flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 434 แพ้ให้กับความคิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด

บทที่ 434 แพ้ให้กับความคิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ขยับอกของมู่วี่สิงเล็กน้อย อารมณ์เวินจิ้งค่อยๆเย็นลง

เพียงแต่ว่า เวลาชั่วขณะยังไม่ทราบว่าควรจะพูดอะไร

“หลายวันมานี้รู้สึกไม่ค่อยสบายหรือไม่?” มู่วี่สิงถาม

“ก็ดีค่ะ เหมือนเดิมค่ะ” เวินจิ้ง ไม่ค่อยมีอารมณ์ตอบ

“จำไว้นะครับให้กินยาตามเวลาที่กำหนด” มู่วี่สิง มองไปที่ขวดยากระพริบตาหนึ่ง

พยาบาลได้เปลี่ยนยาตามที่เขาบอกแล้ว

“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะเชื่อฟังนะคะ” เวินจิ้งเงยหน้า มองมู่วี่สีง ด้วยสายตาที่ชัดเจน

แผ่นสีเขียวที่อยู่ภายใต้สายตา ปลายนิ้วชี้สัมผัสเล็กน้อย “คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“อยากให้ผมอยู่ต่อไหม” มู่วี่สิงถาม

เมื่อคำพูดจบลง เขาก็เริ่มปลดกระดุมเม็ดแรกของสายเชื้อเชิ้ต ขายาวของเขาคร่อมขึ้นมาบนเตียง

เวินจิ้งเห็นท่าทีของเขา มุมปากกลั้นไม่ไหวยิ้มออกมา

“อยาก” เขาพยักหน้าอย่างหนัก

มู่วี่สิงขยี้แล้วปล่อยผมของเธอ ให้เธอเอนกายมายังอ้อมกอดของเขา กอดเธอไว้อย่างแน่น

สามวันแล้ว ที่เขาไม่กล้ามาหา

ครั้งแรก ที่เขาปรับอารมณ์ได้ยาก

เขาควรจะปกป้องผู้หญิงของเขา แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทำให้เธอได้รับอันตราย

โทษตัวเองอยู่ลึกๆที่มีความรู้สึกที่จะหลีกเลี่ยงมัน

เพียงแต่ สุดท้ายแล้วก็พ่ายแพ้ให้กับความคิดที่ไร้ขอบเขต

“มู่วี่สิง คุณไม่ดีใจหรือ?” รู้สึกถึงความเหม่อลอยของผู้ชาย เวินจิ้งถาม

มู่วี่สิงส่ายหัว นอนลงข้างเธอ “ผมมีแฟนสาว ทำไมถึงไม่ดีใจล่ะ”

เวินจิ้งยิ้ม เห็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาอยู่ใกล้ เธอเริ่มจูบเขา

มู่วี่สิงแท้จริงแล้วเป็นคนที่เร่าร้อน ถูกเธอจุดประกาย ก็ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

ฝ่ามือประคองไปที่ท้ายทอยของเธอ เขาหลับตาลง เหมือนกับสายตาของหมาป่าราวกับจะกลืนกินเวินจิ้งเข้าไปทั้งตัว

สายตาแบบนี้ เวินจิ้งทั้งรักทั้งเกลียด

“มู่ลี่สิง ฉันยังเป็นผู้ป่วยนะ” เวินจิ้ง หยุดอารมณ์ได้ทันท่วงที

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว มองรอยยิ้มเวินจิ้งที่เต็มไปด้วยร้อยเล่ห์มารยา ใต้ดวงตานั้นอดไม่ได้ที่จะแสดงออกมา

เธอมันนางปีศาจชัดๆ

แต่เขาก็ต้องมนต์เสน่ห์เธอไปแล้ว

“ฝันดีครับ จิ้งจิ้ง” เขาพูดข้างหูของเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งหลับตาลง ความสวยงามของวินาทีนี้ เธอชอบมันมาก

