flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1414 ขอร้อง

บทที่ 1414 ขอร้อง

ตอนนี้หยดน้ำตานั้นราวกับไม่มีค่า

ฉินซีกัดฟันแน่น เธอไม่พูด ร้องหายไม่หยุดอย่างกระหืดกระหอบ

เธอคิดถึงช่วงเวลาหลายปีที่อยู่ในองค์กร คิดถึงจ้านเซินที่ดีต่อเธอ

ด้านหนึ่งก็จ้านเซินที่เหมือนพี่ชายแท้ๆ อีกด้านก็ลู่เซิ่นชายผู้เป็นที่รัก

ฉินซียืนอยู่บนทางแยก ไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหน

“เหยาจ้าว ฉันควรทำยังไง?”

ฉินซีขดตัวกลมกอดเข่าแน่น

เธอพูดสะอึกสะอื้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยการทำอะไรไม่ถูก

“ยังไงอะไร?”

เหยาจ้าวฟังคำพูดของฉินซีอย่างไม่เข้าใจ ในใจร้อนรนมาก

เขากลัวว่าฉินซีจะร้องไห้ตลอดจนเสียการควบคุม จะทำให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ยิน

เหยาจ้าวปลอบเบาๆ : “ฉินซี คุณสงบสติอารมณ์ก่อน ถ้าเกิดจ้านเซินได้ยินเข้า เขาจะรีบมาอย่างเร็ว”

เขาตบไหล่ฉินซีเบาๆ หวังว่าอารมณ์ของเธอจะกลับมาปกติโดยเร็ว

ฉินซีได้ยินเขาพูดอย่างนี้ รีบเงียบทันที

เธอมองประตูแวบหนึ่งอย่างขาดความมั่นใจ มั่นใจว่าจ้านเซินไม่เข้ามา จึงค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย : “ตอนนี้จ้านเซินอยู่ที่ไหน?”

ฉินซีกลัวว่าเรื่องที่เธอแกล้งสลบจะโดนจ้านเซินจับได้

เธอไม่รู้ว่าจ้านเซินรู้ตั้งนานแล้ว

“เขาไปแล้ว น่ากลับไปที่ห้องของตัวเองแล้ว”

เมื่อกี้เหยาจ้าวสังเกตเห็นสีหน้าของจ้านเซินไม่ค่อยดี น่าจะกลับไปพักผ่อน

“งั้นก็ดี”

ฉินซีลุกขึ้นนั่ง

เหยาจ้าวพูดเบาๆ : “ฉินซี เมื่อกี้คุณร้องไห้ทำไม”

เขารู้สึกมาตลอดว่าฉินซีไม่ใช่คนที่อ่อนแอคนหนึ่ง

“ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเลือกยังไง”

ฉินซีขมวดคิ้ว หางตายังมีหยดน้ำตาที่ยังไม่แห้งอยู่

เธอรู้สึกว่าใจของตัวเองเจ็บมาก

ได้ยินแบบนี้ เหยาจ้าวเข้าใจทันที

เหยาจ้าวมองท่าทางลำบากใจของเธอ ถอนหายใจยาวๆ : “ฉินซี ในเมื่อตอนนี้คุณกลับมาที่องค์กรแล้ว ก็อยู่ที่นี่อย่างสบายใจสักช่วงหนึ่งเถอะ”

ดูจากอารมณ์ของจ้านเซินตอนนี้ ฉินซีไม่สามารถหนีไปได้ในระยะเวลาสั้น

ทำได้แค่รอให้จ้านเซินค่อยๆเข้าใจ หรือไม่ก็ ฉินซีซุ่มหาโอกาสหลบหนีไปได้

ฉินซีพยักหน้า : “ฉันรู้”

เธอรู้ดีว่าตัวเองควรทำยังไง แต่พอคิดว่าจะไม่ได้เจอลู่เซิ่นนานขนาดนั้น ในใจของฉินซีรู้สึกลำบากใจ หยดน้ำตาไหลลงไม่หยุด

ริมฝีปากแดงของฉินซีขยับน้อยๆ : “ช่วงเวลานี้ฉันจะอยู่ในองค์อย่างสงบ แต่เหยาจ้าว คุณช่วยฉันสักเรื่องได้ไหม”

เธอเงยหน้ามองตรงไปที่เหยาจ้าว น้ำเสียงร้องขอ

หยดน้ำตาของฉินซีร้อนขนาดนั้น ทำให้เหยาจ้าวใจอ่อนลงมาทันที

มองท่าทางน้ำตาคลอของฉินซี เหยาจ้าวจะปฏิเสธได้ยังไง : “ได้ คุณบอกมาก่อนว่าจะให้ฉันช่วยอะไร ฉันจะช่วยอย่างสุดกำลังแน่นอน”

ตอนนี้ถังย่ากำลังสงสัยเขา ถึงแม้เหยาจ้าวอยากจะช่วยฉินซี แต่ในใจกลับไม่มั่นใจ

หลายอย่างที่ตอนนี้เขาไม่สะดวกเข้าไปยื่นมือ

เหยาจ้าวกลัวว่าตัวเองทำอะไรมากเกินไป จะโดนจ้านเซินจับได้และจะยิ่งยุ่งยาก

ฉินซีเห็นเขาตอบตกลง รีบพูดว่า : “ฉันอยากให้คุณออกไปดูด้านนอกให้ฉันหน่อยว่าสถานการณ์ตอนนี้ของลู่เซิ่นเป็นยังไงบ้าง มีคนมาช่วยไหม เขาบาดเจ็บหนัก แม้ว่าจ้านเซินจะไม่เอาชีวิตเขา แต่ฉันก็ไม่สบายใจ”

