บทที่ 242 เธออยากให้เขาอยู่ข้างกาย
ฝนก็กำลังตกโปรยปรายอยู่ เวินจิ้งนอนไม่หลับพลิกไปมา
เสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้น เธอลืมตาทันที
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่มู่วี่สิงมาอยู่ข้างกายเธอ
มือของเขาโอบเข้าที่เอวอันเรียวบางของเธอ มีท่าทีที่ใกล้ชิด
เขาไม่ได้อยู่ที่ห้องรับแขกหรอกหรือ?
เวินจิ้งผลักเขาออก แต่ก็ผลักมู่วี่สิงไม่ออก
เสียงอันทุ้มต่ำของเขาก็พูดขึ้น “ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณนะ?”
เวินจิ้งกัดที่ริมฝีปาก อยากจะปฏิเสธ แต่ร่างกายเธอกลับพยักหน้าออกไป
เธอรู้สึกกลัว เธออยากให้เขาอยู่ข้างกาย
แต่เธอก็ไม่อยากจะตกอยู่ในวังวนเดิมอีก
“ผมจะไม่ขึ้นไป ผมก็แค่กอดคุณไว้อย่างนี้” เขารู้ว่าเวินจิ้งต่อต้าน มู่วี่สิงจึงได้แต่นั่งอยู่ข้างเตียง
หลังของเวินจิ้งซบที่เขา สติและความคิดเริ่มกลับมาชัดเจน
ฝนด้านนอกได้หยุดลงแล้ว ในห้องนอนเงียบจนได้ยินเสียงหายใจของคนสองคน
เวินจิ้งหันหลังกลับ กลับมองเห็นมู่วี่สิงกำลังมองดูเธออยู่ตลอด
“ฉันจะนอนแล้ว คุณก็นอนเถอะ”
“ครับ ราตรีสวัสดิ์ คุณนายมู่” เขาดึงมือออกมา ตอนเดินออกไปก็ช่วยเธอปิดประตู
เวินจิ้งกลับพูดบอกเขาว่า
“เปิดประตูไว้เถอะ”
มู่วี่สิงพยักหน้า นอนลงบนโซฟา เขาไม่ได้ห่มผ้า ก็หลับตาลง
สายตาของเวินจิ้งกั้นด้วยทางเดิน มองเห็นแต่ด้านหลังของเขา
วันถัดมา แสงแดดสาดส่องเข้ามาให้ห้องนอน
การทำงานและพักผ่อนของเวินจิ้งช่วงนี้เป็นไปอย่างปกติ เธอจะตื่นนอนแปดโมงตรงเวลา
ด้านนอก มู่วี่สิงไม่อยู่แล้ว
แต่เขาก็ทำอาหารเช้าไว้ คือโจ๊กฟักทองที่มีรสหวานเล็กน้อย เป็นสิ่งที่เวินจิ้งชอบ
ด้านข้างแปะกระดาษโน้ตไว้ว่า คุณนายมู่ ทานอาหารเช้าแล้ว ก็ทบทวนหนังสือนะ
เธอหายใจลึก หยิบกระดาษโน้ตทิ้งไป หันหลังเดินออกไป
วันต่อๆมา เวินจิ้งแทบไม่ได้ออกจากประตู ทุกวันมู่วี่สิงก็จะมาเคาะประตู ทำอาหารเช้าและอาหารเย็น แต่เวินจิ้งก็ไม่ได้เดินไปอีก
……
เมื่อถึงคืนก่อนที่จะสอบ เวินจิ้งถึงได้ออกมาเดินเล่นด้านนอก ปลดปล่อยอารมณ์
วันเวลาที่เตรียมสอบถึงแม้ว่าจะยากลำบาก แต่ก็รู้สึกเต็มที่ และสามารถลืมเรื่องเบื่อหน่ายกังวลในใจไปได้ชั่วคราว
ตกเย็น แสงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าลงมา เวินจิ้งเลือกนั่งลงในร้านหม้อไฟแห่งหนึ่ง
เพียงแต่ไม่นานนัก ฝั่งตรงข้ามก็มีเงาคนอันคุ้นตามานั่งลง
“มู่วี่สิง คุณตามฉันมาหรือ?” เวินจิ้งพูดอย่างโมโห
“ผมจะมาที่นี่ทุกวันอยู่แล้ว คิดว่าไม่แน่วันไหนก็คงจะได้เจอหน้าคุณ” มู่วี่สิงงุ้มริมฝีปากขึ้น
ร้านหม้อไฟร้านนี้อยู่ในเขตเล็กของถนนอันหนิง เธอและอั้ยเถียนแต่ก่อนก็มาบ่อยครั้ง จนขนาดเถ้าแก่ก็ยังจำได้ว่าเธอเป็นลูกค้าประจำ
เวินจิ้งไม่เชื่อคำพูดของมู่วี่สิง เขายุ่งขนาดนี้ อีกทั้งร้านหม้อไฟก็เป็นสถานที่ที่เสียงดัง มู่วี่สิงเองก็ไม่ชอบนัก
“ฉันอยากทานข้าวคนเดียว” เวินจิ้งพูดอย่างไม่ยินดี
“ผมไม่รบกวนคุณหรอก ที่นี่เขาก็ให้ทานคนละหม้ออยู่แล้วไม่ใช่หรือ?” มู่วี่สิงเลิกคิ้วขึ้น
เวินจิ้งครุ่นคิด มันก็จริงอยู่
เพียงแต่ว่ามู่วี่สิงมาอยู่ตรงข้ามกับเธอ เธอไม่อาจมองข้ามเขาได้
สั่งอาหารเสร็จ มู่วี่สิงก็สั่งอาหารแบบเดียวกับที่เธอทานทุกอย่าง
เวินจิ้งใส่หูฟัง ดึงความสนใจของตัวเอง ไม่ให้ถูกมู่วี่สิงดึงดูดไปได้
แต่ว่าจริงแล้ว……มันยากเหลือเกิน
โดยเฉพาะใบหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิง แม้ว่าจะอยู่ในร้านหม้อไฟก็ดูเป็นชายหนุ่มรูปงาม ดึงให้สาวๆมองมาที่เขาอยู่ตลอด
เวินจิ้งทานอาหารอย่างเงียบๆ แต่ความสงบก็ถูกทำลายลง
มีแฟนคลับที่จำมู่วี่สิงได้ กรูเข้ามาขอลายเซ็นเขา
มู่วี่สิงได้ลาออกมาหลายเดือนแล้ว แต่ชื่อเสียงของเขานอกจากจะไม่ลดลงแต่กลับโด่งดังขึ้น การเป็นประธานกรรมการบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ดูเหมือนว่ายิ่งทำให้เขาเป็นจุดสนใจ
เวินจิ้งทำเป็นมองไม่เห็น และเธอก็ไม่ทันสังเกตว่าน้ำซุปในหม้อไฟกำลังเดือดออกมา กับอารมณ์ที่เธอแสดงด้วย
มือของมู่วี่สิงยื่นออกมา กั้นมือของเธอไว้
แต่มือของเขากลับถูกน้ำซุปลวกเข้า
เวินจิ้งรีบวางตะเกียบลงอย่างรีบร้อน พร้อมกับลูบมือของเขาโดยไม่ทันคิด “คุณทำไมต้อง……”
เธอกำลังจะพูดออกมาถึงจะฉุกคิดได้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
แต่ก็ไม่สามารถปล่อยมือได้แล้ว
มู่วี่สิงจับมือเธอแน่นขึ้น
“เป็นห่วงหรอ? หือ?” เสียงอันดึงดูดของเขาเปล่งออกมา
เวินจิ้งรู้สึกทั้งดื้อทั้งชา ในร้านหม้อไฟเสียงดังอึกทึกขนาดนี้ แต่ในดวงตาของเธอกลับมีแต่เขาคนเดียว
“คุณหมอมู่ คนนี้คือใครคะ?”
บรรดาแฟนคลับมองดูคนสองคนกำลังจับมือกัน สายตาอันริษยามองไปที่เวินจิ้ง
“ภรรยาผมเอง” มู่วี่สิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
แก้มของเวินจิ้งแดงเรื่อ จ้องไปที่มู่วี่สิง เขาพูดมั่วอะไร?
“ฉันไม่ใช่นะ” เวินจิ้งรีบพูดอธิบาย
“ไม่ใช่หรือ? จะให้ผมหยิบหนังสือรับรองการจดทะเบียนสมรสออกมาไหม?” มู่วี่สิงยกคิ้ว
เวินจิ้งเป็นงง ผู้ชายคนนี้คงจะไม่พกเอกสารติดตัวขนาดนั้นหรอก?
