Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 68: แมนเดรก < สาวเกราะ

แสงแดดที่สาดส่องสะท้อนออกมาเป็นแสงสีดำขมุกขมัวทั่วทั้งตัว ร่างที่โปร่งแสงนั้น*ปุโยๆ*กระเพื่อมไปมาดูน่าขยะแขยง เจ้าวัตถุที่ดูคล้ายกับก้อนเยลลี่กำลังตรงมาทางนี้ นั่นคือสไลม์ ถึงแม้ในเกมส่วนใหญ่จะจัดให้เป็นศัตรูที่อ่อนแอที่สุด แต่อันที่จริงแล้วเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งและยุ่งยากมากทีเดียว แล้วทำไม ถึงมาเดินอยู่ในบริเวณโรงเรียนได้ล่ะ แถมยัง*อุนิ้วๆ*เคลื่อนที่จนร่างกระเพื่อมทั้งตัวตรงมาทางนี้ด้วย

 

(บอกตรงๆเลยว่า น่าขยะแขยง ขนลุกไปหมดเลยเนี่ย นี่คือสิ่งที่เรียกว่ากันว่าไม่เป็นที่ยอมรับในทางสรีรวิทยาสินะ)

 

ฉันรู้สึกกลัวจนขนลุกซู่*บรื๋อ*ตัวสั่นอยู่ภายใต้เกราะ ต้องการจับแมนเดรกแล้วออกจากที่นี่โดยไว ทว่า ไม่ได้ เจ้าแมนเดรกในตอนนี้ กำลังว่ายน้ำด้วยท่วงท่าสง่างามหนีออกห่างจากมากิลูก้าที่ลอยตัวอยู่ในอากาศและพยายามที่จะจับมัน

 

「ว่าแต่ว่าทำไม ถึงมีสไลม์มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ล่ะ!」

 

พอเข้าใจสถานการณ์ ฉันก็ตั้งคำถามขึ้นมาลอยๆไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าถามใคร ในทิศทางเดียวกันตรงจุดที่ห่างจากสไลม์เข้ามา องค์ชายกับนักเรียนชายจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งตรงมาทางนี้ สไลม์เคลื่อนที่อย่างเชื่องช้า แถมทั้งที่พวกองค์ชายซึ่งมาทีหลังแซงผ่านไป มันก็ยังไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรเลย

 

「หมวก ส่งถึงสินะครับ ค่อยยังชั่ว ถ้ายังถอดอยู่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น」

 

「ท่านเรย์ฟอร์ซ ต้องขออภัยที่ทำให้เป็นห่วงค่ะ」

 

พอองค์ชายมาถึงจุดที่ฉันยืนอยู่ *เห้อ*ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ส่วนฉันก็โค้งให้ทั้งที่อยู่ในสภาพชุดเกราะเต็มตัว

 

「ว่าแต่ สไลม์นั่นมันอะไร?」

 

ด้วยความที่ไม่แน่ใจในสถานการณ์ ฉันจึงถามองค์ชายที่เพิ่งมาจากทิศทางเดียวกับสไลม์ว่ารู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้างไหม

 

「เรื่องนั้นให้พวกเราอธิบายเองครับ!」

 

ก่อนที่ฉันจะถามองค์ชายจบ ก็มีกลุ่มนักเรียนชายจากไหนไม่รู้ยืดอกเข้ามาแทรก ฉันจึงส่งสายตาเย็นชามองผ่านหมวกเกราะกลับไป

 

「อะโน คนพวกนี้คือ?」

 

「พวกเรา สมาชิกกลุ่มวิจัยสไลม์ครับ เนื้อหากิจกรรมหลัก คือการศึกษาระบบนิเวศและการสืบพันธุ์ของสไลม์ครับ!」

 

องค์ชายที่ยิ้มด้วยสีหน้าลำบากใจอยู่ข้างๆให้กับฉันที่ตั้งคำถาม และก็ได้รับคำตอบจากกลุ่มคนในชมรมวิจัยจึงหันกลับไปมอง คำพูดของพวกเขาทำให้รับรู้อะไรบางอย่าง

 

「หรือว่า สไลม์นั่นเป็นของพวกคุณ?」

 

「แม่นแล้ว! ผลงานวิจัยชิ้นเอกที่ดีที่สุดของพวกเรา ตั้งใจว่าจะเอามาจัดแสดงในปีนี้เลยครับ!」

 

ไม่รู้ว่าอ่านสถานการณ์ไม่เป็นหรือยังไง ทั้งที่เกิดเหตุวุ่นวายอย่างนี้ นักเรียนพวกนี้ก็ยังยืดอกตอบอย่างภาคภูมิ ฉันรู้สึกปวดหัวจนต้องเอามือก่ายหน้าผากทั้งที่ยังสวมหมวกเกราะอยู่

 

「พวกนาย สไลม์ตัวใหญ่ขนาดนี้ ยังเก็บไว้ได้อีกนะเนี่ย」

 

「เปล่าเลย เดิมทีมันมีขนาดแค่พอบรรจุลงถังไม้เท่านั้นเองครับ」

 

「หือ? ถังไม้?」

 

ฉันสะดุดกับคำหนึ่งที่นักเรียนพวกนี้เพิ่งพูดออกมา จึงหันหน้าไปมอง

 

「ใช่แล้ว ในตอนที่เคลื่อนย้ายถังไม้! ทันใดนั้น ก็มีนางฟ้าสีขาววิ่งผ่านหน้าพวกเรา ชนเข้ากับถังไม้กระจายเป็นเสี่ยงๆ จากนั้น จากน้าน! ช่างน่าอัศจรรย์ เจ้าสไลม์ขยายขนาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นอย่างนี้ล่ะครับ! นี่คือ การชี้นำของเทพธิดา! ยอดเยี่ยมเหลือเกิน! โปรดดู ขนาดของมัน! การ*ดึ๋ยๆ*นั่น! ที่สุดของที่สุดเลยครับ! การแสดงผลงานในปีนี้จะต้องตกเป็นของพวกเราแน่นอนเลยครับ!」

 

นักเรียนคนนั้นอ้าแขนออกพูดด้วยความตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง *ฮะๆๆ*องค์ชายมองมาทางนี้แล้วก็หัวเราะแห้งๆ ผู้ที่อยู่ข้างหลังอย่างซาฟีน่ากับทุตเต้ และมากิลูก้าที่ลอยอยู่กลางอากาศ ต่างหรี่ตามองมาจนรู้สึกเจ็บปวด ทุกคนต่างมองตรงมาที่ฉันเพราะคำว่า「นางฟ้าสีขาว」

 

「และ นั่นคือเหตุผลครับ」

 

「ขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ! ท่านเรย์ฟอร์ซ!」

 

คำอธิบายจากทางฝั่งองค์ชาย ทำเอาฉันอยากลงไปหมอบกราบขอขมาทุกคน แต่ด้วยสถานการณ์และรูปลักษณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย ฉันจึงต้องกลั้นใจเลือกโค้งต่ำเพื่อขอโทษแทน

 

「ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ทำไมมันใหญ่โตถึงขนาดนั้นล่ะคะ」

 

มากิลูก้ายกเลิกการลอยตัวลงมาที่พื้น ตั้งคำถามกับพวกเรา ซึ่งก็มีนักเรียนคนหนึ่งตอบออกมาด้วยความภาคภูมิใจ

 

「นั่นน่ะ ไม่ใช้สไลม์ที่พบได้ทั่วไปหรอกนะครับ! จากการค้นคว้าวิจัยและเพาะเลี้ยงนานนับปีบวกกับความบังเอิญทำให้เกิดขึ้นมา มีคุณสมบัติในการดูดซับพลังเวทย์และขยายตัวใหญ่ขึ้น ใช่แล้ว ที่ถูกเรียกว่าเดรนสไลม์ (Drain Slime) ยังไงล่ะครับ!」

 

「ขยายร่าง แล้วยังไงต่อคะ?」

 

「แค่นั้นแหละครับ พอดูดซับพลังเวทย์ มันก็จะโตขึ้น เป็นสไลม์ที่มีแค่นั้นล่ะครับ ยอดเยี่ยมใช้ม้า!」

 

*ฮึๆ*นักเรียนชายพ่นลมหายใจออกทางจมูก หลังจากที่ถามยืนยันไปแล้ว พวกเราก็หันกลับไปที่มันอีกครั้ง ซึ่งมัน*ปุโยๆ*กำลังตรงมาทางนี้

 

(ทำไมเจ้าสไลม์น่ารำคาญนี่…)

 

「เอโตะ สรุปคือ ตอนที่ท่านแมรี่ทำลายถังไม้ สไลม์ได้สัมผัสและดูดซับพลังเวทย์ที่แผ่ออกมาจากตัวเกราะ พอเกราะห่างออกไปแล้ว ก็เริ่มขยายร่างจนเป็นแบบนี้ จะบอกอย่างนั้นสินะคะ?」

 

「ว่ายังไงนะ เจ้าตัวน่าขนลุกนี่! ไล่ตามมางั้นเหรอ?」

 

จากการสรุปของมากิลูก้า ทำให้ฉันกอดตัวเองผ่านเกราะเอาไว้แน่น

 

「ทุตเต้ ฉันถูกไล่ตามอีกแล้วใช่ไหม?」

 

ฉันอ้าแขนเข้าหาคุณเมดที่รออยู่ข้างหลัง ทุตเต้จับเกราะส่วนใบหน้าเข้ากับตัว โอบกอดและลูบศีรษะพร้อมพูดปลอบว่าไม่เป็นไรนะคะ จนฉันเอามือลูบอก*เฮ้อ*ออกมา

 

「อะโน… ระหว่างที่ทำแบบนั้น สไลม์มันเข้ามาใกล้มากแล้วนะคะ รีบหนีดีกว่าไหมคะ?」

 

ซาฟีน่าพูดด้วยท่าทางหวาดๆ ฉันจ้องไปทางสไลม์ที่เข้ามาใกล้ตาไม่กระพริบ

 

「ทำไมมันถึงตรงมาทางนี้ล่ะ?」

 

「หรือว่า จะเป็นเพราะเสน่ห์ของท่านแมรี่ หรือเปล่าครับ?」

 

คำตอบที่องค์ชายหลุดปากมาออกต่อคำถามธรรมดาของฉัน ทำให้ทั้งบริเวณถูกแช่แข็ง

 

「เสน่ห์ของท่านแมรี่นี่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ!」

 

「สมแล้วที่เป็นท่านแมรี่! ก้าวข้ามได้แม้กระทั่งเผ่าพันธุ์!」

 

「ไม่ไม่ จริงซะที่ไหนล่ะ! ฉัน ตอนนี้สวมหมวกเกราะอยู่น้าาาา! อย่าพูดว่าไม่ธรรมดาหรือก้าวข้ามเผ่าพันธุ์นะ! กล่าวหากันชัดๆ!」

 

ได้ยินคำวิจารณ์กับยกย่องจากมากิลูก้ากับซาฟีน่า ฉันจึงตะโกนแก้ตัวด้วยเสียงที่ดังพอๆกับทั้งสองคนรวมกัน

 

「ถ้าเช่นนั้น ทำไมกัน?」

 

「อาจจะ ถูกดึงดูดมาด้วยพลังเวทย์ที่น่าทานก็ได้ครับ อย่างที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ ว่าสไลม์นี่ดูดซับแต่พลังเวทย์」

 

องค์ชายที่มองดูการปฏิสัมพันธ์ของพวกเราถามขึ้น แล้วเด็กนักเรียนชายก็ตอบกลับมา

 

「พลังเวทย์… อ๊ะ ท่านแมรี่… ไม่สิ แมนเดรกสินะคะ」

 

มากิลูก้าได้ยินคำตอบจากนักเรียนชายและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่โดนฉันจ้องผ่านหมวกเกราะจนเธอสะดุ้ง แล้วเรียบเรียงถ้อยคำใหม่ ตามที่ฟีเนลเคยพูดไว้ว่าแมนเดรกอุดมไปด้วยพลังเวทย์ เสริมอีกนิดว่า ในมุมมองของสไลม์นั้นแมนเดรกก็เหมือนกับงานเลี้ยงที่เสิร์ฟเนื้อวัวลายหินอ่อน ดังนั้น จึงน่าจะตามมัน บางทีนะ…

 

「ยิ่งไปกว่านั้น! สไลม์นั่นเป็นของพวกนายใช่มั้ย สั่งให้มันหยุดสิคะ」

 

ฉันพูดเปลี่ยนเรื่อง หันไปแยกเขี้ยวใส่ทางฝั่งนักเรียนชายพวกนั้น พวกเขา*ฟุ*ยิ้มสบายๆแล้วหันมา

 

(โอ้ ท่าทางแบบนี้ แปลว่า คาดหวังได้ใช่ไหม?)

 

คิดๆดูแล้ว การที่พวกเขาดูสบายๆในสถานการณ์แบบนี้ คาดว่าน่าจะมีมาตรการรับมือบางอย่างอยู่ ฉันจึงโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

 

「ฟุ การที่พวกเราเพาะเลี้ยงสไลม์ขึ้นมาก็ไม่ได้แปลว่าจะควบคุมมันได้หรอกนะจริงมั้ย แถมนั่นยังเป็นผลลัพธ์ที่เกิดมาจากความบังเอิญ พวกเราจึงต้องขอยอมแพ้ครับ สมกับที่เป็นผลงานชิ้นเอกของพวกเราจริงๆ」

 

「จะมาภูมิใจทำบ้าอาร้าาาาย!」

 

ขณะที่พวกเรากำลังเล่นมุกตลกติงต๊องกันอยู่นั้น ในที่สุดเจ้าสไลม์ก็มาถึงคลองส่งน้ำ ซึ่งห่างจากพวกเราไปประมาณสิบเมตร

 

「ทางนี้ค่ะ ท่านแมรี่! รีบหนีกันเถอะ!」

 

「ไม่ค่ะ หากทำเช่นนั้นคงคลาดสายตาจากแมนเดรกแน่ ฉันไปจากตรงนี้ไม่ได้ สถานการณ์เลวร้ายที่สุด คือการที่มันถูกเจ้าสไลม์นั่นกินเข้าไป」

 

มากิลูก้าเผยความรู้สึกออกมาว่าอยากถอนตัว แต่ฉันปฏิเสธ พลางส่งสายตาแสดงความเกลียดชังไปยังเจ้ารากผักที่ตอนนี้ก็ยังคงว่ายน้ำด้วยท่วงท่าสง่างาม

 

「ถะ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ… แล้วถ้ากำจัดเจ้าสไลม์นั่นล่ะคะ?」

 

「ก็อยากอยู่หรอกค่ะ… อ้า โม่ว ในเวลาแบบนี้คุณซาฮะไปทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ!」

 

เพราะมีมอนสเตอร์อยู่ตรงหน้าแต่ผู้ชายที่เป็นกำลังหลักแนวหน้ากลับหายหัว ฉันจึงหลุดปากบ่นออกไปอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้องค์ชายทอดสายตาไปไกลอย่างไร้แววตาพึมพำบางอย่างออกจากปาก

 

「ตอนนี้ อาจจะกำลังทุกข์ทรมานจากความละอายใจและเกลียดตัวเองอยู่ ปล่อยเขาไปเถอะครับ คิดว่าคงไม่เป็นไร」

 

(อ่า~ เอิ่ม ค่ะ… ต้องขออภัยด้วยค่ะ)

 

ครึ่งหนึ่ง หรือจะว่า ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันนั่นล่ะ พอได้ยินคำพูดขององค์ชาย ฉันก็เลิกคิดที่จะใช้งานซาฮะ

 

「ยังไงก็เถอะ เป้าหมายของเราคือแมนเดรกค่ะ จะปล่อยให้โดนขโมยไปไม่ได้เด็ดขาด」

 

ฉันปรับอารมณ์ หันมาเผชิญหน้ากับ*อุนิ้วๆ*เจ้าวัตถุน่าขนลุกที่เลื้อยเข้ามา

 

「พวกเราจะเข้ารับมือกับสไลม์ พวกนายช่วยไปจับแมนเดรกมาให้ด้วยค่ะ ฝ่าบาทกรุณาออกถอยมาด้วยค่ะ เนื่องจากการโจมตีทางกายภาพไม่ค่อยส่งผลกับมัน คุณซาฟีน่าคอยคุ้มกันฝ่าบาทด้วย」

 

มากิลูก้าที่ยืนประกบอยู่ข้างฉัน ออกคำสั่งกลุ่มเด็กนักเรียนชายให้ไปช่วยเก็บแมนเดรกกลับมา องค์ชายกับทุตเต้ให้ถอยไปอยู่ข้างหลัง โดยมีซาฟีน่าคอยคุ้มกัน การโจมตีทางกายภาพไม่ค่อยมีผลกับสไลม์ การรับมือกับมอนสเตอร์ประเภทนี้จึงเป็นหน้าที่ของนักเวทย์อย่างพวกเรานี่คือสิ่งที่รับรู้กันทั่วไป

 

ทันใดนั้น สไลม์ก็หยุดเคลื่อนไหวเหมือนเตรียมตัวพุ่งเข้าใส่เหยื่อที่พบ

 

「มาแล้วค่ะ! ไม่ยอมให้ได้แมนเดรกไปหรอก อิย้าาาาาา!」

 

ฉันพยายามป้องกันไม่ให้สไลม์ได้แมนเดรกไปออกคำสั่งกับมากิลูก้า จ้องไปยังสไลม์อีกครั้ง มันกำลัง*อุนิ้วๆ*คืบคลานเข้ามา รู้สึกเหมือนกับว่าความเร็วที่พุ่งเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว…

 

นอกจากนี้ ฉันคิดว่าถ้ามันยืดร่างเหลวๆลื่นๆทั้งตัวในครั้งเดียว อาจจะยืดไปถึงแมนเดรกที่กำลังลอยตัวอยู่บนผิวน้ำได้ จึงคอยเหล่ตามองแมนเดรกไว้ตาไม่กระพริบ แต่เจ้านั่นกลับยืดเข้าหาฉันด้วยแรงมหาศาล จนฉันต้องกระโดดถอยหลังกรีดร้องออกมา

 

มากิลูก้าที่ยืนเตรียมรับมืออยู่ข้างๆถูกเมินเฉยโดยสมบูรณ์ หนวดของสไลม์พุ่งเข้าหาตัวฉันที่อยู่ข้างหลังราวกับเล่นหนังซ้ำด้วยความเร็วที่มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น จากตอนแรกที่คืบคลาน*อู~ นิ้วๆ*อย่างเชื่องช้าก็กลายเป็น*อุนิ้วๆๆ*ด้วยความเร็วสูงอย่างน่ากลัว

 

「「「……」」」

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต่างไม่เข้าใจ ได้แต่ยืนนิ่งค้าง มองดูฉันกับสไลม์สลับกันไปมา

 

「ทำไมถึงพุ่งเข้ามาหาฉันกันล่าาาา! ฉันไม่ใช่แมนเดรกซักหน่อยยยย!」

 

ภาพของคนใส่ชุดเกราะเต็มตัวกำลังถูกสไลม์ขนาดยักษ์ไล่ตาม มองจากรอบนอก อาจเป็นภาพที่ดูตลกขบขัน แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างฉันขำไม่ออกเลยซักนิด บางคนอาจจะบอกว่าสู้ไปเลยก็ได้ไม่ใช่เหรอ แต่นั่นไม่ได้อยู่ในความคิดของฉันตอนนี้

 

ทำไมน่ะเหรอ ก็มันน่าขยะแขยงยังไงล่ะ

 

กับพวกตัวละครสายหนวดตัวฉันที่เป็นสาวน้อยนั้นรับไม่ได้อย่างแรง นอกจากนี้ การขยับตัวอันน่าขนลุกด้วยความเร็วอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายหยึยๆที่พุ่งเข้าใส่ฉันอย่างแรง จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่สัญชาตญาณของฉันจะบอกให้หนีเอาไว้ก่อน

 

และแล้ว ฉันก็หนีออกจากบริเวณคลองส่งน้ำ มุ่งหน้ากลับไปทางอาคารเรียนอีกครั้ง สไลม์เองก็ไล่ตามโดยพยายามยืดหนวดเข้าใส่ในระหว่างนั้น คนอื่นที่ถูกทิ้งไม่สนใจต่างคิดในใจเหมือนกันว่า「เห็นมั้ย สไลม์มันหลงเสน่ห์จริงๆด้วยล่ะ」…

 

「ไม่ใช่น้าาาา! ไม่ได้หลงเสน่ห์น้าาาา! เพราะเกราะ เพราะเกราะต่างหาาาาก!」

 

รู้สึกได้ถึงสายตาของทุกคน ฉันจึงกรีดร้องข้อแก้ตัวที่เข้าใจยากอีกครั้ง ในตอนนี้ การถูกไล่ตามเปลี่ยนมาเป็นถูกไล่ล่าแทนซะแล้วล่ะ

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Comment

Options

not work with dark mode
Reset