เธอจับข้อมือของเหยาจ้าว ในตาเต็มไปด้วยความห่วงใย

แค่มั่นใจว่าลู่เซิ่นไม่เป็นอะไร มีสุขภาพแข็งแรง ฉินซีก็สบายขึ้นแล้ว

เธอเชื่อว่า แค่มีชีวิตอยู่ก็ยังมีความหวัง

แค่เธอและลู่เซิ่นช่วยกัน ต้องมีสักวันที่ทั้งสองคนจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง

เหยาจ้าวคิดแล้วคิดอีก ถึงแม้จะลำบากหน่อย แต่สุดท้ายก็รับปาก

“ได้ งั้นคุณต้องสัญญากับฉัน ช่วงนี้ต้องอยู่เงียบไว้ อย่าให้เกิดพิรุธเด็ดขาดจะโดนจ้านเซินจับได้”

ตอนนี้เหยาจ้าวเป็นห่วงมากว่าถ้าแม้แต่ตัวเองก็ยังถูกจับได้ เส้นทางหลังจากนี้จะยิ่งลำบาก

และ เหยาจ้าวก็ฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้ออกจากองค์กร

แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา

ฉินซีพยักหน้าหนักแน่น : “ฉันสัญญา งั้นคุณจะช่วยสืบข่าวเรื่องลู่เซิ่นให้ฉันเมื่อไหร่”

ตอนนี้เธอรู้สึกทรมานทุกวินาที

แค่ได้ข่าวของลู่เซิ่น เธอก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

เหยาจ้าวมองท่าทางร้อนใจของเธอ ตบบ่าเธอ : “คุณอย่าเพิ่งรีบร้อน ต้องใช้เวลาสักสองสามวันนะ”

ตอนนี้เขาอยู่ในองค์กรไม่สะดวกลงมือ ยังต้องระวังจ้านเซิน จะติดต่อกับคนด้านนอก ไม่ว่ายังไงก็ต้องใช้เวลาสองสามวันถึงจะได้

ฉินซีรู้ว่าไม่ควรขอร้องมากไป ไม่งั้นจะทำให้เหยาจ้าวลำบาก

เหยาจ้าวช่วยเธอมามากแล้ว ฉินซีรู้สึกขอบคุณมากๆ

“อืมอืม”

เธอพยักหน้า และปล่อยมือเหยาจ้าว

เหยาจ้าวเห็นอารมณ์ของเธอค่อยๆ สงบลง ก็สบายใจแล้ว

“คุณพักผ่อนอยู่ในนี้ก่อน ฉันออกไปจัดการสักหน่อย”

ในเมื่อรับปากฉินซีแล้ว ต่อให้ลำบากเหยาจ้าวก็ต้องทำให้ได้

พูดจบ เหยาจ้าวก็หมุนตัวเดินออกมาจากห้องทดลอง

……

อีกด้านหนึ่ง

ในโรงพยาบาล

นิ้วมือของลู่เซิ่นที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลขยับเล็กน้อย

เขาลืมตาช้าๆ โดนแสงที่สาดเข้ามาทำให้ตาลาย

แดดแรงขนาดนั้น ทำให้ลู่เซิ่นแสบตาขึ้นมาทันที และปิดตาลงอีกครั้ง

สติค่อยๆ ฟื้นตัว ลู่เซิ่นคิดถึงคำพูดเหล่านั้นที่โจวเอ้อพูดเมื่อกี้ ในใจเจ็บปวดมาก

โจวซิงที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นเขาฟื้นแล้ว รีบขยับเข้าไปตรงหน้าเขา : “ลู่เซิ่น คุณฟื้นแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง? ยังมีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?”

เขามองลู่เซิ่นอย่างห่วงใย เอ่ยปากกะหนุงกะหนิง

ลู่เซิ่นได้ยินเสียงเขา หลังปรับสายตาให้เขากับแสงได้แล้ว จึงลืมตาทั้งสองข้างขึ้นอีกครั้ง : “ฉันหลับนานแค่ไหน”

เขาถามเสียงแหบแห้ง

“สองวันแล้ว”

หลังจากได้ฟัง สีหน้าลู่เซิ่นเปลี่ยนเล็กน้อย

เขารู้ เกรงว่าตอนนี้ฉินซีคงโดนพาตัวกลับเข้าองค์กรไปแล้ว

โจวซิงเข้าในความคิดเขา ถอนหายใจ : “ลู่เซิ่น ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งคิดอะไรมาก ที่สำคัญที่สุดคือการรักษาตัวให้ดี อย่าให้เหลือร่องรอย ไม่อย่างงั้นจะคุณช่วยฉินซีออกมาได้ยังไง”

ตอนที่อยู่ในโรงพยาบาล การป้องกันของจ้านเซินเข้มงวดขนาดนั้น

ตอนนี้จ้านเซินกลับไปที่องค์กรแล้ว เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของเขาแล้ว การบุกโจมตีมีแต่ยากยิ่งขึ้น

ถ้าลู่เซิ่นฝืนพาร่างกายที่ป่วยแบบนี้ไปอีก เกรงว่าจะต้องถึงชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการช่วยฉินซีออกมาเลย

คำพูดของเขาเตือนสติลู่เซิ่น ลู่เซิ่นระงับความเจ็บปวดในใจและพูดเบาๆ ว่า : “ฉันรู้ คุณสบายใจได้ ฉันไม่ทำอะไรโง่ๆ”

ลู่เซิ่นชัดเจนดี ถ้าคิดจะช่วยฉินซีออกมาต้องวางแผนอีกนาน

เขาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ยิ่งเพื่อไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าเขาจะลำบากยากเย็น ก็ต้องยับยั้งตัวเองไว้

โจวซิงได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ก็สบายใจขึ้นมาหน่อย : “คุณเข้าใจก็ดี ฉันขอตรวจคุณก่อน”

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset