flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1311 เรื่องที่ไม่ดีปิดบังซ่อนไว้

บทที่ 1311 เรื่องที่ไม่ดีปิดบังซ่อนไว้

เมื่อฉินซีฟังมาถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจโล่งอกเบาๆ : “พาฉันไปพบเขาหน่อย”

ใบหน้าของหลินหยังเกิดความลำบากใจขึ้นแวบหนึ่ง แต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี

คนหนึ่งเดินนำ คนหนึ่งเดินตามเข้าไปในลิฟต์ แล้วทั้งคู่ก็เดินออกมาอยู่ที่ชั้นอายุรกรรม

ฉินซีไม่รู้สึกผิดสังเกตในตอนแรก แต่ว่าเมื่อยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

“แผนกโรคระบบทางเดินอาหารเหรอ” เมื่อเดินตามหลินหยังไปสักพัก ฉินซีก็อดไม่ได้จึงได้เรียกเขาขึ้น “เดินผิดทางหรือเปล่า ทำไมถึงมาที่นี่”

โดยทั่วไปแล้วส่วนที่ได้รับแรงกระทบจากระเบิดมักจะเป็นส่วนที่เปราะบางที่สุดอย่างม้ามและตับ แต่ถ้ากระทบไปถึงส่วนกระเพาะเมื่อไร ก็มักจะส่งผลที่ร้ายแรงกว่า

หลินหยังเพิ่งบอกเองว่าลู่เซิ่นไม่เป็นไร แต่ทำไม…..ถึงพามาที่แผนกโรคระบบทางเดินอาหาร

หลินหยังกลับไม่มีคำอธิบายใดๆให้กับเธอ เพียงแค่พยักหน้าเพื่อสื่อให้ฉินซีนั้นเดินตามตัวเองเข้าไป แล้วมายืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง

ประตูห้องผู้ป่วยปิดอยู่ มีเสียงเบาๆดังมาจากด้านใน ที่ฟังจับไม่ได้ใจความ

ฉินซีขมวดคิ้วขึ้นแน่น กำลังจะอ้าปากถามหลินหยังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ๆก็มีเสียงเดินโซเซมาจากด้านหลัง

“คุณนาย!”

ฉินซีจึงหันขวับไปดู จึงเห็นพ่อบ้านที่ไม่ได้เจอกันมานาน

ทั้งๆที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว แต่ตลอดปีมานี้กลับไม่เคยเห็นหน้าเธอ แม้พ่อบ้านจะมีการตอบสนองที่เชื่องช้า แต่ก็พอจะรู้ว่าระหว่างลู่เซิ่นกับฉินซีมีบางอย่างที่ไม่สามารถบอกกับคนรอบข้างได้

ในฐานะที่เป็นพ่อบ้าน เขาไม่เคยที่จะยุ่มย่ามหรือถามก้าวก่าย เพียงแต่เฝ้ามองลู่เซิ่นที่พยายามสู้สุดพลังอย่างเงียบๆในตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา

พ่อบ้านนั้นรู้ดีและเฉียบแหลมกว่าหลินหยัง พอจะเดาออกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของลู่เซิ่นนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการจากไปของฉินซี

แต่ว่าลู่เซิ่นเป็นคนเขาที่เห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต เรื่องบั่นทอนร่างกายตัวเองเช่นนี้ พ่อบ้านได้แต่ทุกข์ใจ กลับไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้

ถ้าหากฉินซีอยู่ อะไรๆก็คงจะดีกว่านี้

พ่อบ้านมักจะคิดเช่นนี้เป็นประจำ

เพราะฉะนั้นวินาทีแรกที่เห็นฉินซีที่โรงพยาบาล เขาราวกับเห็นความหวังที่จะทำให้ลู่เซิ่นนั้นดูแลตัวเองอีกครั้ง

หนึ่งปีที่ไม่ได้เจอ พ่อบ้านนั้นดูชราขึ้น มือทั้งสองจับมือของฉินซีไว้แน่น น้ำเสียงที่เต็มไปการถอนหายใจ “ในที่สุด…..ในที่สุดก็ได้เจอคุณ…..”