มองดูที่เขาดูเหมือนว่ากำลังจะหยิบออกมา เวินจิ้งรีบหยุดเขาทันใด
“คุณหมอมู่ คุณแต่งงานแล้วจริงๆหรือ? ชายในฝันของฉันแต่งงานแล้ว……ทำอย่างไรดี ทำไมคนๆนั้นไม่ใช่ฉันหล่ะ……” เสียงคร่ำครวญของแฟนคลับเขาดังขึ้นทั้งร้านหม้อไฟ
เวินจิ้งมองขึ้นไป เห็นหญิงสาวรูปร่างอวบอ้วนกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นวิ่งออกไป แต่มู่วี่สิงเจ้าตัวเองกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
“คุณไม่ไปปลอบใจเหล่าแฟนคลับคุณหน่อยหรือ?” เวินจิ้งถาม
“ผมปลอบใจแค่ภรรยาของผม”
เวินจิ้ง : ……
ทานอาหารเสร็จ เวินจิ้งเดินไปชำระเงิน ตอนหยิบบัตรเครดิตสีดำใบนั้นออกมา ตะลึงเล็กน้อย
เธอควรคืนเขาไปแล้ว
ดูเหมือนว่าจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ มู่วี่สิงสีหน้าเข้ม “ของที่ผมให้ไป ก็ไม่ต้องการรับคืน”
“คุณก็อย่ามาตัดรอนความสัมพันธ์กับผม” เสียงของเขาดังข้างหูเธอ
เวินจิ้งงุนงง พอเรียกสติกลับมาได้ มู่วี่สิงก็ได้เช็คบิลแทนเธอเสร็จแล้ว
เธอรีบยัดบัตรเครดิตสีดำใบนั้นคืนให้เขา แต่มู่วี่สิงไม่รับคืน บัตรจึงตกลงบนพื้น
มองดูเขาไม่แยแส เวินจิ้งได้แต่เก็บบัตรขึ้นมา
ระหว่างทางเดินกลับห้อง มู่วี่สิงอยู่ข้างกายเธอตลอด
“พรุ่งนี้ผมจะส่งคุณไปที่สนามสอบ”
“ฉันนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินก็สะดวกดีแล้ว” เวินจิ้งปฏิเสธ
“คุณนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ผมก็จะนั่งเป็นเพื่อนคุณ” มู่วี่สิงดึงดัน
“แล้วแต่คุณ” ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สนใจเขาแล้ว
“คุณนายมู่ ไม่ว่าเวลาไหน ผมก็จะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
ก่อนเข้าประตู มู่วี่สิงโอบเข้าที่เอวบางของเธอ จูบลงที่หน้าผากของเธอ
เวินจิ้งมองขึ้น เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาที่เข้ามาใกล้ช่างทำให้แทบหยุดหายใจ
เธอเหมือนหยุดหายใจ ช่วงเวลานี้ อยากจะหยุดเวลาไว้ให้นานเท่านาน
“ฉันกลับก่อนนะ”
เธอผลักเขาออก
สายตาของมู่วี่สิงที่มองมายังเธอ จนเธอปิดประตูลง
เวินจิ้งพิงที่ประตู กลิ่นไอของมู่วี่สิงที่ยังคงติดอยู่ในจมูกของเธอ ไม่เลือนหายไป
วันที่ไม่เห็นเขา คิดถึงเขาจริงๆ
แต่พอเจอเขา กลับอยากจะอยู่ห่างจากเขา
วันถัดไป เวินจิ้งตื่นนอนเร็วขึ้น เตรียมหนังสืออุปกรณ์จะเดินออกประตู
กำลังจะเดินออกไป มู่วี่สิงก็ยืนอยู่ด้านหน้าแล้ว เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธออยู่
ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงดำอันสบายๆ การแต่งตัวของเขาช่างดูหล่อยิ่งนัก
มือของเขายื่นออกมา เวินจิ้งลดสายตาลง ทำเป็นมองไม่เห็น
เธอเดินอ้อมเขาไป
มู่วี่สิงเดินตาม พยายามจะช่วยเวินจิ้งถือกระเป๋าหนังสือ
เวินจิ้งสูงไม่ถึงเขา ถึงจะเขย่งอย่างไรก็หยิบเอากระเป๋าหนังสือคืนมาไม่ได้
เธอจ้องมองเขาอย่างโมโห
“ขึ้นรถ ผมก็จะคืนกระเป๋าหนังสือให้คุณ”
เวินจิ้งโกรธ ชายหนุ่มคนนี้กำลังคุกคามเธอ?
แต่เธอไม่มีเวลาจะมาต่อล้อต่อเถียง ต้องรีบไปสนามสอบ จึงต้องขึ้นรถไปแต่โดยดี
บนเก้าอี้ข้างคนขับวางอาหารเช้าไว้หนึ่งชุด เธอหยิบขึ้นมา
เป็นเบอร์เกอร์ไข่ ร้านอาหารเช้าร้านนี้ เป็นร้านที่เธอไปทานบ่อยครั้ง
มู่วี่สิงไปรู้ว่าเธอชอบทานรสชาติไหนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?