พอตื่นมาอีกทีเวลาค่อนข้างสายแล้ว ตำแหน่งด้านข้างลำตัวว่างอยู่

เวินจิ้งกระพริบตา ความหดหู่ใจค่อยๆลามไปในทันใด

ปลายที่แตะโดนราวกับกลิ่นอายของมู่วี่สิงยังอยู่ ทำไมถึงคิดถึงแบบนี้

ลุกขึ้นนั่ง เวินจิ้งกำลังจะไปล้างหน้า ได้ยอมรับความจริงเรื่องที่มู่วี่สิงเดินจากไปแล้ว

แต่คิดไม่ได้และเธอเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เงาคนที่เธอคิดถึงมากที่สุดกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ด้านหน้าวางเต็มไปด้วยอาหารเช้าที่เธอชอบกิน

เวินจิ้งตะลึง และขยี้ตาไปมา เพื่อจะให้มั่นใจว่ามู่วี่สิงยังไม่ได้จากไป

มู่วี่สิงหันไปหาแล้วโบกมือเรียกเธอ “มานี่ มาให้ผมนวดให้”

เวินจิ้งเดินตรงเข้าไป กอดผู้ชายที่ตัวเองชอบ ยังกระหน่ำจูบไปหลายครั้ง ถึงจะคิดได้ว่า “อ่อ ตัวจริงนี่”

“เดี๋ยวคุณต้องไปทำงานนะ?” ทานอาหารเช้าไปด้วย เวินจิ้งก็ถามผู้ชายที่อยู่ข้างกายไปด้วย

เขากำลังจัดการงานในบริษัทแล้ว

“อื่ม กลางคืนค่อยมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

“วันมะรืนนี้ฉันก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” เวินจิ้งคอยนับวันเวลา

“เหลือเวลาอีกครึ่งเดือนถึงจะเปิดเทอม ย้ายกลับมาที่การ์เด้นมูเจียวาน อื่ม?” มู่วี่สิงจ้องมาที่เธอ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “ฉันจะกลับบ้านตระกูลหลิน”

วินาทีต่อมา สีหน้าของมู่วี่สิงก็คล้ำลงทันที

เวินจิ้งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังโกรธ

ใครบางคนที่กอดเอวอันบางเพรียวของเธอไว้ค่อยๆแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเธอรู้สึกเจ็บ……

เธอได้เพียงแต่กระพริบตา “ความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาร่วมห้องหอด้วยกัน”

“รีบไปจดทะเบียน”

เวินจิ้ว……

เห็นหน้าผู้ชายที่มีความตั้งใจ เธอรู้ว่าเขากำลังพูดเล่นกับเธอ

“มีใครเหมือนคุณแบบนี้ พวกเราเพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน” เวินจิ้งพูดด้วยเสียงอ่อน

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นดึงเวินจิ้งเข้ามาในแขนของเขาอย่างแน่น

แรงที่กอดเธอราวกับว่าจะกอดเธอให้เข้าไปในกระดูกของเขา

เวินจิ้งถูกเขากอดจะจะหายใจไม่ออกแล้ว……

ตัวเขาราวกับมีกลิ่นอายของความทุกข์ใจอยู่บ้าง

เวินจิ้งเพียงคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง แต่ไหนแต่ไรมู่วี่สิงก็มีอารมณ์เฮฮาร่าเริง ไม่น่าจะมีอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้

“อืม ผมเคารพการตัดสินใจของแฟนสาว” มู่วี่สิงพูดอย่างประนีประนอม

เวินจิ้งยิ้ม คำพูดของมู่วี่สิงเกินความคาดหมายของเธอ

“ดี” เธอเรียนน้ำเสียงของมู่วี่สิงที่เขาใช้ก่อนหน้านี้

สุดท้ายสร้างความหัวเราะก็คือเธอเอง

ทั้งสองรู้สึกเบื่อไปครู่หนึ่ง มู่วี่สิงกลับถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเวลาใกล้เที่ยงแล้ว

เกาเชียนโทรหาเขาตลอด มู่วี่สิงกดรับโทรศัพท์

“อื่ม?”

“ท่านประธานมู่ คุณปู่มู่มาแล้วครับ”

ได้ยินคำพูดแล้ว มู่วี่สิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ตามที่คาดคิด

ตามอารมณ์ของคุณปู่แล้ว จะต้องทนไม่ไหวแน่นอน

เดินเข้าไปในสำนักงาน มู่เฉิงนั่งลงบนโซฟา สีหน้าคล้ำมาก

เขามารอที่นี่นานถึง2ชั่วโมงแล้ว

“ไปโรงพยาบาลเหรอ?” เขาเปล่งเสียงถาม

“อื่ม” มู่วี่สิงนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“กลับมาก็ไม่บอกสักคำ ผมจะไปรับที่สนามบิน” น้ำเสียงมู่วี่สิงอ่อนๆ

“ฉันไม่อยากให้เธอทำฉันโกรธจนตายในสนามบิน” มู่เฉิงพูดพร้อมกับกระทืบไม้เท้าอย่างแรง

“คุณปู่ครับ อย่าพูดเรื่อยเปื่อยสิครับ”

“เธอยังรู้ว่าฉันเป็นปู่ของเธออีกเหรอ ลาออกจากตำแหน่งในโรงพยาบาลซะ และตำแหน่งศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย ลาออกทั้งหมดเลย” มู่เฉิงพูดด้วยอารมณ์โกรธ

เขาเพียงแต่อยากให้การงานของหลานเขาไปอยู่ในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเพียงที่เดียว

มู่วี่สิงเงยหน้า สีหน้าเย็นชา “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ผมจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป”

“เธอจะคิดกบฏแล้วใช่ไหม” มู่เฉินกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ ไม้เท้าถูกโยนไปที่ตัวมู่วี่สิง

เขาไม่หลบไม่หลีก

“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต้องให้เธอมาถืออำนาจ” มู่เฉิงพูด

“นั้นมันไม่ใช่คุณปู่ตัดสินใจเองได้” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เธอเป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” ฉันพูดคำไหนคำนั้น

“คุณปู่ครับ ทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแต่ไหนแต่ไรก็ต้องเป็นลูกคนโตหรือหลานคนโต” มู่วี่สิงพูดเตือน

ตามกฎระเบียบนี้แล้ว ทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นมู่เหิงเพียงคนเดียว

มู่เฉิงก้มหน้าลง กฎระเบียบนี้เป็นทวดของมู่วี่สิง คนที่บุกเบิกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นผู้ตั้งขึ้นมา

แต่ละรุ่นแต่ละสมัย ก็ไม่เคยเปลี่ยน

แม้ว่าตอนนี้มู่เฉิงจะเป็นประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยังคงต้องปฏิบัติตามกฎข้อนี้

“เธอแน่ใจว่าจะให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกทำลายในมือของสาระเลวนั้น นั้นมันเป็นเลือดเนื้อของทวดเธอนะ” มู่เฉินโกรธจนใช้ไม้เท้ากระทืบพื้น

“คุณปู่ครับ ผมจะไม่ให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกทำลายครับ แต่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอาจไม่ต้องการฉัน”

มู่เฉิงไหนหรือจะฟังคำพูดของมู่วี่สิง ตอนนี้มู่วี่สิงยังไม่ได้เป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ตั้งใจที่จะเป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่แล้ว

มีแต่เพียงเขา ถึงจะสามารถกุมอำนาจของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เขาไม่ยินยอมให้บุคคลอื่นเข้าแทรกแซงอำนาจของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้

“ในเมื่อเธอไม่ฟังฉัน อย่างนั้นเธออย่ามาโทษฉันแล้วกัน” คำพูดจบลง มู่เฉิงเดินออกไปด้วยอารมณ์โกรธ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว มือที่จับปากกาอยู่ก็ค่อยๆแน่นขึ้น

เวลาผ่านไปนานพอสมควร ถูกท่านบดขยี้เลย

เกาเซียนที่เพิ่งเข้ามาตกใจจนไม่กล้าจะพูดอะไร

“พูดสิ” มู่วี่สิงรีบเก็บอารมณ์ในตอนนั้น

เกาเชียนกัดฟันเข้าไปรายงานสิ่งต่างๆตามปกติ สุดท้ายได้เตือนว่า “ท่านประธานมู่ คืนพรุ่งนี้เป็นงานเลี้ยงเปิดบริษัทใหม่บริษัทผลิตยายูเหิงของมู่เหิง”

“เตรียมชุดงานเลี้ยง”

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset