flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1365 คุณถูกแล้ว

ฉินซีสอดมือซ้ายลงในผ้าห่ม แล้วก็พลิกตัวหันหลังให้กับประตู

ดวงตาของเธอบดบังด้วยหมอกจางๆ

ถึงแม้ว่าฉินซีมีความต้องการที่จะออกไปจากองค์กร แต่ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาหลายปีที่อยู่ด้วยกันมานี้ เธอก็มีความรู้สึกดีๆให้กับจ้านเซิน

แต่ว่าความรู้สึกนี้ไม่เหมือนกับความรู้สึกที่มีต่อลู่เซิ่น

ในสายตาของฉินซี จ้านเซินก็เหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่สามารถเชื่อใจได้

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่ชายคนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนเย็นชาไรน้ำใจ จนทำให้เธอรู้สึกกลัวและไม่กล้าที่จะเข้าใกล้

ถ้าเป็นไปได้ ฉินซีต้องการได้ทางออกในการแก้ปัญหาที่ดี

และจะดีที่สุดถ้าจ้านเซินคิดได้ และยอมปล่อยให้เธอจากไป โดยที่ไม่มีสมาชิกในองค์กรคนใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ฉินซีมีความหวังที่สวยงามอยู่ภายในใจ เธอถอนหายใจเงียบๆ ได้แต่หวังว่าความหวังนี้จะกลายเป็นจริงให้โดยเร็วที่สุด เพราะเธอนั้นใกล้จะบ้าเต็มทนแล้ว

…..

ในขณะเดียวกัน

จ้านเซินที่ถูกลูกน้องเรียกออกไปพบข้างนอก

บอดี้การ์ดได้โค้งคำนับแล้วรายงานขึ้น : “ลูกพี่ หมอโจวเอาแต่ส่งเสียงเอะอะโวยวายอยากจะออกไปข้างนอก พวกเราจะปล่อยเขาออกไปไหมครับ”

หากไม่ได้รับการอนุญาตจากจ้านเซิน ก็ไม่มีใครกล้าที่จะตัดสินใจโดยพลการ แม้แต่เหยาจ้าวเองก็ไม่สามารถทำได้

เมื่อจ้านเซินได้ยินเขารายงานเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วเข้ม : “ตอนนี้โจวซิงอยู่ไหน”

เขาหรี่ตาอย่างดุดัน มีบรรยากาศเย็นยะเยือกปกคลุมไปรอบๆ

เขาอยากรู้ว่าโจวซิง ต้องการจะทำอะไร อยากออกไปเพราะไม่ได้ถูกเรียกใช้ หรืออยากจะออกไปเพื่อส่งสาร

บอดี้การ์ดชี้จึงไปด้านหน้า : “อยู่ด้านหน้าครับ”

“หมอโจวเดินกระฟัดกระเฟียดอยู่ในบ้าน และหาวิธีที่จะออกไป แต่ถูกพรรคพวกได้รั้งตัวไว้ ตอนนี้เขากำลังโมโหอย่างมาก”

ถ้าไม่เห็นว่าโจวซิงเป็นคนที่จ้านเซินพามา พวกเขาก็คงลงไม้ลงมือเพื่อเป็นการสั่งสอนแล้ว โดยไม่สนว่าเขาจะมีสถานะอะไร รู้แต่ทำความเดือดร้อนให้พวกเขาอย่างเดียว

“อืม ทำรู้แล้ว”

จ้านเซินพยักหน้า แล้วก้าวขาเรียวยาวมุ่งเดินไปข้างหน้า

เมื่อเขาเดินออกจากประตู แล้วมองเข้าไปในห้อง ก็เห็นโจวซิงที่กำลังประจันหน้าอยู่กับบอดี้การ์ด

“พวกนายถือดียังไงไม่ปล่อยผมออกไป ผมก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับความอิสระเช่นกันนะ”