ฉินซีอยากจะอ้าปากตอบ แต่ประตูห้องผู้ป่วยกลับเปิดขึ้นทันใด

มีแพทย์สองคน หญิงหนึ่งชายหนึ่ง ทั้งคู่ได้เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย

แพทย์ชายเห็นหลินหยังที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด จึงเอ่ยปากพูดขึ้น “ ได้ตรวจอาการเสร็จแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนโรคกระเพาะกำเริบนั้น พักผ่อนสองสามวันก็จะดีขึ้นเอง”

เมื่อพูดจบ ฉินซีกับพ่อบ้านก็พยักหน้าทักทาย แล้วก็จากไป

แพทย์หญิงที่เดินตามอยู่ด้านหลังไม่ได้พูดจาใดๆ เพียงแค่พยักหน้าทักทายแล้วก็จากไปพร้อมกัน

ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง ฉินซีรู้สึกว่าสายตาของแพทย์หญิงคนนั้นเพิ่งมาที่เธอนั้นนานกว่าปกติ

สายตาของเธอจึงมองตามร่างของแพทย์หญิงคนนั้น ที่ให้ความรู้สึกที่คุ้นตา

…..คือใครกันนะ

ฉินซีนึกไม่ออกในวินาทีนั้น จึงได้ส่ายหัวไปมา และก็ไม่พยายามนึกต่อไปอีก จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปยังห้องผู้ป่วย

ลู่เซิ่นไม่ได้นอนอยู่บนเตียง กลับนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่ขาวซีด แต่ดวงตานั้นเป็นประกายวับ

เขาไม่มีการพูดการจา เพียงแค่ตบเบาๆไปเบาะนั่งข้างๆ

ฉินซีรับทราบแล้วก็เดินไปนั่งลงข้างๆเขา

ฉินซีชิงพูดขึ้นก่อนโดยไม่รอให้เขาเปิดปาก : “เมื่อสักครู่ฉันได้ยินคุณหมอบอกด้านนอกว่าโรคกระเพาะคุณกำเริบ คุณเป็นโรงกระเพาะตั้งแต่เมื่อไร”

แววตาลู่เซิ่นประกายวับขึ้น หันไปมองจิกหลินหยังแวบหนึ่ง

หลินหยังได้แต่ก้มหน้า ไม่พูดไม่จา

“ปี…..นี้” เผชิญหน้ากับสายตาของฉินซี ลู่เซิ่นไม่สามารถจะโกหกได้ จึงทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ แล้วก็พูดออกมา

ฉินซีหยีตาขึ้น : “ปีนี้เหรอ”

เธอโยงเรื่องที่ลู่เซิ่นเป็นโรคกระเพาะกับเรื่องที่เขาพยายามอย่างไม่คิดชีวิตมาตลอดทั้งปีเข้าด้วยกัน

“คุณ…..” เธอพยายามอ้าปากเพื่อจะพูดบางสิ่ง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแค่เพียงเสียงถอนลมหายใจ

ท่ามกลางห้องที่เงียบสงบ แค่เพียงเสียงถอนลมหายใจก็ได้ยินได้อย่างชัดเจน

เป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่บ่อยที่ลู่เซิ่นนั้นไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรดี จึงทำได้เพียงเอื้อมมือไปคว้าฉินซีมากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วเปลี่ยนเป็นพูดเรื่องอื่นแทน : “เรื่องอุบัติเหตุบนเรือนั้นได้ทำการตรวจสอบแล้ว”

เขาเปลี่ยนเรื่องได้เหมาะเจาะพอดี เบี่ยงเบนความสนใจของฉินซีได้ในทันที แล้วพูดขึ้น : “เกิดอะไรขึ้น”

น้ำเสียงลู่เซิ่นเคร่งขรึม : “มีบุคคลบนเรือทำธุรกิจไม่ใสสะอาด อาศัยบนเรือมีผู้คนพลุกพล่านเพื่อทำการแลกเปลี่ยนสินค้า แต่เล่นตุกติก โดยคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายนั้นก็ไม่กระจอกงอกง่อย มีทำการเตรียมระเบิดไว้ตั้งแต่แรก เมื่อเห็นว่าเขาไม่อยู่ในกติกา จึงได้ทำการระเบิดสินค้าทันที”

ฉินซีขมวดคิ้วขึ้นแล้วถามต่อ : “แล้วบนลานจอดเครื่องบินคืออะไร”

ลู่เซิ่นยิ้ม : “นั่นเป็นกับดักที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ตั้งแต่แรก หลังจากระเบิดสินค้าแล้ว อีกฝ่ายย่อมไม่ยอมหยุดอย่างง่ายๆแน่นอน ดังนั้นพวกเขาได้จัดคนไปรอขวางที่ลานจอดเครื่องบิน พวกเราโชคร้ายที่ไม่รู้อิโหน่อิโหน่ จึงพลอยซวยไปด้วย”

ในที่สุดฉินซีก็เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าเป็นมาอย่างไร

การเล่นตุกติกนั้น ไม่ว่าจะสมัยไหนๆก็มักจะเป็นเรื่องที่พบเจอบ่อยๆ

อีกฝ่ายใช้เรือสำราญสุดอลังการลำนี้เป็นที่กำบังเพื่อจะทำเรื่องแบบนี้ ตัวเอง…..ก็กำลังทำเรื่องแบบนี้อยู่ไม่ใช่หรือ

เรือสำราญที่สุดแพงเช่นนี้ มีผู้คนที่ภายนอกแต่งตัวดูดี ลึกๆแล้วมีเรื่องที่ไม่ดีปิดบังซ่อนไว้มากแค่ไหนกัน

ฉินซีสะอิดสะเอียนในใจถึงสิ่งที่ตัวเองกระทำ และสิ่งจอมปลอมที่เรียกว่า “สังคมชั้นสูง”

ไม่รู้ว่าลู่เซิ่นนั้นอ่านความคิดเธอออกหรือเปล่า แต่เขาเงียบไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่จับมือฉินซีไว้อย่างเงียบๆ

โชคดีที่ทั้งคู่นั้นไม่เป็นอะไร

แต่ต่อให้ทั้งคู่จะปลอดภัยดี ก็ไม่ได้หมายความว่าลู่เซิ่นจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สำหรับเรื่องที่เขาจะจัดการกับคนพวกนี้อย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉินซีจำเป็นต้องทราบ

เมื่อสมองของฉินซีได้ทบทวนต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ความคิดของเธอก็ได้วกกลับมาที่ตัวของลู่เซิ่นอีกครั้ง

เธอเม้มริมฝีปาก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน :“ต่อไป…..อย่าเสี่ยงแบบนี้อีกได้ไหม”

ลู่เซิ่นหันไปสบสายตากับเธอ เขารู้ดีว่าฉินซีหมายถึงโรคกระเพาะของเขา

เขาอยากจะบอกว่าถ้าไม่เสี่ยงแบบนี้ จะทำให้คุณออกจากที่นั่นได้อย่างไร

แต่อยู่ภายใต้แววตาของฉินซี ทำให้เขาไม่อาจจะปฏิเสธได้ จึงได้พยักหน้ารับ

ขณะที่ฉินซีเหมือนกำลังอยากจะพูดบางอย่าง โทรศัพท์ของเธอได้ดังขึ้นในทันใด

ฉินซีหยิบออกมาดู แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปฉับพลัน

ลู่เซิ่นไม่ได้ตั้งใจหันไปมอง แต่หางตาแอบเหลือบไปดูชื่อของสายที่โทรเข้ามา

—— จ้านเซิน

มือซ้ายของเขากำหมัดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ฉินซีนั้นตกอยู่ในความตระหนกอยู่ชั่วขณะ

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ทำให้เธอลืมองค์กรไปอย่างสนิท ลืมเรื่องที่องค์กรส่งคนมารับเธอที่ท่าเรือ

ตอนที่เธอติดเครื่องบินของตระกูลลู่จากมานั้น จิตใจก็ห่วงพะวงแต่ลู่เซิ่นนั้นจะได้รับบาดหรือไม่ จนทำให้ลืมเรื่องอื่นไปอย่างสนิท

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset