บทที่ 30 ฉันยังไม่ได้ตาบอด
“จิ้งจิ้ง เธอนี่โชคดีชะมัดเลย! ในเมื่อแต่งงานแล้ว เธอจะต้องทำเควสแต่งก่อนค่อยรักกับคุณหมอมู่ให้ได้นะ เข้าใจหรือเปล่า?” อั้นเถียนหยีตาใส่เธอ ก่อนหน้านี้เธอก็อยากรู้ว่าทำไมเวินจิ้งถึงแต่งงานเร็วนัก ที่แท้ก็มีข้อตกลงอย่างนี้นี่เอง
“คุณหมอมู่ไม่มีทางชอบฉันหรอก” เวินจิ้งเหลือบตาลงอย่างเยือกเย็น สมองคิดถึงคำพูดตั้งมั่นของมู่วี่สิง ผมไม่มีทางชอบคุณ
ก็เพราะแบบนี้เอง มู่วี่สิงถึงได้แต่งงานกับเธอ
“ใครจะว่าได้ล่ะ อะไรก็เกิดได้ทั้งนั้นแหล่ะ” อั้ยเถียนกลับมีความสุขสุดขีด เธอรู้สึกว่าที่มู่วี่สิงเลือกเวินจิ้งย่อมแปลว่าเขาปฏิบัติกับเธอต่างออกไป
…..
วันนี้ทั้งวันข่าวที่มู่วี่สิงใช้ยาผิดถูกสื่อกระจายเป็นวงกว้าง กระทั่งว่ามีนักข่าวจำนวนไม่น้อยมายืนออกันหน้าประตูโรงพยาบาลเพียงเพราะต้องการสัมภาษณ์มู่วี่สิง
เวินจิ้งเลิกงานก็รีบมาที่โรงพยาบาล
เธอมาที่นี่ทำไง?
พอคิดถึงตรงนี้แล้วเวินจิ้งก็คอตกทำท่าจะจากไป
ที่หน้าประตูฉืออี้เหิงพอเข้ามาก็เห็นเวินจิ้ง ร่างสูงใหญ่แทบจะถลาเข้าไปขวางเธอในทันที
“เสี่ยวจิ้ง” เขาเรียกเธอ
ชื่อเล่นนี้เป็นเรื่องอดีตที่ผ่านไปเมื่อสามปีก่อนแล้ว
“มีธุระอะไรงั้นเหรอคะ? คุณฉือ” เวินจิ้งทำสีหน้าต่อต้าน
“คุณแต่งงานแล้วจริงๆเหรอ?” ฉืออี้เหิงถามอย่างอึดอัด ตอนแรกที่เวินจิ้งบอกเขาไม่เชื่อ
“ฉันบอกไปแล้วว่าเรื่องของฉันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” เวินจิ้งไม่มีความคิดจะตอบคำถาม
จากนั้นก็อ้อมตัวเขาทำท่าจะจากไป
ทว่าฉืออี้เหิงกลับตามขึ้นมา “เสี่ยวจิ้ง คุณโกรธผมก็เลยโกหกใช่หรือเปล่า?”
เวินจิ้งสูดหายใจลึก หันหน้ากลับมา ก้นสายตาเย็นเฉียบ “ทำไมฉันจะต้องโกรธคุณด้วย?”
“คุณโกรธผมมาตลอด คุณยังชอบผมอยู่ เสี่ยวจิ้ง” ฉืออี้เหิงพูดอย่างมั่นใจ
เวินจิ้งอดกลอกตาไมได้ ผู้ชายคนนี้จากไปสามปี มาตอนนี้ทำไมถึงกลายมาเป็นคนอวดดีไปแบบนี้เสียได้นะ
ก็ใช่ ตอนนี้ฉืออี้เหิงเป็นผู้สืบทอดบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอย่างผ่าเผย ย่อมต้องมีคุณสมบัติพอจะทำอวดดีได้บ้างล่ะ
“คุณฉือคะ ตอนนี้ฉันไม่ได้ตาบอด ไม่มีทางเห็นคุณอยู่ในสายตาแน่” ยิ่งพูดไปเสียงของเวินจิ้งก็ยิ่งเย็นลง
‘คุณฉือ’ ที่เอ่ยออกมาในแต่ละคำ แต่ละประโยคทำให้สีหน้าของฉืออี้เหิงไม่น่ามองยิ่งขึ้น
“เสี่ยวจิ้ง ผมขอโทษ” ฉืออี้เหิงหลุบตาลง มีความขัดเคืองผ่านแววตาไป
เขาหวังว่าเวินจิ้งจะปฏิบัติกับเขาเหมือนอย่างเมื่อก่อน แต่มาตอนนี้ทั่วทั้งตัวเธอกลับเต็มไปด้วยหนามแหลม
สีหน้าของเวินจิ้งยังสงบเยือกเย็นดังเดิม ไม่สนใจเขา
เสวนากับเขาแล้วเธอยิ่งรู้สึกเสียเวลา
พอตาเห็นเวินจิ้งขึ้นรถยนต์คันหรูไป สำหน้าของฉืออี้เหิงก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม
มู่วี่สิง วันนี้เขาเพิ่งรู้จักชื่อนี้ นอกจากเขาจะเป็นหัวหน้าแพทย์สมองและประสาทที่มือชื่อเสียงแล้ว ยังเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลมา เป็นผู้สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
ผู้ชาย ฐานะโดนเด่น อำนาจเทียมฟ้าแบบนี้กลับแต่งานกับเวินจิ้ง
ฉืออี้เหิงกำหมัด สีหน้าไม่ยินยอม
ขึ้นมานั่งบมรถแล้วคนขับรถยังไม่ยกมือขยับตัว เขาคิดว่าคุณนายมู่มารับมู่วี่สิงเลิกงาน แต่กลับเห็นเธอออกมาเพียงลำพัง
“คุณนาย แล้วคุณผู้ชายล่ะครับ?” คนขับรถถาม
เวินจิ้งเงียบ อิงหน้าต่างรถ เธอมองเงาของฉืออี้เหิง ความเจ็บปวดในก้นสายตาค่อยๆแพร่ออกมา
เวลานี้เองรังนักข่าวที่ซุ่มอยู่หน้าประตูก็แตกซ่าน มู่วี่สิงออกมาแล้ว!
เวินจิ้งย่นคิ้ว เช็ดตาแล้วผลักประตูลงไป
เธอเห็นชายหนุ่มโดนรุมล้อมจากที่ไกล ๆ เขาสวมเสื้อขาวกางเกงดำ ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็น ยามเผชิญหน้ากับนักข่าวก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกตั้งแต่ต้นจนจบ บอดี้การ์ดคอยช่วยเปิดทางให้เขา เขาตรงมาหาเวินจิ้ง