือคะ?」

 

มากิลูก้าซึ่งคิดว่าฉันจะกลัว มองมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ซึ่งฉันที่กำลังทำตา*ปิ๊งๆ*พยักหน้าตอบกลับไป

 

「ก็ วิญญาณใช่ไหมล่ะ ฉันน่ะ ยังไม่เคยเจอมาก่อน เลยอยากจะเห็นซักครั้ง」

 

ฉันที่กำลังตื่นเต้นตอบกลับเธอไปเช่นนั้น ก็ วิญาณล่ะ วิญญาณ ในโลกก่อนถ้าไม่ใช่ผู้มีสัมผัสพิเศษก็จะมองไม่เห็น เป็นสิ่งที่มีตัวตนไม่แน่นอนและเต็มไปด้วยเรื่องราวสยองขวัญ แต่ ในโลกแฟนตาซีนี้ มันเป็นประเภทหนึ่งของอันเดทมอนสเตอร์ล่ะ ไม่ว่าใครก็มองเห็นได้ และสามารถกำจัดได้ด้วย ใช่แล้ว ก็เหมือนกับสัตว์หรือตัวอะไรซักอย่างที่เป็นมอนสเตอร์ตามธรรมชาตินั่นล่ะ เมื่อมีตัวตนก็ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว

 

「จะ จะอย่างไรก็ตาม เพราะที่อาคารเก่ามีวิญญาณออกอาละวาดจึงไม่แปลกที่จะถูกระงับการใช้งานสินะครับ」

 

เห็นฉันที่ตื่นเต้นแล้วองค์ชายเองก็แปลกใจ แต่ก็ดึงกลับมาคุยที่หัวข้อเดิม

 

「ใช่แล้วค่ะ นั่นสินะ คงได้แต่หวังว่าอาจารย์จะไล่วิญาณไปได้」

 

ในโลกนี้เองก็มีสิ่งที่เรียกว่าเวทย์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ แค่ให้เหล่าอาจารย์ผู้ใช้เวทย์ที่มีประสบการณ์*ปังๆๆ*ขับไล่ออกไปก็น่าจะได้แล้วนี่ การที่องค์ชายพูดว่าไม่ควรเข้าไปในจุดที่ถูกระงับการใช้งานนั้นถึงจะรู้สึกแปลกยังไงอยู่ แต่ฉันก็เลือกฟังคำพูดขององค์ชาย

 

「แล้วยังไง? จะเข้าไปดูซักหน่อยไหม?」

 

ซาฮะพูดเช่นนั้นด้วยใบหน้าแสดงอาการสงสัย ซึ่งฉันที่เต็มไปด้วยความอยากรู้เองก็ *อื้มๆ*พยักหน้า แน่นอนว่า ซาฟีน่ากับทุตเต้ที่หน้าซีดเกาะฉันอยู่นั้น ส่ายหน้า*พั่บๆ*

 

「อืม ถ้าจัดการปัญหาในอาคารเก่าได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องห้องว่าง ถ้าเช่นนั้นลองไปดูสักหน่อยก็น่าจะดีครับ」

 

องค์ชายมองฉันกับซาฮะที่อยู่ในอาการตื่นเต้นแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะทำหน้าจริงจัง แล้วแสดงความเห็นด้วยกับพวกเรา และด้วยเหตุนี้ ฉันจึงล็อคผู้เห็นต่างสองคนมุ่งหน้าไปยังอาคารเก่าด้วยกัน

 

 

พวกเรามาถึงอาคารเก่า ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารเรียนที่พวกเราใช้กันตามปกติ บนทางลาดที่ยกขึ้นเล็กน้อยมีอาคารก่ออิฐสองชั้นที่ดูร่วมสมัยตั้งอยู่ บริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีต้นไม้ที่ถูกปลูกเป็นแนวรั้วล้อมรอบ ช่วยบังแสงแดดในระหว่างวัน รวมถึงตัดเสียงดังรบกวนจากอาคารเรียนเป็นพื้นที่เงียบสงบ

 

(ดีเลยล่ะ ยังไงก็ต้องเอาที่นี่มาเป็นที่พักผ่อนให้ได้)

 

ฉันมองไปที่ตัวอาคารด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง ตรงข้ามกับซาฟีน่าและทุตเต้ที่มองอย่างหวาดกลัว องค์ชายกับมากิลูก้ามีอาการเครียดนิดหน่อย คงเพราะมันดูกว้างขวางและใหญ่โตกว่าที่คิดล่ะมั้ง ซาฮะที่มองมันจึงส่งเสียง*โอ้~*ออกมา

 

พวกเราเดินมาหยุดตรงหน้าอาคารซึ่งมีประตูไม้ขนาดใหญ่สองบานคู่กันอยู่ตรงกลางอาคาร มองสำรวจตามตัวอาคาร ดูแล้วไม่รู้สึกถึงความทรุดโทรม แถมยังเหมือนได้รับการทำความสะอาดเป็นอย่างดี แบบนี้มันทำลายบรรยากาศความน่ากลัวหมด เอาเถอะ ส่วนนึงเพราะพวกเรามากันตอนบ่ายด้วยล่ะนะ

 

「เห็นแล้วก็ กะ กลับกันเถอะนะคะ ท่านแมรี่」

 

ซาฟีน่า*กิ้ว*จับชุดของฉันเอาไว้แน่นหันซ้ายหันขวามองไปมารอบๆ

 

「โอ๊ะ? เปิดอยู่ด้วยล่ะ」

 

คำแนะนำของเธอนั้น ถูกซาฮะเพิกเฉยเข้าไปเปิดประตู ทำให้มันไร้ค่าไป

 

「แปลกจัง จัดการกับพื้นที่ห้ามเข้าหละหลวมจังนะคะ ท่านปู่… *อะแฮ่ม*ผู้อำนวยการโรงเรียนจะว่ายังไงคะเนี่ย?」

 

ต่อจากซาฮะ ก็เป็นมากิลูก้าที่เดินไปที่ประตูแล้วพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการป้องกันที่หละหลวม

 

「ถ้างั้นก็ ที่มีวิญญาณอาละวาดเป็นเรื่องโกหกอย่างงั้นเหรอ?」

 

ซาฮะเริ่มสูญเสียความตื่นเต้น อาจเป็นเพราะผิดหวัง จึงจับลูกบิดประตูที่เปิดให้ปิดกลับไป

 

「ฮี้!」

 

แล้ว จู่ๆทุตเต้ก็กรีดร้องเสียงหลงออกมา ทำให้พวกเราต่างหันไปมองเธอ

 

「อะ อะไรเหรอ ทุตเต้?」

 

「มะ เมื่อครู่ มีอะไรอยู่ตรงนั้นค่ะ…」

 

ทตเต้มือสั่น ชี้ไปทางห้องท้ายตัวอาคารซึ่งอยู่ห่างจากพวกเราออกไป พวกเรามองไม่เห็นอะไรข้างใน แต่ทุตเต้ที่เกาะอยู่ข้างหลังบอกว่าเห็น

 

「กลับกันเถอะค่ะ ท่านแมรี่」

「ไปต่อกันเล้ย คุณผี คุณผี♪」

 

ประโยคคำพูดของฉันกับซาฟีน่าซ้อนทับกัน ฉันล็อคแขนซาฟีน่าที่ไม่อยากไป โดยมีซาฮะเปิดประตู*เชิญ*ให้ เข้าไปด้วยกัน

 

 

พอเข้ามาข้างใน ก็พบว่าค่อนข้างมืดสลัว ยิ่งกว่านั้นยังเงียบวังเวง ในบรรยากาศชวนขนลุก ฉันถูกบรรยากาศทำให้กลัวนิดหน่อยกลืนน้ำลาย เอื้อมมือไปจับดาบในตำนาน(ฮา)เตรียมป้องกันตัว

 

จากทางเข้าตรงกลางเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งชั้นหนึ่งและสอง มีสัญลักษณ์รูปไม้กางเขนบนพื้นหินขัดรับแสงอาทิตย์ยามบ่ายสะท้อนแสงจางๆออกมา เพดานที่มองจากด้านนอกก็รู้อยู่แล้วว่าค่อนข้างสูง ตรงกลางมีช่องว่างขนาดใหญ่ให้แสงจากท้องฟ้าส่องเข้ามาข้างใน เพราะไม่มีหลอดไฟมันจึงเป็นสิ่งเดียวที่จะขจัดภาพลักษณ์ความมืดออกไป

 

「ค่อนข้างกว้างขวาง เป็นห้องที่ดีเลยนะ」

 

ฉันเดินเข้ามาตรงกลางแล้วมองไปรอบๆ โดยมีซาฟีน่ากับทุตเต้เกาะหลังตามมาไม่ห่าง

 

「ทุตเต้ที่เห็นนั่นจากห้องไหนอย่างงั้นเหรอ?」

 

「เอ๋? จะไปอย่างงั้นหรือคะ คุณหนู」

 

「มาถึงขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าเพราะอยากเห็นเจ้ามอนสเตอร์อันเดทที่เรียกว่าวิญญาณยังไงล่ะ นอกจากนี้ ถึงจะมีอะไรเกิดขึ้นก็มีกันตั้งหลายคนขนาดนี้จัดการได้อยู่แล้ว จริงไหม」

 

ฉันให้กำลังใจทุตเต้ที่หวาดกลัวโดยการเดินมาอยู่หน้าทุกคน แล้วพูดอออกมาเช่นนั้นด้วยท่าทางสบายๆ และพอทุกคนได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก

 

「ท่านแมรี่ วิญญาณกับอันเดทมอนสเตอร์มันต่างกันนะครับ ที่เรียกว่าอันเดทน่ะคือพวกที่มีร่างกายอย่างสเกลิตันหรือซอมบี้ ส่วนวิญญาณนั้นไม่มีร่างให้จับต้องจึงไม่นับเป็นมอนสเตอร์ชนิดเดียวกัน แล้วก็ พวกเราในตอนนี้จะโจมตีหรือจับต้องคิดว่าไม่น่าทำได้ครับ」

 

องค์ชายที่มีสีหน้าบอกว่าแย่แล้วพูดออกมาเช่นนั้น เพราะฉันคิดว่าวิญญาณเป็นพวกอันเดทมอนสเตอร์ในเกมrpg เลยเข้าใจผิดไปว่าสามารถมองเห็น จับต้อง และปราบมันได้เหมือนมอนสเตอร์อิ่นๆ สรุปก็คือ ที่โลกนี้วิญญาณเองก็เป็นตัวตนที่ไม่สามารถสัมผัสได้ แต่ที่แย่กว่าคือ สามารถมองเห็นและสร้างความเสียหายต่อสิ่งมีชีวิตได้โดยตรง 

 

(งั้นเหรอ ทุกคนถึงได้กลัวสินะ! ซวยแล้ว ฉันเองก็เริ่มกลัวขึ้นมาเหมือนกันแล้วสิ)

 

ตัวฉันในตอนนี้เองก็เริ่มจะกลัวขึ้นมา แต่ว่ามันสายไปแล้ว ไม่รู้เพราะอะไรทุกคนถึงอยู่ในสภาพหน้าซีด สายตามองไปไกลยังทางเดินข้างหลังฉัน ฉันหันหลังกลับไปมองด้วยความกลัว และก็พบว่า ที่ปลายสุดทางเดิน ตรงมุมมืดซึ่งแสงอาทิตย์ส่องไปไม่ถึง มีโครงร่างที่ดูคลุมเครือโปร่งแสงสีขาวอยู่ บริเวณโดยรอบเย็นลงราวกับถูกแช่แข็ง

 

(ถึงจะยังเพิ่งบ่าย แต่วิญญาณของโลกนี้ก็ออกมาได้เหรออออ! ไม่น้าาาา แบบนี้มันไม่ใช่มอนสเตอร์แล้ววว! น่ากลัว น่ากลัวเกินไปแล้ววว)

 

จากนั้น ดวงวิญญาณที่มีสภาพเหมือนดวงไฟติดๆดับๆก็เริ่มตรงเข้ามาหาพวกเรา ฉันที่กำลังสติแตก จนตรอก ชักดาบในตำนาน(ฮา)ที่เอวขึ้นมา

 

「เข้ามาสิ เจ้ามอนสเตอร์!」

 

「คุณหนู ก็บอกว่านั่นไม่ใช่มอนสเตอร์ยังไงล่ะคะ! รีบหนีเถอะค่ะ」

 

เพราะเห็นฉันยืนนึ่ง ทุตเต้จึงพยายามดึงตัวฉันจากทางด้านหลัง อันที่จริง กลัวจนก้าวไม่ออกน่ะ ขอโทษนะ

 

「ทุกคน หลับตา!」

 

ตอนนั้นเอง ก็มีใครบางคนวิ่งมาจากทางด้านหลังของพวกเรา ยกคทาขึ้นมา เผชิญหน้ากับวิญญาณ

 

「Light!」

 

รับรู้ได้จากน้ำเสียงว่าเป็นผู้หญิง ไม้คทาตอบรับน้ำเสียงอันทรงพลังของเธอ ปลดปล่อยแสงเวทย์มนต์ออกมาจากปลายไม้ วิญญาณเกลียดมันจึงหนีห่างออกไป หลังจากนั้นพักหนึ่ง หญิงสาวก็หันกลับมาทางพวกเราที่ยังคงยืนอึ้ง ลดฮูดลง เผยรอยยิ้มให้

 

「ทุกคน ไม่เป็นไรนะคะ?」

 

「ขะ คลาสมาสเตอร์」

 

ทันทีที่เห็นรอยยิ้มของเธอ มากิลูก้าก็พูดขึ้น แล้วฉันก็*อ้อ* คนคนนี้เป็นคลาสมาสเตอร์ของอาเรย์ออสนี่เอง

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Comment

Options

not work with dark mode
Reset