โจวซิงยืนเท้าสะเอว แล้วพูดขึ้นด้วยความโมโห

เสื้อคลุมสีขาวของเขายับเยินเนื่องจากทะเลาะกับบอดี้การ์ด ดูกระเซอะกระเซิงเล็กน้อย

จ้านเซินยืนอยู่ที่เดิม แล้วมองไปยังด้านหลังของเขาอยู่สักพัก

จากนั้นเขาก็ยกเท้าก้าวเดินมาถึงด้านหน้าของ โจวซิง

“เกิดอะไรขึ้น”

เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ โจวซิงถึงกับตกใจชะงัก

เขาหันมาทันใด และเผชิญหน้ากับสายตาที่เฉียบคมคู่นั้นของจ้านเซินที่กำลังมองมาที่ตัวเอง ดูคล้ายกับอยากมองทะลุผิวหนัง และทะลุไปถึงความคิดของเขา

ในใจของโจวซิงเต้น “ตึกตัก!”

เขาแสร้งทำเป็นตกใจแล้วถอยหลังไปครึ่งก้าว

โจวซิงเอามือกุมหัวใจของตัวเอง แล้วตบเบาๆ : “คุณจ้าน นี่คุณเดินไม่มีเสียงเลยหรือ ตกใจหมดเลย คุณรู้ไหมการตกใจ อาจทำให้คนถึงตายได้นะ”

น้ำเสียงของเขามีอาการเคืองเล็กน้อย และไม่มีการให้ความเคารพเนื่องจากสถานะของเขาเลยสักนิด

เพราะถึงอย่างไรจ้านเซินก็ไม่ใช่หัวหน้าของ เขาไม่ใช่คนขององค์กร ไม่มีความจำเป็นต้องรองรับอารมณ์ของเขา

จ้านเซินมองเขาอย่างไม่ไหวติง : “หมอโจว คุณมาทําอะไรที่นี่”

เขาไม่ได้ตอบคำถามของโจวซิงแต่กลับมีการย้อนถามขึ้น

จ้านเซินจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของโจวซิง เพื่อพยายามที่จะจับผิด

สายตาที่ร้อนแรงของเขา ทำให้โจวซิงไม่กล้าที่จะผ่อนคลายความระมัดระวัง

โจวซิงแสร้งทำเป็นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ : “ก็เพราะลูกน้องของคุณนั่นแหละ ผมบอกกับพวกเขาว่าคุณได้คุณหมอคนใหม่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ผมอยู่ทำการรักษาให้กับฉินซีอีก และก็ควรปล่อยผมออกไปได้แล้ว แต่ว่าพวกเขาไม่เชื่อ และไม่ยอมให้ผมออกไป จะต้องได้รับการอนุญาตจากคุณเท่านั้น”

เขาเดินไปอยู่ข้างๆจ้านเซิน แล้วรีบพูดขึ้นทันทีทันใด : “คุณจ้าน คุณรีบบอกลูกน้องของคุณ ให้พวกเขารีบปล่อยผมไปสิ เพราะถึงผมอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อันใด ให้ผมได้กลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลเดิมของผม อย่างน้อยๆผู้ป่วยที่นั่นและครอบครัวยังมีความเชื่อมั่นในตัวผม ที่ทำให้ผมยังรู้สึกภาคภูมิใจ”

น้ำเสียงของโจวซิงซ่อนอารมณ์โกรธเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเนื่องจากจ้านเซินไม่เชื่อมั่นในตัวเขา ต้องการที่จะทำการทดลองใหม่ให้กับฉินซี อีกทั้งยังมีการเชิญแพทย์ท่านอื่น จึงทำให้เขาไม่พอใจ

การกระทำของจ้านเซิน บ่งบอกให้รู้ว่าไม่เชื่อมั่นในตัวเขา

คำโบราณกล่าวไว้ว่า จะใช้ใครก็อย่าระแวง หากระแวงใครก็อย่าใช้

โจวซิงเองก็เป็นคนที่หยิ่งผยองคนหนึ่ง เมื่อโดนจ้านเซินดูถูกเช่นนี้ ก็เป็นธรรมดาที่เกิดอาการไม่พอใจ

จุดนี้ เป็นคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถเข้าใจได้

จ้านเซินก็ฟังออกถึงความหมายของเขา : “หมอโจว คุณอยู่ต่อเถอะคุณยังมีประโยชน์อย่างอื่น”

เขาไม่มีความคิดที่จะปล่อยตัวโจวซิง : “เมื่อสักครู่ หมอเหยาได้ทำการทดลองให้กับฉินซีเสร็จแล้ว…..”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสียงของจ้านเซินก็หยุดชะงักขึ้น

เมื่อโจวซิงได้ยินว่าฉินซีได้ทำการทดลองเสร็จแล้ว หัวใจของเขาก็จุกขึ้นมาทันที

เขาไม่รู้ว่าเหยาจ้าวจะทดทองเจอสิ่งที่ผิดปกติหรือเปล่า ถ้าหากพูดเรื่องลู่เซิ่นออกมา อย่างนั้นแผนการของพวกเขาก็คงจะล่มไม่เป็นท่า

“เหอะๆ ผลการทดลองเป็นอย่างไร”

โจวซิงได้กลั้นหายใจ แม้ใบหน้าจะมีรอยยิ้ม แต่ข้างในนั้นวิตกกังวล

เขารู้สึกถึงกล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขานั้นตึงไปหมด

จ้านเซินมองดูเขาที่ตัวตึงไปหมด หรี่ตาอย่างดุดัน : “แล้วหมอโจวคิดว่าผลออกมาเป็นอย่างไรล่ะ”

เขาไม่ได้ตอบคำถามของโจวซิง แต่กลับโยนคำถามกลับไปให้เขา

โจวซิงเห็นเขาจงใจเล่นตลกกับตัวเอง ไม่บอกคำตอบให้กับเขา จึงทำให้ความโกรธที่อยู่ในใจได้พุ่งสูงปรี๊ด

เขาจ้องเขม็งจ้านเซิน : “คุณจ้าน ถึงอย่างไรผลที่ได้จากการทดลองของผมก็เหมือนกับที่ผมบอกคุณ อาการฉินซีนั้นรุนแรง ถ้าหากคุณไม่เชื่อ อย่างนั้นผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ และขอให้คุณจ้านโปรดปล่อยผมไปเสียที จากนั้นฉินซีจะดีหรือร้าย จะเป็นหรือตาย ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมอีก”

โจวซิงพูดอย่างหงุดหงิด แล้วคิดในใจ หรือว่าเหยาจ้าวจะเจอความลับที่ฉินซีปกปิดแล้ว อย่างนั้นเขาจะต้องรีบหาวิธีแจ้งกับลู่เซิ่นกับโจวเอ้อให้โดยเร็วที่สุด ให้พวกเขาทำการเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

จ้านเซินมองเขาที่ท่าทางหงุดหงิด นัยน์ตาดำขลับเปล่งประกายด้วยแสงสลัว : “หมอโจว คุณอย่าใจร้อนสิ ผมยังไม่ทันได้บอกผลสรุปเลย”

เขาจงใจหลอกล่อโจวซิง เห็นเขาที่ใจร้อนดุจกองไฟ ความชั่วร้ายก็บังเกิดขึ้นในใจ

“ผลสรุปของหมอเหยา เหมือนกับสิ่งที่คุณพูด หมอโจวคุณถูกแล้ว”

จ้านเซินพูดช้าๆ คำพูดที่พูดออกมานั้นช่างเย็นชา

ถึงแม้ว่าโจวซิงจะได้รับการยอมรับจากเขา แต่กลับไม่รู้สึกถึงความดีใจเลยแม้แต่น้อย

เขาไม่คิดว่าจ้านเซินกำลังชื่นชมเขา

จ้านเซินก็แค่ไม่อยากปล่อยเขาไปเท่านั้นเอง หรือบางทีแค่รู้สึกว่าเขานั้นยังมีประโยชน์อยู่

หรือไม่ก็กังวลว่าถ้าปล่อยเขาออกไปแล้ว จะนำความเดือดร้อนมาให้ในภายหลัง ดังนั้นจึงได้คุมตัวเขาไว้ก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกทีหลังหลังจากที่กลับไปองค์กรแล้ว

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset