บทที่ 123 เขามาแล้วจริง ๆ ด้วย
บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังของมู่วี่สิงเข้ามาภายในห้องอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็จับตัวฉืออี้เหิงเอาไว้ได้ และบังคับให้ฉืออี้เหิงคุกเข่าลงกับพื้น
เวินจิ้งถอนหายใจ เงาของใครบางคนทอดมาซ้อนทับที่ร่างกายของเธอ มู่วี่สิงถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกและนำมาห่มร่างกายของเธอ เมื่อสายตาเย็นชาคู่นั้นมองไปที่เวินจิ้ง มันก็ค่อย ๆ อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณนายมู่” เสียงที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มของเขาดังขึ้นที่ข้างหู หางตาของเวินจิ้งรู้สึกร้อนขึ้นมา เธอก้าวไปข้างหน้าและกอดเขาเอาไว้อย่างแนบแน่น
“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ แต่ว่าคุณไปลงทุนกับบริษัทของฉืออี้เหิงจริง ๆ ได้ยังไงกัน ถ้าเกิดขาดทุนขึ้นมา…..นั่นคือเงิน 50 ล้านหยวนเลยนะคะ…..” เวินจิ้งขมวดคิ้ว สิ่งที่เธอไม่ต้องการเห็นเป็นที่สุดคือ การที่มู่วี่สิงยอมประนีประนอมกับเขาก็เพราะเธอ
ฉืออี้เหิงมองดูชายหญิงทั้งสองคนที่กำลังกอดกันและกัน ดวงตาของเขาปรากฏความโกรธจัดปะทุขึ้นมาในทันที แต่เขาก็ไม่สามารถขัดขืนการจับกุมของบอดี้การ์ดคนนั้นออกไปได้
“มู่วี่สิง แกเอาเงินมาลงทุนที่บริษัทของฉันแล้ว ฉันเซ็นตกลงในข้อตกลงนั่นเรียบร้อย แกไม่มีทางกลับคำได้แล้ว!” ฉืออี้เหิงระเบิดคำพูดออกมาด้วยความโกรธจัด
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงหรี่ตาลง และยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา “ในเมื่อผมยอมลงทุนไปแล้ว และภรรยาของผมก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร คุณสามารถเก็บเงินส่วนนี้เอาไว้ใช้ได้ แต่ถ้าเกิดว่ากำไรไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาล่ะก็ อย่ามาหาว่าผมหยาบคายก็แล้วกัน”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็โอบเวินจิ้งพร้อมกับหันหลังเดินจากไป แต่ทว่าเมื่อหญิงสาวก้าวเท้า เธอกลับรู้สึกเจ็บปวดเสียดแทงขึ้นมา
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เมื่อเขาเห็นว่าเข่าของเวินจิ้งมีเลือดออก ทันใดนั้น สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา และรีบเข้าไปอุ้มหญิงสาวขึ้นมาในทันที
“คุมตัวเขาเอาไว้ก่อน!” เขาออกคำสั่งกับบอดี้การ์ด
ภายในรถยนต์ เวินจิ้งงอเท้าของเธอ ตอนที่เธอถูกฉืออี้เหิงผลักเมื่อครู่นี้ เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองไปชนกับอะไรเข้า ตอนนี้แค่ขยับก็รู้สึกเจ็บปวดทีเดียว
“คุณนายมู่ ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอเสียนาน” มู่วี่สิงสวมกอดเธอ คางของเขาวางเกยอยู่บนศีรษะของเธอ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรักใคร่ผูกพันและความเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจ
หลังจากที่เขาได้พบกับฉืออี้เหิงในวันนี้ เขาออกคำสั่งให้เกาเชียนติดตามฉืออี้เหิงไป แต่เห็นได้ชัดว่าฉืออี้เหิงนั้นรู้ทันอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงเปลี่ยนรถยนต์และเสื้อผ้าหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการติดตามเขาให้ได้อย่างราบรื่น
โชคยังดีที่เธอไม่เป็นอะไร
มู่วี่สิงหลับตาลง เพื่อปิดบังความโหดเหี้ยมที่ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ แต่ว่าคุณไปลงทุนกับบริษัทของฉืออี้เหิงจริง ๆ ได้ยังไงกัน ถ้าเกิดขาดทุนขึ้นมา…..นั่นคือเงิน 50 ล้านหยวนเลยนะคะ…..” เวินจิ้งขมวดคิ้ว สิ่งที่เธอไม่ต้องการเห็นเป็นที่สุดคือ การที่มู่วี่สิงยอมประนีประนอมกับเขาก็เพราะเธอ
มู่วี่สิงพลันหัวเราะอย่างเย็นชา “ยังไงก็ลงทุนไปแล้วล่ะ หากเขาไม่มีทางทำกำไรได้ ผมยังมีวิธีอื่นที่จะทำให้เขาคายเงินก้อนนี้ออกมาอีก”
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้ว เธอจึงทำได้แต่เพียงทำใจให้สงบเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพราะเธอ มู่วี่สิงถึงได้ลงมือทำเช่นนั้น
“มู่วี่สิง ขอบคุณนะ” เวินจิ้งกล่าวออกไปด้วยความจริงใจ
“อืม คุณขอบคุณผมทำไม” มู่วี่สิงเชิดหน้าของเธอขึ้น สายตาของเขามองดูเธออย่างลึกซึ้ง
เวินจิ้งรู้สึกแต่เพียงว่าตัวเองเกือบจะจมลงไปในดวงตาคู่นั้นของเขาตรงนี้
เธอขบริมฝีปากของเธอ และเข้าไปจูบที่ริมฝีปากอันแสนเรียวบางที่เธอคิดถึงมานานแสนนาน ทันทีที่ได้สัมผัสกับริมฝีปากนั้น เธอกลับเป็นฝ่ายที่ถูกมู่วี่สิงเข้ายึดริมฝีปากของเธอไปแทน เขาจับที่ด้านหลังศีรษะของเธอ ยิ่งจูบยิ่งแนบแน่นมากขึ้น จนเกือบจะแย่งลมหายใจไปจากเธอเสียจนหมดสิ้น
เธอรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายของเธออ่อนแรงลง มู่วี่สิงใช้เวลาอยู่นานกว่าที่เขาจะปล่อยตัวเธอ
ดวงตาของทั้งสองคนแผ่ซ่านความเร่าร้อนออกมาเล็กน้อย
“ทำยังไงดี ยังไม่พอ” มู่วี่สิงขบใบหูของหญิงสาว เสียงของเขาทุ้มลึก
เวินจิ้งโน้มตัวพิงไหล่ของเขา ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกกระหายต้องการเขาเหลือเกิน ต้องการความอ่อนโยนทั้งหมดที่อยู่ในตัวเขา
เมื่อไรที่ได้เริ่มต้น คาดไม่ถึงว่าเธอจะรู้สึกเพ้อฝันอย่างเหลือล้นได้มากขนาดนี้
……
เมื่อกลับไปถึงบ้าน มู่วี่สิงรีบสั่งให้แพทย์ประจำตระกูลมาที่บ้านในทันที บาดแผลที่อยู่บนเข่าของเวินจิ้งเป็นเพียงบาดแผลภายนอกเล็กน้อย เมื่อแพทย์จ่ายยาให้กับเธอเรียบร้อย เขาก็กลับไป
มู่วี่สิงอยู่ที่ห้องอ่านหนังสือ และต่อสายโทรศัพท์กลับไปหาเสี้ยงหง
“วี่สิง เรื่องเงินในบัญชีก้อนนั้น พ่อนายมาถามฉันแล้วนะ” เสี้ยงหงพูดอย่างกระสับกระส่าย
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย ในเมื่อมันเข้าไปพัวพันกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ฉันก็ควรที่จะต้องกลับไป” มู่วี่สิงเอ่ยด้วยเสียงเข้ม
หลายปีก่อน บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้แอบซื้อบริษัทเย่าเคออย่างเงียบ ๆ มู่วี่สิงไปอาจเคลื่อนไหวในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้ แต่กับบริษัทเย่าเคอแล้ว เขายังสามารถควบคุมได้อยู่
แต่ทว่าเมื่อผีเสื้อขยับปีกแล้วก็อาจก่อให้เกิดพายุได้ หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป มู่วี่สิงจำเป็นที่จะต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน
ดังนั้น เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาจึงจำต้องรับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเสียแล้ว