“ศิษย์น้องปีนี้ค่อนข้างร่ำรวยจริง ๆ เพียงเข้าสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้าไม่นาน ก็มานั่งกินอาหารที่ห้องอาหารวิญญาณเเล้ว”
ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังรับประทานอาหารอย่างเพลิดเพลินเเละกระเเสความอบอุ่นกำลังบำรุงร่างกายของเขา จู่ ๆ ก็มีเสียงเเปลก ๆ ดังลอดเข้ามาในหูของเขา
เป็นศิษย์อาวุโสสองคนที่สวมใส่เสื้อคลุมยาวสีเทาเข้ม ความเเข็งเเกร่งของพวกเข้าได้มาถึงผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 3 พวกเขาเพิ่งเดินมาถึง ห้องอาหารวิญญาณเเห่งนี้ เเละ สังเกตุเห็น เย่เฉินเฟิง
เย่เฉินเฟิง เพิ่งจะดูดซับ ปะการังโลหิตเข้าไป เขาได้เติมพลังเเละโลหิตในร่างไปมากกว่า 80% ดังนั้นความเเข็งเเกร่งทางกายของเขาเพียงอย่างเดียวก็เกินกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์เเล้ว เเละ ด้วยทักษะตราประทับอสรพิษโลหิต เขาสามารถที่จะเอาชนะ ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้นสามได้อย่างง่ายดาย
“ที่นี่ไม่ได้มีกฏเขียนไว้ว่าห้ามไม่ให้ศิษย์ใหม่เข้ามากินนี่ ทำไมข้าจะเข้ามาไม่ได้?”เย่เฉินเฟิงกล่าวอย่างเย้ยหยัน
“ฮ่าฮ่า ข้าได้ยินผิดไปหรือไม่?”ศิษย์อาวุโสทั้งสองคนได้ตกตะลึงเเละเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย้ยหยัน”เจ้าเด็กนี่กล้าพูดจาท้าทายเราจริง ๆ “
“ถ้าพวกเจ้าจะชวนหาเรื่องพวกเราไปที่สนามประลองวิญญาณกันดีกว่า หากพวกเจ้าไม่กล้าก็ใสหัวไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่าได้มาขวางทางข้า”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับอยากเยือกเย็น
“หากเจ้าต้องการที่จะตายเราจะช่วยสงเคราะความปราถนาให้เจ้า”ศิษย์อาวุโสทั้งสองคนไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะหยิ่งมากขนาดนี้
“ก็มาดูกันใครกันเเน่ที่จะตาย”เย่เฉินเฟิงหยิบผลึกวิญญาณระดับต่ำ 8 ก้อนออกมาจากถุงจักรวาบของเขาเเละวางลงบนโต๊ะก่อนที่จะเดินออกจากห้องอาหารวิญญาณ
“คังซง ข้าจะไปหักขาสุนัขของมันมา เเละทำให้มันนอนหมอบกราบอยู่เเทบเท้าข้าเพื่อขอความเมตตา”ชายหน้าเหลี่ยมได้กัดฟันพูดขณะที่เขาจ้องมองไปที่เเผ่นหลังของ เย่เฉินเฟิง
“จ้งเหอ ระวังตัวด้วย ไอ้เด็กนี่เหมือนจะไม่ธรรมดาอย่าได้ประมาทมันเป็นอันขาด”คังซง กล่าวเตือนด้วยความหวังดี
“ไม่ต้องกังวลมันไม่มีทางทำอะไรข้าได้อยู่เเล้ว”จ้งเหอ เต็มไปด้วยความมั่นใจในความเเข็งเเกร่งของเขา เขาไม่คิดจะพ่ายเเพ้เเก่ เย่เฉินเฟิง
ลานประลองวิญญาณนั้นเป็นสถานที่เพียงเเห่งเดียวที่เหล่าศิษย์ของนิกายเพลิงผลาญฟ้าสามารถเข้าใช้ได้โดยไม่มีเงื่อนไข มันถูกตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของคฤหาสน์ มันเป็นหน้าผาสูงชัน
เย่เฉินเฟิงเดินขึ้นบนัไดหยกขาวไปยังลานประลองวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นเหมือนกับศาลา เขสังเกตุเห็น ว่ามี ดาบ ขวาน หอก ค้อน เเละ อาวุธขนาดใหญ่อื่น ๆ นับร้อยนับพัน ที่ด้านรอบ ลานประลองวิญญาณ
ที่ใจกลางของลานประลองวิญญาณนั้นมีสนามต่อสู้ทั้งหมดสามเเห่งที่ทำจากเหล็กดำ ในขณะนี้มีศิษย์อาวุโส 4 คน จากนิกายเพลิงผลาญฟ้า ที่อยู่ในพื้นที่ลานประลองวิญญาณเเห่งนี้
“อาวุโสจิน พวกเราต้องการที่จะประลองกัน ได้โปรดเปิดใช้พื้นที่ประลองที่ 3 ให้พวกเราด้วย”เมื่อเข้าสู่ลานประลองวิญญาณเเห่งนี้ จ้งเหอ ก็พูดทักทาย ชายชราผาขาวด้วยความเคารพเขาสวมเสื้อคลุมยาวเหมือนผ้ากระสอบ
“อืม!”อาวุโสจินได้เปิดดวงตาที่พร่ามัวของเขาเพื่อสำรวจร่างของ เย่เฉินเฟิง เเละ จ้งเหอ จากนั้นก็กล่าวเตือนพวกเขาเบา ๆ “ในลานประลองนี้ พวกเจ้าสามารถต่อสู้กันได้ เเต่ไม่อนุญาติให้ฆ่ากัน มิฉะนั้นจะเป็นการฝ่าฝืนกฏ เเละ ตำหนักคฤหาสน์ประลองจะลงโทษพวกเจ้า”
เมื่อพูดจบ อาวุโสจิน ก็เปิดใช้รูปแบบก่อตัวเพื่อเปิดใช้งานลานประลองต่อสู้ที่สาม
“ถ้าเป็นการต่อสู้ที่ง่าย ๆ มันก็ออกจะน่าเบื่อเกินไปว่ามั้ย ? เช่นนั้นพวกเรามาเดิมพันกันหน่อยเป็นไง?”จ้งเหอ รู้ว่า เย่เฉินเฟิง ได้หลอกล่อเอา ผลึกวิญญาณจาก เสิ่นถู๋เสวี่ยไปมากกว่า 2,000 ก้อน ดังนั้นเขาจึงกล่าวขอเดิมพัน
“ก็ได้ เช่นนั้นพวกเราจะเดิมพันด้วยผลึกวิญญาณระดับต่ำ 2,000 ก้อนเป็นอย่างไร?”มุมปากของ เย่เฉินเฟิง ยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขากล่าวด้วยความเย็นชา
…
เเม้ว่า จ้งเหอ เเละ คังซง จะต้องการเดิมพัน เเต่ผลึกวิญญาณจำนวนมากแบบนี้ ก็ไม่ได้หามาง่าย ๆ มันสำคัญมากสำหรับการบ่มเพาะพลังในอนาคตของพวกเขา
“อะไร?หรือว่าเจ้าไม่ต้องการที่จะเดิมพันเเล้ว ทำไมเจ้าถึงเงียบแบบนี้ล่ะ?”เย่เฉินเฟิง กล่าวเยาะเย้ย โดยเผยเจตนาความตั้งใจของเขา
“เราไม่มีผลึกวิญญาณจำนวนมากขนาดนั้น”จ้งเหอ รู้ว่า เย่เฉินเฟิง จงใจทำให้พวกเขาอับอาย ดังนั้นเขาจึงกัดฟันเเน่นเเละพูดขึ้น
“เห้อ,น่าผิดหวังจริง ๆ เจ้าไม่มีกระทั่งผลึกวิญญาณมาเดิมพัน เเละ ยังกล้าที่จะท้าข้าเดิมพัน ถ้าเกิดจำนวนผลึกวิญญาณที่พวกเจ้าจะลงเดิมพันน้อยเกินไปก็ไม่ต้องเล่นมันเเล้ว”เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมา จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ ใบหน้าของ จ้งเหอ เเละ คังซง ที่หน้าเเดงเพราะถูกปั่นประสาท
“เราจะวางเดิมพันผลึกวิญญาณระดับต่ำ 300 ก้อน”จ้งเหอ คิดไตร่ตรองสักครู่ก่อนที่จะกัดฟันเเน่นเเละพูดอีกครั้ง
“ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 300 ก้อน เฮ้อ ช่างเป็นจำนวนที่น่าสงสารจริง ๆ “เย่เฉินเฟิงสั่นศีรษะเเละถอนหายใจ
“ไอ้เด็กเหลือขอ อย่าให้มันมากนัก ไม่อย่างนั้นเจ้าจะมาร้องไห้ทีหลังก็ไม่ทันเเล้ว”ได้ยินการเยาะเย้ยของ เย่เฉินเฟิง จ้งเหอ พูดออกมาด้วยความโกรธ เขาต้องการจะฉีกร่างของ เย่เฉินเฟิง ออกจากกันแบบทั้งเป็น
“พวกเจ้าตกลงกันจบหรือยัง ข้าจะได้เริ่มป่าวประกาศเริ่มการต่อสู้ทันที”อาวุโสจินจ้องมองไปที่ ใบหน้าของ เย่เฉินเฟิง ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเเละกล่าวถาม
“ข้าพร้อมเเล้ว”จ้งเหอ กำหมัดเเน่น เเละเผยจิตวิญญาณเเห่งการต่อสู้ออกมา เขายื่นส่งผลึกวิญญาณระดับต่ำ 300 ก้อน ให้เเก่ อาวุโสจิน เเละ กระโดดขึ้นไปบนลานประลอง
“เเล้วเจ้าอีกคนเล่าไม่เข้ามาท้าทายด้วยกันเหรอ?”เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ คังซง ที่ยืนใกล้ ๆ
“อะไร เจ้าต้องการท้าพวกเราต่อสู้ในเวลาเดียวกัน?”คังซง ขมวดคิ้วเเน่นด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะเย่อหยิ่งขนาดนี้กระทั่งกล้าท้าทายพวกเขาสองคนต่อสู้ในเวลาเดียวกัน
“ข้าก็เเค่ไม่ต้องการเสียเวลากับพวกเจ้าคนใดคนนึงมากเกินไปสู้ขึ้นมาพร้อมกันสองคนเลยดีกว่า”เย่เฉินเฟิง กล่าวพยักหน้าพูด”สำหรับพวกเจ้าในสายตาของข้าเเล้วก็ไม่ต่างจากอึสองก้อนที่เรี่ยราดวางอยู่ตามทาง ข้าจะช่วยดูเเลเเละชี้เเนะเจ้าเอง”
“โอหัง เด็กคนนี้มันหยิ่งยโสเกินเยียวยาเเล้ว”
จ้งเหอ เเละ คังซง พวกเขาคิดว่าตนเองนั้นเย่อหยิ่งมากเเล้ว เเต่พวกเขากลับไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะหยิ่งยโสมากกว่าพวกเขาอีก ความโกรธของพวกเขาได้ระเบิดออกมาอยู่เต็มใบหน้าเเละเปลี่ยนเป็นสีเขียว
“อาวุโสจิน นี่คือผลึกวิญญาณรวมกันทั้งหมด 600 ก้อน”
เย่เฉินเฟิง เพิกเฉยต่อสายตาจ้องมองของทั้งสองคน เเละ หยิบผลึกวิญญาณระดับต่ำ 600 ก้อนออกมาจากถุงจักรวาลของเขา พร้อมกับยื่นส่งให้กับอาวุโสจินที่มีสีหน้าเเปลก ๆ ตอนนี้ จากนั้น เขาก็กระโดดขึ้นบนลานประลอง
“ถ้าเจ้าต้องการจะตายเราจะช่วยส่งเคราะห์ความปราถนาให้เจ้าเอง”คังซง ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขายื่นส่ง ผลึกวิญญาณเดิมพันให้กับ อาวุโสจิน เเละ กระโดดขึ้นบนเวที
“เจ้าจะต้องเสียใจที่กล้าดูถูกพวกเรา”จ้งเหอ เองก็กัดฟันเเน่นด้วยความโกรธ
จากนั้นกลิ่นอายพลังของทั้งสองคนก็ระเบิดออกมาอย่างรุนเเรง พลังวิญญาณจำนวนมากได้พุ่งไปคุกคาม เย่เฉินเฟิง ที่อยู่ไม่ไกล
การจับคู่เดิมพันระหว่างพวกเขาทั้งสามคนได้กลายเป็นที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนในลานประลองวิญญาณเเห่งนี้